เปิดใจ 2 รุ่นพี่สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง เชื่อไหม? ว่าเราดูแลคุณได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า!


         สวัสดีค่ะ สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง เป็นอีกหนึ่งสาขาสำคัญที่ผลิตบุคลากรเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของประเทศไทย สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาเยอะมาก แต่ว่าสาขานี้เรียนยังไง เรียนเกี่ยวกับอะไร ไปฟังประสบการณ์จาก 2 รุ่นพี่กันเลยค่ะ
 

พี่แพท ธารพระพร ชัยรัตน์

สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ม.แม่ฟ้าหลวง


Q: ก่อนอื่นแนะนำตัวกับน้องๆ ก่อนเลยค่ะ
         สวัสดีค่ะ ชื่อ ธารพระพร ชัยรัตน์ ชื่อเล่นชื่อ แพท นะคะ เพิ่งเรียนจบจาก สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มาหมาดๆ เลยค่ะ

Q: รู้จักสาขานี้ได้อย่างไรคะ?
         แพทเริ่มรู้จักสาขานี้ตอน ม.6 ค่ะ รู้จากเพื่อนเลย เห็นว่าน่าสนใจดี ซึ่งก็เป็นสาขาที่เปิดไม่นานนะคะ แต่ที่กล้าเลือกเพราะว่าอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในประเทศไทยโตขึ้นเรื่อยๆ คิดว่ายังไงก็มีทางไป อีกอย่างแพทชอบวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าจบสาขาเคมี หรือชีววิทยา มันไม่ชัดเจนแบบเครื่องสำอาง เป็นสาขาใหม่ในวิทยาศาสตร์ด้วยเลยเลือก เรียนแล้วก็แฮปปี้ค่ะ

Q: แล้วทำไมถึงเลือกเรียนที่ ม.แม่ฟ้าหลวง คะ?
         จริงๆ สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มีเปิด 2 ที่พร้อมกันคือ ม.แม่ฟ้าหลวง และ ม.นเรศวร แบบเป็นรุ่นบุกเบิกเลย แต่ที่ ม.แม่ฟ้าหลวง เป็นการเรียนการสอนแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบ ยิ่งตอนนั้นประเทศไทยเข้า AEC ด้วย ก็เลยเลือกที่ ม.แม่ฟ้าหลวง ค่ะ

Q: ที่ ม.แม่ฟ้าหลวง เรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยหรอคะ?
         ใช่ค่ะ ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมด ตั้งแต่การสอบสัมภาษณ์แล้ว พอเข้ามาเรียน การสอนก็จะเป็นภาษาอังกฤษ หนังสือหรือชีทที่เรียนก็เป็นภาษาอังกฤษ แต่ถ้าคุยกับเพื่อนหรือคุยเล่นทั่วไปก็ใช้ภาษาไทยปกติค่ะ

Q: ภาพรวมสาขานี้เกี่ยวกับอะไรบ้าง?
         จะบอกว่า สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ไม่ได้เรียนเฉพาะเรื่องการแต่งหน้านะคะ ของ ม.แม่ฟ้าหลวง จะมีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ที่มี 2 สาขา คือ 1.สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และ 2.สาขาเทคโนโลยีความงาม

         ถ้าเกิดว่าเป็นสาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ก็จะเรียนเกี่ยวกันการเรียนสูตรทำเครื่องสำอางอะค่ะ แบบว่าต้องตั้งสูตรยังไง เครื่องสำอางที่ว่าคือทุกอย่างตั้งแต่สบู่ แชมพู ครีมนวด ทุกอย่างที่อยู่ในห้องน้ำจนไปถึงพวกสีย้อมผม อะไรแบบนี้อะค่ะ ทำหมดเลย

         แต่ถ้าเป็นสาขาเทคโนโลยีความงาม เขาจะเรียนในเชิงการนำไปใช้มากกว่า เช่นเราเรียนการทำสูตร Make up พวกเครื่องแต่งหน้า เขาก็จะเรียนวิธีการแต่งหน้า เทคนิคการแต่งหน้า หรือถ้าเราเรียนทำสีย้อมผม เขาก็จะเรียนเทคนิคการย้อมผม ประมาณนี้ค่ะ

         สิ่งที่สาขาเทคโนโลยีความงามได้เพิ่มเติมคือจะได้เรียนเครื่องมือที่อยู่ในคลีนิก เช่น การยิงเลเซอร์ เครื่องนวดหน้า ประมาณนี้ค่ะ ทั้ง 2 สาขาจะเรียนเกี่ยวข้องกันค่ะ

