Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เรื่องน่ารู้ ม.นเรศวร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 จขกท.   เอามาฝาก  ^^ 


เผื่อมีใครอยากมาเป็นลูกพระนเรศด้วย
กัน



  • มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก มีชื่อเล่น ว่า มน.(NU) (มอ-นอ)
  • เป็นมหาวิยาลัยที่ร้อนและแดดแรงมากๆ ที่สุดในสยามประเทศ (ร้อนไปได้ไงซัมเมอร์ 43 องศา และแดดแรงขนาดมีศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์)
  • เราเรียกนักศึกษาที่นี่ ว่า "นิสิต"
  • สิ่งที่นิสิตเคารพบูชาที่สุดคือพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในท่าประทับ นั่ง พระหัตถ์ขวาทรงสุวรรณภิงคารหลั่งทักษิโณทก เราเรียกที่นี่ ว่า "ลานสมเด็จ"
  • ลานสมเด็จนี่เองจะมีช่วงคึกคักมากๆที่สุดในรอบปี คือ สอบมิดเทอม และช่วงสอบไฟนอลเท่านั้น
  • สิ่งที่นิสิตมักบน สมเด็จเสมอคือ
    • วิ่งรอบลานสมเด็จ(เมื่อก่อนเล็กกว่านี้ ปัจจุบันขยายกว้างขึ้น)
    • ถูลานสมเด็จ (อันนี้สมเด็จท่านอนุโลมให้เอาเพื่อนมาช่วยถูได้)
    • ดอกไม้สีสันสวยงามต่างๆ
    • ตุ๊กตาไม้ที่เป็นช้าง ม้า และไก่ชน (เท่านั้น)
    • ผลไม้ที่นำมาไหว้สมเด็จ ห้ามใช้ผลไม้สีแดง เช่น เงาะ
  • ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกเสลา ซึ่งเป็นดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์มากๆ บางคนเรียนมา สี่ปียังไม่เคยเห็นดอกเสลาซะที
  • สีประจำมหาวิทยาลัย คือ เทา-แสด สีเทาเป็นสีของสมอง สื่อถึงความรู้ สีแสดหรือส้มมาจากสีแดงและสีเหลือง สีแดงหมายถึงความกล้าหาญ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สีเหลืองสื่ื่อถึงพระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก
  • แต่นิสิตจำนวนไม่น้อยให้ความหมายของสีเทาว่า เป็นสีของยุง ซึ่งมีชุกชุมทั้งมอ(ก็เล่นขุดสระกันรอบมอ) ส่วนสีแสดหมายถึงแสงแดดอันแสนจะร้อนแรงตลอดกาล
  • หน้ามหาวิทยาลัย ยังทำนา และเลี้ยงเป็ดอยู่ ถนนหน้ามหาวิทยาลัยถือว่าเป็นถนนสายเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้(บางทีชาวบ้านก็ เอาข้าวเปลือกมาตากซะงั้น)
  • ช่วงใกล้รับปริญญาคนสวนของมหาลัยจะมีอิทธิปาฏิหาริย์สามารถเนรมิตพื้นที่และดอกไม้ให้สวยได้ภายใน3-4วัน
  • และช่วงรับปริญญานี่เองเป็นช่วงที่น้องหมาสุดรักประจำคณะต้องเก็บตัว
  • คณะเราต้องเรียกพี่ยามเท่านั้น ห้ามเรียกลุงยาม แกบอกแก่ไป พี่ก็พอ
  • พาหนะที่ใช้มากที่สุด คือ รถ มอเตอร์ไซต์ และรถวิ่งรอบมอ เมื่อก่อนเราเรียกว่ารถส้ม ปัจจุบันมันเป็นรถไฟฟ้าไปซะแล้ว
  • ใครขับรถรอบม.ตอนเที่ยงๆถึงบ่าย สาม สิ่งที่คุณได้รับอย่างไม่น่าเชื่อ คือ สีผิวเปลี่ยนได้ทันตาเห็น และคุณจะกลายเป็นลูกครึ่งผมแดง ทั้งที่พ่อแม่คุณเป็นคนไทยปนลาว
  • ตอนที่ยังไม่เป็นหวยบนดิน นิสิตสามารถแอบซื้อหวยได้กับป้าแม่บ้าน
  • สะพานลอยหน้ามหาลัยมีไว้ให้มอเตอร์ไซต์หลบฝน และนิสิตไว้หลบแดดตอนรอรถเท่านั้นไม่ได้มีไว้ใช้ข้าม
  • มนุษย์เพศชายในคณะมนุษย์ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่น่าสงสัยว่าเป็นมนุย์กึ่งชาย
  • มน.มีการแข่งขันประกวดดนตรี เราเรียกมันว่าNU VOICE
  • มน. มีระบบ SOTUS เด็กปีหนึ่งต้องผ่านการว้าก และการเข้าห้องเชียร์มาอย่างโชกโชน ซึ่งทางอาจารย์ก็พยายามหาทางควบคุมให้อยู่ใน limit ที่พอควรมาตลอด แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนกระทั่งเกิดเรื่องนศ.ม.เกษตร ฆ่าตัวตาย เนื่องจากทนไม่ได้กับการรับน้อง
  • น้องปีหนึ่งจะต้องแต่งตัวถูกระเบียบ น้องผู้หญิงใส่เสื้อนิสิตที่เชยที่สุด คือเสื้อไม่มีสาบ ติดกระดุมคอ กระโปรงคลุมทรงเอคลุมเข่าสีดำ รองเท้าหุ้มส้นสีดำ ห้ามมีลวดลาย น้องผู้ชายใส่เชิตขาวแขนยาว ผูกไทด์สีเทา กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง
  • กระดุมคอและเนคไทด์ของน้องปีหนึ่ง จะได้รับการปลดให้โดยพี่รหัส เมื่อปิดห้องเชียร์เรียบร้อยแล้ว
  • ชุดพิธีการของมน.หมายถึง ชุดที่ใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ ซึ่ง คือการแต่งกายถูกระเบียบ แต่เปลี่ยนจากกระโปรงและกางเกงสีดำ เป็นกระโปรงและกางเกงสีเทาแทน
  • ช่วงเทอมหนึ่ง น้องปีหนึ่งทุกคนจะได้รับการบอกกล่าวให้ไหว้รุ่นพี่และอาจารย์ที่เดินผ่าน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อรุ่นพี่หรืออาจารย์เดินผ่านหรือขับรถ ผ่านจะมีน้องๆซึ่งแต่งตัวถูกระเบียบไหว้และร้องทักว่า "พี่คะ/ครับ สวัสดีค่ะ/ครับ"
  • ช่วงก่อนเปิดเทอม 1 จะมีการจัดค่ายให้น้องๆ ปี 1 มาอยู่รวมกันทำความรู้จักกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน เรียกว่า "begining Camp" โดยน้องปีหนึ่งจะได้รับการบายศรีสู่ขวัญ และผูกข้อมือ
  • ครุยมน. เป็นครุยผ้าโปร่งสีขาว มีแถบสีเทา-แสด อันเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย มองเผินๆคล้ายกับชุดพระยาแรกนาขวัญ (อันนี้เพื่อนชอบแซว) ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพฯ ในช่วงธ.ค.- ม.ค.
  • ช่วงรับปริญญาที่มน. เป็นช่วงที่คึกคัก และทำให้การจราจรติดขัดที่สุด
  • ชื่อเดิมของ มน.คือ "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขต พิษณุโลก"
  • ที่นั่งเล่น ออกกำลังกายในมอนอ มี 2 แห่งคือที่โอเอซิส หรือที่เรียกอีกชื่อว่า เทเลทับบี้ ใครนึกไม่ออกจินตนาการถึงสนามหญ้าที่พวกเทเลทับบี้ชอบออกมาเต้น กับอีกแห่ง คือ อ่างเก็บน้ำ ที่นี่มักมีคนไปให้อาหารปลาด้วย
