ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาณาจักรเล็กๆในตู้หนังสือ (รีวิวหนังสือ)

    ลำดับตอนที่ #35 : รีวิว...บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ เล่ม 1 : En Mikami (Light Novel)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.37K
      4
      20 ก.ย. 60



    ビブリア古書堂の事件手帖

    บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ  1

    ตอน คุณชิโอริโกะกับเหล่าลูกค้าผู้แปลกประหลาด

    ผู้เขียน : En Mikami

    ผู้แปล : พลอยทับทิม ทับทิมทอง

    สำนักพิมพ์อนิแม็ก บุ๊คส์

     

    คำโปรยปกหลัง

    ผู้นำพาเรื่องราวอันน่าพิศวงมาให้ คือ...หนังสือเล่มหนึ่ง

    'ร้านหนังสือเก่าบิเบลีย' ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบในซอกมุมหนึ่งของเมืองคามาคุระ เจ้าของร้านเป็นสาวสวยที่ดูแล้วไม่น่ามีความเกี่ยวข้องกับร้านหนังสือเก่าเลย แถมยังขี้อายมากขนาดไม่กล้าสนทนากับคนแปลกหน้า

    ความรู้เกี่ยวกับหนังสือเก่าของเธอนั้นเรียกได้ว่าเกินมนุษย์ หญิงสาวรักและทุ่มเทให้กับหนังสือแบบผิดธรรมดา ตรงข้ามกับยามที่เธอต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันโดยสิ้นเชิง

    และบางครั้งบางคราวหนังสือเก่าจะเดินทางมาหาเธอ ซึ่งเธอจะไขปริศนารวมทั้งเปิดเผยความลับของหนังสือเก่าเหล่านั้น ราวกับมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาของตัวเอง...

    นี่คือเรื่องราวของ "หนังสือเก่ากับความลับ" ซึ่ง 'ชิโอริโกะ' และเหล่าลูกค้าผู้แปลกประหลาดร่วมกันถักทอขึ้นมา




    ในระหว่างที่นาตนงกำลังคิดว่าจะหยิบอะไรมาอ่านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการรีวิวประจำเดือนมกราคมนี้ดี ในที่สุดนาตนงก็ค้นพบหนังสือที่อ่านค้างไว้และลืมไปสนิทเลย (แหะๆ มันน่าลืมมั้ยยยยย)

    อ๊ะๆ งงอะจิคะว่าเป้าหมายอะไร คืองี้ค่ะ...เมื่อตอนปีใหม่ นาตนงตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะรีวิวหนังสืออย่างน้อยเดือนละ 5 เรื่อง นี่ก็เขียนรีวิวหนังสือที่เพิ่งอ่านในเดือนนี้ไปได้ 4 เรื่องแล้วและมันกำลังจะหมดเดือน อั้ยย่ะ!!! ก็กลุ้มเลยค่ะว่าจะอ่านอะไรดี ระหว่างที่ค้นกองดองดูก็เลยเจอเล่มนี้นั่นแหละค่าาาาาาาา

    เอาละกลับเข้าเรื่องกันดีกว่า นาตนงคิดว่าตัวนาตนงเองก็อ่านหนังสือมาพอสมควรนะคะ นานๆ จะเจองานสักเล่มที่ละมุนแบบจัดๆ สักที ละมุนแบบอ่านแล้วอุ่นอะ คือดี คือชอบ มันรู้ได้เลยว่า 'บิเบลีย' เป็นหนังสือแปลที่น่าทึ่งมากสำหรับนาตนง มันมีความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยพลังของตัวหนังสืออย่างเต็มเปี่ยม (ดูเว่อร์เนอะ แต่รู้สึกได้จริงๆ)

    ตัวละครเรื่องนี้มีเสน่ห์มากๆ ค่ะ เป็น 'คนธรรมดา' ที่มีอ่านแล้วมันรู้สึกอะไร ยอมใจในฝีมือผู้เขียนอะ เขาสามารถถ่ายทอดบุคลิกของตัวละครออกมาได้มีเสน่ห์มากๆ ไม่ว่าจะคนไร้บ้าน สาวนั่งดริ้งค์ สาวมัธยมปลาย หรือแม้กระทั่งการพูดถึงบุคคลที่ตายไปแล้วมันก็ยังน่าสนใจมากเลยค่ะ คือถ้าใครชอบญี่ปุ่น หรือดูซีรีย์ญี่ปุ่น อ่านการ์ตูนอะไรแบบนี้ นาตนงว่าอ่านแล้วต้องชอบนะ มันมีความการ์ตูนที่ผสมผสานอยู่กับความเป็นจริงสูงมาก อ่านแล้วสัมผัสได้ว่า นี่แหละ ญี่ปุ่น งงมะ? คืออธิบายง่ายๆ ว่า เหมือนกับเราอ่านหนังสือสักเล่มแล้วเจอว่าเนี่ยคนไทยมันเป็นแบบนี้อะ มันเป็นอย่างในหนังสือนี่เลย บรรยากาศของเรื่องก็ใช่ บิเบลีย นี่ก็เหมือนกัน ทั้งบรรยากาศ วิธีการพูด วิธีการคิด ความขี้อาย ลักษณะของผู้คนที่อยู่ในเล่ม มันชวนให้เรารู้สึกว่า เนี่ย...ญี่ปุ่น ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ต่อให้เปลี่ยนชื่อตัวละครเป็นภาษาอื่นเราก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นของญี่ปุ่นนะ...น่าทึ่งเนอะที่เขียนออกมาได้ขนาดนี้แต่มันยังคงไว้ซึ่งความเป็นนิยาย อ่านแล้วยังชอบมากเลย เดี๋ยวจะต้องไปหาเล่ม 2 กับเล่ม 3 มาอ่านต่อ เมื่อตอนงานหนังสือคราวที่แล้วลืมสนิท มัวแต่ไปช็อปที่อื่น ไม่ได้แวะที่อนิแม็กเลย ฮ่าๆๆๆๆ

