สวัสดี ชาวไรท์เตอร์ทุกคนค้าฟ พี่อตินกลับมาอีกแล้ว ครั้งนี้ เราพานักเขียนคนเก่งมา
“พบปะพูดคุย” กับนักอ่าน อีกเช่นเคย นักเขียนคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอก็คือ
“รถหนมปัง” หรือ
“BiscuitBus” ผู้โด่งดังจากผลงานแนวสืบสวนเรื่อง
ซินเดอเรลล่า Bloodhound สนุกไม่สนุกไม่รู้ รู้แต่ว่าฮอตสุดๆ ขายดิบขายดี พิมพ์ซ้ำหลายหน
และล่าสุด รถหนมปัง ของเรา ก็ได้รับการติดต่อจาก สนพ. คุณภาพอย่าง สนพ. อรุณ ในเครืออมรินทร์ จองนิยายเรื่อง ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ ไปตีพิมพ์เรียบร้อยแล้ว โดยหนังสือทั้ง 3 เล่ม วางจำหน่ายในงานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา (26 มีนาคม – 6 เมษายน) ก็เรียกได้ว่าขายดิบขายดีกันสุดๆ มีเท่าไหร่หมดเท่านั้นกันเลยทีเดียว วันนี้ พี่ตินก็เลยจับรถหนมปังมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ พูดคุยบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองสักหน่อย ใครยังไม่รู้จักเธอ ก็ต้องรีบทำความรู้จักไว้นะ บอกเลยคนนี้อนาคตไกล ฟันธง
พี่อติน : ทักทายคนอ่านก่อนน้า
BiscuitBus : สวัสดีค่ะ คนเขียนนิยายนามปากกา “รถขนมปังกรอบ” หรือ “BiscuitBus” ค่ะ จบ ป.ตรี วิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ แต่กำลังคิดว่าจะเขียนนิยายเป็นจริงเป็นจังเป็นงานอาชีพล่ะ ผลงานที่ผ่านมาที่ตีพิมพ์แล้วก็เรื่อง Cinderella ทั้งสามภาคค่ะ
ซินเดอเรลล่า ผลงานของน้องรถหนมปัง ที่ชาวเด็กดีชื่นชม
พี่อติน : พูดถึง “ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ”
BiscuitBus : เป็นนิยายโรแมนติคคอมเมดี้ + การเมืองค่ะ มีความเป็นจีนโบราณและกำลังภายในเป็นแบ็คกราวน์ เป็นเรื่องของบ่าวรับใช้ในตระกูลบ้านนอกชื่อไต้หยี่ (ที่เป็นผู้หญิง) ที่จับพลัดจับผลูไปช่วยเหลือองค์หญิง (ที่เป็นผู้ชาย) ชีวิตเรียบง่ายของบ่าวน้อยเลยต้องข้องเกี่ยวกับราชวงศ์และเกมการเมืองไปซะงั้น ก็จะเฮฮาตามสไตล์นิยายโรแมนติคคอมเมดี้ ในขณะเดียวกันหนมปังก็พยายามคงธีมกำลังภายในและเนื้อหาจริงจังของเรื่องการเมืองและประเทศชาติไว้ให้ครบด้วย
พี่อติน : ยาวจังเลย ตั้ง 3 เล่ม ...? เขียนอะไรบ้างเนี่ย