  • มีผับที่แทบจะติดรั้วของมหาลัย ประมาณห้าเมตรได้ (toxic)
  • เด๋วนี้ซอยตรงข้ามทางออกข้างมอ เป็นซอยโลกีย์ เข้าไปเหอะ ผับให้เลือกเพียบ (ปัจจุบันเขาเรียกกันว่าซอยเอกมัย เพราะกลางซอยจะมีร้านเหล้าชื่อเอกมัย)
  • ร้านนั่งเล่นที่ซอยเอกมัยไม่ตรวจบัตรตอนมีงานบายเนียร์ เคยมีนิสิตบัญชีเอาน้องอายุ 14 เข้ามาแล้ว
  • มีโลโก้ประจำม.ก็คือ ยุงที่มีมือซ้ายกางร่ม มือขวาครีมกันแดด (ยุงเยอะมากกกกกกก แดดแรงมั่ก )
  • รถไฟฟ้าที่วิ่งรอบมหาวิทยาลัยจะเรียกสั้นๆว่า " โดเรม่อน" หรือ "เตาอบเคลื่อนที่ " หรือ "รถไฟช้า"
  • ลานสมเด็จจะคึกคักช่วงก่อนสอบ และจะมีควันธูปตลบอบอวนอยู่ตลอดเวลา
  • เด็กปี 1 ผู้ ญ จะต้องโดน "รองเท้าคัทชูกัด" แทบจะทุกคน
  • ดังนั้น ช่วงรับน้อง สิ่งนิสิตหญิงที่ต้องเตรียมให้พร้อมคือ ที่กันรองเท้ากัด และพลาสเตอร์ผ้าหนาๆ (ไม่งั้นส้นเท้าจะเปิดเปิงตอนถูกสั่งให้วิ่ง)
  • ทุกคนจะต้องได้ไปเรียนที่ตึก MD และ QS 
  • ที่นี่จะขับรถเหมือนเวียดนาม ก็คือ ไม่มีไฟเขียวไฟแดง นึกจะเลี้ยงก็เลี้ยว นึกจะปาดก็ปาด ไฟเลี้ยวไม่เปิด
  • ที่นี่จะมีอยู่ 2 ฤดู ก็คือ ร้อน กับ ร้อนอิ๊บอ๋าย.. - -*
  • ต้นไม้ที่ ม.น. จะถูกตัดเฉลี่ยทุกๆ 3 เดือน
  • วิศวะชอบไปกินข้าวที่โภชนาคาร เวลาไปกินที่โภนิ จะเจอพวกนี้เยอะมากกก..
  • บางคนคิดว่าที่เรียกโรงอาหารว่าโภ มาจาก ต้นโพธิ์ รอบๆอาคาร แต่ความจริงอาคารมันมีชื่อว่า "โภชนาคาร"
  • ทางหลังม. ตรงทางแยก ถนนตรงนั้นจะไม่สามารถซ่อมได้ และ สามารถเลี้ยงปลาได้
  • ประตูทางออกตรงคลองหนองเหล็ก ส่วนใหญ่เค้าจะเรียกว่า " ป่าดงดิบ "
  • เทเลทับบี้มีไว้ให้ลูกหมาวิ่งเล่น
  • ที่ฟิตเนสจะมีพวก กึ่งๆชายกึ่งหญิง ตัวล่ำขาวๆ มักจะเล่นอยู่ประจำ
  • อ่างเก็บน้ำมีไววิ่งออกกำลังกาย และ ให้อาหารปลา และเคยเป็นที่อยู่ ของตัวเงิน ตัวทองอีกด้วย
  • รถไฟฟ้า เปิดประทุน ช่วงเย็น ถ้าคุณจะนั่ง คุณต้องไปขึ้นที่ตรงเก็บรถ
  • อ.ผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดของมหาวิทยาลัย อยู่ที่คณะเภสัช หน้าตาดี เป็นจำนวนมาก ด้วย จนไม่น่าเชื่อว่า เป็นศูนย์รวม อ.หน้าตาดีอะไรได้ขนาดนี้ แต่ 80 เปอร์เซนต์ของอาจารย์ที่ว่าเป็น...
  • คณะที่รวมนิสิตหน้าตาดีเยอะไว้ที่สุดคือ คณะเภสัช ไม่รู้ทำไม คณะนี้เค้าคัดหน้าตาเข้าหรือไง พิสูจน์มาแล้ว จากเด็กวิศวะ ไม่เชื่อลองไปเดินในคณะเค้าดู
  • มีลานเทเลทับบี้ อยู่ใกล้หอสมุด หมดเวลาสนุกแล้วสิ...
  • นาฬิกาที่ ลานเทเลทับบี้ เคยเดิน อยู่ครึ่ง ชั่วโมง เป็นบุญตาแก่ผู้มีบุญพบเห็นเป็นอันมาก
