คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : รีวิว...บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ เล่ม 1 : En Mikami (Light Novel)
ビブリア古書堂の事件手帖
บิเบลีย
บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1
ตอน
คุณชิโอริโกะกับเหล่าลูกค้าผู้แปลกประหลาด
ผู้เขียน : En Mikami
ผู้แปล : พลอยทับทิม
ทับทิมทอง
สำนักพิมพ์อนิแม็ก บุ๊คส์
…คำโปรยปกหลัง…
ผู้นำพาเรื่องราวอันน่าพิศวงมาให้
คือ...หนังสือเล่มหนึ่ง
'ร้านหนังสือเก่าบิเบลีย' ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบในซอกมุมหนึ่งของเมืองคามาคุระ
เจ้าของร้านเป็นสาวสวยที่ดูแล้วไม่น่ามีความเกี่ยวข้องกับร้านหนังสือเก่าเลย
แถมยังขี้อายมากขนาดไม่กล้าสนทนากับคนแปลกหน้า
ความรู้เกี่ยวกับหนังสือเก่าของเธอนั้นเรียกได้ว่าเกินมนุษย์
หญิงสาวรักและทุ่มเทให้กับหนังสือแบบผิดธรรมดา
ตรงข้ามกับยามที่เธอต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกันโดยสิ้นเชิง
และบางครั้งบางคราวหนังสือเก่าจะเดินทางมาหาเธอ
ซึ่งเธอจะไขปริศนารวมทั้งเปิดเผยความลับของหนังสือเก่าเหล่านั้น
ราวกับมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาของตัวเอง...
นี่คือเรื่องราวของ
"หนังสือเก่ากับความลับ" ซึ่ง 'ชิโอริโกะ'
และเหล่าลูกค้าผู้แปลกประหลาดร่วมกันถักทอขึ้นมา
ในระหว่างที่นาตนงกำลังคิดว่าจะหยิบอะไรมาอ่านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการรีวิวประจำเดือนมกราคมนี้ดี
ในที่สุดนาตนงก็ค้นพบหนังสือที่อ่านค้างไว้และลืมไปสนิทเลย (แหะๆ มันน่าลืมมั้ยยยยย)
อ๊ะๆ
งงอะจิคะว่าเป้าหมายอะไร คืองี้ค่ะ...เมื่อตอนปีใหม่
นาตนงตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะรีวิวหนังสืออย่างน้อยเดือนละ 5 เรื่อง นี่ก็เขียนรีวิวหนังสือที่เพิ่งอ่านในเดือนนี้ไปได้
4 เรื่องแล้วและมันกำลังจะหมดเดือน อั้ยย่ะ!!! ก็กลุ้มเลยค่ะว่าจะอ่านอะไรดี
ระหว่างที่ค้นกองดองดูก็เลยเจอเล่มนี้นั่นแหละค่าาาาาาาา
เอาละกลับเข้าเรื่องกันดีกว่า
นาตนงคิดว่าตัวนาตนงเองก็อ่านหนังสือมาพอสมควรนะคะ นานๆ
จะเจองานสักเล่มที่ละมุนแบบจัดๆ สักที ละมุนแบบอ่านแล้วอุ่นอะ คือดี คือชอบ
มันรู้ได้เลยว่า 'บิเบลีย' เป็นหนังสือแปลที่น่าทึ่งมากสำหรับนาตนง มันมีความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยพลังของตัวหนังสืออย่างเต็มเปี่ยม
(ดูเว่อร์เนอะ
แต่รู้สึกได้จริงๆ)
ตัวละครเรื่องนี้มีเสน่ห์มากๆ
ค่ะ เป็น 'คนธรรมดา'
ที่มีอ่านแล้วมันรู้สึกอะไร ยอมใจในฝีมือผู้เขียนอะ เขาสามารถถ่ายทอดบุคลิกของตัวละครออกมาได้มีเสน่ห์มากๆ
ไม่ว่าจะคนไร้บ้าน สาวนั่งดริ้งค์ สาวมัธยมปลาย หรือแม้กระทั่งการพูดถึงบุคคลที่ตายไปแล้วมันก็ยังน่าสนใจมากเลยค่ะ
คือถ้าใครชอบญี่ปุ่น หรือดูซีรีย์ญี่ปุ่น อ่านการ์ตูนอะไรแบบนี้ นาตนงว่าอ่านแล้วต้องชอบนะ
มันมีความการ์ตูนที่ผสมผสานอยู่กับความเป็นจริงสูงมาก อ่านแล้วสัมผัสได้ว่า
นี่แหละ ‘ญี่ปุ่น’ งงมะ? คืออธิบายง่ายๆ ว่า
เหมือนกับเราอ่านหนังสือสักเล่มแล้วเจอว่าเนี่ยคนไทยมันเป็นแบบนี้อะ มันเป็นอย่างในหนังสือนี่เลย
บรรยากาศของเรื่องก็ใช่ ‘บิเบลีย’
นี่ก็เหมือนกัน ทั้งบรรยากาศ วิธีการพูด วิธีการคิด ความขี้อาย
ลักษณะของผู้คนที่อยู่ในเล่ม มันชวนให้เรารู้สึกว่า เนี่ย...ญี่ปุ่น
ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว ต่อให้เปลี่ยนชื่อตัวละครเป็นภาษาอื่นเราก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นของญี่ปุ่นนะ...น่าทึ่งเนอะที่เขียนออกมาได้ขนาดนี้แต่มันยังคงไว้ซึ่งความเป็นนิยาย
อ่านแล้วยังชอบมากเลย เดี๋ยวจะต้องไปหาเล่ม 2 กับเล่ม 3 มาอ่านต่อ เมื่อตอนงานหนังสือคราวที่แล้วลืมสนิท มัวแต่ไปช็อปที่อื่น
ไม่ได้แวะที่อนิแม็กเลย ฮ่าๆๆๆๆ
