Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ว่าด้วย วิธีการล้างสมองของฮิตเลอร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
If you tell a big enough lie and tell it frequently enough, it will be believed. "
Adolf Hitler, Mein Kampf "Why the second reich collapse"

"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์, การต่อสู้ของข้าพเจ้า "เหตุใดจักรวรรดิไรค์ที่ 2 จึงล่มสลาย"

เคยสงสัยกันไหม ว่าทำไมคนที่ดูฉลาด เก่งกาจ จำนวนมาก กลับตกเป็นสาวกลัทธิแปลกประหลาดที่ผิดสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง
เคยสงสัยกันไหม ว่าทำไมฝูงชนหมู่มากเมื่อมารวมกัน จึงถูกหลอกให้เชื่อเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ และไม่ควรเชื่อได้บ่อยๆ
เคย สงสัยกันไหม ว่าชนชาติที่ขยัน อดทน และมีมันสมองชั้นเลิศอย่างญี่ปุ่นและเยอรมัน จึงถูกผู้นำหลอกให้ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำพูดของเขาได้

นักสื่อสาร นักจิตวิทยา ต่างศึกษาจิตใจของผู้คน และกระแสของมวลชน จนสรุปว่า
การ propaganda (ไทยแปลศัพท์ว่า โฆษณาชวนเชื่อ) เป็นต้นเหตุของความผิดเพี้ยนทางความคิดทั้งปวง
แน่นอนว่า นักจิตวิทยาและนักสื่อสารบางส่วนนำผลสรุปนี้ไปใช้ประโยชน์ สร้างระบบจิตวิทยามวลชน อุปาทานหมู่ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
ทำอย่างไรเราจะรู้ทันการโฆษณาชวนเชื่อนี้ล่ะ
Image

บทความนี้ไม่ได้มีเพื่อให้นำวิธีการต่างๆไปใช้ แต่เพื่อให้รู้เท่าทันและระวังตัวไม่ตกเป็นเครื่องมือของการโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไป
หลักการโฆษณาชวนเชื่อ อาจสรุปลงง่ายๆ 7 ข้อ ได้แก่

1. Ad Hominem : โจมตีตัวบุคคล สร้างศัตรูบุคคลขึ้นมาเป็นหุ่นรับการโจมตีหลัก แล้วจับผิด โจมตี ด่าทอ ต่อว่า ทั้งเรื่องส่วนตัวและคำพูดทุกคำพูดของคนๆนั้น รวมถึงการสร้างภาพให้ฝ่ายศัตรูที่ตั้งขึ้นมาโจมตีเป็นปีศาจร้าย เปรียบเทียบกับความชั่วร้ายในโลกทั้งมวล ทั้งในพระคัมภีร์ศาสนาและประวัติศาสตร์
ตัวอย่างเช่น การโฆษณาชวนเชื่อโจมตีสตาลิน ในยุคลัทธิแม็คคาร์ธีของสหรัฐทศวรรษที่ 60 ว่าโหดม ดุร้าย ป่าเถื่อนไร้อารยธรรม การสร้างข่าวโจมตีนายกฯวินสตัน เชอร์ชิลว่าเป็นคนโง่ ดื้อด้าน ของนาซี หรือแม้แต่การโฆษณาโจมตีฮิตเลอร์ว่าเป็นอัตติลาชาวฮัน หรือทายาทซาตาน ตัวแทนสัตว์นรก 666 ของฝ่ายสัมพันธมิตรเอง

[โจมตีตัวบุคคล อันนี้เราก็รู้อยู่ว่าเว็บต้องห้ามนั้น มันโจมตีใคร โดยอ้างหลักความเท่าเทียมมั่วซั่ว ยกข่าวที่ไม่มีหลักฐานมาใส่ความท่าน อ้างว่าท่านอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทางการเมือง]