  • ตรงลานเทเลทับบี้ เด็ก มน.หลายคนอาจไม่ทราบ มีการปลูกต้นไม้ประจำจังหวัดของทั้ง76จังหวัด ปลูกเรียงกัน เป็นแผนที่ประเทศไทย
  • บริเวณตลาดหลังมอ เรียกอีกอย่างว่า ตลาดปอยเปต เพราะสภาพไม่ต่างอะไรกับตลาดชายแดน
  • แยกวัดใจ ตรงหน้าคณะมนุษย์
  • ลานสมเด็จ โหดร้ายมากๆ ถ้ารุ่นพี่ให้ไปยืนร้องเพลงคณะตอนเที่ยงตรง
  • เด็กรุ่นรหัส43 เป็นรุ่นสุดท้าย ที่เกรดไม่มีประจุ (บีบวก ซีบวก ดีบวก)
  • รหัส 43 นอกจากเป็นรุ่นสุดท้ายที่เกรดไม่มีประจุ ยังเป็นรุ่นสุดท้ายที่เวลาตกจะได้ "E" แทน "F" ในรุ่นต่อๆ มา
  • รุ่นรหัส43 ยังเป็นรุ่นสุดท้ายด้วย ที่รู้จักการต่อคิวลงทะเบียน หลังจากนั้น ลงผ่านเนทหมด
  • รพ.มหาลัย ก่อนเปิดเป็นรพ.ในปัจจุบัน เริ่มแรก เปิดเป็นหอหญิงด้วย
  • รพ.นอกจากนี้ เมื่อก่อนยังถูกเรียกติดปากกันว่า ศูนย์วิจัย (รหัส 46-47 ขึ้นไปจะทราบกันดี)
  • คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดหลักสูตร6ปี
  • คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร เป็นคณะเภสัชศาสตร์ที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในเอเชียอาคเนย์ และมีแบบแปลนแทบจะเหมือนกับคณะมนุษยศาสตร์
  • ตึกแรกๆของมหาวิทยาลัย คือตึกของคณะศึกษาศาสตร์
  • สภานิสิตมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นสภาแห่งแรกที่จดโดเมนเนมเป็นของตัวเองในชื่อ sapanisit.com
  • เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียว ที่คณะเภสัชศาสตร์เป็นคณะบุกเบิกในการถ่ายภาพ และที่่คณะเภสัชฯ แห่งนี้ มีห้องมืดล่างอัดภาพขาวดำเป็นของตัวเอง
  • ในอดีต ไม่มีหอพักชายภายในตัวมหาวิทยาลัย มีแต่หอพักหญิง
  • พระรูปสมเด็จพระนเรศวร ทรงคนโฑด้วยพระหัตถ์คนละข้างกับพระรูปที่อยู่ที่ในตัวเมือง
  • เป็นมหาวิทยาลัยที่มีตราสัญญลักษณ์สองแบบ คือองค์สมเด็จไว้สำหรับติดในที่สูง และช้างเจ้าพระยาไชยานุภาพไว้ติดในที่ต่ำ (เช่นหัวเข็มขัด)
  • ร้านข้าวใต้ตึก EN อาหารที่ฮิต คือ ข้าวไข่เจียว
  • ร้านถ่ายเอกสาร ตาตู้ มี ชีท ของ ทุึกคณะทุกวิชา ที่เรียนที่ตึก EN
  • อาจารย์ วิดวะ สามารถแจ้งข่าวการสอน ได้ที่ร้านตาตู้
  • เมื่อก่อน รุ่นพี่วิดวะพาน้องไปลองของที่ วัดจูงนาง
  • สมัยก่อนลานสมเด็จ ยังไม่กว้าง แก้บนด้วยวิ่งรอบมอ
  • คนที่แก้บนด้วยการถูลานสมเด็จคนแรก เป็นเด็กคณะวิดวะ
  • ช่วงก่อนสอบและหลังสอบ ผ้าถูพื้นลานสมเด็จไม่เคยแห้ง
  • เด็กวิดวะ ถ้าไม่เข้าครอบครูประจำปี จะเรียนไม่จบ
  • คณะวิดวะใช่จะมีชายแท้ หญิงแท้มาเรียน เคยมีกระเทย มาเรียน แล้วเรียนไม่ไหวลาออกไปแปลงเพศ
  • ประตูหน้ามอ ใกล้ๆ กับศูนย์วิจัยจะเปิดตอนรับปริญญา
