จากนักเขียนสยองขวัญสู่เส้นทางนักเขียนหน้าใส
Porshenocchio
สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ ใกล้แล้วนะคะกับโครงการนักเขียนหน้าใสที่รอคอย เชื่อว่าน้องๆ รออีกไม่นานแน่นอนค่ะ วันนี้พี่น้ำผึ้งก็เลยชวนอีกหนึ่งเจ้าของรางวัลนักเขียนหน้าใสปี 8 มาพูดคุยกับน้องๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคชนะใจกรรมการหรือแม้แต่ผลงานใหม่ล่าสุดของนักเขียนหนุ่มรูปหล่อ เอาล่ะค่ะ พี่รู้แล้วนะว่าน้องๆ อยากเจอเขาเเล้ว ถ้าอย่างนั้นมาพบกับ "Porshenocchio" กันเลยดีกว่าค่ะ
Porshenocchio: ต้องตอบดังๆ อย่างหนักแน่นเลยว่า...เคยสิครับ! พอร์ชรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในนักเขียนทุกคน เพียงแค่มันจะแสดงอาการมาบั่นทอนเราช่วงไหน เวลาไหนมากกว่า และเราจะตั้งรับมือกับไวรัสตันนี้ยังไง สำหรับพอร์ชแล้วถ้ารู้สึกว่าโดนไวรัสสมองตันเล่นงาน ก็จะไปพบคุณหมอรับยามากิน ไม่ใช่ละ! ยาที่แท้จริงมันอยู่ที่ตัวเราเนี่ยแหละ เพียงแค่วางปากกา ละมือจากคีย์บอร์ด เดินออกไปกินน้ำ สูดอากาศ หรือหาอะไรทำที่มันจะทำให้เราเลิกคิด และลืมเรื่องที่กำลังเขียนไปก่อน พอสมองโล่งเสร็จไวรัสตันมันจะหายไปเอง แต่ช่วงเวลาที่ทำให้สมองโล่งของแต่ละคนไม่เท่ากัน บ้างก็ชั่วโมงเดียว บ้างก็หนึ่งวัน บ้างก็หนึ่งสัปดาห์ (ยกมือยอมรับข้อนี้) หลังจากสมองปลอดโปร่งแล้วเราค่อยมานั่งเริ่มลุยกับมันใหม่ครับ อาจจะลองอ่านย้อนกลับไปก่อนที่จะถึงจุดที่เราตันใหม่ หรือรื้อพล็อตใหม่ หรือทรีตเม้นต์ใหม่ก็แล้วแต่เทคนิคหรือแล้วแต่สาเหตุของการตันของแต่ละคนครับ
Porshenocchio: ความขี้เกียจและความหิวครับ ยิ่งอย่างหลังนี่ห้ามกันยากมาก (ลูบพุงตัวเอง) จริงๆ แล้ว ความขี้เกียจเนี่ยแหละสำคัญสุด เพราะการเขียนเราต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ดีว่าจะเขียนกี่โมงถึงกี่โมง พยายามอย่าให้มันไปกระทบต่อเรื่องอื่นๆ เช่นการเรียนอะไรแบบนี้ แต่พอถึงเวลาเริ่มเขียนจริงๆ ความขี้เกียจจะเริ่มเล่นงานแล้ว วิธีแก้ง่ายๆ คือ ปิดช่องทางการสื่อสารทั้งหมด SMS ทั้งหลายต้องเลิกเล่น เอามันไปวางไกลๆ เลย ที่สำคัญเลยคือเรื่องวินัยครับ ถ้าเรามีวินัย เราก็จะเขียนจบได้ตามที่ต้องการครับ
