ควรจะใช้คำราชาศัพท์อย่างไรให้เหมาะสมกับนิยายแนวแฟนตาซี
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่มันเหมาะสมกับนิยายของเราแล้วหรือ นี่คือคำถามที่น่าขบคิดเช่นกัน
เพราะจากที่สังเกตเห็นมา มีหลายคนที่แต่งแฟนตาซีที่มี Them เรื่องเอียงไปทางโซนยุโรปมากๆ
แต่ใช้คำราชาศัพท์ตามแบบราชวงศ์ของไทย ซึ่งทำให้ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เกิดอารมณ์ร่วมไปกับนิยายของเขาเลย
บางเรื่องนี้ไม่ใช่พีเรียดฝรั่ง แต่ออกไปทางไลท์โนเวลแบบญี่ปุ่น คือเป็นแฟนตาซีจ๋าๆ ที่สร้างโลกขึ้นมาเองนั่นแล มีเวทมนตร์ มีสัตว์ประหลาด
ส่วนตัวเลยอยากออกความเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องใช้คำราชาศัพท์ให้ถูกต้องหมดกับนิยายประเภทแฟนตาซีจ๋าๆ หรือ แฟนตาซี them ยุโรปก็ได้
เพราะในความเป็นจริง ฝรั่งก็ไม่ได้มีคำราชาศัพท์มากมายแบบไทย ใช้กันประมาณแค่ มายลอร์ด มายเลดี้ และคำลงท้าย แสดงถึงการเคารพฐานันดรที่สูงกว่าแค่นั้นเอง
น่าจะใช้ศัพท์แบบยี่เก คือพอให้คนอ่านรับรู้เข้าใจ ว่าตัวละครตัวนี้เป็นเจ้าหญิง เจ้าชาย มีฐานันดรศักดิ์ที่สูงกว่าแค่นั้นก็พอ
นักเขียนท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรก็ลองมาคุยในประเด็นที่ว่านี้กัน
PS. ขอให้โลกนี้มีแต่ความสุข ~
19 ความคิดเห็น
เห็นด้วยทั้งหมดครับ
บางทีอ่านแล้วไม่เข้าใจความด้วย... และมันทำให้รู้สึกนิยายมันเยิ่นเย้ออยู่เหมือนกัน
ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงอะฮะ
ขอแบบอ่านง่ายๆ เข้าใจก็พอมั้ง
PS. กำหนดคลอด ม.ค.52 นี้ เจอกันที่ซีเอ็ดทุกสาขานะครับ ช่วยกันอุดหนุนนักเขียนตาดำๆ หน่อยเน้อ
จะใช้ก็อย่าให้เวอร์มาก เดี๋ยวจะกลายเป็นลิเก
PS. อ้วนนรก ณ ทุ่งสังหาร
คิดเหมือนซาซาอะ
แต่บางคนใช้ราชาศัพท์เยอะแต่ก็ออกมาดีก็มีเยอะนะ
อืม...ตามความถนัดดีกว่ามั้ง
PS. ข้าพเจ้ามีความสุข คนข้างๆข้าพเจ้าก็มีความสุข
สงสัยมากว่า ภาษาต่างประเทศมีคำราชาศัพท์หรือเปล่า?
PS. มะเฟือง มะไฟ มะม่วง มะรุม มะละกอ มะดัน มะเดือ มะยม มะขาม และ มะพร้าว
แต่ไม่เห็นด้วยถ้าเกิดใช้ พวกทับศัพท์มากๆ มันจะดูเหมือนพวกหนังสือแปลบางอันที่แปลทื่อ และดูไม่ดี
เอาเป็นว่าใช้คำสวยๆ ให้เหมาะกับเรื่อง แต่ถ้าเกิดเจอนักอ่านบางคนบ่นว่าทำไมราชาศัพท์ไม่หรู หรือเป็นพวกนักอ่านที่ชอบคำหรูๆมาบ่น ก็ต้องทำใจและช่างเขาแล้วกัน
PS. อ่านนิยายเนอร์วาน่าและอื่นๆได้ที่ไอดี อย่าลืมติดตาม คอลัมน์ good old day ในนิตยสาร a day ด้วยหนอ คอลัมน์ผมเอง..
