เปิดโลกของ V.Rondell นักเขียนสายแฟนตาซีที่จะทำให้คุณต้องทึ่ง
สวัสดีค่ะชาวเด็กดี ช่วงนี้เริ่มสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นๆ ในยามเช้าบ้างแล้ว ส่วนตัวพี่อรแอบชอบอากาศช่วงนี้อย่างบอกไม่ถูก คงเพราะเวลามองท้องฟ้าแล้วมันฟ้าได้สุดใจมั่งคะ เปิดมาปุ๊บก็เพ้อเจ้อไปไกล ขอวกกลับมาที่คอลัมน์พบปะพูดคุยสัปดาห์นี้กันก่อน อย่างที่ใบ้ทิ้งท้ายไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเลยค่ะว่านักเขียนรับเชิญสัปดาห์นี้จะเป็นนักเขียนสาวสายแฟนตาซี หลายคนหลังไมค์มาถามกันใหญ่ คนนั้นไหมพี่ หรือต้องคนนี้แน่ๆ 555 สุดท้ายพี่อรก็ไม่ได้เฉลยอุบมาจนถึงวันเสาร์จนได้ เอาละคราวนี้ได้เวลาเฉลยจริงๆ แล้ว เธอคนที่พี่อรจะพูดถึงก็คือ V.Rondell นั่นเองค่ะ ไหนใครเดาถูกบ้างคะ
"วี" หรือที่นักอ่านรู้จักกันในนามปากกา "V.Rondell" ทำให้พี่อรเซอร์ไพรส์หลายอย่างมากค่ะไม่ใช่เฉพาะดีกรีความเป็นนักเรียนนอก หรือการวาดภาพฝีมือระดับเทพของเธอ แต่เพราะแนวคิดหลายอย่างที่สื่อออกมามันทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา แถมยังเป็นคนที่มีการคิดางแผนชีวิตตัวเองอย่างดี ซึ่งนั่นทำให้พี่อรมั่นใจว่าความสำเร็จของเธอ ณ ตอนนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน งั้นอย่าเสียเวลาค่ะมาทำความรู้จักกับเธอคนนี้กันเลยดีกว่า
"วี" หรือที่นักอ่านรู้จักกันในนามปากกา "V.Rondell" ทำให้พี่อรเซอร์ไพรส์หลายอย่างมากค่ะไม่ใช่เฉพาะดีกรีความเป็นนักเรียนนอก หรือการวาดภาพฝีมือระดับเทพของเธอ แต่เพราะแนวคิดหลายอย่างที่สื่อออกมามันทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา แถมยังเป็นคนที่มีการคิดางแผนชีวิตตัวเองอย่างดี ซึ่งนั่นทำให้พี่อรมั่นใจว่าความสำเร็จของเธอ ณ ตอนนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน งั้นอย่าเสียเวลาค่ะมาทำความรู้จักกับเธอคนนี้กันเลยดีกว่า
วีขอกอดหน่อยนะเบย์แม็กซ์
แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ
V.Rondell: สวัสดีค่า 'V.Rondell' หรือ 'วี' ค่ะ เป็นนักอ่านตัวยงที่อัพเลเวลมาเป็นนักเขียนนิยายแฟนตาซีค่ะ เพราะใช้สายตาทั้งอ่าน ทั้งเขียนและวาดเยอะมาตลอดเลยลงเอยด้วยการเข้าสมาคมสวมแว่นตา ถ้าได้พบผู้หญิงตัวโย่งๆ ผมสั้นมีจอนยาวข้างหน้า สวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์กับกระเป๋าสะพายข้างเน่าๆ ตามร้านหนังสือก็เป็นไปได้สูงว่า เราได้พบกันเข้าแล้วล่ะค่ะ
V.Rondell: สวัสดีค่า 'V.Rondell' หรือ 'วี' ค่ะ เป็นนักอ่านตัวยงที่อัพเลเวลมาเป็นนักเขียนนิยายแฟนตาซีค่ะ เพราะใช้สายตาทั้งอ่าน ทั้งเขียนและวาดเยอะมาตลอดเลยลงเอยด้วยการเข้าสมาคมสวมแว่นตา ถ้าได้พบผู้หญิงตัวโย่งๆ ผมสั้นมีจอนยาวข้างหน้า สวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์กับกระเป๋าสะพายข้างเน่าๆ ตามร้านหนังสือก็เป็นไปได้สูงว่า เราได้พบกันเข้าแล้วล่ะค่ะ
เห็นไปแจกลายเซ็นในงานหนังสือด้วยค่ะ เป็นยังไงบ้าง สนุกไหม รู้สึกยังไงบ้าง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
V.Rondell: แหะๆ ดีใจมากเลยค่ะที่มีโอกาสได้ไปร่วมงานหนังสือด้วย เพราะช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เลยไม่เคยมาร่วมงานหนังสือครั้งใดๆ เลย ยกเว้นงานหนังสือเด็กเมื่อสองปีก่อน เวลามีงานทีไรก็ได้แต่เกาะหน้าจอเชียร์ตลอด แอบเสียดายทุกครั้งว่าเราไม่ได้ไปด้วย (แล้วก็ภาวนาไปว่า สักวันหลังจบ เราจะโผล่ไป!) พอได้มาร่วมงานจริงๆ ก็เลยมีความสุขสุดๆ เลยค่ะที่ได้พบหน้านักอ่านทุกท่านแบบไม่ต้องผ่านหน้าจออย่างเดียวอีกแล้ว ได้ออกกำลังกล้ามแขนตอนเซ็นชื่อด้วย ที่สำคัญคือก็ได้รู้จักหน้าค่าตานักอ่านหลายคน และได้พบใครอีกหลายคนที่เคยเจอกัน แล้วยังติดตามเหนียวแน่นจนถึงบัดนี้เช่นกัน เรียกได้ว่าดีใจมากแทบลอยชนเพดานศูนย์ประชุมฯ เลยค่ะ