BiscuitBus : คือเรื่องราวแบ่งเป็นสามส่วนค่ะ ส่วนแรกเป็นช่วงที่ไต้หยี่คุ้มกันเหลียนหยาที่เป็นองค์หญิงไปที่ชายแดน ส่วนที่สองเป็นช่วงที่ทั้งคู่โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งที่เมืองหลวงโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนที่สามเป็นช่วงที่เกี่ยวข้องกับการสงครามกับต่างชาติและกบฏ ก็รบทัพจับศึกกันไป
พี่อติน : นิยามนิยายสไตล์ของหนมปัง ต้องเป็นแบบไหนอย่างไร สไตล์ที่เราชอบ
BiscuitBus : จริงๆหนมปังเป็นคนที่อ่านนิยายหลายแนวมากเลยนะคะ ที่ชอบอ่านก็มีหลายแบบหลายสไตล์ เจาะจงลำบากมากเลยว่าชอบแบบไหน ถ้าจะให้มองจริงๆ หนมปังชอบนิยายที่มีความเป็นธรรมชาติ คือมีความสมเหตุสมผล มีคติมีสาระมีแก่นเรื่องให้เอามาคิดต่อยอด และมีความเป็นตัวของตัวเองค่ะ
ส่วนนิยายสไตล์หนมปัง อันนี้ยิ่งตอบยากค่ะ หนมปังเป็นคนเขียนงานได้วาไรตี้มาก เพราะชอบอ่านหนังสือเกือบทุกแนว ไม่รู้ว่าวันหลังจะนึกสนุกกับพล็อตแบบไหนขึ้นมาอีก 555
อีกหนึ่งผลงานน่าภูมิใจของรถหนมปัง ตีพิมพ์กับสนพ. อรุณ
พี่อติน : จุดเริ่มต้น ที่มาที่ไปของเรื่อง เริ่มลงเว็บตั้งแต่เมื่อไหร่ และลงมานานเท่าไหนแล้ว เขียนนานเท่าไหร่กว่าจะจบ
BiscuitBus : เรื่องนี้ใช้เวลาเขียนปีกว่าเกือบสองปีค่ะ เปิดเรื่องตอนต้นปี 56 คือประมาณสองปีที่แล้วพอดี แล้วก็ค่อยๆ เขียนมาเรื่อยๆ จนจบตอนปลายปีที่แล้ว
ที่มาที่ไปของเรื่อง.. จริงๆ หนมปังเอามาจากแนวคิดเรื่องความรักและเนื้อคู่ค่ะ ณ จุดนึงหนมปังก็โรแมนติคนะ (555) หนมปังคิดว่าสำหรับคนบางคู่เขาเกิดมาเพื่อกันจริงๆ นะ หนมปังเห็นเพื่อนบางคนที่ได้แต่งงานกันก็เป็นแบบนี้ บางทีเรานึกไม่ออกว่าพวกเขาจะรับนิสัยกันได้ยังไง แต่ความรักของพวกเขาก็เสริมสร้างแต่ละฝ่ายมากๆ คือพอรักกันอยู่ด้วยกันแล้วเขาขัดเกลากัน แก้ไขข้อเสียของกัน ส่งเสริมกันไปเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เหมือนเป็นส่วนเติมเต็มของกัน หนมปังเอาแง่คิดตรงนี้มาขยายรวมกับแง่มุมของตัวเองในความเป็นขนบของนิยายจีนเรื่องการปลอมตัว ใส่ความเป็นกำลังภายใน ลองใส่รายละเอียดหลายๆ อย่างออกมากลายเป็นไอเดียเป็นพล็อตที่ดูน่าสนุก เลยเอามาปั้นเป็นเรื่องค่ะ
พี่อติน : แล้วผลตอบรับดีตั้งแต่แรกเลยไหม เป็นยังไงบ้าง คนชอบอ่านกันไหม
