สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวเด็กดีไรเตอร์ เนื่องในโอกาสที่วรรณกรรมระดับโลกเรื่อง The BFG เดอะ บีเอฟจี ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้นเป็นการร่วมมือกันระหว่างวอลท์ ดีสนีย์ และผู้กำกับฉายาพ่อมดแห่งวงกาลฮอลลีวูดสตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) แต่ก่อนที่จะไปผจญภัยกับยักษ์ใหญ่ใจหล่อตัวนี้ ภาพยนตร์พี่วิวก็ขอชวนเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับยักษ์ตัวนี้กันให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่ายักษ์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความใจดีและความอ่อนโยน

 

 

The BFG เดอะบีเอฟจี ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ เป็นผลงานภาพยนตร์แฟนตาซี-ผจญภัยที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมระดับโลกเรื่อง The BFG เดอะบีเอฟจี หรือชื่อภาษาไทยว่า ยักษ์ใจดี โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อ เขียนโดยนักเขียนชาวอังกฤษระดับตำนานอย่าง โรอัล ดาห์ล (Roald Dahl) ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 จนถึงปัจจุบันก็มีอายุกว่า 34 ปีแล้วค่ะ
 

วรรณกรรม The BFG เดอะบีเอฟจี ยักษ์ใจดี เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่ชื่อว่า เดอะ บีเอฟจี (The BFG) เขาเรียกตัวเองว่ายักษ์ใจดี (คำเรียกโดย สนพ.ผีเสื้อ) ซึ่งคำว่า BFG บีเอฟจี นั้นย่อมาจากคำว่า ''The Big Friendly Giant'' เดอะ บิ๊ก เฟรนด์ลี่ ไจแอนท์ (ยักษ์ใหญ่ใจดี) ก็เพราะว่าเขาเป็นยักษ์แก่ใจดีสมชื่อยังไงล่ะคะ เขาไม่กินมนุษย์เป็นอาหารแต่จะกินอะไรที่เรียกว่า สนอซคัมเบอร์ Snozzcumber เป็นสิ่งซึ่งมีรูปร่างคล้ายแตงกว่ายักษ์แต่รสสัมผัสเหมือนผิวหนังกบและมีกลิ่นเหมือนปลาเน่าค่ะ
 

เจ้าบีเอฟจี ยักษ์ใจดีตนนี้ เป็นยักษ์ที่อ่อนโยน นิสัยสุภาพ  สูง 24 เมตรซึ่งเป็นความสูงที่ต่ำที่สุดในบรรดายักษ์ด้วยกัน ทำให้เขามักโดนแกล้งจากยักษ์ใจร้ายตัวอื่นอยู่บ่อยๆ  และกิจกรรมที่ทำให้เขาต่างไปจากยักษ์ตัวอื่นๆ ที่มักจับมนุษย์กินเป็นอาหารก็คือ เขามักเดินทางเข้าเมืองเพื่อเก็บฝันดีใส่ขวดแล้วไปมอบให้เด็กๆในตอนกลางคืนอยู่เสมอ เขามักจะไป เป่า ความฝันดีเหล่านี้ให้เด็กๆตรงบริเวณหน้าต่างห้องนอน จนกระทั่งวันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อโซฟี (Sophie) เด็กหญิงกำพร้าอายุ 10 ขวบ จากบ้านเด็กกำพร้าตื่นขึ้นมากลางดึกและจ๊ะเอ๋! เข้ากับยักษ์แก่ใจดีตนนี้เข้า โซฟีจึงโดนจับไปยังดินแดนยักษ์ และนี่คือจุดเริ่มต้นเรื่องราวการผจญภัยเพื่อปกป้องเมืองจากยักษ์ชั่วร้ายและเรื่องราวความน่าประทับใจจากมิตรภาพที่ไม่กำจัดรูปร่างและขนาดตัวที่ทำให้นักอ่านหลงรักทั่วโลกก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

เอาล่ะ ! พี่วิวเกริ่นนำไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ใครอยากรู้ตอนจบระหว่างคนและยักษ์ต้องลองไปหาอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้ดูหรือไปชมภาพยนตร์กันได้เลยค่ะ สำหรับตอนนี้ถึงเวลาสำหรับ 7 ข้อ เรื่องไม่ลับของ The BFG เดอะบีเอฟจี ยักษ์ใจดีแล้วค่ะ

 

โรอัล ดาห์ล มักจะใช้สมุดแบบฝึกหัดเก่าๆตั้งแต่สมัยเรียนของเขาเป็นสมุดรวบรวมไอเดีย เขาเรียกมันว่า ''ไอเดียส์ บุ๊ก (Ideas Book)'' เวลาที่นึกอะไรขึ้นได้เขาก็มักจะใช้ดินสอจดไว้เสมอๆ รวมไปถึงเจ้ายักษ์ใจดีก็ถือกำเนิดมาจากกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ จากสมุดรวบรวมไอเดียของเขาเช่นกัน ซึ่งจดไว้นานมากแล้วแต่เขากลับมาย้อนเปิดดูอีกครั้งเมื่อตอนอายุ 66 ปี และหลังจากนั้นนักอ่านทั่วโลกก็ได้วรรณกรรมเล่มโปรดขึ้นหิ้งเล่มใหม่ ในชื่อว่า The BFG เดอะบีเอฟจี ยักษ์ใจดี