สามนักเขียนสาว (จากซ้าย: กัลฐิดา, D-Dora และ V.Rondell)
V.Rondell ถ่ายคู่กับผลงาน
I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 3 - 4
I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 3 - 4
ผลงานชุด I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร ล่าสุดออกเล่ม 4 แล้ว ยังมีนักอ่านติดตามต่อเนื่องเยอะมากๆ มีเทคนิคยังไงให้งานเขียนของตัวเองน่าสนใจขนาดนี้
V.Rondell: สิ่งเดียวที่คิดอยู่ตลอดเวลาตอนที่เขียนคือ ทำให้งานสนุกค่ะ เบื้องหลังความสนุกก็มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ ถึงจะฟังดูน่ากลัวแต่ที่จริงก็คือ การคิดตามตัวละครว่าพวกเขากำลังจะไปที่ไหน มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ชอบอะไรเกลียดอะไร จะมีปฏิกริยาแบบไหนในสถานการณ์ใดค่ะ คนเขียนก็อยากรู้ นักอ่านก็อยากรู้ ตัวละครเองก็เหมือนกันเมื่อเป็นประสบการณ์ร่วมของทุกคน เราก็แชร์ประสบการณ์ต่างๆ ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสนุกไปด้วยกันค่ะ
คำว่า “แฟนตาซี” ทำให้คิดถึงอะไร
V.Rondell: ในแนวคิดของวี แฟนตาซีทำให้คิดถึง นิทาน หรือตำนานโบราณที่มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ทั้งเรื่องเวทมตร์ ดินแดนลี้ลับ สัตว์ในเทพนิยาย หรือยามที่เรื่องเหนือจริงเกิดขึ้นได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคีย์เวิร์ดของความสนุกสำหรับวีก็ได้เลยค่ะ
V.Rondell: ในแนวคิดของวี แฟนตาซีทำให้คิดถึง นิทาน หรือตำนานโบราณที่มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ทั้งเรื่องเวทมตร์ ดินแดนลี้ลับ สัตว์ในเทพนิยาย หรือยามที่เรื่องเหนือจริงเกิดขึ้นได้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคีย์เวิร์ดของความสนุกสำหรับวีก็ได้เลยค่ะ
ตั้งแต่เขียนงานมาอะไรคือปัญหาหลักๆ ที่มักเจอ แล้วแก้ไขกับปัญหานั้นยังไง
V.Rondell: ปัญหาหลักๆ ที่พบบ่อยคือ อาการตัน ภาวะหมดอารมณ์ และการแบ่งเวลาค่ะ
อาการตันเป็นภาวะชั่วคราวที่พบได้ทั่วไป บางครั้งเป็นเพราะเราเหนื่อย หรือจดจ่อกับงานตรงหน้ามากเกินไปจนมองไม่เห็นจุดสำคัญที่ต้องเพิ่มเติมหรือผิดพลาด ถ้าตันแบบนี้การพักผ่อนย่อมดีที่สุด เมื่อสมองผ่อนคลาย เราก็จะเห็นสิ่งที่เราพลาดไปค่ะ ตันอีกแบบหนึ่งคือ ตันเพราะเราขาดข้อมูลในการเขียน อันนี้มีวิธีเยียวยาเดียวคือ หาสิ่งที่ขาดไปมาเพิ่มเติมค่ะ ฝึกสิ่งที่เรายังไม่ถนัด รับและเลือกคำติดชมมาขบคิด เมื่อจัดการเติมเต็มสิ่งที่หายไปแล้ว อาการตันแบบนี้ก็จะหายไป
ภาวะหมดอารมณ์ อาจเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อนักเขียนกำลังทุ่มเทเขียนฉากที่มีอารมณ์หนึ่ง แล้วถูกขัดคอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม (เช่นเขียนฉากเศร้าน้ำตาไหลเป็นสายเลือดอยู่ แล้วรถไอติมเพลงหน่อมแน้มวิ่งผ่านข้างหน้าต่างมา เป็นต้น) ก่อนอื่นเลยปัจจัยภายนอกจะคนหรือฝนฟ้าอากาศเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ และเราควรจะยอมรับให้ได้ก่อนว่า โมโหไปก็แก้ไขอะไรเดี๋ยวนั้นไม่ได้ เมื่อใจเย็นลงก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ไปหาที่นั่งทำงานใหม่ หรือปรับอารมณ์ด้วยการเปลี่ยนกิจกรรม (อ่านหนังสืออื่นบ้าง เล่นเกม ทำงานบ้าน ดูหนัง ออกไปเดินเล่น) แต่ที่สำคัญที่สุดคือนึกถึงนิยายของเรา ตัวละคร และคนอื่นไว้ให้ดี เราปล่อยพวกเขาให้ค้างเติ่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ เมื่อความตั้งใจมา อารมณ์ก็จะตามมาด้วย เพราะวีเชื่อว่าทุกคนรักสิ่งที่ตัวเองเขียนเกินกว่าจะปล่อยให้ความตั้งใจและความพยายามนานหลายวัน เดือน ปี หรือแม้แต่หลักชั่วโมงหายไป เพราะอุปสรรคเพียงไม่กี่นาทีแน่นอนค่ะ