BiscuitBus : จริงๆ นิยายเรื่องนี้มีคนเข้ามาลองอ่านพอควรตั้งแต่ลงไปสามสี่ตอนค่ะ อาจเพราะนักอ่านจำนวนหนึ่งอ่านเรื่อง Cinderella มาก่อน ก็เลยสนใจลองกดเข้ามาดู ต่อมาก็มีคนลองเข้ามาอ่านเรื่อยๆ นักอ่านหลายท่านก็มาช่วยดูเรื่องราชาศัพท์ เรื่องพิธีรีตอง เรื่องความสมเหตุสมผลอะไรต่างๆ ให้ บางคนช่วยคอมเม้นต์เป็นกำลังใจจนถึงตอนสุดท้ายเลย บางส่วนบางที่ที่เขียนยาก ก็ได้นักอ่านหลายท่านช่วยผลักดัน หนมปังถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกท่านด้วย ^^
พี่อติน : แล้วนามปากกาของหนูมาจากอะไร
BiscuitBus : ที่มาของนามปากกาเหลวไหลมากค่ะ จริงๆ แล้วรถขนมปังกรอบเป็น Login คือหนมปังตั้งล็อกอินอะไรก็ซ้ำก็เลยใส่มั่วไปแล้วดันผ่าน คือคิดว่าเป็นนามแฝงในเว็บไม่ได้จะอะไรจริงจัง ทีนี้พอเรื่องได้ตีพิมพ์ ที่สนพ.เขาก็ถามว่าจะใช้นามปากกานี้เหรอ เอาจริงเหรอ.. คือเรื่องมันแนวตะวันตกมากเลยนะ(ตอนนั้นคือเรื่อง Cinderella) หนมปังเลยบอกว่างั้นเปลี่ยนรถขนมปังกรอบเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ เลยกลายเป็น BiscuitBus
ปกชัดๆ ของซินเดอเรลล่า นิยายของรถหนมปัง
พี่อติน : จากเรื่องซินเดอเรลล่า มันแนวสืบสวน แตกต่างจากแนวจีนเลยนะ การกระโดดข้ามมาเขียนอะไรที่คนละแนวแบบนี้ เหนื่อยมากไหม ต้องปรับตัวอย่างไร ทำการบ้านเยอะมั้ย ทั้งสองเรื่องนี้เหมือนและต่างกันอย่างไร
BiscuitBus : สองเรื่องนี้แทบไม่เหมือนกันเลยค่ะ ทั้งแนวทั้งความหนักเบา ทั้งบรรยากาศทั้งธีม ก็ต้องปรับตัวปรับมุมมองและปรับสำนวนอยู่เยอะค่ะ เวลาเขียนอยู่ในบรรยากาศตะวันตก ก็ต้องอิงวัฒนธรรมของเขา อิงค่านิยม สังคม และวิธีมองโลกของเขา เวลาเขียนในโลเคชั่นจีน ก็ต้องพยายามปรับมุมมองเป็นแบบของคนจีนในสมัยนั้น ปรับสำนวนการเขียนให้เข้ากับไวยากรณ์เข้ากับบรรยากาศ การอ่านบทกวีในสมัยก่อนกับศึกษาภาษาและประวัติศาสตร์ของบ้านเขามากๆ ช่วยได้ค่ะ
พี่อติน : เขียนนิยายแนวจีน เหนื่อยไหม ยากไหม เราไม่ใช่คนจีนนิ ต้องศึกษาวัฒนธรรมของเขาไหม
BiscuitBus : เหนื่อยค่ะ จริงๆ เขียนเรื่องแบบไหนก็เหนื่อยทั้งนั้นแหละ 555 เรื่องนี้มีจุดยากที่การเมืองในเรื่อง ที่ต้องวาดประวัติศาสตร์ปูมหลัง ใครถ่วงอำนาจใคร ใครต้องการอะไร เล่นเกมกันยังไง ต้องพยายามเล่าให้ออกมาไม่หนักเกินธีมเรื่องด้วย โดยเฉพาะเล่มสามซึ่งเกี่ยวกับการรบและสงคราม เป็นครั้งแรกที่หนมปังเขียนซีนออกรบ แบบนำทัพออกรบกันเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ ก็พยายามศึกษาจากเรื่องสามก๊ก แล้วก็อ่านงานของ จิ่วถู และนิยายจีนของท่านอื่นๆ แล้วก็หาบทความและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อ่านเยอะๆ เพื่อศึกษาภูมิประเทศ วิถีชีวิต วัฒนธรรมและค่านิยมของคนในแต่ละยุค ยังดีที่หนมปังวาดเป็นมิติคู่ขนาน คือไม่ได้อิงประวัติศาสตร์ของจริง ไม่อย่างนั้นคงหาข้อมูลหัวโตกว่านี้แน่ 555