นอกเหนือไปจากนี้พล็อตเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดา
ไม่น่าสนใจอะไรเลยแต่เรากลับถูกตรึงอยู่กับเรื่องราวของหนังสือในแต่ละเล่ม
ซึ่งหนังสือทั้งหมดที่ปรากฏในเรื่องนี้เป็นหนังสือที่มีอยู่จริง
แล้วเรื่องราวแต่ละเรื่องที่ถูกไขออกมา ดูเผินๆ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากแต่มันกลับมีผลกระทบต่อตัวละครผู้เป็นเจ้าของหนังสือ
หรือผู้เกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนั้น นาตนงชอบนะ การที่ผู้เขียนเอาเรื่องที่มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรมาก
มาเป็นกุญแจดอกเล็กๆ ไขเข้าไปสู่อดีตของหนังสือในแต่ละเล่มเนี่ย มันทำให้เราฉุกคิดว่า
บางสิ่งบางอย่างมันดูเล็กน้อยเกินกว่าจะใส่ใจ แต่บางทีมันก็ความหมายกับใครอีกคนมากมายอย่างที่เราไม่คาดคิด
ทั้งนี้ยังมีเรื่องของความเชื่อมโยงในจุดที่ยังค้างคา
ตอนอ่านก็คิดว่ามันน่าจะจบแล้ว แต่พอเรื่องราวมันถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน
มันก็เลยยิ่งสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทำให้ข้อสรุปที่เหมือนไม่ชัดเจน มีความชัดเจนและเป้นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น
ความสัมพันธ์ของตัวละครค่อยเป็นค่อยไปมาก
ระยะห่างของพระเอกและนางเอกที่ค่อยๆ ขยับเข้าหากันมากขึ้นในแต่ละหน้าของหนังสือเป็นเสน่ห์อีกประการหนึ่งของนิยายเรื่องนี้
เพราะเราไม่รู้เลยว่ามันจะคืบหน้าไปในทิศทางไหน เนื่องจากนางเอกมีปัญหาด้านการปฏิสัมพันธ์ต่อเพื่อนมนุษย์
และพระเอกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นนะ แต่การเปิดใจ การขยับเข้ามาหาอะไรแนวๆ
นี้มันน่ารักอะ มันไม่รู้สึกว่านางแปลกประหลาดจนเกินมนุษย์ธรรมดา
มันทำให้นาตนงคิดถึงชื่อหนังสือเล่มหนึ่งของคุณบินหลา สันกาลาคีรี
หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า เราพบกันเพราะหนังสือ จุดเริ่มต้นของความรัก มันก็มาจากตรงนี้เอง
ทั้งคู่ได้พบกันเพราะหนังสือ แต่คนหนึ่งบ้าหนังสือ
กับอีกคนที่ไม่สามารถอ่านหนังสือได้ เห็นมะๆ จุดเริ่มต้นมันสนใจจะตายไป
นอกเหนือไปจากการชื่นชมในเนื้อหาและตัวพล็อตเรื่องแล้ว
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือสำนวนแปล ชอบมาก...ดีอะ ละเมียดละไม
และยังคงได้กลิ่นของความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งผู้แปลถอดความออกมาได้ดีจนเราสัมผัสได้ถึงสารที่ผู้เขียนต้องการสื่อออกมา
ซึ่งพออ่านแล้วมันก็เหมาะเจาะพอดีเลย
ด้วยความที่นิยายเล่มนี้เป็นแนวสืบสวนเบาๆ
ที่คนอ่านคาดเดาไม่ได้ แต่ในเนื้อหามันก็มีจุดหนึ่งที่โดยส่วนตัวนาตนงรู้สึกว่าถ้าผู้เขียนเขาใส่
Sign หรือ Point เล็กๆ
ให้คนอ่านสะกิด
หรือค้นคำตอบเองได้บ้างมันจะทำให้เรื่องนี้เป็นนิยายสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นาตนงคิดว่าการฟังนางเอกไขปริศนาได้ฝ่ายเดียวมันรู้สึกเหมือนเราไม่ชนะอะ
(ออกตัวก่อนว่าอันเป็นความรู้สึกส่วนตัวๆ
มากเวลาอ่านนิยายแนวสืบสวนค่ะ)
คิดว่าหลายๆ คนน่าจะเป็นเหมือนกันนะ
ที่อ่านแล้วอยากชนะตัวละคร ชนะพล็อต อยากรู้เท่าทันบ้าง ไม่ได้อยากรู้ทั้งหมดหรอก ขอนิดเดียวสักตอน
สักอย่าง เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น แต่โดยรวมก็ชอบมากอยู่
ถึงจะไม่สะกิดใจอะไรสักอย่างเลยก็เถอะ มาเก็ตพร้อมๆ กับพระเอกท้ายเรื่องนี่แหละ
ฉะนั้นมาสรุปกันดีว่าค่ะ
จากเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ คะแนนสูงอย่างแน่นอน และเมื่อ ประมวลผลแล้ว
ตัดจุดเล็กจุดน้อยออก บวกนั่นเพิ่มนี่ จึงได้คะแนนมาที่ 8.9/10 คะแนนค่าาาาาาาาา เอาจริงนะเรื่องถ้าใครชอบก็ชอบเลย บางคนอาจจะไม่ชอบในความเรียบง่ายของมันก็ได้
แต่เชื่อว่า 70%
ของคนที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ จะรู้สึกรักหนังสือเล่มนี้
ความคิดเห็น