2. Ad nauseum : พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก มีสำนวนไทยว่าไว้เข้าทีว่า "น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน" แล้วใจคนอ่อนๆจะทนได้อย่างไร(ฮา) เมื่อนำ้คำลมปากกรอกหูเข้าทุกวัน
สาวบางคนมีแฟนหนุ่มหล่อเท่อยู่ดีๆ วันเลวคืนร้ายเพื่อนตัวดีกริ๊งกร๊างมาว่า " นี่เธอ เพื่อนของฉันเห็นหนุ่มหล่อๆหน้าตาคล้ายๆแฟนเธอเดินควงอยู่กับหนุ่มที่ไหนก็ ไม่รู้ เนี่ย ชั้นล่ะสงสัยอยู่แล้วนะ ว่าแฟนเธอจะเป็นเกย์"
หนแรกไม่เชื่อหัวเราะใส่โทรศัพท์
หนสองเริ่มลังเล
หนสาม เอ๊ะ ชักไม่เข้าที ลองถามที่รักดูดีไหมนะ
หนสี่อดรนทนไม่ได้ถามออกไป ปรากฏว่าเป็นคุณแฟนพาคุณพ่อไปโรงพยาบาลซะฉิบ
แต่คราวนี้ หนที่ห้าถ้ามีอีก คุณอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่าแฟนคุณโกหก แม่เพื่อนตัวดีก็ใส่ไฟใหญ่ "เนี่ย แฟนเธอโกหกชัดๆ ผู้ชายที่เพื่อนชั้นเห็นเดินควงกับแฟนเธอน่ะ ยังเป็นเด็กหนุ่มอยู่เลย สัก 16-17 นี่แหละ จะเป็นคุณพ่อได้ยังไง"
หนที่หกเริ่มหงุดหงิดทุรนทุราย ออกสะกดรอยตาม แต่ก็ไม่เจอจังๆ
หนเจ็ด แฟนจับได้ว่าแอบตามเขาไป "นี่คุณไม่ไว้ใจผมใช่มั้ย ถ้าอย่างนี้ เราเลิกกันดีกว่า"
ต้องนั่งร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า จะโทษเพื่อน เพื่อนตัวดีก็บอกว่า "ก็ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เห็นเองนี่ เพื่อนของเพื่อนฉันบอกมาอีกที แถมเค้าไม่ได้บอกว่าเป็นแฟนเธอนิ แค่หน้าคล้ายๆ"
แต่สุดท้าย คุณก็เห็นแม่เพื่อนตัวดีเดินจู๋จี๋กับแฟนเก่าคุณซะงั้น......

[มันกรอกหูด่าซ้ำแล้วซ้ำอีก ในเว็บห่วยๆของมัน]

3. Big Lie : โกหกคำโต
โยเซฟ เกิบเบิลส์(1897-1945) รัฐมนตรีกระทรวงโฆษณาการ(minister of propaganda) มือขวาของฮิตเลอร์ กล่าวว่า

Image

"The bigger the lie, the more it will be believed."
"ยิ่งโกหกคำโตเท่าไร, มันยิ่งน่าเชื่อไปเท่านั้น" และ

"The great masses of people will more easily fall victims to a big lie than to a small one."
"ฝูงชนมหาศาลถูกหลอกด้วยการโกหกเรื่องใหญ่ ง่ายกว่าโกหกเรื่องเล็กๆ"

การ โกหกเรื่องเล็กๆที่มีรายละเอียดปลีกย่อย อาจมีผู้จับโกหกได้ง่าย แต่การโกหกเรื่องใหญ่ๆเพื่อหลอกให้เชื่อ มันย่อมครอบคลุมเรื่องต่างๆหลากหลาย อย่างน้อยต้องมีข้อใดข้อหนึ่งที่ถูกจริตผู้ฟัง และเมื่อคนพูดพูดในสิ่งที่คนฟังอยากจะเชื่ออยู่แล้ว เขาก็พร้อมจะยอมเชื่อโดยดี แม้ว่าคำโกหกเรื่องใหญ่นั้น จะเท็จครึ่ง จริงครึ่ง หรือไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความจริงอยู่เลย

[นั่นแล โกหกเรื่องใหญ่ๆ ทั้งเรื่องการเมืองในปัจจุบัน หรือในอดีต เช่นกรณีของ ร.8 ทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลย แค่ข่าวลือก็กุกันไปโน่น]

4. Name calling : สร้างสมญานาม การสร้างชื่อแทนใช้เรียกย่อๆ ง่ายๆ และตีความได้เข้าข้างตัวเอง หรือสร้างภาพเสียหายให้ศัตรู เป็นเทคนิคของการโฆษณาชวนเชื่ออย่างหนึ่ง
เช่น Iron Curtain : ม่านเหล็ก ที่ดูน่ากลัว, The Third Reich ที่ย้อนโหยหาคืนวันอันรุ่งเรืองในอดีต และมักใช้สถาบันที่สูงส่งเข้ามาสร้างภาพเป็นส่วนหนึ่งของชื่อด้วย เช่น Imperial Army : กองทัพบกของสมเด็จพระจักรพรรดิ ของกองทัพญี่ปุ่น ถ้าจะหาเอาใกล้ๆก็เช่น ฟักแม้ว, หน้าเหลี่ยม, หมูกชมพู่, นอมินีเหลี่ยม, กะทิ, มารเฒ่าแซ่ลิ้ม, โจรโพกผ้าเหลือง เป็นต้น

Image
ขนาดพันธบัตรยังใช้คำว่า พันธบัตรเสรีภาพเลย

[อันนี้มันใช้ชื่อว่า ชุมชนคนเหมือนกัน สื่อถึงเสรีภาพแบบสั่วๆ แบบว่าด่าใครก็ได้เอามันปากไว้ก่อน]

5. Black and White fallacy : ตรรกะผิด-ถูก แบบขาว-ดำ ผู้โฆษณาชวนเชื่อ ต้องสร้างภาพการแบ่งแยกฝ่ายถูกผิดชัดเจนเป็นสีขาว-ดำ ใครเข้าข้างจะเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายธรรมะ ส่วนใครไม่เห็นด้วยก็จะถูกผลักไปเป็นฝ่ายผิด เป็นฝ่ายอธรรมทันที ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ คำพูดของจอร์จ บุช จูเนียร์ เมื่อตัดสินใจบุกอิรักว่า "If you don't be aside with America, you are with terrorrist."

ใน โลกสีเทาหม่นๆของความเป็นจริง เราแสวงหาความดี ความถูกต้อง ตามหลักคำสอนทางจริยธรรมและศีลธรรมอยู่เสมอ เมื่อผู้โฆษณาชวนเชื่อตั้งธงให้เข้าร่วมกับความถูกต้องชัดเจนย่อมไม่แปลกที่ จะหลงเชื่อในสิ่งที่เขากล่าวอย่างง่ายดาย และอาจไม่ฉุกคิดเลยว่า สิ่งที่เขาพูดไม่ตรงกับการกระทำอย่างใดเลย

[มันเรียกตัวเองว่า พวกที่ตาสว่างแล้ว และด่าคนที่ออกมาต่อต้านมันว่า คลั่งมั่ง Royalistมั่ง ตามืดบอด มั่ง ยิ่งเป็นข้อมูลที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้หรือเห็นไม่เหมือนมัน คนที่ได้รับข้อมูลเข้าไปก็จะยิ่งเชื่อ เพระการคิดไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปเนี่ยมันทำให้รู้สึกเหมือนเราเก่งนะ คิดไม่เหมือน "พวกมืดบอด" ทั้งหลายไง]


6. Flag Waving, Beautiful thing, and Great People reference : ชูธงสูงส่ง อ้างสิ่งสวยงาม ตามหลักมหาบุรุษ การโฆษณาชวนเชื่อนั้นจะอ้างตนเองและกลุ่ม แนวคิดของตน ให้ดูยิ่งใหญ่ สูงส่ง อลังการ มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ด้วยคำพูดและป้ายประกาศ ใช้ข้อความที่ดูดี อ้างอิงสิ่งเหนือธรรมชาติ หรือนามธรรมที่คนยอมรับว่าดี เช่นเทพเจ้า พระเจ้า เทพยดา อ้างแนวทางของบุคคลในประวัติศาสตร์ ศาสดาที่ยิ่งใหญ่ เช่น พระพุทธเจ้า พระมะหะหมัด พระคริสต์ มหาตมะคานธี อับราฮัม ลินคอล์น อ้างพระคัมภีร์ของศาสนาต่างๆ ฯลฯ