Porshenocchio: มันเริ่มจากการที่เราทำทรีตเม้นต์เนี่ยแหละครับ คือเราต้องวางเอาไว้ก่อนเลยว่า เรื่องนี้เราจะเขียนอะไรก่อนหรือหลังบ้าง แบ่งย่อยเป็นแต่ละบทว่ามันมีฉากอะไรบ้าง ฉากเล็ก ฉากใหญ่ แล้วมันจะส่งผลต่อบทต่อๆ ไปยังไง อะไรประมาณนี้ครับ ส่วนตัวแล้วพอร์ชจะทำเป็นตารางไว้ครับ คือเราต้องมีข้อมูลคร่าวๆ ในหัวว่าบทนี้เราจะเขียนประมาณนี้นะ อารมณ์นี้นะ ซีนนี้ต้องทำให้คนอินนะ มันต้องมีจุดหมายของแต่ละบทครับ ถ้าเราบรรลุแต่ละบทได้ดี มันก็จะร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องที่ดีได้โดยลื่นไหลสุดๆ เลยครับ
Porshenocchio: ตอนนี้พอร์ชเพิ่งมีผลงานออกมาสองเรื่องเอง จะขอพูดถึงสไตล์ของสองเรื่องนี้ก่อนนะครับ เริ่มต้นแล้วเป็นคนชอบดูชอบอ่านอะไรที่มันหักมุมหรือมีเซอร์ไพรซ์ให้เราได้ร้อง OMG! ได้ พอร์ชเลยเอาจุดนี้มาใช้กับนิยายตัวเองว่า ถึงจะเป็นแนวรักวัยรุ่นแต่ก็ทำให้อ้าปากเหวอได้เหมือนกันนะ เพราะคิดว่าจุดนี้มันสามารถทำให้นิยายของเราโดดเด่นได้ด้วยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันต้องขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องและความสมเหตุสมผลด้วยนะ ไม่ใช่นึกอยากจะหักไปทางไหนก็หักจนเรื่องมันขาดและแหว่งไป อย่างเรื่องแรกพอร์ชจะเปิดเรื่องให้คนอ่านรู้สึกว่า เล่มนี้มาแนวแฟนตาซีแน่ๆ นางเอกไปขุดศพพระเอกขึ้นมาคืนชีพ แต่เดี๋ยวก่อน นั่นแหละครับคือสิ่งที่พอร์ชตั้งใจเขียนให้คนอ่านรู้สึกแบบนั้นและค่อยมาตลบหลังเข้ามาแนวรักวัยรุ่น มันจึงเป็นอะไรที่คนอ่านจะรู้สึกเซอร์ไพรซ์และคิดว่า อื้มหืม...เอาแบบนี้เลยเหรออะไรประมาณนี้ครับ ส่วนเรื่องที่สองมันก็มีจุด Plot Twist เช่นกันแค่จะเป็นการตลบหลังแบบอื่นแทน การได้อ่านอะไรที่มันรู้สึกว่าเราเดาเรื่องไม่ได้มันจะทำให้คนอ่านรู้สึกสนุก แปลกใหม่และมีความอยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้าบ้าง แค่นี้มันก็ทำให้เรื่องไม่เบื่อแล้วล่ะครับ
Porshenocchio: สำหรับตัวพอร์ชเองไม่นะ เพราะเวลาที่เราเขียน พอร์ชจะไม่ใส่คาเรกเตอร์นางเอกหรือตัวดำเนินเรื่องให้หวานไป คือใส่ความเป็นผู้ชายเข้าไปนิดๆ หน่อยๆ มันก็ช่วยให้เขียนได้ลื่นไหลครับ หรือมีบางซีนที่ต้องไปถามความเห็นจากคนรอบตัวที่เป็นผู้หญิงเพื่อนำมาประกอบการเขียนของเราก็ได้
Porshenocchio: ผลงานล่าสุดคือ ‘Heart Shot Game เกมรักร้ายจู่โจมหัวใจนายมาดนิ่ง’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟนคลับตาดำๆ คนหนึ่งที่จู่ๆ บุญหล่นทับถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมเล่นเกมเพื่อชิงรางวัลไปดินเนอร์กับศิลปินที่ตัวเองคลั่ง เป็นใครก็คงตอบรับเล่นเกมไปใช่มั้ยล่ะครับ เช่นเดียวกับนางเอกเรื่องนี้ครับ ตอบรับไปแทบจะทันที แต่เกมที่ต้องเล่นคือ Heart Shot Game ครับ เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องสวมอุปกรณ์สองอย่างเพื่อออกล่าพิชิตหัวใจเป้าหมายของตัวเองให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป้าหมายของนางเอกกลับเป็นฮิพฮ็อพบอยหน้าตึง! เอาล่ะสิ งานนี้นางเอกของเราจะงัดกลยุทธิ์อะไรมาทำให้เป้าหมายหนุ่มของเราหวั่นไหวกันนะ แต่เนื้อเรื่องหลังจากนี้อยากให้ลองไปอ่านเองดีกว่า รับรองว่าจะอ่านแล้วจะต้องตื่นเต้นเหมือนเราเป็นคนเล่นเกมเองแน่นอน
พอร์ชต้องขอฝากผลงานเรื่อง ‘Heart Shot Game เกมรักร้ายจู่โจมหัวใจนายมาดนิ่ง’ ด้วยนะครับ เป็นเรื่องล่าสุดเลย เป็นแนวโรแมนติก กุ๊กกิ๊กหัวใจ วัยรุ่นแสบๆ แต่อย่างที่บอกว่าถึงจะเป็นแนวรักแต่เราก็เขียนออกมาให้ตื่นเต้นและน่าติดตามได้เช่นกัน ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไง จะเซอร์ไพรซ์แบบไหน ต้องไปรีบสอยมาอ่านกันเลย รับรองว่าจะต้องลุ้นระทึกจนวางไม่ลง
Porshenocchio: อยากจะบอกกับเพื่อนๆ ชาวนักเขียนในเด็กดีทุกคนว่า ในเมื่อเราเป็นคนมีฝันแล้ว จงอย่าทิ้งฝันของเราครับ เริ่มต้นไม่มีอะไรง่ายหรอก อย่างพอร์ชเริ่มแรกมาจากนักอ่าน ผันตัวมาเป็นนักเขียนในเว็ปเด็กดีต็อกต๋อยไม่มีคนรู้จักหลายปี (ยอดวิวน้อยมาก T^T) กว่าจะทำฝันตัวเองสำเร็จก็ตั้ง 9 ปี อยากให้ทุกคนสู้กันนะครับ พยายามอย่าหยุดพัฒนาตัวเองไม่ว่าจะเรื่องเขียนหรือเรื่องอะไรก็ตาม พอร์ชเชื่อว่าสิ่งที่เราลงมือฝึกฝนในตอนนี้ มันจะแสดงผลออกมาให้เราเห็นเองในอนาคตข้างหน้าครับ เป็นกำลังใจให้คนที่มีฝันทุกคนครับ
สุดท้ายก็ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวนักเขียนคนนี้กับนักอ่านทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบทสัมภาษณ์นี้ หวังว่าจะได้ประโยชน์หรือทริกดีๆ นำกลับไปใช้ได้นะครับ ขอบคุณครับ <3 ติดตามผลงานหรือแวะไปพูดคุยกันได้ที่เพจของพอร์ชเลยครับ
จบไปแล้วนะคะกับบทสัมภาษณ์ดีๆ จากเจ้าของรางวัลนักเขียนหน้าใสอย่าง "Porshenocchio" ที่มีความหนักแน่นต่อความฝันตัวเองมากเลยนะคะ แม้จะล้มลุกคลุกคลานขนาดไหนก็ต้องไปถึงฝันให้ได้ สุดยอดมากเลยนะคะน้องๆ ซึ่งพี่น้ำผึ้งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทสัมภาษณ์ของพี่พอร์ชจะเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่อยากเป็นนักเขียน รวมทั้งคนที่อยากส่งประกวดโครการนักเขียนหน้าใสค่ะ ส่วนครั้งหน้าพี่จะพาใครมาพูดคุยกับทุกคนนั้น รอติดตามค่ะ ^__^
3 ความคิดเห็น
กรี๊ดดด พี่พอร์ชชชชชชชช
FC พี่พอร์ชชชช ><
อยากเป็นนักเขียนบ้านหลังสีส้มบ้างจังเลยค่ะ 555