พี่อติน : คิดว่าเพราะอะไร นิยายของเราถึงได้ติดอันดับต้นๆ มีคนเข้าชมมากมาย คนอ่านเขามาอ่านอะไรกัน ทำไมเขาชอบนิยายของเรา
BiscuitBus : จริงๆ นิยายกำลังภายในในเด็กดีค่อนข้างน้อยอยู่แล้วนะคะ แล้วกำลังภายในแบบแอ็คชั่นที่เป็นนิยายรักแบบผู้หญิงด้วยก็อาจจะยิ่งน้อยไปใหญ่ อีกอย่างเรื่องนี้หนมปังพยายามทำให้อ่านง่าย คนที่ชอบอ่านกำลังภายในอยู่แล้วก็อ่านได้ คนที่ชอบอ่านนิยายจีนแบบผู้หญิงก็อ่านได้ คนที่ไม่เคยคุ้นกับงานแบบจีนทั้งกำลังภายในหรืออื่นๆ ก็น่าจะอ่านได้ไม่ยาก
พี่อติน : คิดยังไงกับคำที่ใครๆ บอกว่าช่วงนี้ นิยายอินเทอร์เน็ตฮอตฮิตกำลังมาแรง
BiscuitBus : หนมปังว่าเสน่ห์ของนิยายบนเว็บ คือความสะดวก และความใกล้ชิดของคนอ่านและคนเขียนค่ะ เมื่อก่อนเราต้องติดตามอ่านนิยายตามนิตยสาร หรือไม่ก็รองานเป็นเล่ม สมัยนี้เราสามารถแชทคุยหรือโพสต์แสดงความในใจได้ทันที คนเขียนก็ได้รับกำลังใจ รู้สึกไม่เหงา รู้สึกว่ายังมีนักอ่านคอยสนับสนุนไม่ได้เขียนอย่างโดดเดี่ยว นักอ่านก็สามารถติดตามงานของคนเขียนได้แบบ Reality คือเห็นๆกันเลยว่าเขียนไปถึงไหน ไม่ต้องรอให้จบหรือเป็นเล่มก่อน
พี่อติน : แล้วคิดยังไงกับเว็บเด็กดี ทำไมเลือกมาลงนิยายที่เว็บนี้
BiscuitBus : ชอบใจกับระบบที่สะดวก ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อเทียบกับหลายๆที่ และกฎระเบียบค่ะ ยังเปิดกว้างให้คนเข้ามาอัพนิยายในขณะเดียวกันก็จำกัดเรทเนื้อหา หนมปังสบายใจที่จะเข้ามาหานิยายอ่านพอๆ กับเข้ามาอัพนิยายที่นี่ เพราะบางทีการเปิดหน้าแรกแล้วเจอนิยาย 18+ 25+ 30+ เป็นแผง มันทำให้ใจห่อเหี่ยวได้เหมือนกัน ^^’
พี่อติน : พูดถึงสนพ. อรุณบ้าง การทำงานร่วมกันเป็นอย่างไร
BiscuitBus : ประทับใจค่ะ บก. คอยช่วยดูเรื่องรายละเอียดที่หนมปังมองข้าม ในขณะเดียวกันก็รับฟังเหตุผลของเราด้วย จริงๆ หนมปังโตมากับนิยายของคุณกิ่งฉัตรอยู่แล้ว งานหนังสือของอรุณ ได้อ่านมามากพอควร ได้มาทำงานด้วยกันแบบนี้ก็เชื่อใจค่ะ
พี่อติน : สำหรับน้องๆ ที่เป็นนัก (อยาก) เขียน และอยากให้ผลงานของตัวเองเป็นรูปเล่ม มีคำแนะนำอย่างไรบ้าง