         แต่จริงๆ ก็มีวิชาที่เรียนรวมกันทั้ง 2 สาขานะคะ ตอนที่เราเข้ามาเรยนก็ต้องเรียนวิชาพื้นฐานด้วยกัน General Biology, General Chemistry, ภาษาอังกฤษ, IT ทั่วๆ ไปอะค่ะ วิชาเมเจอร์ที่เรียนรวมกันก็วิชามาร์เก็ตติ้ง, กฎหมาย อะไรแบบนี้อะค่ะ

 

Q: แต่ละชั้นปีเรียนอะไรบ้าง?
         ตอนปี 1-2 ก็จะเรียนวิชาความรู้ทั่วไปอะคะ พวก General Biology, General Chemistry, Math, ภาษาอังกฤษ อ่ะค่ะ คือปรับพื้นฐานให้ทุกคนได้มีพื้นฐานพอๆ กันก่อน ที่สำคัญคือปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ เพราะที่ ม.แม่ฟ้าหลวงจะเรียนภาษาอังกฤษทุกวิชา ยกเว้นวิชาภาษาไทยยังเรียนเป็นภาษาไทยอยู่ค่ะ เข้าตัวเมเจอร์ตอนอยู่ปี 3 ค่ะ จะมี 4 วิชาหลักๆ ด้วยกันก็คือ

         1.Cosmetic Science for Skin Care วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางเพื่อการดูแลผิวหนัง
         2.Cosmetic Science for Hair are วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางการดูแลเส้นผม
         3.Fragrance and Aromatic Science สารหอมและสุคนธศาสตร์
         4.Color Cosmetic Science วิทยาศาสตร์เครื่องสำอางสีสัน

         ในปี 4 ก็จะเป็นวิชาเลือก แบบเลือกของใครของมันละ ว่าจะเลือกด้านไหนในเครื่องสำอาง อย่างแพทเลือก Evaluation of Cosmetic Products คือการประเมินผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พัฒนาตำรับเครื่องสำอาง และก็วิชา Polymer in Cosmetics พอลิเมอร์ทางเครื่องสำอาง ค่ะ

         มีอีกวิชาคือ Biomolecules in Cosmetics คือ กลไกการออกฤทธิ์ของสารต่างๆ ที่ส่งผลต่อผิวหนังและผมค่ะ ว่าเครื่องสำอางตัวหนึ่งที่ทำให้ผิวขาว มันทำด้วยกลไกไหน หรือว่าสมมติผมร่วง เพราะอะไรคนถึงผมร่วง และเรามีกลไกอะไรบ้างที่จะสามารถชะลอการเกิดผมขาวและผมร่วงของเขาได้อะค่ะ

         แต่ก็จะมีวิชาอื่นให้เลือกอีกนะคะ เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก, ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้นค่ะ มีให้เลือกหลายตัวค่ะ อยู่ที่ว่าเราอยากไปด้านไหน


Q: การเรียนต้องมีแลปหรือเปล่า แล้วการเรียนแลปมีแลปอะไรบ้าง?
         เรียนสาขานี้มีแลปทุกตัวค่ะ เช่น สัปดาห์นี้เรียน Facial cleanser ปลายสัปดาห์ก็ต้องทำแลปออกมาให้ได้ และสัปดาห์ต่อไปก็เรียนอีกตัว เช่น Facial skincare ซึ่งปลายสัปดาห์ก็ต้องทำให้ได้ ก็จะวนๆ แบบนี้ ซึ่งต้องเรียนทั้งทฤษฎีและทำแลปออกมาค่ะ

         ในทุกวิชาที่เรียนจะมีโปรเจคจบของวิชานั้นๆ ซึ่งจะเป็นแบบกลุ่ม ทำผลิตภัณฑ์ออกมา มีการคิดแผนและทำการตลาดด้วย แต่ถ้าโปรเจคจบที่เป็นจบจากสาขา ก็จะมีทั้งแบบทำเดี่ยวหรือทำคู่ ของที่ทำออกมาจากโปรเจคก็จะเป็นของเราเอง เพราะฉะนั้นต้องเจอและอยู่กับแลปตลอดค่ะ


Q: เรียน มฟล. ต้องเรียนภาษาอังกฤษด้วย เล่าให้น้องๆ ฟังหน่อยว่าต้องเรียนแบบไหน
         ตอนก่อนขึ้นปี 1 จะมี Live and Learn on campus เป็นเหมือนการรับน้อง ไปรู้จักเพื่อนๆ ก่อน และก็ปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษด้วย จะมีการสอบวัดเพื่อประเมินว่าเราอยู่ในระดับไหน ถ้าต่ำเตี้ยเรี่ยดินก็ต้องไปเรียนแบบพวกวิชาปรับพื้นฐานก่อน แต่ถ้าใครคะแนนดีมากก็คือ ผ่านชั้นนั้นไปเรียนตัวปกติได้เลยค่ะ