ส่วนการแบ่งเวลานี่ยากที่สุด เพราะทุกคนก็มีบทบาทที่ต้องทำหลายอย่าง การลำดับความสำคัญจึงเป็นเรื่องจำเป็น ต้องมีแผนงานบ้างว่าจะทำอะไรเวลาไหน อะไรที่พลาดไม่ได้ และอะไรที่ตัดได้ การกำหนดเวลาเขียนนิยายตายตัวบางกรณีก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะทำให้เกิดความสม่ำเสมอ แต่ที่วีต้องเผชิญบ่อยๆ ก็คือ เวลาที่งานอย่างอื่นมากเหลือเกินจนกระดิกตัวทำอย่างอื่นแทบไม่ได้ ถึงเวลานั้นเราก็ต้องกัดฟันเลือกค่ะ บางครั้งก็ต้องยอมสละเวลาผ่อนคลายส่วนตัว เช่น เล่นเกม หรือเที่ยว เพื่อเอาเวลานั้นมาเขียนนิยาย ทั้งนี้อย่าจดจ่อกับนิยายมากไปจนลืมใส่ใจคนรอบตัว เช่น ครอบครัว หรือเพื่อนๆ ที่เป็นห่วงเราด้วยนะคะ
V.Rondell: ปัญหาหลักๆ ที่พบบ่อยคือ อาการตัน ภาวะหมดอารมณ์ และการแบ่งเวลาค่ะ
อาการตันเป็นภาวะชั่วคราวที่พบได้ทั่วไป บางครั้งเป็นเพราะเราเหนื่อย หรือจดจ่อกับงานตรงหน้ามากเกินไปจนมองไม่เห็นจุดสำคัญที่ต้องเพิ่มเติมหรือผิดพลาด ถ้าตันแบบนี้การพักผ่อนย่อมดีที่สุด เมื่อสมองผ่อนคลาย เราก็จะเห็นสิ่งที่เราพลาดไปค่ะ ตันอีกแบบหนึ่งคือ ตันเพราะเราขาดข้อมูลในการเขียน อันนี้มีวิธีเยียวยาเดียวคือ หาสิ่งที่ขาดไปมาเพิ่มเติมค่ะ ฝึกสิ่งที่เรายังไม่ถนัด รับและเลือกคำติดชมมาขบคิด เมื่อจัดการเติมเต็มสิ่งที่หายไปแล้ว อาการตันแบบนี้ก็จะหายไป
ภาวะหมดอารมณ์ อาจเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อนักเขียนกำลังทุ่มเทเขียนฉากที่มีอารมณ์หนึ่ง แล้วถูกขัดคอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม (เช่นเขียนฉากเศร้าน้ำตาไหลเป็นสายเลือดอยู่ แล้วรถไอติมเพลงหน่อมแน้มวิ่งผ่านข้างหน้าต่างมา เป็นต้น) ก่อนอื่นเลยปัจจัยภายนอกจะคนหรือฝนฟ้าอากาศเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ และเราควรจะยอมรับให้ได้ก่อนว่า โมโหไปก็แก้ไขอะไรเดี๋ยวนั้นไม่ได้ เมื่อใจเย็นลงก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ไปหาที่นั่งทำงานใหม่ หรือปรับอารมณ์ด้วยการเปลี่ยนกิจกรรม (อ่านหนังสืออื่นบ้าง เล่นเกม ทำงานบ้าน ดูหนัง ออกไปเดินเล่น) แต่ที่สำคัญที่สุดคือนึกถึงนิยายของเรา ตัวละคร และคนอื่นไว้ให้ดี เราปล่อยพวกเขาให้ค้างเติ่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ เมื่อความตั้งใจมา อารมณ์ก็จะตามมาด้วย เพราะวีเชื่อว่าทุกคนรักสิ่งที่ตัวเองเขียนเกินกว่าจะปล่อยให้ความตั้งใจและความพยายามนานหลายวัน เดือน ปี หรือแม้แต่หลักชั่วโมงหายไป เพราะอุปสรรคเพียงไม่กี่นาทีแน่นอนค่ะ
ส่วนการแบ่งเวลานี่ยากที่สุด เพราะทุกคนก็มีบทบาทที่ต้องทำหลายอย่าง การลำดับความสำคัญจึงเป็นเรื่องจำเป็น ต้องมีแผนงานบ้างว่าจะทำอะไรเวลาไหน อะไรที่พลาดไม่ได้ และอะไรที่ตัดได้ การกำหนดเวลาเขียนนิยายตายตัวบางกรณีก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะทำให้เกิดความสม่ำเสมอ แต่ที่วีต้องเผชิญบ่อยๆ ก็คือ เวลาที่งานอย่างอื่นมากเหลือเกินจนกระดิกตัวทำอย่างอื่นแทบไม่ได้ ถึงเวลานั้นเราก็ต้องกัดฟันเลือกค่ะ บางครั้งก็ต้องยอมสละเวลาผ่อนคลายส่วนตัว เช่น เล่นเกม หรือเที่ยว เพื่อเอาเวลานั้นมาเขียนนิยาย ทั้งนี้อย่าจดจ่อกับนิยายมากไปจนลืมใส่ใจคนรอบตัว เช่น ครอบครัว หรือเพื่อนๆ ที่เป็นห่วงเราด้วยนะคะ
ครุ่นคิด (ตอนต่อไปเอาไงดี...)
