เด็กมหา’ลัย ควรอ่าน! เทคนิคทำ Resume ยังไงให้สะดุดตา HR พร้อม 5 ข้อที่ไม่ควรทำถ้าไม่อยากถูกเมิน

มีใครเป็นเหมือนกันบ้างไหมคะ เวลาที่ต้องทำ Resume ก็ไม่แน่ใจสักทีว่าจะต้องทำออกมาในรูปแบบไหนดี หรือควรใส่ข้อมูลอะไรลงไปบ้าง เพราะข้อมูลดูเยอะเต็มไปหมด ตัดสินใจไม่ได้สักที หรือบางคนมีกิจกรรมที่เคยทำมาน้อยเหลือเกิน แบบนี้ก็เริ่มกุมขมับแล้ว เพราะคิดไม่ออกเลยว่า จะนำเสนอตัวเองผ่าน Resume ได้ยังไง 

ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมเทคนิคสำคัญในการทำ Resume ยังไงให้ถูกใจ HR มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ และพิเศษมากกว่านั้นคือ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ HR ตัวจริงเสียงจริงที่มาให้ข้อมูลเทคนิคดี ๆ แก่พวกเรา กับพี่อ้อม สุกัญญา จันทมงคลพันธ์ HR จาก Dek-D.COM ของเราอีกด้วยค่ะ อดใจไม่ไหวกันแล้ว งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ><

เทคนิคทำ Resume ยังไงให้สะดุดตา HR พร้อม 5 ข้อที่ไม่ควรทำถ้าไม่อยากถูกเมิน

สำหรับฤดูกาลฝึกงานที่นิสิต/นักศึกษาหลายๆ คณะต้องไปเผชิญกับการฝึกงานจริงในบริษัทต่างๆ ตามสาขาที่เรียน หรือตามความชอบของตัวเอง ซึ่งด่านแรกก่อนที่จะได้ไปฝึกงานจริง นั่นก็คือ การส่งใบสมัคร ประกอบไปด้วย Resume เพื่อให้บริษัทได้รู้จักกับเราได้มากขึ้น ว่าเป็นใคร มาจากไหน มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้าง และมีทักษะในการทำงานอย่างไรบ้าง โดยใช้เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการคัดเลือกผู้เข้าสมัครที่จะได้รับการฝึกงานจริงนั่นเองค่ะ

Resume ที่ดีสำหรับ HR เป็นยังไงบ้าง

สำหรับพี่อ้อม สุกัญญา HR จาก Dek-D.COM กระซิบมาว่า หลักๆ ของ Resume ที่ดี ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนและยากจนเกินไป เพียงแค่ต้องรู้จุดที่สำคัญเท่านั้นพอค่ะ ซึ่งเราได้ลิสต์ออกมาเป็นประเด็น ดังนี้เลยค่ะ  (เพื่อนๆ อย่าลืมจดกันนะคะ)

• ต้องเกี่ยวข้องกับที่บริษัทประกาศไว้ เช่น มีข้อมูลตามที่ประกาศรับสมัคร
• ข้อมูลครบถ้วน มีชื่อ ประวัติการศึกษา ผลงาน ความสามารถ และที่อยู่ติดต่อกลับชัดเจน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์
• ตรงประเด็นและชัดเจนในการสื่อสาร
• ปริมาณควร 1 หน้า พยายามให้มีข้อมูลที่จำเป็นในนั้น (มากกว่านั้นตามความเหมาะสม)
• ข้อมูลมีความถูกต้อง รวมถึงการสะกดคำในภาษานั้นๆ

จะนำเสนอตัวเองผ่าน Resume ยังไงให้ดูดี และถ้าผลงานที่ผ่านมาน้อย จะนำเสนอตัวเองยังไงดี

การนำเสนอตัวเองผ่าน Resume เป็นสิ่งสำคัญมากที่เราควรทำ เพราะถ้าหากเราทำ Resume ที่สามารถดึงดูดตากรรมการที่คัดเลือกเราด้วยประสบการณ์ที่มี เพียงเท่านี้ก็ผ่านฉลุยแล้วค่า ซึ่งมีเคล็ดลับเล็กๆ ได้แก่ ควรเลือกกิจกรรมที่โดดเด่นที่เราภูมิใจนำเสนอ หรือเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ทำ  โดยเรียงลำดับความสำคัญด้วยกิจกรรมที่เราภูมิใจนำเสนอขึ้นก่อน ค่อยไล่เรียงลงมาเรื่อยๆ จากนั้นเขียนสั้นๆ ว่า ตรงส่วนนี้ เราเคยทำอะไรมาแล้วบ้าง เช่น เราสมัครตำแหน่งเกี่ยวกับการเขียน content แล้วเราเคยทำเพจที่เผยแพร่บทความมา ซึ่งบทความมียอดวิวที่สูงมาก และ content ที่ทำตรงกับความสนใจของเรา แถมมีความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ทำและผลตอบรับดี ก็ควรจะวางไว้อยู่ลำดับต้น ๆ นั่นเองค่ะ 