  • ก่อนที่จะมีลูกระนาด เคยมี เด็กวิดวะเคยแข่ง มอไซค์รอบมอด้วยความเร็วกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • มีบางคนเรียนจบแล้วยังไม่รู้ว่า มีประตูออกจากมออีก ตรงคณะวิทยาศาสตร์ (เข้าได้ตรงซอยคลองหนองเหล็ก ซึ่งเปลี่ยวมาก)
  • ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับตึกมิ่งขวัญแล้ว เพราะกองบริการการศึกษาย้ายไปอยู่ที่ตึก QS
  • มีต้นไม้อยู่รอบ ม เเต่พอมันโตก็จะตัด เพราะคนสั่งตัดอยู่เเต่ในรถติดเเอร์ (มันร้อนนะลองมาขี่รถไหม?)
  • เข็มขัดของนิสิต มีก้านกล้วย บ่ใช่พระนเรศวร
  • เคยมีรถไฟฟ้าล้อหลุดที่ข้างตึกคณิตศาสตร์(เห็นกับตา) << จขกท เจอมากับตัว
  • คณะแพทย์เพิ่งเปิด รพ.ม. เป็นของตัวเองเมื่อก่อตั้งคณะครบ 10 ปี
  • ช่วงหน้าฝนตอนดึกๆมักมีเต่าน้อยมาเดินบนถนนบริเวณสระน้ำข้างตึกวิทยาศาสตร์และคณะแพทย์ ใครโชคดีเคยเจอบ้าง
  • หอพักใหม่สร้างเสร็จหลังจากที่มีนิสิตมาพักได้แล้วเกือบ 1 เทอม
  • เมื่อก่อนลานจอดรถไม่ได้ใช้ เลยใช้เป็นตลาดนัดแทน << ปัจจุบันย้ายตลาดไปซอยโลกีย์
  • ปัจจุบัน ม บังคับให้นิสิตที่พักหอใหม่นำรถไปจอดที่โรงรถ
  • ตอนนี้ศาลากลางน้ำตรงข้าม รพ.มน.ได้สร้างเสร็จแล้ว
  • ปัจจุบันนี้มีโรงเรียนสาธิตมหาวิยาลัยนเรศวรเปิดที่ ม.ในแล้ว
  • นิสิตคณะพยาบาลได้เรียนที่มหาลัยตลอด 4 ปีแล้ว ไม่ต้องไปเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลอีกแล้ว
  • หนุ่มขาวหน้าตี๋ในมหาลัยมักถูกสาวๆมองว่าเป็นเกย์
  • ที่ตึก QS มีโรงละครที่หรูหรา แต่ไม่ค่อยเปิดให้นิสิตเข้าไปใช้บริการบ่อยนัก
  • ตรงทางเดินที่อยู่ระหว่างตึก QS กับตึกศึกษา มีซุ้มอยู่ชุดนึงเรียงกันเป็นแถวๆ มันถูกเรียกขานจากบางคนว่า "ซุ้มบุหรี่" อันเนื่องมาจากลักษณะของเสาที่ซุ้มนั้น
  • บางคนเรีกว่าทางเดิน season change และยังเรียกศาลาแถวนั้นว่า ศาลา season change อีกด้วย
  • สระน้ำหน้าโรงพยาบาลถูกเรียกว่าอ่างพระ ใครอย่าเผลอเอาปลาไปปล่อยหละ เพราะเป็นการทำบาปอย่างแรง และไม่ต้องนำอาหารไปให้ปลาด้วยเพราะม่มีปลามากินหรอก ยิ่งฝนตกกลิ่นนี่.....ใช้ได้ ^^
  • หอพักนิสิตหลังใหม่ชั้น 4 ของทุกตึกเวลาหน้าฝน ถ้าฝนตกแรงฝ้าจะเลื่อน น้ำจะรั่ว ไฟฟ้าจะถูกตัด (เพราะผู้จัดการกลัวไฟช็อตนิสิต) นิสิตชั้น 4 จึงต้องไปหาที่นอนใหม่ (เซง)
  • นิสิตหอพักหลังใหม่จะต้องแสดงบัตรเข้าหอทุกครั้ง (ขี้เกียจควักมากๆ)
  • ประมาณปรายเทอม 1 จะมีงานประจำคณะและเอก นั่นคืองานบายเนียร์ เปนงานอำลารุ่นพี่ปี 4 จึงเปนที่ประชุมและพบปะญาติมิตร (ญาติมิตร คือ สายรหัส ทั้ง พี่, ป้า/ลุง ,ย่า/ปู่)
  • "begining Camp" ในคืนสุดท้ายรุ่นพี่จะให้น้องๆ หลับตา แล้วรุ่นพี่จะดับไฟแล้วจุดเทียนยืนอยู่รอบๆ น้องๆ แล้วรองเพลงเทียนและอีกหลายเพลง (ตอนฟังเพลงนี้ครั้งแรกน้ำตาไหลทีเดียวเป็นเพลงที่เพาะมากและกินใจทีเดียว) หลังจากนั้นรุ่นพี่จะผูกข้อมือและอวยพรให้น้องๆ