สำหรับการเขียนงานแนวแฟนตาซี คิดว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
V.Rondell: สิ่งสำคัญที่สุดในมุมมองของวีคงจะเป็น ความสนุก และความมหัศจรรย์ แฟนตาซีคือสิ่งเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนแบบ ใหม่ โลกแบบใหม่ที่นักเขียนถ่ายทอดจากจินตนาการของตนเองให้กับผู้อ่าน ความตื่นตาตื่นใจจึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ความสนุก อันประกอบด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะ เรื่องคาดไม่ถึง มุกตลก และอื่นๆอีกมามาย คือหัวใจของงานเขียนบันเทิงคดีทุกแนวรวมถึงแฟนตาซีด้วย เพราะการแบ่งบันประสบการณ์เหล่านี้คือแก่นแท้และจุดประสงค์ของงานเขียนที่จะทำให้ผู้อ่านรักโลก รักตัวละครที่นักเขียนนำเสนอ และมีความสุขกับการอ่านค่ะ
V.Rondell: สิ่งสำคัญที่สุดในมุมมองของวีคงจะเป็น ความสนุก และความมหัศจรรย์ แฟนตาซีคือสิ่งเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนแบบ ใหม่ โลกแบบใหม่ที่นักเขียนถ่ายทอดจากจินตนาการของตนเองให้กับผู้อ่าน ความตื่นตาตื่นใจจึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ความสนุก อันประกอบด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะ เรื่องคาดไม่ถึง มุกตลก และอื่นๆอีกมามาย คือหัวใจของงานเขียนบันเทิงคดีทุกแนวรวมถึงแฟนตาซีด้วย เพราะการแบ่งบันประสบการณ์เหล่านี้คือแก่นแท้และจุดประสงค์ของงานเขียนที่จะทำให้ผู้อ่านรักโลก รักตัวละครที่นักเขียนนำเสนอ และมีความสุขกับการอ่านค่ะ
นักอ่านหลายคนบอกว่าชอบการบรรยายของ V.Rondell มาก ส่วนตัวมีวิธีการเขียน หรือเทคนิคในการเขียนบรรยายยังไงให้น่าสนใจ
V.Rondell: เขินจนนั่งม้วนเลยค่ะ วีรู้ตัวว่าตัวเองเขียนบทพรรณาไม่เก่ง การใช้ภาษาก็อาจจะไม่มีลูกเล่นพราวพราย ดังนั้นเทคนิคที่เหมาะกับตัววีที่สุดก็คือ สื่ออย่างตรงไปตรงมาที่สุดค่ะ บรรยายตามที่อยู่ให้เห็น พูดถึงสิ่งที่ตัวละครเห็นจากมุมมองของตัวละครตัวนั้นๆ ทีนี้บทบรรยายจะสั้นหรือยาว ก็ขึ้นอยู่กับบุคลิกของตัวละคร ซึ่งจะทำให้เราเกร็งกับการเขียนน้อยลง สิ่งเดียวที่ต้องระวังคือพยายามเขียนให้กระชับ ได้ใจความ และไม่ออกทะเลค่ะ
จากผลงานที่ผ่านมา ชอบเรื่องไหนของตัวเองที่สุด เพราะอะไรคะ
V.Rondell: คำถามนี้ตอบยากมากเลยค่ะ เพราะว่าชอบทุกเรื่องเท่าๆ กันอย่างจริงแท้ค่ะ เหมือนมีอาหารโปรดหลายจานที่ชอบเท่าๆ กันเป๊ะเลยค่ะ ผลงานแต่ละชิ้นที่เขียนมา ทั้งที่ออกสื่อ ส่งอาจารย์หรือซุกเอาไว้ในคลังก็ล้วนแต่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองค่ะ ถ้ายกตัวอย่างผลงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วก็คือ มายาจอมคาถามีความสนุกของเนื้อเรื่องที่เคลื่อนไหวเร็วเพราะจบภาคในสองเล่ม ตัวละครมีทั้งฮา ทั้งจี้ กวนประสาท ส่วนบทเพลงสุดท้ายของนางเงือกก็มีความละมุนของอารมณ์และฉากในเรื่องสูงจนท้าทายขีดจำกัดนักเขียนมาก บางฉากต้องนั่งบิ้วอารมณ์กันเป็นวันเลยค่ะ ส่วนน้องใหม่อย่างผมนี่หรือคือ อดีตจอมมาร ก็มีความฮา รั่วเปิ่น ที่ทำให้ได้ลองลับอารมณ์ขันมาใช้คู่กับซีนดราม่าถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างค่ะ ดังนั้นจึงเลือกไม่ได้เลยจริงๆ ว่าชอบชิ้นไหนที่สุด ในเมื่อแต่ละเรื่องก็มีแง่มุมที่วีรักและให้ความสำคัญอยู่ทุกเรื่องค่ะ
ผลงานที่ผ่านมา ของ V.Rondell
ส่วนตัวคิดว่าเสน่ห์ของงานเขียนแนวแฟนตาซีอยู่ตรงไหน