         ที่บังคับคือทุกคนต้องจบ Eng 3 จบให้ได้ และสุดท้ายก่อนจะจบเพื่อรับปริญญา ทุกคนต้องสอบ Exit Examination เพื่อขอจบ ซึ่งจะมี 4 ตัวคือ วิชาภาษาอังกฤษ วิชาเมเจอร์ของเรา วิชา IT และสุดท้าย วิชาความรู้รอบตัว ค่ะ ซึ่งถ้าสอบไม่ผ่านก็คือไม่จบ สุดท้ายก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษอยู่ดีเพื่อผ่านให้ครบทั้ง 4 ตัวค่ะ

         แต่ถ้าใครไม่ได้ก็ไม่ต้องกลัวนะคะ ใน มฟล. จะมีหน่วยงาน SALLC (Self-access Language Learning Center) ช่วยเรื่องภาษาอังกฤษ มีอาจารย์ที่เขาประจำภาควิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่นั่น และก็มีคอร์สติวภาษาอังกฤษให้ เป็นการติวฟรี สามารถใช้ได้ ไม่งั้นก็มีชีทเรียนให้โหลดก่อนอยู่แล้ว ถ้าขยันก็สามารถอ่านหรือแปลคำที่ไม่รู้ก่อนได้ค่ะ

 

Q: อยากให้เล่าประสบการณ์ช่วงฝึกงานหน่อยค่ะ?
         แพทฝึกงานช่วงปี 3 เทอม 2 (ก่อนขึ้นปี 4) ในการฝึกงานทางมหาวิทยาลัยจะมีส่วนหนึ่งที่ประสานกับหน่วยงานอยู่แล้ว เป็นหน่วยงานที่รุ่นพี่เราเคยไปฝึกงาน ถ้าเราไม่อยากฝึกในลิสต์นี้ ก็สามารถหาเองได้ค่ะ รวมถึงจะไปต่างประเทศก็ได้

         การฝึกส่วนใหญ่ที่เพื่อนๆ เลือกก็จะเป็นโรงงานเครื่องสำอางใหญ่ๆ เช่น Beiersdorf , Johnsons ส่วนตัวแพทเลือกฝึกที่ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ(นาโนเทค) ภายใต้ สวทช. อยู่ใน ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เขาจะมีห้องปฏิบัติการนาโนเวชสำอางโดยเฉพาะ ตอนแพทฝึกงานและก็ได้ทุนจากที่นี้ด้วย เลยได้ทำโปรเจคจบเป็นตัวผลงานตั้งแต่ตอนฝึกงานเลย


Q: คิดว่าหัวใจสำคัญของการเรียนสาขานี้คืออะไร?
         ต้องมีทั้งความวิทย์และศิลปะในตัวค่ะ เครื่องสำอางเป็นการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างมา แต่เราก็ต้องเอาใจลูกค้าด้วยเขาชอบสูตรแบบไหน ครีมแบบไหน ถ้าเราใช้วิทยาศาสตร์อย่างเดียว มันจะมีแค่ตรรกะและเหตุผล จะไม่ได้เอาใจลูกค้า ถ้าเราเอาศาสตร์ศิลป์มาช่วย มันจะเพอร์เฟคมากกว่าค่ะ

Q: สุดท้ายนี้ ฝากกำลังใจให้น้องๆ ที่อยากเรียนสาขานี้กันหน่อย
         อยากบอกว่า ตลาดเครื่องสำอางโตขึ้นมาก เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนที่มาแรงมากๆ ในประเทศไทย อยากให้น้องๆ ช่วยดันตลาดเครื่องสำอางไทยไปสู่ตลาดโลก ถ้าสนใจจะเรียนก็อย่าลังเลเลยค่ะ มาเรียนกันนะคะ สู้ๆ :)
 

พี่โบว์ สุภาพิชญ์ แสร์เชื้อ

สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ม.แม่ฟ้าหลวง

Q: ก่อนอื่นแนะนำตัวกับน้องๆ ก่อนเลยค่ะ
         สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ นางสาวสุภาพิชญ์ แสร์เชื้อ ชื่อเล่นชื่อ โบว์ ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ค่ะ

