** ขอยืมภาพจากเวปนายอินทร์นะคะ

เล่นแร่แปรศพ The Cabinet of Curiosities

ผู้เขียน : Douglas Preston&Lincoln Child

ผู้แปล : สายอุษา ชื่นศิลป์

จำนวน 541 หน้า ราคา295 บาท น้ำพุสำนักพิมพ์

โปรยหลัง...

ระหว่างการก่อสร้างในย่านที่พลุกพล่านที่สุดของนครนิวยอร์ค คนงานขุดพบซากกระดูกมนุษย์ 36 ศพฝังรวมกันอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน นอกจากจะมีร่องรอยการผ่าตัดและชำแหละชิ้นส่วนอย่างสยดสยองแล้ว ทุกศพยังถูกเลาะเส้นประสาทไขสันหลังออกไป

เพนเดอร์แกสต์ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเข้ามาสืบคดีอย่างลับๆ และพบว่าอุโมงค์แห่งนี้เคยเป็นพิพิธภัณฑ์ในยุคโบราณมาก่อน ภายในนั้นมีห้องทดลองที่มีจุดประสงค์ลึกลับบางอย่าง แต่แล้วจู่ๆ มีมีเหยื่ยรายใหม่ถูกฆ่า และชำแหละด้วยวิธีเดียวกับเหยื่อเมื่อร้อยกว่าปีก่อน

ดูเหมือนการเล่นแร่แปรธาตุกับศพยังไม่สิ้นสุด ฆาตกรมีเป้าหมายค้างคาที่ต้องทำให้สำเร็จ ทางเดียวที่เพนเดอร์แกสต์จะหยุดฆาตกรผู้บ้าคลั่งในปัจจุบันก็คือ เขาต้องไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า เขาอาจต้องรับมือกับฆาตกรที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 150 ปี

"ผสานนิติวิทยาศาสตร์เข้ากับโบราณคดีได้อย่างลงตัวและหลักแหลม ปมปริศนาถาโถมเข้าใส่คนอ่านหลายระลอก เพรสตันและไชลด์เขียนได้น่าทึ่ง จนหาใครมาเทียบได้ยากจริงๆ" Publishers Weekly

ความเห็น...

จากคำนำสนพ. เรื่องนี้เป็นนวนิยายชุด Agent Pendergast ที่ขายดีมากๆ ได้อันดับหนึ่งในชาร์ต New York Times Bestseller ได้ทุกเล่มเลยทีเดียว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของ Preston ที่เป็นนักเขียนและบรรณาธิการของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยานิวยอร์ก และประสบการณ์ของ Child ในฐานะนักเขียนนิยายแนวระทึกขวัญ ยิ่งอ่านเรื่องย่อในโปรยหลังนี่ยิ่งอยากอ่านมากๆๆๆค่ะ

เมื่ออ่านจบ พอเดาได้ว่าเล่มนี้ไม่ใช่เล่มแรกของชุดแน่นอน เพราะมีฉากที่ตัวเอกหญิงในเล่มพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตบ่อยมาก แต่เท่าที่เสริชดูของนักเขียนคนนี้สนพ.น้ำพุนำมาพิมพ์เป็นเล่มแรกนะคะ

ความรู้สึกเมื่ออ่านจบ มันรู้สึกอื้ออึง สับสนในตัวเอง เนื่องจากตัวละครหลักของเรื่องนี้มีเสน่ห์มาก ทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษแพนเดอร์แกส ดอกเตอร์นอรา เคลลี นักวิจัยที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา วิลเลียม สมิทแบ็ก นักข่าวของนิวยอร์กไทมส์ และจ่าโอชเอนสซี ผู้ที่ถูกส่งมาเฝ้าดูแพนเดอร์แกส เรื่องราวในเล่มก็ดูน่าติดตาม ข้อมูลแน่น บรรยายเหตุการณ์ได้เห็นภาพ อาจเพราะผู้เขียนมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้อยู่แล้ว ลักษณะการเล่าจะเป็นการเล่าแบบตรงๆ ถึงการการสืบคดีของการฆาตรกรรมต่อเนื่องเมื่อร้อยปีก่อน เพื่อเชื่อมโยงกับการฆาตรกรรมต่อเนื่องในปัจจุบัน เหตุการณ์จะเรียงลำดับ 1 2 3 ไม่ได้มีการแฟลชแบ็คหรือซ่อนปมให้คนอ่านคิดกลับไปกลับมาแต่อย่างใด เราชอบนิยายสืบสวนที่ให้คิดให้เดาเรื่องนะคะ แต่เรื่องนี้เหมือนจะเดาอะไรไม่ได้มาก คนอ่านจะรู้เมื่อหนังสือบอกเท่านั้น ถ้าบอกว่าสนุก ความสนุกคงอยู่ที่ความสมจริง และลุ้นว่าจะมีใครตายไหม 5555 ตอนขุดโครงกระดูกเพื่อค้นหาความจริงอ่านแล้วชอบมากเลย เนื่อเรื่องเน้นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาและห้องสารภัณฑ์ (ห้องที่สะสมสิ่งของ ในเรื่องจะเป็นสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตทางธรรมชาติแปลกๆ) แต่ก็มีที่พออ่านมากๆไปมันก็เบื่อค่ะ มีจุดพีคเรียกน้ำย่อยเป็นพักๆ ยิ่งมาอ่านเจอความสามารถพิเศษของพระเอก ต้องร้อง โอ้ววว  ขอเล่านิดๆละกัน เพราะไม่ใช่จุดหลักของเรื่อง ว่าพระเอกสามารถถอดจิตได้ด้วยค่ะ (เจ๋งใช่ไหมล่ะ!!!) 

ช่วงสุดท้าย เรื่องราวดูดีด้วยการหักมุมแบบคาดไม่ถึง แต่!!!!ทำเอาเราคาดไม่ถึงในตอนจบเช่นกัน T T ตอนวางหนังสือ เรารำพึงออกมาเหมือนโดนยาสั่ง จบแบบนี้จริงหรอ จบแล้วหรอ บลาๆๆๆ จบแบบพระเอกดวงดีมากกว่า ไม่ค่อยได้ใช้ความสามารถเท่าไร ความสับสนเราอยู่ที่ ไปอ่านเจอคอมเม้นท์ว่าสนุกมาก ชอบมาก บางทีมารีวิวก็ทำเอาไม่แน่ใจนะคะ ว่าเราผิดปกติเองป่าว 555 หากใครสงสัยว่ามีฉากสยอง ขนหัวลุกไหม อะไรแหวะๆไหม ก็ไม่มีขนาดนั้นนะคะ ออกแนวการแพทย์มากกว่า ใครอ่านจบแล้ว มาแลกเปลี่ยนความเห็นได้ค่า แค่งดสปอลย์ตอนจบค่ะ

ปล.เรายังไม่คิดจะเข็ดแต่อย่างใดนะคะ กะว่าถ้าชุดนี้ออกเล่มต่อไป ต้องซื้อแน่นอน อยากรู้ว่าตอนจบหรือวิธีการเล่าเรื่องจะเปลี่ยนไปหรือเปล่าค่ะ ^^