 

เหตุการณ์สำคัญที่ก่อให้เกิดเป็นการผจญภัยอันแสนมหัศจรรย์ของวรรณกรรมเรื่องนี้ คือบทเริ่มต้นที่โซฟีถูกเจ้าบีเอฟจีจับตัวไป เพราะเธอไปเห็นเจ้ายักษ์กำลังทำอะไรลับๆล่อๆ ที่หน้าต่างห้องนอนเด็กของครอบครัวหนึ่ง
 

แต่รู้หรือไม่ว่า ตัวละครที่โรอัลกำหนดไว้ครั้งแรกให้ดำเนินเรื่องตอนแรกไม่ใช่โซฟี แต่เป็น เด็กผู้ชายชื่อว่า โจดี้ ซึ่งภายหลังที่เปลี่ยนมาเป็นชื่อ ''โซฟี'' เป็นเพราะว่าโซฟีเป็นชื่อหลานสาวคนแรกของเขา และเขาก็อยากให้หลานตัวน้อยคนนี้เป็นหญิงสาวที่เข้มแข็ง ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเมื่อโตขึ้น เปรียบเหมือนกับโซฟีที่ไม่ยอมแพ้ต่อเจ้าพวกยักษ์ใจร้ายนั่นเอง และโซฟี ดาห์ลเองก็ทำได้ตามที่เขาหวังค่ะ เธอเติบโตขึ้นเป็นนักเขียนที่เก่งไม่แพ้คุณตาของเธอเลยล่ะค่ะ 
 

คุณตาโรอัลและหลานสาวโซฟี ต้นฉบับโซฟีตัวน้อย
เครดิตภาพ : www.express.co.uk
 

 โรอัล ดาห์ล เคยกล่าวไว้ว่า ''ยักษ์ใจดี เป็นนิยายเล่มโปรดของเขาในบรรดาเรื่องที่เขียนขึ้นทั้งหมด และเจ้าตัวละครนี้ก็เคยปรากฎตัวมาแล้วในตอนหนึ่งของวรรณกรรมเรื่อง Danny, the Champion of the World เด็กยอดเก่ง ซึ่งเขาเขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1975  ซึ่งเดอะบีเอฟจีเคยเป็นนิทานก่อนนอนเกี่ยวกับยักษ์จับความฝัน ที่พ่อของแดนนี่มักเล่าให้ฟังในบทหนึ่ง หลังจากนั้น 7 ปี เดอะบีเอฟขี ก็มีเรื่องราวเป็นของตนเองที่กลายเป็นวรรณกรรมเล่มโปรดในดวงใจนักอ่านทั่วโลกไม่แพ้โรอัลเช่นกัน 
 

ปล. เขาเคยปีนปล่องไฟลงมาที่หน้าต่างห้องนอนของหลานสาวแล้วเลียนแบบเจ้าบีเอฟจี โดยการเป่าฝันดีให้หลานสาวของเขาด้วย สมกับเป็นนิยายที่รักจริงๆ


 

ในตอนแรกนั้น โรอัล อยากให้เจ้ายักษ์ส่มรองเท้าบู๊ตสีดำและสวมผ้ากันเปื้อนหนังสีดำ แต่หลังจากเห็นภาพวาดร่างออกมาแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่า ลุคนี้ไม่เหมาะกับเจ้ายักษ์จริงๆเลย หลังจากนั้นไม่กี่วัน เควนติน เบลค (Quentin Blake) นักวาดผู้วาดภาพเรื่องนี้ก็ได้รับกล่องพัสดุขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อแกะออกมาก็พบกับรองเท้าแตะคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นรองเท้าแตะของโรอัลที่ใส่ประจำจริงๆ และหลังจากนั้นเจ้ารองเท้าคู่นี้ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เควนตินนำมันไปสวมให้กับเจ้าบีเอฟจีในภาพวาดของเขา และมันกลายเป็นรองเท้าที่คนสมัยนั้นนิยมใส่กันจริงๆเลยล่ะค่ะ 
 

ของจริงเท่ไม่เบาเลย
เครดิตภาพ :www.roalddahl.com

 

แม้ว่านักอ่านหลายคนมักจะคิดว่า เจ้ายักษ์นั้นจะมีที่มาจากตัวของโรอัลเอง แต่อันที่จริงแล้ว โรอัลนั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก วอลลี่ ซอนเดอร์ (Wally Saunders) หนุ่มผู้สร้างกระท่อมนักเขียนอันโด่งดัง (The Writing Hut) ของเขานั่นเอง ซึ่งแรงบันดาลใจที่ว่านั้น มาจากทั้งร่างกายและนิสัยของหนุ่มวอลลี่เลยค่ะ เขามีร่างกายสูงใหญ่และใบหูใหญ่โต และแน่นอนว่าอารมณ์ขันและความคิดสุดสร้างสรรค์ของยักษ์ใจดีนั้นก็มาจากตัววอลลี่เช่นกัน
 