Q: รู้จักสาขานี้ได้อย่างไร?
         รู้จักสาขานี้จากหนังสือที่แนะนำคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยค่ะ เราเป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว รู้สึกสนใจที่อยากจะทำงานด้านเครื่องสำอาง และอยากจะทำงานกับแบรนด์เครื่องสำอางดังๆ จึงสนใจที่อยากจะเลือกเรียนคณะที่เป็นด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางโดยเฉพาะค่ะ

Q: แล้วทำไมถึงเลือกเรียนที่ ม.แม่ฟ้าหลวง คะ?
         สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ที่มหาลัยแม่ฟ้าหลวง ถือว่ามีชื่อเสียงพอสมควร เราก็เลยเลือกสอบตรงเข้ามาที่นี่ บวกกับบรรยากาศของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงนั้น มีความสวยงามและเป็นธรรรมชาติมากๆ เห็นแล้วชอบมากค่ะ ที่สำคัญถ้าเรียนที่นี่เราจะได้ภาษาอังกฤษด้วย

Q: ภาพรวมเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง?
         สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางของ ม.แม่ฟ้าหลวง มี 2 สาขาวิชาค่ะ คือ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และสาขาวิชาเทคโนโลยีความงาม ซึ่งสาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง จะเน้นการเรียนด้านการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง เรียนรู้เกี่ยวกับ raw material ที่นำมาใช้พัฒนาสูตร การทดสอบประสิทธิภาพของ product และก็มีการเรียนเกี่ยวกับน้ำหอมด้วย

         นอกจากนี้ก็ยังมีวิชาเรียนที่เป็นมาร์เกตติ้ง คือเรียนรู้เกี่ยวกับการตลาดเครื่องสำอาง และก็จะได้เรียนเกี่ยวกับกฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางด้วยค่ะ ส่วนสาขาเทคโนโลยีความงามจะเน้นไปที่การนำไปใช้ มีการสอนที่หลากหลาย อาทิ การแต่งหน้า ทำผม บุคลิกภาพ และ แนวสปา ประมาณนี้ค่ะ

 

Q: ในแต่ละชั้นปี เรียนอะไรบ้างคะ?
         ในหลักสูตรของปีที่เราเรียนจะเป็นแบบเก่าอยู่ เพราะว่าตอนนี้หลักสูตรได้ปรับใหม่แล้ว รุ่นน้องก็จะได้เรียนในหลักสูตรใหม่แทน ซึ่งหลักสูตรปีของเรานั้น ในช่วงปี 1-2 เราจะได้เรียน basic พื้นฐานของ chemistry กับ biology โดยเน้นการปรับพื้นฐานทางด้านวิทยาศาตร์

         แต่ว่าในปี 2 เราจะได้เริ่มเรียนเกี่ยวกับ introduction cosmetic และพื้นฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาสำนัก ส่วนในปี 3 จะได้เริ่มเรียนวิชาที่เป็นของสำนักวิชาเป็นหลักเลย  ปี 4 จะเป็นวิชาชีพเลือก มีหลายวิชามากค่ะ แล้วแต่เราจะลงเรียนตัวไหน เช่น วิชาเครื่องสำอางเฉพาะกลุ่ม (ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก, สัตว์, จุดซ่อนเร้น เป็นต้น) และก็จะได้มีการทำ senior project ในปี 4 ค่ะ


Q: วิชาเรียนหรือการทำแลปไหนที่น้องโบว์ชอบมากที่สุดคะ เพราะอะไร?
         ชอบวิชาที่ได้เรียนเกี่ยวกับ aroma หรือ fragrance ค่ะ เป็นวิชาที่รู้สึกสนุก และเราก็ได้ลองเล่นและลองฝึกดมน้ำหอมในกลิ่นต่างๆ ในคาบก็จะมีให้ create ผสมกลิ่นขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจและเราก็อยากจะลองผสมกลิ่นหลายๆ กลิ่น เป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์สร้างกลิ่นใหม่ๆ ขึ้นมา โดยใช้ sense ตามความรู้สึกของเรา และก็มีการให้คิดค้นออกแบบ product ที่สามารถให้กลิ่นน้ำหอมหรือที่มีน้ำหอมผสมอยู่ในตัว product ด้วยค่ะ

Q: อยากให้เล่าประสบการณ์ทำวิจัยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิผิว ให้น้องๆ ฟังหน่อยค่ะ
         โปรเจคนี้เป็นการทำคู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่งค่ะ จริงๆ แล้วมีเครื่องวัดผิวหลายอย่างมาก  แต่ส่วนใหญ่ที่ได้ใช้ก็จะเป็นเครื่องที่วัดความชุ่มชื้นของผิว เครื่องวัดความยืดหยุ่นของผิว และก็เครื่องวัดสีผิว การที่มาทำเรื่องนี้จริงจังเพราะว่าให้เป็น senior project นี่แหละค่ะ ฮ่าๆ