ส่วนการตกแต่งหรือจัดเรียง Resume พี่อ้อม HR ของเรา ย้ำเพียงว่า สีสันในการตกแต่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เราสมัคร เช่น หากเราสมัครตำแหน่ง Graphic Designer แล้วทำฟอนต์ออกมาเฉยๆ ก็จะ        รู้สึกว่า อันนี้ก็เป็น part ที่ได้ออกแบบ ควรที่จะออกแบบให้น่าสนใจ ส่วนอื่นๆ เพียงแค่เราใส่ข้อมูลครบ     และถูกต้อง จะดีไซน์รูปแบบยังไงก็ได้ เพราะสีสันและรูปแบบไม่ได้จำกัด เพียงแค่ไม่ให้มันบดบังข้อมูลเราจนมันดรอปไป หรือมีความสมดุลระหว่างการวาง layout กับสีสัน 

แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีกิจกรรม หรือประสบการณ์ต่างๆ แล้วอยากจะนำเสนอตัวเองผ่าน Resume เพื่อนๆ ที่มีปัญหาแบบนี้ อย่าลืมจดและนำไปใช้กันนะคะ เพราะพี่อ้อมใจดีบอกเคล็ดลับกับเราว่า สามารถนำ project หรืองานต่างๆ ในวิชาเรียนมานำเสนอได้ ด้วยการเขียนอธิบายสั้นๆ ว่า เคยทำงานวิชานี้ หัวข้อ และเราเคยทำอะไรตรงนั้นบ้าง หรือความสนใจนอกมหาวิทยาลัยที่เคยทำ เช่น เคยประกวดตามงานต่างๆ  เคยไปทำอะไรที่ได้รับความยอมรับที่ดี เช่น บางคนเป็นแฟนด้อม แล้วเคยทำเพจประสบความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่จะสมัคร ก็สามารถใส่ลงใน Resume ได้ เพียงแค่ต้องเกี่ยวข้องและมีความจำเป็นเท่านั้นพอค่ะ 

5 สิ่งที่ไม่ควรทำเวลาส่ง Resume สมัครฝึกงาน

สำหรับ 5 ข้อที่ไม่ควรทำเวลาส่ง Resume สมัครฝึกงาน คือสิ่งที่ HR อยากจะให้พวกเราทำให้ถูกต้องกันนะคะ เพราะข้อมูลบางอย่างมีความสำคัญจริงๆ ค่ะ ถ้าผิดพลาดอาจเกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นพวกเราไม่ควรพลาดจุดนี้กันนะคะ ซึ่งได้แก่ 

1. ไม่ควรวัดทักษะความสามารถด้วยตัวเอง โดยไม่ได้อ้างอิงตามมาตรฐานสากล

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ นะคะ มันคือการที่เราใช้กล่องพลังงานในการบอกว่า เราเก่งภาษาอังกฤษมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจริงๆ แล้วควรที่จะมีมาตรฐานที่น่าเชื่อถือมารองรับ เช่น คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ พวก TOEIC, IELTSฯ เพราะผลสอบของคะแนนเหล่านั้น มีมาตรฐานสากลที่ชัดเจนมารองรับและสามารถวัดระดับความสามารถของเราได้จริง ไม่ใช่เป็นการที่เราคาดคะเนเองนะคะ

2. ไม่ควรสะกดคำง่ายๆ ผิด เช่น ชื่อมหาวิทยาลัย ชื่อองค์กรผิด

ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อห้ามสำคัญเลยนะคะ เพราะว่าข้อมูลบางอย่างมีความสำคัญมากและไม่ควรที่จะผิดพลาดเป็นอันขาด เนื่องจากเป็นชื่อเฉพาะ ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะส่งเอกสารต่างๆ           ให้แก่ HR นะคะ เตือนแล้วนะ!!

3. ข้อมูลไม่ตรงกับที่บริษัทประกาศ เช่น เขียนตำแหน่งที่จะสมัครผิด กลายเป็นตำแหน่งที่ไม่มีในการรับสมัคร  

การระบุข้อมูลลงในเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Resume จดหมายแนะนำตัว หรืออีเมล เราควรที่จะใส่ข้อมูลทุกอย่างลงไปให้ถูกต้องทุกครั้ง โดยเฉพาะตำแหน่งที่เราจะสมัคร มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่             ที่หากทางบริษัทประกาศรับสมัครตำแหน่ง A แต่เรากรอกข้อมูลสมัครตำแหน่ง B ไป โดยที่ตำแหน่ง B     มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ แถมไม่มีข้อมูลที่ทางบริษัทประกาศรับสมัครด้วย ดังนั้น ก่อนที่เราจะกรอกข้อมูลต่างๆ ลงไป ควรตรวจสอบให้ดีก่อนถูกต้องนะคะ ไม่งั้นเราจะพลาดโอกาสบางอย่างโดยที่ไม่รู้ตัวเลยก็ได้นะคะ 