เหมือนเป๊ะ!
เครดิตภาพ : bfgatsdsu.wordpress.com
 

ปล.กระท่อมนักเขียนของโรอัลนั้น สร้างแยกขึ้นมาที่สวนหลังบ้านของเขาเองเพื่อให้มีสมาธิในงานเขียนได้ดียิ่งขึ้น โดยเขาจะนั่งบนเก้าอี้สีเหลืองซีดๆตัวโปรด เขียนงานด้วยดินสอ HB และใช้แต่กระดาษสีเหลืองในกระท่อมนี้วันละ 4 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10.00 – 12.00 น. และ 16.00 – 18.00 น. ของทุกๆวัน ซึ่งตอนนี้เจ้ากระท่อมดังกล่าวก็ย้ายมาตั้งโชว์ที่พิพิธภัณฑ์โรอัล ดาห์ล ที่หมู่บ้านเกรท มิสเซนเดน (Great Missenden) มณฑลบัคกิงแฮมไชร์ (Buckinghamshire) ประเทศอังกฤษ

 

มุมแต่งนิยายกับเก้าอี้สีเหลืองตัวโปรด
เครดิตภาพ :  www.theguardian.com


 

โรอัล ดาห์ล เสียชีวิตเมื่ออายุ 74 ปี ในปี ค.ศ. 1990 หลุมศพของเขาตั้งอยู่ในบริเวณโบสถ์ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ ในหมู่บ้านเกรทมิสเซนเดน หมู่บ้านที่เขาใช้ชีวิตอยู่มานานเกือบ 40 ปี ซึ่งหากมองไปที่พื้นดินในสวนข้างๆโบสถ์แล้ว เราจะเห็นรอยเท้าของยักษ์ใจดีเดินมุ่งตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง และถ้าหากเราเดินตามรอยเท้านั้นไป ก็จะไปเจอกับหลุมศพของโรอัล ดาห์ล ผู้ให้กำเนิดยักษ์ใจดีตัวนี้นั่นเองค่ะ  โดยธรรมเนียมสำคัญของคนที่ไปเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวก็คือ จะต้องวางเหรียญและดินสอไว้ให้เป็นที่ระลึกว่าได้มาเยี่ยมหลุมศพของตำนานนักเขียนของโลกผู้นี้แล้ว


 

7 ปี หลังจากที่เรื่องเดอะบีเอฟจีตีพิมพ์เป็นเล่มในประเทศอังกฤษ เจ้ายักษ์ใจดีก็ได้ออกมาโลดแล่นผ่านหน้าจอโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในรูปแบบภาพยนตร์การ์ตูน ความยาว 90 นาที ออกฉายทางช่องไอทีวี (ITV) ของประเทศอังกฤษในคืนวันคริสต์มาส ทางผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ ไบรอัน คอสโกรฟ (Brian Cosgrove) กล่าวไว้ว่า เมื่อการ์ตูนจบลงและไฟเปิดขึ้น โรอัลก็ก็ลุกขึ้นยืนและปรบมือให้อย่างเสียงดังด้วยความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์การ์ตูนที่เพิ่งฉายจบไป ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ไบรอันประทับใจตัวนักเขียนชื่อดังคนนี้เป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน 
 

ปล. เพื่อนๆ อาจจะหาชมเวอร์ชั่นภาพยนตร์การ์ตูนในปี ค.ศ. 1989 ได้ยากเสียหน่อย ก็เอาเป็นว่ารอไปชมเวอร์ชั่นภาพยนตร์แทนเลยแล้วกันค่ะ การันตีว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับภาพสวยๆ และตื่นเต้นไปกับการผจญภัยของโซฟีอย่างแน่นอน

 

กว่าจะโตมาเป็น The BFG เดอะบีเอฟจี ยักษ์ใจดี ขวัญใจนักอ่านทั่วโลกได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ถ้าไม่ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวและพลังจินตนาการอันกว้างไกลของโรอัล ดาห์ลนักเขียนตำนานของโลกคนนี้  ก่อนจากกันพี่วิวก็ขอจากไปพร้อมกับเทรลเลอร์หนังตัวอย่างของภาพยนตร์ The BFG ยักษ์ใหญ่ใจหล่อเลยแล้วกันค่ะ อยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นกับตาว่าวรรณกรรมเล่มโปรดของเพื่อนๆ นั้นได้ถูกถ่ายทอดจินตนาการจากหน้ากระดาษสู่จอภาพยนตร์ได้สมจริงสุดๆ 
 

ปล.ถ้าใครดูจบแล้วหรืออ่านจบแล้วก็มาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ ส่วนพี่วิวน่ะหรอ คงต้องยกให้เป็นเรื่องโปรดในดวงใจเลยล่ะค่ะ ^^

 

ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง The BFG ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ

 

ข้อมูลจาก