นั่งพิมพ์ต่างนาน เนตหลุด ว้า~หายหมดเลย  เอาใหม่ๆ
"ความเห็น"ส่วนตัวคิดว่า  มันอยู่ที่การ"แปล"ของนักเขียน
...ทับศัพท์ฝรั่งครอบคลุมกว่า ไม่สิ ต้องเรียกว่าใช้ได้หลากหลายกว่า ไม่ต้องยกตัวอย่างไปถึงคำราชาศัพท์หรอก
ง่ายๆอย่างคำว่า youในภาษาอังกฤษอ่ะ  แปลไทยได้ทั้งหลายคำต้องดูบริบทเอาว่าจะให้แปลว่าอะไร
ภาษาไทยมันละเอียดอ่อนและลึกซึ้งกว่า เลยหลากหลายกว่าไง
..แล้วก็เพราะว่านักเขียนรุ่นใหม่ซึมซับอิทธิพลต่างประเทศมาเยอะแล้วยังไงล่ะ
สไตล์การแต่งเลยเป็นเหมือนการบรรยายความหมายของต่างประเทศ
พอมาใช้ราชาศัพท์ไทยที่มีความเป็นไทยแท้ มันถึงได้อ่านแล้วขัดนัก ต่อให้เป็นนิยายไทยก็เถอะถ้าเป็นแนวจักรๆวงศ์ๆ และใช้การบรรยายแบบต่างประเทศ นักอ่านรุ่นเก่าก็คงเอาไปขว้างหัวหมาเหมือนกัน
คำราชาศัพท์ไทยมันเหมาะที่จะใช้กับนักเขียนที่มีฝีมือ มีประสบการณ์ และแต่งเรื่องโดยใช้ศัพท์ไทยผสมกับการบรรยายเรื่องแบบไทยในเรื่องซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ใช้ทับสัพทืมาเกือบทั้งเรื่อง บรรยายความบรรยายเรื่องสไตล์ต่างประเทศมาทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็เถอะ ถ้าเรียกว่านิยายหรือนวนิยายแล้วล่ะก็  เรื่องจักรๆวงศ์ๆไทยในยุโรปก็ไม่เห็นจะเป็นไปไม่ได้เลยนี่นา
ปล. การบรรยายแบบไทย ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่าศัพท์จริงๆที่ใช้เรียกมันใช้ว่าอะไร แต่ความหมายที่ผมจะสื่อก็ทำนองว่า เวลาแปลความหมายประโยคต่างประเทสแล้วมันจะเยิ่นเย้อ ใช้คำฟุ่มเฟือย  อย่างเช่น ... เขาพบว่าตัวเองรู้สึกตัวกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง  <--เนี่ยอ่ะ การบรรยายแบบต่างประเทศ  โอยเรียนดาวองก์มานานแล้วลืม อธิบายไม่ถูก
มีได้บ้างเป็นพิธี แต่ไม่ควรจะเยอะเกินควร แปลไม่ออกค่ะ
PS. "รู้มั้ยว่าทำไมหิมะถึงมีสีขาว" "เพราะว่ามันลืมสีของตัวเองไปแล้วยังไงล่ะ"
ถ้าถามถึงระดับในความเห็นของผม
ควรใช้ให้พอเหมาะ
ถึงจะโอนเอียงไปฝรั่ง แต่ว่าภาษาอังกฤษเขาก็มีคำราชาศัพท์เช่นกัน อีกทั้งยังมีการเพิ่มคำบางอย่างนำหน้าคำปกติก่อน
แต่เมื่อแปลเป็นไทยแล้วก็ย่อมต้องเป็นไทย
คุณอ่านนิยายไทย ก็ต้องรู้สึกว่านี่คือคนแต่งคนไทย
ราชาศัพท์จึงสมควรที่จะสังเขปไว้ในการบรรยายที่พอควร
อาทิ
คำพูด
และส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ก็อย่าง บทบรรยาย
PS. ...บางทีก็หวนนึกว่าตัวเองเป็นใคร บางคราวก็ถามตัวเองว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ไปทางไหนก็เจอแต่ทางแยก ข้าพเจ้าถามตัวเองว่าควรไปทางไหน จิตสำนึกของข้าพฯบอกว่า "จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเลือกเสมอ"...