4.  เขียนที่อยู่ติดต่อไม่ชัดเจน

ข้อนี้ก็เป็นหนึ่งข้อห้ามที่สำคัญเช่นกันค่ะ เพราะข้อมูลการติดต่อของเราเป็นสิ่งที่สำคัญห้ามพลาดมากๆ จริงๆ เพราะว่า หากทางบริษัทมีความสนใจในตัวของเรา อยากร่วมงานกับเรามาก จึงอยากนัดเรามาสัมภาษณ์พูดคุยเพิ่มเติม เพื่อทำความรู้จักกับเราให้มากขึ้น ทั้งเรื่องทัศนคติส่วนตัว นิสัยส่วนตัว ลักษณะการทำงานของเรา ซึ่งถ้าหากเราเขียนที่อยู่ติดต่อไม่ชัดเจน เช่น เขียนเบอร์ผิด เขียนไอดีไลน์ผิด ใช้อีเมลที่    ไม่ค่อยใช้งาน เวลาที่ HR อยากจะติดต่อเรา ก็ไม่สามารถติดต่อได้นั่นเอง กลายเป็นเราพลาดโอกาสในการทำงานครั้งนี้เลยก็ได้นะคะ 

5. ส่งอีเมลผิดคน ชื่อผู้รับไม่ตรงกับข้อมูลที่ส่งมา 

ข้อสุดท้ายนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนชอบลืมกัน แต่จริงๆ แล้วมันสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ เพราะหลายครั้งเราอาจจะส่งใบสมัครฝึกงานไปหลายที่  โดยเป็นตำแหน่งเดียวกัน ทำให้เราเลือกที่จะส่งข้อมูลไปพร้อมกันในอีเมลไปให้แต่ละบริษัท แต่ไม่ได้ดูชื่อผู้รับที่เราระบุไว้ในคำอธิบายในอีเมลว่าส่งถึงใคร ทำให้ชื่อผู้รับอีเมลไม่ตรงกับที่เราตั้งใจส่งให้ HR แต่ละบริษัทดูจริงๆ ซึ่งแบบนี้เราก็พลาดไม่ได้เช่นกันนะคะ ดังนั้นต้องดูความถูกต้องทุกอย่างก่อนที่จะส่ง Resume ไปให้บริษัทพิจารณาเรากันนะ

คลายข้อสงสัยกับคำถามยอดฮิต "สมัครฝึกงานต้องมีประสบการณ์ในการทำกิจกรรมเกี่ยวกับตำแหน่งที่ไปฝึกไหม?" 

สำหรับข้อสงสัยที่หลายๆ คนกำลังกังวลอยู่ ในวันนี้เราได้พาพี่อ้อม HR จาก Dek-D ของเรามายืนยันอีกครั้งค่ะว่า สำหรับการสมัครฝึกงานในตำแหน่งที่เราสนใจ แต่เราไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน จะสมัครได้ไหม ซึ่งพี่อ้อม HR ของเราบอกกับเราว่า “สามารถสมัครได้ค่ะ เพราะบางบริษัทมีการคัดเลือกจากโจทย์ที่ทางบริษัทกำหนด หรือคัดเลือกจากจดหมายแนะนำตัวที่แสดงให้เห็นถึง Passion ในความมุ่งมั่นและตั้งใจที่อยากจะฝึกงานในตำแหน่งนี้จริงๆ ซึ่งหากเราชอบหรืออยากที่จะลองเรียนรู้สิ่งนั้น ก็ไม่ต้องกังวล ยื่นสมัครแล้วทำ Resume อย่างตั้งใจก็เป็นพอค่ะ” สำหรับเพื่อนๆ คนไหนสนใจที่อยากจะมาร่วมประสบการณ์ฝึกงานกับทาง Dek-D.COM สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก 

สำหรับการทำ Resume สมัครฝึกงานก็เป็นของคู่กันสำหรับวัยเรียนอย่างพวกเราที่จำเป็นต้องลงพื้นที่จริงในการฝึกงาน หรือเป็นการสมัครฝึกงานตามความสนใจของพวกเรา แม้ว่าบางคณะหรือบางสถาบัน จะไม่ได้บังคับให้ต้องฝึกงานก็ตาม แต่การเตรียมความพร้อมเรื่อง Resume ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก แถมยังต่อยอดไปจนถึงตอนเราสมัครงานจริงๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าเราเตรียมรับมือตั้งแต่ต้น ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนะคะ ><

จบลงไปแล้วนะคะ สำหรับการบอกเล่าเทคนิคการทำ Resume จาก HR ตัวจริง ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีเทคนิคหรือเคล็ดลับอะไรอยากจะเล่าให้เราฟัง มาแชร์กันได้นะคะ