BiscuitBus : ไม่รู้จะบอกอะไร 555 เอาเป็นว่า ตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดก็แล้วกันค่ะ หนมปังว่าความตั้งใจและความพยายามมันจะสะท้อนอยู่ในผลงานนะ คนอ่านรับรู้ได้ ถ้าตั้งใจมากพอเราก็จะได้งานดีๆมาอยู่ในกำมือ เมื่องานดีทีนี้จะเอาไปพิมพ์เอาไปเผยแพร่ยังไง มันก็เปิดกว้างแล้วล่ะ
พี่อติน : แล้วแฟนคลับที่ช่วยเข้าอ่านงานของเราล่ะ อยากขอบคุณอะไรพวกเขาบ้าง
BiscuitBus : ขอบคุณทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่รู้จะขอบคุณยังไงถึงจะพอเลยค่ะ ถ้าไม่ได้พวกท่านหนมปังยังไม่รู้เลยว่าจะเขียนจบหรือเปล่า ^^’
พี่อติน : พูดถึงผลงานใหม่ที่กำลังจะมา ในอนาคต
BiscuitBus : ตอนนี้กำลังลองเขียนแนวพารานอมอลตะวันตกเรื่อง Soulmate อยู่ค่ะ ธีมจะดาร์คกว่าเรื่องที่แล้วๆมาอยู่บ้าง คืออยากลองอะไรที่เป็นแฟนตาซีดูบ้าง (แต่ยากจัง 555) จริงๆ ปีนี้อยากจะเขียนอีกสักเรื่อง ที่แพลนไว้คร่าวๆ น่าจะเป็นนิยายไทยแนว Romantic Suspense ค่ะ เรื่องนี้อยากเขียนเป็นการส่วนตัวด้วย ^^
พี่อติน : บอกลาและทิ้งท้ายมายไอดีให้คนไปทักทาย
BiscuitBus : ถ้าอยากไปเซย์ไฮ ไปคุยเล่น ไปให้อาหาร (เย้ยย!) ไปถามไปจิกทวงตอนใหม่ ไปหาหนมปังได้ที่นี่เลยค่ะ ^ ^
เอาหละ บทสัมภาษณ์จบไปแล้ว ตามธรรมเนียมของเราเช่นเคย เราจะไม่จบกันแบบง่ายๆ แต่ว่า จะต้องมีเล่นเกมแจกรางวัลด้วยยยยย อิอิ (ทำเป็นธรรมเนียมเลยเนอะ นักเขียนคนไหนอยากมาสัมภาษณ์ เตรียมหอบหนังสือมาแจกเลยนะ) และครั้งนี้ รถหนมปัง กับ สนพ. อรุณ ใจดีมาก ร่วมกันแจก ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ 3 ชุดด้วยกัน (9 เล่มเลยน้า) แต่ว่าต้องแจ้งไว้ก่อนเลยว่าไม่มีบ็อกเซ็ตนะ เราแจกเป็นเล่มจ้ะ ^______________^
และคำถามสำหรับเกมนี้ ก็ง่ายๆ เหมือนเคยนะ ถามว่า คิดยังไงกับบทสัมภาษณ์ของน้องรถหนมปัง ชอบหรือไม่ชอบอะไรตรงไหน หรือว่ารู้สึกประทับใจตรงไหน ประโยคไหน ยกมาตอบได้เลยนะ ใครตอบถูกใจ ก็จะได้รับรางวัล ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ ไปอ่านฟรีๆ เลยจ้า
ตอบกันเข้ามาเยอะๆ นะ ประกาศผล วันศุกร์ที่ 17 เมษายน นี้ คับผม ^ ^
แจกรางวัลครัซ
ผู้โชคดีก็คือ
The Secret
ผู้คลั่งนิยายรัก
สิริยากรเยาะเย้ย
ส่งชื่อที่อยู่มาที่ atin@dek-d.com
ภายในวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558
อตินเอง
43 ความคิดเห็น
น่าอ่านจังค่ะ^^