จ๊ากก แทงฉึกเรื่องของผมเลยแฮะ... แต่เรื่องผมมีใช้ราชาศัพท์อยู่กับแค่ตัวละครเดียวนะ นอกนั้นเจ้าชายเจ้าหญิงอื่น ๆ ก็ใช้คำธรรมดาตลอด
แต่ผมก็เห็นด้วยนะครับ เพราะฝรั่งเขาไม่ได้ใช้ราชาศัพท์แบบเดียวกับบ้านเรา พอใช้แล้วมันก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน
PS. Plus, Plus, but it's a Minus!
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีระดับนะคะถ้าจะเขียนเป็นภาษาไทยยังไงมันก็ต้องมีระดับค่ะ (สังเกตข่าวเจ้านายต่างประเทศก็ใช้ราชาศัพท์)
PS. ถ้าจะแอดเมลขอแค่นักเขียนนักอ่านนะจ๊ะ
ข้าน้อยว่าก็มีได้บ้างละฮะ แต่อย่าเยอะเกินก็แล้วกัน
มีก็ได้แต่อย่าเยอะมาก
แล้วเเต่สถานะการณ์ด้วย
เราว่า ถ้าใช้ราชาศัพท์ชนิด "เต็มรูปแบบ" ก็ใช้เพื่อเน้นความสูงศักดิ์ของตัวละครที่ปกครองในลักษณะคล้ายๆสมมุติเทพ(หรือเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน) ดีกว่าจะใช้พร่ำเพรื่อ...คือ เรื่องไม่จำเป็นต้องไทยแท้ จะแฟนตาซีจ๋าขนาดไหนก็ไม่เกี่ยว ตามความคิดเรา จะใช้แล้วเข้าไม่เข้า มันขึ้นอยู่กับรูปแบบการปกครองในเรื่องมากกว่าน่ะ
ถ้าเป็นแบบราชวงศ์ทางฝรั่งที่ไม่ได้เป็นอย่างนี้ ก็ใช้คำสวยๆ หรือราชาศัพท์แบบลิเกหน่อยๆ(เข้าใจง่ายกว่าราชาศัพท์ของจริง) ก็น่าจะพอ
PS. วิกฤต...วิกฤต...วิกฤต...
ในฐานะคออ่านจะยังไงก็ขอให้สนุกเป็นพอ
เอาเข้าจริงแค่ใช้ภาษาสื่อสารให้เหมาะกับระดับกับบุคคลโดยบุคลิกมันก็ยากอยู่แล้วนา
แค่พอรู้ ไม่ต้องเยอะ ราว ๆ นี้ กำลังดี
PS. การกินหนึ่ง การนอนหนึ่ง การเสพกามหนึ่ง การเสวยอำนาจหนึ่ง บุคคลจะไม่มีวันเบื่อเด็ดขาด ยกเว้นผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร พยายามหลีกหนีมันให้ได้เท่านั้น
อืม ควรเป็นเช่นนั้นแล
PS. เฮ้ย! คห.ข้างบนมันwantว่ะ จัดให้มันหน่อยเร็วพวกเรา!
เอาให้มันเหมาะกับนิยายเราเป็นดีที่สุด เคยอ่านเจออยู่บ้างบรรยาฉากจินตนาการตามได้เป็นโซนยุโรป
แต่อ่านบทสนทนาแทบหัวทิ่ม ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านฉากไทยๆ ซึ่งมันคนละทางกับที่วาดไว้ในตอนแรก อ่านไปก็งงๆ เหมือนกัน
นั่นสินะคะ
ต้องรีบกลับไปแก้ของตัวเองมั่งละ
PS. Nothing in this world happen by random.....Everything is Fated.
ขึ้นอยู่กับนิยายที่แต่งเป็นแบบไหนแต่ถ้าราชาศัพย์มากไปก็ไม่ดีละนะอ่านอยู่เรื่องหนึ่งพอดี คำว่า ศศิลนี้มันคื่ออะไรอยู่ในกลอน
PS. สิ่งที่ เสียไปแล้วไม่สามารถ เรียกกับมาได้...////
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?