V.Rondell: คิดว่าเป็น “ความตื่นตาตื่นใจ เหนือความคาดหมาย” ค่ะ เพราะว่าแฟนตาซีเป็นคำกว้างที่เปิดโอกาสให้เรื่องใดๆ เป็นจริงขึ้นมาได้ในโลกสมมุติของนักเขียนแต่ละท่าน ดังนั้นสำหรับนักอ่านแล้วจึงได้ลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าจะมีสิ่งใหม่ๆ อะไรที่คาดไม่ถึงปรากฏออกมาอยู่ตลอด และถึงแม้จะเป็นงานแฟนตาซีซึ่งไม่เหมือนโลกของเราเลย หลักการหลายๆ อย่างหรือประสบการณ์ที่รับจากการอ่านก็สามารถนำมาดัดแปลงใช้กับโลกแห่งความจริงได้ด้วยค่ะ
การจะสร้างโลกแฟนตาซีให้น่าติดตาม คิดว่าต้องเริ่มจากอะไร
V.Rondell: ตอบตามประสาหนอนหนังสือเลยก็คือ เริ่มจะการสะสมข้อมูลค่ะ อ่าน ดูสิ่งที่มีอยู่จริง กลไกเหตุผล เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้มาประกอบขึ้นเป็นสิ่งใหม่ ในโลกใหม่ การสร้างโลกเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งเวลา และความทุ่มเทสูง จึงแนะนำให้จดบันทึกไว้เพื่อให้จำง่าย และสะดวกต่อการแก้ไขค่ะ วิธีสร้างโลกก็มีทั้งการเริ่มคิดจากใหญ่ไปเล็ก (องค์ประกอบของโลก เช่น วัฒนธรรม ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ กฎเกณฑ์ของโลก มีข้อดีคือความเป็นเอกภาพและสมดุลย์ของโลก แต่ใช้เวลาคิดเยอะ) และเล็กไปใหญ่ คือ กระจายจากตัวละครหลักออกไปรอบๆ (เร็ว แต่มีข้อเสียคือ จะต้องเขียนไปคิดไปทำให้พลาดได้ง่าย และเสี่ยงที่จะขาดความเป็นเอกภาพ)
ทั้งนี้โลกแฟนตาซีสนุกเพราะมีข้อจำกัดในตัวเอง ทำให้ความมหัศจรรรย์ต่างๆ เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขจำเพาะ ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยไม่มีกติกาซึ่งจะทำให้ความสมจริงและความสนุกลดลงไปมากเนื่องจากผู้อ่านไม่เชื่อสิ่งที่เราเขียน ดังนั้นไม่ว่าใช้วิธีสร้างโลกแบบไหน กฎเกณฑ์ข้อจำกัด ทั้งทางธรรมชาติเหนือธรรมชาติ หรือแม้แต่กติการใช้เวทมนตร์ก็เป็นเรื่องที่ต้องกำหนดไว้ ไม่ควรละเลยค่ะ
ในฐานะนักเขียนนิยายแนวแฟนตาซีคิดยังไงกับ คำว่า Writer as God
V.Rondell: ถ้า Writer as God หมายถึงว่า นักเขียนต้องรู้ (แทบ) ทุกอย่างในเรื่องของตนเองแล้วล่ะก็ วีคิดว่าประโยคนี้ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะว่าในโลกสมมุติของเรา คนที่รู้กติกาดีที่สุดคือ ผู้เขียนซึ่งสร้างโลกนั้นขึ้นมา เป็นผู้กำหนดเนื้อเรื่องว่าจะตามติดตัวละครตัวไหน เล่าเรื่องในมุมมองอย่างไร และเข้าใจดีที่สุดว่าตัวละครตัวนั้นเป็นอย่างไร ชอบอะไร เกลียดอะไร ต้องการอะไร ฯลฯพลังของนักเขียนคือ การร้อยเรียงเรื่องราวให้สนุกน่าสนใจ เพื่อให้นักอ่านสนุกไปกับเนื้อเรื่อง สำหรับวีแล้วเวลาเล่าเรื่องจะคิดว่าเรากำลังถ่ายทอดเรื่องสนุกให้เพื่อนทั้งที่เราเคย และไม่เคยพบฟังเสมอค่ะ
ตั้งแต่เป็นนักเขียนมาประสบการณ์ไหนที่ทำให้รู้สึกประทับใจที่สุด ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ
V.Rondell: ถ้านับตั้งแต่ตอนแตะคีย์บอร์ดลงเว็บเด็กดีล่ะก็ คือช่วงที่ลงป้าบเดียวสิบสองตอนแล้วมีคอมเมนต์จากผู้อ่านมาว่าชอบงานของเรา ตอนนั้นวิ่งเต้นรอบบ้านเลยค่ะ โทรไปหาเพื่อนแล้วพูดเบลอๆ กับเขาซ้ำๆ ว่า “มีคนชอบงานเราแหละ เขาว่าอ่านแล้วสนุก!” เป็นความรู้สึกที่ล้ำค่ามากค่ะ ถ้านับการเป็นนักเขียนอย่างเป็นทางการหลังตีพิมพ์ ก็ดีใจตั้งแต่ได้เห็นคอมเม้นต์บนเฟซบุ๊คแล้ว ได้จับเล่มจริงครั้งแรก (หลังพิมพ์ออกมาหกเดือน) ก็ยิ่งดีใจ แต่ที่ทำให้ประทับใจที่สุดก็คือ ตอนที่ไปงานหนังสือเด็กครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมสักราวๆ สามปีก่อน ทั้งประหม่าทั้งตื่นเต้นที่ได้เจอหน้าแฟนๆ ตัวเป็นๆ แต่ดีใจจนหัวใจคับอกแทบระเบิดออกมาเลยค่ะ ทั้งรู้สึกขอบคุณ และดีใจ ตอนนี้ทุกครั้งที่ได้พบนักอ่านที่ชอบงานของวี วีก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ เห็นหน้าไม่เปลี่ยนที่จริงใจเต้นระบำรัวไปไหนต่อไหนแล้วค่ะ
มุมกล้องทำให้วีดูโหดร้ายเหมือนกินเพนกวิน น้องสาวเธอบอกถ่ายไว้แกล้ง
ถ้าจะต้องเขียนนิยายที่ไม่ใช่แนวแฟนตาซี คิดว่าอยากจะเขียนแนวไหน
V.Rondell: แนวที่อยากลองมาตลอดเลยก็คงจะเป็นแนวสืบสวนสอบสวน ถ้ามีองค์ประกอบเหนือธรรมชาติ (เพื่อนผี ศัตรูผี ปีศาจมาเยือน แต่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ของแท้ 100%) อย่างที่เขาเรียกกันว่าเป็นประเภท paranormal ล่ะก็ยิ่งอยากลองใหญ่เลย เพราะว่าเป็นแฟนนิยายสืบสวน ชอบเกมและปริศนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คงจะเป็นแนวที่ท้าทายมากเลยค่ะ น่าลองมาก แต่คงต้องสะสมความรู้และฝึกฝนจนคิดว่ามือถึงแล้ว ก่อนจะส่งผลงานออกมาลงสนามค่ะ น่าจะอีกสักพักใหญ่ๆ เลย
ถ้ามีพรวิเศษหนึ่งข้อคิดว่าจะขออะไร
V.Rondell: ทีแรกแอบคิดว่าอยากให้วันนึงมีสักสามสิบชั่วโมง แต่แบบนั้นเวลางานก็คงเพิ่มขึ้น เวลาเขียนสัดส่วนคงประมาณเดิม... เอาเป็นขอให้ทั้งตัวเองและนักเขียนแฟนตาซีคนอื่นๆ มีพลังฟื้นตัวทั้งสุขภาพกาย - ใจดีเยี่ยม ผลิตงานดีๆ ออกมาสม่ำเสมอ ละกันค่ะ เพราะหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดก็มาจากการอ่านงานคุณภาพของนักเขียนท่านอื่นๆ นี่แหละค่ะ ทำให้ฮึดและขยันมากเลย
ฝากอะไรถึงน้องนักอ่านและนักเขียนเด็กดีที่ติดตามงานของ V.Rondell สักหน่อยค่ะ
V.Rondell: ก่อนอื่นเลยสำหรับนักอ่านทุกท่าน ขอขอบคุณจากใจจริงที่ ติดตามผลงาน ติชม และให้กำลังใจเสมอมาค่ะ V.Rondell คงมาไม่ถึงตรงนี้หากไม่มีนักอ่านทุกท่านค่ะ
สำหรับนักเขียนเด็กดีมือใหม่ ขอให้ขยันฝึกฝนผลิตผลงานออกมาเรื่อยๆ นะคะ กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียว นักเขียนเก่งๆ ทุกคนก็ฝึกกันเอาเป็นเอาตายเป็นเวลานานเหมือนกันค่ะ ความผิดพลาดใดๆ ไม่ใช่ตราบาปที่จะเก็บมากลุ้มใจไปตลอด แต่เป็นบทเรียนมีค่าที่ควรจดจำและระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก อุปสรรคที่เราต้องเผชิญอาจจะทำให้ลำบากใจ ต้องเครียด เสียน้ำตา แต่สุดท้ายเมื่อเราก้าวข้ามมันไปได้ เราจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างเหลือเชื่อเลยค่ะ สำหรับนักเขียนเด็กดีมือเก๋าก็ขอให้ผลิตผลงานคุณภาพออกมาเสมอเช่นกันค่ะ ในฐานะนักอ่านวีพร้อมมองหาผลงานดีๆ มาประโลมจิตใจเสมอค่ะ และในฐานะนักเขียนก็มองหาแรงบันดาลใจในงานเจ๋งๆ ของทุกคนอยู่ตลอดเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยค่า / โค้งงามๆ
เมื่อไรที่เราสามารถก้าวข้ามความยากลำบากมาได้ เราจะแข็งแกร่งขึ้น
แน่นอนค่ะพี่อรเองก็เชื่ออย่างนั่นเช่นเดียวกัน
และนี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของนักเขียนเด็กดีรุ่นพี่ ที่มาเปิดใจพร้อมเผยเทคนิค
ตลอดจนแนวคิดที่บางส่วนน้องๆ อาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้
เอาละค่ะ รอคอยกันอยู่หรือเปล่าเอ่ยกับเกมท้ายคอลัมน์ รอบนี้เพียงแค่น้องๆ บอกว่า
ชื่นชอบตัวละครตัวไหน จากเรื่อง I am the Ex-DEMONKING
ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร พร้อมให้เหตุผล
ผู้โชคดี 3 ท่าน ลุ้นรับหนังสือ