  • ร้านข้าวขาหมู ชุมชนหน้ามหาวิทยาลัย ใช้พนักงานแทบไม่ซ้ำหน้ากันเลยในรอบสัปดาห์
  • เครือข่ายอินเตอร์เนตและเซิร์ฟเวอร์ของมหาวิทยาลัยมีเสถียรภาพสูงมากๆ ไม่เคยมีปัญหาใดๆในการใช้งานตลอดทั้งปี ยกเว้นเวลาเที่ยงคืนของวันที่เปิดลงทะเบียนเรียนทางอินเตอร์เนตวันแรกเท่า นั้น ที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าทุกปี **เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ลงทะเบียนเป็นของกองบริการการศึกษา ไม่ใช่เครื่อข่ายของมหาวิทยาลัยนะครับ
  • ถนนข้างคลองชนจะเต็มไปด้วยหลุมและบ่อ ขี่รถตอนกลางคืนไปทางนั้นอันตรายกว่าโดนปล้นอีก
  • เสื้อคลุมที่สาวๆมอนอนิยมที่สุดคือเสื้อคลุมคณะวิดวะ
  • หากเห็นสาวคนไหนใส่เสื้อคลุมวิดวะให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีแฟนแล้ว
  • ทุก5โมงเย็นสี่แยกวัดใจหน้าตึกวิทยาการจะรถติดมากมาย จนปัจจุบันต้องมีตำรวจจราจรคอยโบกให้ บางครั้งรถติดตั้งแต่แยกนี้ยาวไปถึงเกือบๆตึกเกษตรเลยทีเดียว(ประมาณ 150เมตร)
  • หากคุณขี่รถผ่านหอในใหม่ตอนเย็นๆ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณผ่านมาฟิวเจอร์พาร์ค(เด็กปีหนึ่งน่าตากิ๊งๆเพียบเลย)
  • CITCOMS คือ ศูนย์บริการอินเตอร์เน็ตของมอ อยู่ชั้น5 ชั้น6 เน็ตแรงมาก นิสิตส่วนมากมาใช้บริการเพื่อ โหลดเกม,หนัง เล่นHi5 DotA ฯลฯ
  • ช่วงใกล้สอบ หอสมุดจะเปิดตลอด24ชั่วโมง ให้นิสิต ติวกันอย่างเมามัน
  • รถไฟฟ้าสามารถจุคนได้มากกว่า20คน เกาะประตูข้างได้3คน นั่งหน้าได้2คน
  • ทุกคณะไม่ว่าจะสูงแค่ไหน จะไม่มีลิฟท์ ต้องเดินบันได ยกเว้นคณะแพทย์ พยาบาล และวิทยา QS ก็มีแต่สำหรับอาจารย์เท่านั้น
  • คณะสาธารณสุข เป็นคณะที่น่าสงสาร เพราะต้องเรียนในหลีบๆป้ายคณะไม่มีใครมองเห็น
  • จากการสำรวจ เป็นมหาวิทยาลัยที่น่าอยู่ที่สุดรองจาก ม.แม่ฟ้าหลวง แต่ร้อนที่สุดอันดับหนึ่งของสยามประเทศ
  • นอกจากยุงชุมแล้ว ยุงมอนอยังสามารถกัดทุลุกางเกงยีนได้ นิสิตวศวะทุกคนที่เข้าห้องเสียยืนยันได้
  • นอกจากสวนเทเล และอ่างเก็บน้ำแล้ว ตอนนี้ยังมีบริเวณรอบศาลากลางน้ำที่จะเห็นนิสิตมาเดินออกกำลังกายกัน
  • มีร้านอาหารที่ไกลออกจากมอมาก แต่ก็มีนิสิตไปกันเยอะจนเต็ม ตั้งอยู่ริมทุ่ง ชื่อร้าน ปลายฟ้า
  • ถึงสถานบรรเทิงถูกสั่งให้ปิด เที่ยงคือแต่นักท่องราตรีก็ทราบกันว่าสามารถหาสถานที่ต่อได้ที่ไหนจนเช้า (ใกล้มอจนเหมือนอยู่ใต้จมูก)
เครดิต >> http://th.uncyclopedia.info/wiki/มหาวิทยาลัยนเรศวร
PS.  <<< Finally Love >>> ตัวตนที่ไร้ใจ...อยู่ไปก็คือคนไร้ค่า