    นอกเหนือไปจากนี้พล็อตเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดา ไม่น่าสนใจอะไรเลยแต่เรากลับถูกตรึงอยู่กับเรื่องราวของหนังสือในแต่ละเล่ม ซึ่งหนังสือทั้งหมดที่ปรากฏในเรื่องนี้เป็นหนังสือที่มีอยู่จริง แล้วเรื่องราวแต่ละเรื่องที่ถูกไขออกมา ดูเผินๆ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากแต่มันกลับมีผลกระทบต่อตัวละครผู้เป็นเจ้าของหนังสือ หรือผู้เกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนั้น นาตนงชอบนะ การที่ผู้เขียนเอาเรื่องที่มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรมาก มาเป็นกุญแจดอกเล็กๆ ไขเข้าไปสู่อดีตของหนังสือในแต่ละเล่มเนี่ย มันทำให้เราฉุกคิดว่า บางสิ่งบางอย่างมันดูเล็กน้อยเกินกว่าจะใส่ใจ แต่บางทีมันก็ความหมายกับใครอีกคนมากมายอย่างที่เราไม่คาดคิด ทั้งนี้ยังมีเรื่องของความเชื่อมโยงในจุดที่ยังค้างคา ตอนอ่านก็คิดว่ามันน่าจะจบแล้ว แต่พอเรื่องราวมันถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน มันก็เลยยิ่งสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทำให้ข้อสรุปที่เหมือนไม่ชัดเจน มีความชัดเจนและเป้นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น

    ความสัมพันธ์ของตัวละครค่อยเป็นค่อยไปมาก ระยะห่างของพระเอกและนางเอกที่ค่อยๆ ขยับเข้าหากันมากขึ้นในแต่ละหน้าของหนังสือเป็นเสน่ห์อีกประการหนึ่งของนิยายเรื่องนี้ เพราะเราไม่รู้เลยว่ามันจะคืบหน้าไปในทิศทางไหน เนื่องจากนางเอกมีปัญหาด้านการปฏิสัมพันธ์ต่อเพื่อนมนุษย์ และพระเอกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นนะ แต่การเปิดใจ การขยับเข้ามาหาอะไรแนวๆ นี้มันน่ารักอะ มันไม่รู้สึกว่านางแปลกประหลาดจนเกินมนุษย์ธรรมดา มันทำให้นาตนงคิดถึงชื่อหนังสือเล่มหนึ่งของคุณบินหลา สันกาลาคีรี หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า เราพบกันเพราะหนังสือ จุดเริ่มต้นของความรัก มันก็มาจากตรงนี้เอง ทั้งคู่ได้พบกันเพราะหนังสือ แต่คนหนึ่งบ้าหนังสือ กับอีกคนที่ไม่สามารถอ่านหนังสือได้ เห็นมะๆ จุดเริ่มต้นมันสนใจจะตายไป

    นอกเหนือไปจากการชื่นชมในเนื้อหาและตัวพล็อตเรื่องแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือสำนวนแปล ชอบมาก...ดีอะ ละเมียดละไม และยังคงได้กลิ่นของความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งผู้แปลถอดความออกมาได้ดีจนเราสัมผัสได้ถึงสารที่ผู้เขียนต้องการสื่อออกมา ซึ่งพออ่านแล้วมันก็เหมาะเจาะพอดีเลย

    ด้วยความที่นิยายเล่มนี้เป็นแนวสืบสวนเบาๆ ที่คนอ่านคาดเดาไม่ได้ แต่ในเนื้อหามันก็มีจุดหนึ่งที่โดยส่วนตัวนาตนงรู้สึกว่าถ้าผู้เขียนเขาใส่ Sign หรือ Point เล็กๆ ให้คนอ่านสะกิด หรือค้นคำตอบเองได้บ้างมันจะทำให้เรื่องนี้เป็นนิยายสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นาตนงคิดว่าการฟังนางเอกไขปริศนาได้ฝ่ายเดียวมันรู้สึกเหมือนเราไม่ชนะอะ (ออกตัวก่อนว่าอันเป็นความรู้สึกส่วนตัวๆ มากเวลาอ่านนิยายแนวสืบสวนค่ะ) คิดว่าหลายๆ คนน่าจะเป็นเหมือนกันนะ ที่อ่านแล้วอยากชนะตัวละคร ชนะพล็อต อยากรู้เท่าทันบ้าง ไม่ได้อยากรู้ทั้งหมดหรอก ขอนิดเดียวสักตอน สักอย่าง เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น แต่โดยรวมก็ชอบมากอยู่ ถึงจะไม่สะกิดใจอะไรสักอย่างเลยก็เถอะ มาเก็ตพร้อมๆ กับพระเอกท้ายเรื่องนี่แหละ

    ฉะนั้นมาสรุปกันดีว่าค่ะ จากเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ คะแนนสูงอย่างแน่นอน และเมื่อ ประมวลผลแล้ว ตัดจุดเล็กจุดน้อยออก บวกนั่นเพิ่มนี่ จึงได้คะแนนมาที่ 8.9/10 คะแนนค่าาาาาาาาา เอาจริงนะเรื่องถ้าใครชอบก็ชอบเลย บางคนอาจจะไม่ชอบในความเรียบง่ายของมันก็ได้ แต่เชื่อว่า 70% ของคนที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ จะรู้สึกรักหนังสือเล่มนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×