ท่านหนมปังงง
"ความตั้งใจและความพยายามมันจะสะท้อนอยู่ในผลงานนะ" อ่านประโยคนี้แล้วรู้สึกมีกำลังใจเขียนนิยายต่อไปครับ เพราะบางทีผมก็รู้สึกท้อแท้เหลือเกิน
ป.ล. ชอบนามปากกาพี่จังเลยฮะ
ชอบในส่วนการพยายามหาข้อมูล การเก็บรายละเอียดของพี่เขาค่ะ คือนิยายจีนเนี่ย รายละอียดที่ต้องให้ตามเก็บมันหยิบย่อยมาก เยอะแยะไปหมด คือกำลังพยายามเขียนนิยายจีนเหมือนกันค่ะ เลยพอรู้ว่ามันลำบากลำบนแค่ไหน 5555 ทั้งค่าเงิน หน่วยวัด ลี้ เวลา ยามจื่อ ยามเหม่า ตีกันมั่วไปหมด ยิ่งถ้าอิงตามประวัติศาสตร์นี่ตายค่ะ 5555 ชั้นขุนนาง ตระกูลนั้นตระกูลนี้ตีกัน ยิ่งฉากสงครามนี่เลือดตาแทบกระเด็น กลยุทธ์นี่มาเต็ม ซุนวู สามก๊ก ยิ่งพิมพ์เหมือนยิ่งมาบ่น แค่นี้แล้วกันค่ะ 555555
ชอบการตอบของนักเขียนค่ะ (ชอบการถามของอตินด้วย) น้องตอบได้น่ารักดีค่ะ เห็นตัวตนนักเขียนผ่านการสัมภาษณ์เลย ที่ชอบคือที่มาของนามปากกาค่ะ คือเราไม่เคยรู้ (ไม่เคยสนใจนั่นล่ะ) ที่นี่รู้ล่ะว่านามปากกานี้ท่านได้แต่ใดมา 555+
ชอบบทสัมภาษณ์ที่บอกว่า
"...พอรักกันอยู่ด้วยกันแล้วเขาขัดเกลากัน แก้ไขข้อเสียของกัน ส่งเสริมกันไปเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เหมือนเป็นส่วนเติมเต็มของกัน หนมปังเอาแง่คิดตรงนี้มาขยายรวมกับแง่มุมของตัวเอง"
พออ่านท่อนนี้แล้วทำให้สนใจเรื่องที่คุณรถขนมปังเขียนขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ว่าจะเขียนเรื่องราวแบบไหนออกมานะ? พอกดเข้าไปอ่านคำโปรยในหน้าแรกของนิยาย เรื่อง 'ราชบุตรเขยเจ้าสำราญ' ก็อดอุทานออกมาไม่ได้ว่า "เฮ้ย!! มันแนวมากอะ" นางเอก(หรือพระเอก?)เป็นจอมยุทธ/พระเอกเป็นเจ้าหญิง?
อย่างแรกเลยคือ "ชอบพี่หนมปัง" ชอบเวลาพี่แสดงความคิดผ่านตัวหนังสือ ติดตามมานานแล้วค่ะ ทุกเรื่องเลย ตั้งแต่แอชลี่ย์ปกเก่าโน้น อุ้ย ไม่นานหรอกเนอะจนมาถึง ไต้ยี่ และแอนมารี เป็นตัวละครที่มีคาแรคเตอร์ที่ต่างกันมากๆสามคารแรคเตอร์ แต่สิ่งที่สามคนนี่เหมือนกันน่าจะเป็น "การกล้าเผชิญหน้า" มีคนเคยบอกมาว่า การเขียนหนังสือก็คือการบอกตัวตน ว่าเราเป็นคนอย่างไร พี่กล้าที่จะเขียนคาแรคเตอร์ให้ต่างจากกระแสความต้องการ ให้ตัวเองเป็นคนกำหนดและเปิดมุมมองใหม่ อย่างที่พี่เค้าบอกไปแล้วว่า
"เวลาเขียนอยู่ในบรรยากาศตะวันตกต้องอิงวัฒนธรรมของเขา อิงค่านิยม สังคม และวิธีมองโลกของเขา เวลาเขียนในโลเคชั่นจีน ก็ต้องพยายามปรับมุมมองเป็นแบบของคนจีนในสมัยนั้น ปรับสำนวนการเขียนให้เข้ากับไวยากรณ์เข้ากับบรรยากาศ "