         โปรเจคของเราก็จะเป็นการนำพืชมาสกัดใช้ formulate สูตรเป็นเซรั่ม แล้วก็จะให้อาสาสมัครมาใช้เซรั่มของเรา และทำการวัดผลประสิทธิภาพของเซรั่ม บริเวณที่ใช้ก็แล้วแต่โปรเจคนะคะ แต่ของเราจะให้อาสาสมัครใช้ทาตรงบริเวณ หน้าแขน เราก็จะวัดทั้งหมด 5 จุด เพราะแบ่งเป็น 5 สูตร แตกต่างกันที่ความเข้มข้นของ active ที่เราใส่

         ก็จะมีการวัดความชุ่มชื้น วัดความยืดหยุ่น และวัดสีผิวประมานนี้ค่ะ เราเริ่มทำโปรเจคนี้จากการแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา ทำต่อยอดจากโปรเจ็ครุ่นพี่ที่มีการทดสอบฤทธิ์ไว้ แล้วเราก็คิดว่าน่าสนใจมากที่จะนำเรื่องนี้มาพัฒนาต่อ ซึ่งมันก็ดีมากๆ เลยค่ะ

 

Q: คิดว่าหัวใจสำคัญของการเรียนสาขานี้คืออะไร?
         คิดว่าการเรียนในสาขานี้นอกจากจะทำให้เราเข้าใจความหมายของเครื่องสำอางได้มากขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นการเปิดมุมมองและความคิด ทำให้เราได้กล้าฝึกทดลอง กล้าคิดค้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง

         สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางไม่เพียงแต่มุ่งเน้นด้านทฤษฎีอย่างเดียว แต่เป็นการนำทฤษฎีที่ได้เรียนรู้มาประกอบควบคู่กับการปฏิบัติด้วย ซึ่งการเรียนรู้ การทดลอง และประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้จากการเรียนวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง สามารถฝึกให้เราพัฒนาตัวเอง เพื่อให้เป็นนักพัฒนาเครื่องสำอางที่ดีและมีคุณภาพ

         นอกจากนี้รายังสามารถนำความรู้มาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ และใช้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าเราเป็นผู้ที่ผลิตเครื่องสำอางเอง หรือเป็นผู้บริโภคก็ตาม ซึ่งสิ่งที่การเรียนมักเน้นย้ำต่อการคิดค้นและผลิตเครื่องสำอางนั้นคือต้องคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นอันดับแรก ทุกการเรียนรู้และคำสอนจากอาจารย์นั้นมีความสำคัญและมีคุณค่าเสมอค่ะ แต่การที่จะเป็นนักพัฒนาเครื่องสำอางที่ดีได้ก็อยู่ที่เราทั้งนั้น


Q: สุดท้ายนี้ ฝากกำลังใจให้น้องๆ ที่อยากเรียนสาขานี้กันหน่อย
         พี่คิดว่าการที่เราได้มาเรียนสาขานี้เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก เหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเราเอง จากคนที่สนใจเครื่องสำอางแต่ไม่รู้ความหมายของเครื่องสำอาง พอได้มาเรียนสาขานี้ ก็ทำให้เราเข้าใจความเป็นเครื่องสำอางได้อย่างแท้จริง

         พี่อยากจะให้น้องๆ ที่สนใจเรียนด้านนี้ ได้มาเรียนรู้ ลองมาเปิดใจ มาเปิดประสบการณ์ด้านเครื่องสำอางมากยิ่งขึ้น หากน้องๆ มีความชื่นชอบในด้านเครื่องสำอางจริงๆ ก็อยากจะให้น้องๆ ได้พยายามตั้งเป้าหมายและมาทำตามความฝัน  สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ยินดีต้อนรับน้องๆ อยู่นะคะ


         อย่าลืมว่าสาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางเป็นแขนงหนึ่งในสาขาวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นการเรียนมีวิชาวิทย์มารัวๆ เลยค่ะ รวมทั้งการสอบเข้าก็ใช้ GAT PAT 1 PAT 2 ตามแบบฉบับของสายวิทย์ ใครที่อยากเรียนอย่าลืมเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ในเดือนหน้าพี่แป้งจะมีคณะ/สาขาไหนมาฝาก รอติดตามกันนะคะ สวัสดีค่ะ

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด