แชร์ประสบการณ์สอบตรง คณิตศาสตร์ประกันภัย มหิดล รอบแรก!!

ตั้งกระทู้ใหม่

คือผมเป็น #dek62 ตอนนี้เรียนอยู่ ม.6 แล้วกำลังเตรียมจะเข้ามหา'ลัยนะครับ และผมไปสอบตรงที่คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ประกันภัยมาแล้วครับ!! ใครที่สนใจก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเรียนเลข(ปานกลาง-มากๆ) ชอบเกี่ยวกับการเงิน บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์อะไรทำนองนี้ ผมว่ามันน่าสนใจทีเดียวเลยนะ!

เข้าเรื่องเลยนะครับ ต้องบอกก่อนว่าที่นี่จะเป็นหลักสูตรนานาชาติ แทบทุกอย่างจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ทั้งพวกใบปลิว ใบสมัคร ข้อสอบ การเรียน ต่างๆนาๆจะใช้ภาษาอังกฤษราวๆ 90% เลยครับ เพราะงั้นถ้าสนใจ ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเตรียมตัวมาให้ดีครับ(จริงจะได้ใช้ไปจนทำงานเลยครับ เพราะพวกสอบเล่มก็จะเป็นภาษาอังกฤษเช่นกันครับ) เริ่มตั้งแต่สมัครสอบเลยนะครับ การส่งใบสมัครจะมีทั้งส่งไปทางไปรษณีย์และเดินทางไปส่งที่ คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล พญาไทเองเลย(อ้อ ลืมบอกไปว่าจะต้องอยู่ที่พญาไท 3.5 ปีเลยนะครับ ไม่ได้ไปเรียนที่ศาลายาแต่อย่างใด) จะตั้งอยู่ข้างๆกับโรงพยาบาลรามาธิบดี ใกล้ๆก็จะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ, อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, BTS พญาไท อะไรประมาณนี้ครับ ลองศึกษาเส้นทางดูได้ ผมแนะนำให้เดินทางไปส่งด้วยตัวเองดีกว่าครับ เวลาเอกสารมีปัญหาอะไร เค้าจะได้แจ้งแล้วให้เราไปแก้เลย โเยที่ต้องเตรียมไปก็มีพื้นฐานเลยครับ สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชน ใบปพ. เกรด 5 เทอม (ถ้าขอเป็นแบบภาษาอังกฤษมาได้ก็ดีครับ) เขียน Personal Statement เกี่ยวกับตัวเรา เรียนอะไรอยู่ ชอบอะไร ทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ ทำไมต้องเป็นที่นี่ อยากประกอบอะชีพอะไร เขียนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ(ไม่ควรเขียนให้มันโอเวอร์จนเกินไป เขียนที่เป็นตัวของเราเอง ใช้สำนวนภาษาของตัวเอง ห้ามลอกคนอื่นเด็ดขาด!!!) ตรงนี้ลองหาในอินเทอร์เน็ตดูได้ครับน่าจะมีเยอะ ซ้อมมือให้ดีๆครับ ตรวจการสะกดคำ ไวยากรณ์ให้เรียบร้อย นอกจากนี้ก็จะมี Letter of Recommendation ให้ครูที่ปรึกษาหรือครูคนไหนก็ได้เขียนถึงเรา ใช้ภาษาอังกฤษอีกแล้วครับ ใบรับรองการเป็นนักเรียนที่สถาบันนี่จะพกไปเผื่อก็ได้ครับ แต่เค้าไม่ได้เก็บไป ทุกอย่างควรถ่ายเอกสารไว้ 2-3 ชุดนะครับกันเหนียวไว้เผื่อพลาด ใบสมัครที่พิมพ์จากหน้าเว็บจะมีส่วนหัวกับส่วนที่ให้กรอก รวมๆแล้วจะเป็น 3 หน้า ให้ปริ๊นท์ส่วนหัวออกมาใบเดียว ส่วนตัวกรอกให้ปริ๊นท์เป็นหน้าหลังนะครับ ผมปริ๊นท์เผื่อไว้ 3 ชุดเลย เผื่อกรอกผิดได้แก้ได้ เอกสารจริงก็ควรพกติดไปครับ ไปส่งเสร็จก็รอสอบอย่างเดียว ต่อไปจะเป็นเรื่องข้อสอบนะครับ(ของผมคือสอบรอบแรกนะ)

การสอบ - สอบสองวิชา คือ คณิตศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ โดยตัวข้อสอบทั้งสองวิชาจะเป็นภาษาอังกฤษนะครับ โดยจะเริ่มที่วิชาคณิตศาสตร์ สอบตั้งแต่ 09.00-12.00 เป็นช้อยส์ 40 ข้อ 4 ตัวเลือก ให้เลือกกาข้อถูกข้อเดียว ระดับความยากเอาจริงๆพอๆกับ O-NET บวกลบนิดหน่อย แต่สไตล์ของโจทย์พวกคำถามหรืออะไรต่างๆนาๆจะออกแนวคล้ายๆ SAT เอาจริงๆอ่านมาดีๆเก็งดีๆน่าจะทำได้ครับ พื้นฐานแม่น เนื้อหาก็จะมีพวกเซต จำนวนจริง แก้สมการหาเซตคำตอบ แก้อสมการหาช่วง(บางคนอาจจะลืมพวกการแก้สมการหรืออสมการกำลังสาม ลองดูมานะครับ) แล้วก็พวกการคำนวณทั่วไปปนมาประปราย นอกจากนี้ก็มีพวกสถิติกับความน่าจะเป็น พวกนี้จะเยอะหน่อย ลิมิตปนมานิดนึง ตรีโกณอีกพอประมาณ ฟังก์ชันประมาณนึง ลำดับอนุกรมก็มีได้ใช้บ้างครับ ออกตรงๆอาจจะไม่ยอะ แต่ได้หลักการตรงนี้มาช่วยทำโจทย์บางข้อนี่ช่วยได้มากเลยนะ เสริมตรงที่สถิติออกลามไปถึงพวกความสัมพันธิ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูลเลยนะครับ ลองดู น่าจะประมาณนี้แหละครับ แล้วก็แนวพิสูจน์ช้อยส์แบบ อันไหนถูกผิด มีถูกกี่ข้อผิดกี่ข้อจะมีหลายข้ออยู่ครับ เพราะงั้นถ้าอ่านเตรียมมาก็ควรจะเข้าใจถึงหลักการมันจริงๆไม่ใช่แค่สูตรนะ ไม่งั้นพวกนี้จะไม่แม่น ส่วนภาษาอังกฤษจะค่อนข้างง่าย เบสิคล้วนๆเลย ไม่ต้องไปอ่านพวกข้อสอบแข่งขันยากๆบั่นทอนกำลังใจนะครับ อ่านพวกเบสิค เน้นเบสิคเยอะๆ โดยเฉพาะข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับ Grammar คำศัพท์ก็ไม่ยากมากครับ แต่วิชานี้จะแอดวานซ์นิดนึงตรงที่ 80 ข้อ เป็นช้อยส์ 5 ตัวเลือก 76 ข้อ และข้อเขียนอีก 4 ข้อจะเป็นการตอบคำตามจากบทความแสนยาวเฟื้อย(แต่ไม่ยากมากครับ อ่านได้สนุกๆเลย) แต่ที่อยากจะให้ระวังจริงๆคือ ในข้อสอบจะมี 4 ช้อยส์ แต่อันเซอร์ชีทมี 5 ช้อยส์ให้ฝนคำตอบ ช้อยส์ที่ 5 สำหรับข้อที่ไม่มีคำตอบเลย อย่าดิ่ง 5 นะครับทุกคน 5555555555555 ถ้าแม่นจริงๆจะรู้นะว่าข้อไหนมีไม่มี สำหรับ Grammar จะเบสิคมาก พวก Tense โครงสร้างประโยค ชนิดและหน้าที่ของคำ พวกนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆๆในพาร์ท Error ลองเก็งมาให้ดีๆครับ ถ้าเข้าใจโครงสร้างประโยคกับพวกไวยาการณ์พื้นฐานมาก็ไม่น่ายากมาก นอกจากนั้นจะเป็นพวก in on at much many so some any ลามปามไปถึง question tag นิดหน่อย modal verb อะไรพวกนี้ฮะ ไม่ยากอย่างที่คิดจริงๆนะ ย้ำอีกครั้งว่าเน้นเบสิคครับ ศัพท์ก็ไม่ยากมากจนเกินไป เชื่อว่าต้องมีผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแหละ ส่วน reading มีด้วยกัน 15 ข้อ 11 ข้อกา + 4 ข้อเขียน อ่านดีๆทำได้ครับ บางทีคำตอบก็จะอยู่ในบทความเลย ไม่ยากจนเกินไปจริงๆนะ รับประกันจากคนที่อ่านเตรียมสอบมาทั้ง GAT หรือ 9 สามัญมาแล้วครับ แต่ไม่ควรประมาทนะ เก็งมาดีๆครับ สำหรับบรรยากาศวันสอบ ผมอะไปถึงตั้งแต่ 8 โมงเช้า นั่งกินข้าวละก็อ่านชิวๆ ผมไปคนเดียวเลยครับ ไม่มีเพื่อนตามไปสักคน 555 เลยนั่งปลีกวิเวกอยู่ในสวนเงียบๆ ถึงเวลาก็เข้าสอบ แนะนำก่อนสอบอย่าดื่มน้ำหรือทานอะไรเข้าไปเยอะนะครับ สอบ 3 ชั่วโมงเราไม่สามารถไปเจ้าห้องน้ำได้(ยกเว้นวิชาภาษาอังกฤษที่อาจจะออกได้ก่อนหลักจากเริ่มสอบได้ราวๆ 1 ชั่วโมงมั้งฮะ อันนี้จำไม่ได้) ถ้าปวดมากๆเดี๋ยวจะสมาธิกระเจิดหมด 555 ของกินวันนั้นมีไม่เยอะมากเพราะเป็นวันเสาร์ ก็ซื้อของที่เซเว่นใน ม.กินเอาครับ ง่ายดี ภาษาอังกฤษที่จริงต้องสอบตั้งแต่ 13.30-16.30 แต่ผมออกมาตั้งแต่ 15.30 แล้ว เพราะต้องรีบไปเรียนต่อ(ที่ผมเรียนพิเศษจะเป็นภาษาอังกฤษ เรียนกับชาวต่างชาติเพื่อฝึกสำเนียง สกิลการพูดและฟัง มันช่วยได้จริงๆนะครับ) รวมๆแล้วก็ประมาณนี้แหละครับ ใครอยากรู้อะไรก็ลองเม้นหรือหลังไมค์ถามได้ครับ ยังไงก็หวังว่าที่ผมพิมพ์มาจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ ขอบคุณมากๆครับผม