แสดงความคิดเห็น

>

15 ความคิดเห็น

หะเวด48 14 ก.ย. 52 เวลา 21:45 น. 3

คิดถึง มน จัง

ตอนนี้ทำงานได้เกือบหกเดือนแล้ว

จะรับปริญญาสิ้นปีนี่แหละ

ใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะน้องๆ มน ทั้งหลาย

สี่ปีมันเร็วมากเลย

ดังนั้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากมหาวิทยาลัยไว้เยอะๆ

มหาลัยเป็นแค่การจำลองสังคมใหญ่ๆ แต่พอทำงานไปเราจะพบกับสังคมจริงๆ

0
B.P.Boy 14 ก.ย. 52 เวลา 22:12 น. 5
จขกท นี่ช่างคิดเนอะ ชอบจัง มน สวยจิงๆ อิอิ เหมือนจะเน้นแต่คณะเภสัชกะวิดวะเนอะ หารู้มั้ยสาสุขหน้าตาดีเยอะกว่านะ เคยไปดูหรือเปล่า 55555
PS.  http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=464982
0
MATR 15 ก.ย. 52 เวลา 01:04 น. 6

ลิฟที่คณะวิดวะถึงจะเล็กแต่จุคนได้เยอะมากกกกก<--------พิสูจน์แล้ววว8

0
Puzzle_Pearlz 15 ก.ย. 52 เวลา 11:29 น. 7

จขกท  ก็เด็กวิดยา   แต่แบบแอบปลื้มวิดวะ  555+


PS.  <<< Finally Love >>> ตัวตนที่ไร้ใจ...อยู่ไปก็คือคนไร้ค่า
0
หมูอ้วนจอมป่วน(กวนกาละแม) 15 ก.ย. 52 เวลา 12:49 น. 9

อันนี้เพิ่มให้...เด็กบัญชีชอบโดนเรียนแล้วมาเรียนคิดเลขกันเอง..พอคิดกันจนเหนื่อยก็มักจะออกมาหาของกินรอบดึก..แต่พอถึงเวลาไปเรียนก็สามารถไปเรียนได้อย่างปกติ(ถึกมาก)..นอกจากนี้เด็กบัญชีตัวเล็กๆสามารถแบกข้าวกล่องในวันรับน้องได้คนละประมาณ20กล่อง(ถึกโคตรๆ)
แล้วอีกอย่าง...มอนอมีอีกชื่อนึงคือมอหนองอ้อ...
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  .....เมื่อก่อนคณะมนุษย์ สังคม นิติ วิทยาการการจัดการ รวมกันเรียกว่า HUSO ซึ่งรหัส45เป็นรุ่นสุดท้ายที่รู้จักและมักจะแอบเรียกกันว่าหิวโซ
&nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp &nbsp  .....สาวๆ HUSO มีประวัติเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับสาวพยาบาทเอ้ย..พยาบาลมาก่อนเนื่องจากแย่งหนุ่มวิดวะกันสาวHUSOสวยกว่าแต่สาวพยาบาลมารยาเยอะกว่าเรียกว่าสูสีเบียดบี้กันมาตลอด