I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 4 นิทานก่อนนอนของปีศาจ
แน่นอนค่ะพี่อรเองก็เชื่ออย่างนั่นเช่นเดียวกัน
และนี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของนักเขียนเด็กดีรุ่นพี่ ที่มาเปิดใจพร้อมเผยเทคนิค
ตลอดจนแนวคิดที่บางส่วนน้องๆ อาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้
เอาละค่ะ รอคอยกันอยู่หรือเปล่าเอ่ยกับเกมท้ายคอลัมน์ รอบนี้เพียงแค่น้องๆ บอกว่า
ชื่นชอบตัวละครตัวไหน จากเรื่อง I am the Ex-DEMONKING
ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร พร้อมให้เหตุผล
ผู้โชคดี 3 ท่าน ลุ้นรับหนังสือ
I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 4 นิทานก่อนนอนของปีศาจ
มาร่วมสนุกชิงรางวัลกันเยอะๆ นะคะ
(หมดเขตรับของรางวัล ในวันจันทร์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2558)
ประกาศผู้โชคดีได้รับรางวัล
I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 4 นิทานก่อนนอนของปีศาจ
ได้แก่
I am the Ex-DEMONKING ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 4 นิทานก่อนนอนของปีศาจ
ได้แก่
benznapatsorn
ChaBell[นั้งๆนอนๆอยู่ในกองนิยาย]
Blue Heaven
สำหรับผู้ได้รับรางวัลกรุณาส่ง ชื่อ-นามสกุล (นามแฝง) พร้อมที่อยู่ในการจัดส่ง
ระบุว่าได้รับรางวัลหนังสือ "ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 4 "
มาที่อีเมล์ atcharawadi@dek-d.com
ทางทีมงานจะจัดส่งรางวัลไปให้อ่านถึงที่บ้านเลยค่ะ ^ ^
ระบุว่าได้รับรางวัลหนังสือ "ผมน่ะหรือคืออดีตจอมมาร 4 "
มาที่อีเมล์ atcharawadi@dek-d.com
ทางทีมงานจะจัดส่งรางวัลไปให้อ่านถึงที่บ้านเลยค่ะ ^ ^
(หมดเขตรับของรางวัล ในวันจันทร์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2558)
พี่อร
^_______________^
21 ความคิดเห็น
ชอบทรราชย์ไร้พ่ายค่ะ เพราะถึงจะโดนผู้คนรังเกียจสาบแช่ง แต่เขาก็ไม่เคยนำมาใส่ใจ ยังคงทำสิ่งที่ตนเองรักและปกป้องผู้คนที่ตัวเองรักอย่างถึงที่สุด หรือเอาง่ายๆคือชอบเซลริคนั่นเอง555 ถึงเซลริคจะไม่ได้เรื่องป้ำๆเป๋อๆ ซุ่มซ่ามตามคำสาบ และเป็นชาติสุดท้ายของทรราชย์ไร้พ่าย แต่เซลริคก็มีความพยายามในการทำลายคำสาบ และเป็นผู้นำที่ดีของเหล่าลูกน้องทุกตน เอาใจใส่คนอื่นเสมอ ชอบคนแบบนี้ค่ะ
พี่เป็นไอดอลของหนูเลย เรื่องของไคอา อ่านแล้วอินมาก เช่นเรื่องของรุ่นพ่อแม่ อ่านไปร้องไป อ่านซ้ำกี่รอบก็ร้องทุกรอบ เรดไฮม อยากให้อัพเรื่องนี้มาก ฟินทุกเรื่อง จะไม่ว่างอ่านก็แค่ตอนติดสอบเท่านั้น ตอนแรกอ่านเเค่เรื่องของวาเทีย ไปๆมาๆกลายเป็นติดไคอาแทน สร้างตัวละครได้เหมือนจริงมาก เราตกหลุมรักไคอาเลยอะ แบบว่าถ้ามีจริงๆคงขอแต่งงาน ฮ่าๆ สุดท้าย ร้กพี่มาก (นักอ่านเงาชั่วคราว)
นี่ชอบเซลริคนะ มุมมองของเซลริคดี ถึงจะตัวเล็ก น่ารัก สืบทอดความเป็นทรราชย์ไร้พ่ายมาแถมดวงซวยมากจากคำสาปแต่เซลริคก็ไม่ได้โทษใคร ยังคงใช้ชีวิตเป็นเซลริค เรมิงตันที่ร่าเริง คิดถึงคนอื่น ช่วยเหลือคนอื่นแล้วก็รักเพื่อนมากๆ และเพราะคิดว่าถ้านี่ได้เป็นเซลริคนี่คงไม่เก่งขนาดเซลริคหรอก ยังตัดขาดจากความคิดที่แย่ๆไม่ได้อะ เพราะงั้นเซลริคเลยเป็นตัวละครหลักที่ชอบมากๆ
ตามพี่วีมาตอนที่ไปหาหนังสืออ่านบนชั้นวางบีทูเอส แล้วมาอ่านมายาจอมคาถาจากเพื่อนพอเจอเรื่องจอมมารนี่ก็ชอบมากๆแบบรอวันที่พี่จะลงเลยอะ 555555555 สุดท้าย ไฟท์ติ้งนะพี่ไรท์เตอร์วีรอนเดล ʕ·ᴥ·ʔ