เพราจะเขียนให้ตัวเอกในนิยายจีนมีนิสัยเหมือนตัวเอกในนิยายไทยก็ใช้เรื่อง ซึ่งพี่เค้าก็ทำได้ดีมาก จะติดตามต่อไปนะคะ (ขอให้ได้ ขอให้โดน เพี้ยงงง )
ชอบความคิดของคุณรถขนมปังมากค่ะ แต่ที่อยากทำให้อ่านเรื่องนี้คงเป็นเพราะ ที่คุณรถขนมปังบอกว่า "จริงๆ นิยายกำลังภายในในเด็กดีค่อนข้างน้อยอยู่แล้วนะคะ แล้วกำลังภายในแบบแอ็คชั่นที่เป็นนิยายรักแบบผู้หญิงด้วยก็อาจจะยิ่งน้อยไปใหญ่ อีกอย่างเรื่องนี้หนมปังพยายามทำให้อ่านง่าย คนที่ชอบอ่านกำลังภายในอยู่แล้วก็อ่านได้ คนที่ชอบอ่านนิยายจีนแบบผู้หญิงก็อ่านได้ คนที่ไม่เคยคุ้นกับงานแบบจีนทั้งกำลังภายในหรืออื่นๆ ก็น่าจะอ่านได้ไม่ยาก" ส่วนตัวเป็นคนชอบดูหนังจีนกำลังภายในค่ะ แต่.... ไม่เคยคิดจะอ่านแบบเป็นนิยานเลย แต่พออ่านที่คุณรถขนมปังบอกไว้ มันทำให้รู้สึกอยากอ่าน อยากรู้ว่า นิยานจีนกำลังภายใน+นิยายรักผู้หญิงมันออกมาในรูปแบบไหน คิดว่าหลังจากนี้ตะลองหาอ่านดูซักหน่อยค่ะ รอคอยมานาน..การผสมผสานที่ลงตัวแบบนี้
ตั้งใจอยากอ่านเรื่อง ซินเดอเรลล่า Bloodhound ค่ะ แต่ว่ายังไม่มีโอกาสเลยเพราะว่่าภารกิจยังมีแตว่าเรื่องนีเ้ป็นเรื่องต้นๆ ที่อยากลองอ่านงานแนวเขียนแบบนี้เพราะว่าหลายน้องแนะนำเอาไว้ค่ะว่า สนุก สนุกมาก และสนุกมว้ากกกกกกก เลยทำให้รู้จักกับนามปากกานี้เลย พอเรื่องเทพบุตรเจ้าสำราญมา ก็แปลกใจ หลายน้องอ่านมาแล้วบอกสนุก บางคนบอกว่าแปลก แน่นอนว่าอาจจะต้องลองแล้วจะบอกได้ค่ะว่าเป็นยังไง
สิ่งหนึ่งที่อ่านในบทสัมภาษณ์แล้วชอบ คือตรงที่บอกว่า "ความตั้งใจและความพยายามสะท้อนในผลงาน" แน่นอนค่ะว่ามันเป็นเช่นนี้จริงๆ เวลาที่เห็นนักเขียนได้เขียนแบบมุ่งมั่นตั้งใจ มันเลยทำให้คนอ่านอย่างเรารู้ถึงคุณค่าของงานที่ผ่านออกมาแต่ละเล่ม การอ่านแล้ววิจารณ์ว่ามันดีไม่ดีมันง่าย แต่ว่าถ้ามองถึงความตั้งใจและความพยายามต้องบอกว่า "มันไม่ได้ง่ายเลย" เพราะกว่าจะเขียน กว่าจะกลั่นออกมามันยากเย็นขนาดไหน เพราะฉะนั้นความมุ่งมั่น ตั้งใจของนักเขียน นักอ่านอย่างเราๆ ก็ต้องเข้าใจว่างานจะดีไม่ดีดูที่ความตั้งใจจะนำเสนอ ขอบคุณสำหรับผลงานที่เขียนมานะคะ แต่ละเรื่องความหนาคงบอกได้ถึงความตั้งใจ หนาไม่พอ ปริมาณยังจัดเต็ม แบบนี้ไม่ใส่ใจ ไม่ตั้งมั่น ไม่พยายาม ทำไม่ได้แน่ๆ ค่ะ ....