0
Puzzle_Pearlz 16 ก.ย. 52 เวลา 02:56 น. 10
งั้นเพิ่มเรื่องจริงเด็กวิดยาให้บ้างดีกว่า 555+

เป็นคณะที่มีนิสิตเยอะเป็นอันดับ 2 รองจากวิทยาการฯ

แทบทุกคนใน มอ จะต้องได้มาเรียนที่คณะวิทย์  ไม่ตัวใดก็ตัวหนึ่งละ พวก Intro สายวิทย์ ทั้งหลาย *-*

น้องปี 1 จะต้องหอบของมากมายก่ายกอง  เหมือนอีบ้าหอบฟาง ใครเคยเห็นจะรู้ ไม่รู้พี่ๆจะให้หอบไปไหนเยอะแยะ อิอิ

น้องปี 1 คณะอื่นนิสิตหญิงใส่คัทชู   แต่วิดยาเรา  ผ้าใบขาว -*-

สโลแกน สาววิดยา   
  " สวย  ถึก และบึกบึน "  >>  มาจาก ชมรมเรือพาย ที่มีแต่หญิงถึก  ได้ข่าวว่าจะติดทีมชาติด้วย คณะทุ่มงบ ซื้อเรือมินทยักษ์ ให้เลย กี่ล้านก็ไม่รู้ (เขียนผิดต้องขออภัยด้วยค่ะ)

แต่ละปีจะมีงานลอยกระทง  ยกเว้นปี 52 นี้ ยกเลิก มอ เขาไม่ให้จัด TT

คณะวิทย์ มีกิจกรรมเยอะมาก  แบบ เดี๋ยวก็ ประกวดโน้น แข่งนี่กันเองในคณะ ยังมีวิ่งมินิฮาร์ฟมาราธอน  สารพัดอ่ะ ทุกอาทิตย์ แทบไม่ค่อยจะว่าง งานเข้าตลอด*-*

ตึกภาควิชาคณิตศาสตร์ และ Com SCI (ตึกเดียวกัน) คึกคักมากที่สุด

ตึก ฟิสิกส์  เงียบเหงามากมาย ใครที่ได้ไปเรียนจะนึกว่าทั้งตึกไม่มีคนอยู่   555+

รถบัสคณะวิทย์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน   คือรสบัสคันแรกของมหาวิทยาลัย  555+  ไปดูความเก่าได้ที่หน้าตึกบริหาร  ทุกวันนี้ก็ยังใช้งานอยู่ นั่งทีใจหายใจคว่ำ กลัวไปไม่ถึงที่หมาย


คณะบดี ใจดีมากมาย เป็นกันเองสุดๆ  จขกท สัมผัสมาโดยตรง ตอนค่ายผู้นำคณะ  คณบดีถือจอบ  เสียม  มาช่วยงานนิสิต เห็นตอนแรกนึกว่าคนสวนคณะ มองดีๆ อ่าว คณะบดีมาเอง 555+ 

PS.  <<< Finally Love >>> ตัวตนที่ไร้ใจ...อยู่ไปก็คือคนไร้ค่า
0
SC17 6 ต.ค. 52 เวลา 22:58 น. 12

ในอดีต ไม่มีหอพักชายภายในตัวมหาวิทยาลัย มีแต่หอพักหญิง

ในอดีตหอพักหญิง หอแรกตึก1-2 (หอ2ยังสร้างไม่เสร็จ) เคยเป็นหอพักชายมาก่อนครับ
รุ่น 38 มายืนยันครับ อิอิ8

0
ฺBA38 31 ม.ค. 53 เวลา 22:29 น. 13

ใช่ค่ะ หอพักหญิงที่ว่า เมื่อก่อนเป็นหอพักชายค่ะ ส่วนหอพักหญิงอยู่ มอใน หรือมอสนามบิน ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นอะไรไปแล้วไม่รู้ จำไม่ได้ ไม่ไปแวะไปพิดโลกนาน&nbsp confirm โดยรหัส 38 อีกคนค่ะ

0
kan 16 มิ.ย. 55 เวลา 16:31 น. 14

คิดถึง มอนอ จังเลยยยย

ว่างๆๆจะกลับไปเยี่ยมนะ คิดถึงคณะสังคม คิดถึงประวัติศาสตร์ *38

คิดถึงอาจารย์และน้องๆๆ ^^

ยังคงร้อนเหมือนเดิมใช่ไหม 5555

0