ชอบโรสมากเลยครับว่ายังไงดีละ ถึงเธอจะต้องเห็นคนรักตายในทุกๆชาติแต่เธอก็ยังคงรักและพยายามต่อไป ผมรู้สึกว่าเธอช่างแกร่งกล้ามากจริงๆ นี่ยังไม่นับมุมๆโหดๆกับมุมอ่อนโยนออร่าสีชมพูนะเนี่ย เธอน่ารักจริงๆนะเออ
ชอบโรเซลเลียค่ะ นางเป็นหญิงแกร่งจริงๆ ต้องทนดูคนที่รักที่สุดตายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งอดีตสามี ทั้งๆที่นางไม่จำเป็นต้องกลับชาติมาเกิดด้วยเลยสักนิด มิหนำซ้ำนางไม่บอกเรื่องที่ตัวเองเป็นอดีตราชินีเพื่อให้เซลริคเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช้อดีตมาบังคับ เพราะโรสเชื่อและเคารพการตัดสินใจเซลริค คอยเคียงข้าง คอยปกป้อง และสนับสนุนอย่างเงียบๆมาตลอด ถึงเซลริคจะไม่รู้ว่าโรสเป็นอดีตราชินี เซลริคก็ต้องตกหลุมเธออยู่ดี
ตายละ ทำไมพอนึกถึงพี่วี นึกออกแต่วาเทียกะไคอาล่ะเนี่ยยย5555
เราชอบราวินค่ะ คือคาแรคเตอร์ของราวินมันบรรยายคำว่า'พ่อ'ได้ดีมากๆ เราร้องไห้ไม่หยุด(หมดทิชชู่ไปสามโหล)ตอนที่รัซเซลรู้ตัวว่าเป็นลูกของราวิน คือเราก็ไม่เคยมีลูก(ฮา)แต่ถ้าคนที่เรารักมากๆอยู่ๆก็เกลียดเราสุดขั้วหัวใจอย่างนี้เราคงรับไม่ไหว แต่ราวินก็ยังเข้มแข็งมากๆจนเราบรรยายไม่ถูก ที่สำคัญคือชีวิตราวินมันรันทดมาก โดนเผาตั้งแต่เด็ก โดนรังเกียจ ได้มีความสุขแค่แปปเดียวแต่สุดท้ายก็เศร้าอีกครั้ง คือเป็นผู้ชายที่น่าสงสารที่สุดสำหรับเรา เป็นคนน่าสงสารที่ยิ้มสวย(และหล่อ)มาก เราน้ำตาคลอตอนที่ราวินบอกว่าไม่อยากได้เสื้อคลุ่มคืนเพราะว่าปีกที่กางออกมาก็เป็นเพราะรัซเซลเพราะงั้นให้รัซเซลไปก็ดีแล้ว นาทีนั้นคืออยากจับหัวรัซเซลโขกพื้นรัวๆ แบบทำดีกับพ่อแกหน่อยสิเฟร้ย พูดทำร้ายจิตใจเขาไปตั้งเยอะ ที่เศร้ากว่าคือทั้งสองมีเวลาอยู่ด้วยกันหลังจากรู้ความจริงๆน้อยมาก น้อยจนทำเราหน่วงไปสามวันแบบ รัซเซลน่าสงสารอะ เป็นเราคงรู้สึกผิดจนฆ่าตัวตายไปแล้ว ด่าพ่อไปซะขนาดนั้น[bb-13]
ชอบโรสค่ะ ทุ่มเททุกอย่างเพื่อคนรัก ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน นางน่าสงสารสุดแล้ว
ชอบโรเซเลียที่สุดเลยครับ เธอเป็นเหมือนแสงแห่งความหวังของเซลริค ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆแม้ตนเองจะเจ็บปวด ที่ปล่อยให้คนรักตกตายไปแต่ก็ยังคอยตามช่วยเหลือ
"แม้ทั้งชีวิตหรือชั่วนิรันดร์ของเขาจะมืดมิด ฉันปรานาที่จะเป็นแสงสว่างตามเขาไปทุกแห่งหน"
เป็นประโยคที่ซึ้งกินใจมากครับ
ป.ล.ลองอ่าน มายาจอมคาถา กันดูสิครับ สนุกมากผมซื้อไว้ทุกเล่มเลย
คือตามพี่วีตั้งแต่มายาแล้วแต่ถ้าในเรื่องนี้ชอบเคย์เลนสุด ปีศาจหิมะที่ชื่นชอบแสงอาทิตย์อาจดูซื่อบื้อถึงขั้นต้องเปิดหาคำว่าเพื่อนในพจนานุกรม เป็นเพื่อนสนิทคนแรกของเซริค รักครอบครัวรักพวกพ้อง ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นถึงจะเป็นปีศาจหิมะก็เถอะโดยรวมแล้วน่ารัก >//< ชอบที่สุดคือสัญญาของปีศาจหิมะ เชียร์คู่ปีศาจหิมะกับเดรียอาดมากชอบคู่นี้ต่างคนต่างหลงใหลในสิ่งที่อันตรายต่อตัวเอง เคย์เลนชอบเเสงอาทิตย์ คุณหมอชอบน้ำแข็ง
คือซื้อนสไปหนังสือไปแล้ว แต่อยากเขียนความประทับใจสักนิ้ดด55555
ส่วนตัวแล้ว ความโมเอะของซิโตรเนล่ามันทะลุจอเหลือเกิน โมเอะมว้ากกก
ดูความมุ้งมิ้งและความโลลิ(?)ของเทอสิ ไม่ใช่แค่ตัวเล็กแล้วจะติ๋มๆ แต่เป็นคุณหมอออ
คุณหมอที่เก่งและน่ารัก อยากจะเป็นคนไข้ไปหาเทอทุกวัน~
รอฉากสวีทๆระหว่างเจ้าก้อนไอติมกะคุณหมอน้อยอยู่ โฮะๆๆๆๆๆ
เคย์เลนถ้านายรู้สึกตัวช้ามากไป ชั้นแย่งจีบซิโตรเนล่าตัดหน้าไปแล้วนะ//โดนซัด