เห็นด้วยกับประโยคของพี่ขนมปังที่บอกว่า "เรื่องนี้หนมปังพยายามทำให้อ่านง่าย คนที่ชอบอ่านกำลังภายในอยู่แล้วก็อ่านได้ คนที่ชอบอ่านนิยายจีนแบบผู้หญิงก็อ่านได้ คนที่ไม่คุ้นเคยกับงานแบบจีนทั้งกำลังภายในหรืออื่นๆ ก็น่าจะอ่านได้ไม่ยาก" เพราะก่อนหน้านี้เราไม่เคยอ่านนิยายแนวจีนๆเลย ส่วนใหญ่จะอ่านแนวแฟนตาซีมากกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราอ่านแล้วก็ติดมากกกกก หลงรักไต้หยี่สุดๆ>< อ่านแล้วเพ้อไปหลายวัน555 ใครที่ไม่เคยอ่านเรื่องนี้ก็แนะนำเลยว่าสนุกมากๆ
ปล.อยากซื้อมาเก็บไว้ที่บ้านแต่ตอนนี้ยังไม่มีตังค์ถ้าได้เป็นของรางวัลก็ดีนะ
ชอบที่คุณหนมปังบอกว่า "สำหรับคนบางคู่เขาเกิดมาเพื่อกันจริงๆ" และ "ความรักของพวกเขาก็เสริมสร้างแต่ละฝ่ายมากๆ คือพอรักกันอยู่ด้วยกันแล้วเขาขัดเกลากัน แก้ไขข้อเสียของกัน ส่งเสริมกันไปเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เหมือนเป็นส่วนเติมเต็มของกัน" ประทับใจค่ะ มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของความรักค่ะ
ติดตามพี่ขนมปัง มาตั้งแต่ Cinderella Bloodhound แล้วค่ะ ผลงานนู้นพี่เค้าเขียนได้ประทับใจเรามากเลย จนเราไปซื้อยกชุดเลยได้มีโอกาสไปเจอพี่เค้าในงานหนังสือด้วย (เราจำพี่เค้าได้แม่นเลย แต่พี่เค้าคงจำเราไม่ได้แล้วแหละ) จนมาถึงผลงานชุดใหม่ของพี่ขนมปัง เราก็ติดตามมาเรื่อยๆ แต่ว่าเรายุ่งมากเลยไม่ค่อยได้รู้ลายละเอียดอะไรซักเท่าไหร่ คราวนี้เรามาเข้าเรื่องกัน (พล่ามซะยาว) จากการอ่านบทความนี้ทำให้เราชอบหลายๆอย่าเลย ตั้งแต่ทัศนคติ ของพี่ขนมปังต่อนิยายเรื่องต่างๆ การค้นคว้าหาข้อมูล รู้ถึงความมุ่งมั่นของพี่ขนมปังว่ากว่าจะเขียนแต่ละเรื่องให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีความใส่ใจด้วย พี่ไม่ได้หาแค่พล็อตแหวกๆ เขียนๆ จบ แต่พี่มีรายละเอียดอะไรสอดแทรกเต็มไปหมดเลย (ตามที่เคยอ่าน ซินเดอเรลลา) และสิ่งที่แปลกใจที่สุดในบทความคือ พี่ขนมปังจบวิศวะ!! ทำให้รู้เลยว่าพี่มีใจที่รักในการเขียนนิยายจริงๆ ไม่มีตรงที่ชอบเป็นพิเศษในบทความนี้ เพราะว่าทั้งบทความบอกถึงความเป็นมา ความตั้งใจ ของพี่หนมปังหมดทุกส่วนแล้ว
ปล.อยากอ่านผลงานชุดใหม่เร็วๆจัง
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ชืานชมคุณหนมปังมากค่ะ
ชอบจังที่เอานักเขียนมาสัมภาษณ์แบบนี้ ชอบการเขียนของพี่หนมปังมากๆ สู้ๆๆนะคะ.
บทความที่นิยมอ่านต่อ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?