Image

แต่ การอ้างดังกล่าวแตกต่างไปจากการเผยแผ่หรือโน้มนำที่ดีตามปกติ ด้วยว่าการโฆษณาชวนเชื่อ จะนำภาพลักษณ์ที่ดูสูงส่งสวยงามเหล่านั้นมาบิดเบือนให้เข้าข้างแนวคิดของตน
เช่น นาซีอ้างพระคัมภีร์ที่ว่ายูดาทรยศพระคริสต์ มาบ่มเพาะความเกลียดชังชาวยิวทั้งหมด โดยละเลยไปว่าพระคริสต์เองและอัครสาวกก็เป็นชาวยิว,
ฏอลิบันอ้างกุรอ่าน ว่าห้ามบูชารูปเคารพ มาทำลายพระพุทธรูปโบราณที่บามิยัน ทั้งๆที่ไม่มีใครแถวนั้นบูชาอีกแล้ว เป็นเพียงมรดกศิลปะเก่าแก่เท่านั้น

[โอ้โห อันนี้หลายคนคงรู้ว่าสิ่งที่มันอ้างก็คือ ความเท่าเทียมกัน อุดมการณ์สวยหรูเหลือเกิน แต่ก็แค่อุดมคตินะจ๊ะหนูน้อย ความเท่าเทียมกันไม่มีในสังคมหรอกไม่ว่าสังคมไหน เอาแค่อเมริกากับไทยนี่คิดว่าออกความคิดเห็นในการประชุมโลกได้เท่าเทียมกันไหม(สมมติว่าประชุมร่วมกัน)ถ้าไทยเดินหน้าคัดค้านอเมริกาเต็มที่ อเมริกาจะฟังไหม แล้วคนจบการศึกษาสูงๆร่ำรวย กับคนจนๆเท่าเทียมกันมั้ย ยังไม่ต้องอ้างสถาบันหรอก]

7. Disinformation by mass media : ควบคุมกำจัดข้อมูลผ่านสื่อสารมวลชน การบอกข้อมูลไม่ครบ บอกความจริงไม่หมด เลือกแต่เฉพาะข้อมูลหรือข่าวที่ส่งผลดีต่อฝ่ายตนเอง ใช้การอ้างนอกบริบท หรือนำคำพูดที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาแต่งเติมเสริมเข้าไปให้ดูดี....
ยิ่ง ใช้สื่อมวลชนที่เข้าถึงคนหมู่มาก ยิ่งบอกผ่านกันไปปากต่อปาก และยิ่งดูน่าเชื่อถือ หลายๆคนพอตั้งข้อสงสัย ก็ถูกตอบว่า "ก็ทีวีว่ามาอย่างนี้ล่ะ"

Image

ข้อนี้เราคงเห็นกันตามสื่อสารมวลชนอยู่ทุกวันแล้วนะครับ

ปกติ หน้าที่ของสื่อข้อหนึ่งคือ Gatekeeper ผู้คัดกรองข่าวสาร เลือกข่าวสารที่มีประโยชน์และเป็นจริง และกำจัดข้อมูลชยะที่เป็นเท็จและไม่เป็นประโยชน์ทิ้งไป
รวมถึงการเรียบเรียงข้อมูลให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่เมื่อสื่อมาโฆษณาชวนเชื่อแล้ว การคัดกรองข่าวสารก็จะบิดเบี้ยว
กลาย เป็นว่า คัดเฉพาะข้อมูลที่เข้าข้างฝ่ายตน มีประโยชน์ต่อตนเอง หรือหากข้อมูลเป็นกลางก็จะนำมาตัดแต่งเติมต่อตีความให้เข้ากับแนวคิดของตน เอง
รวมทั้งการเรียบเรียงให้ง่าย(simplification) ที่ตัดทอนและละเลยข้อเท็จจริงไป แล้วนำเรื่องยากซับซ้อนต้องใช้ความรู้ความเข้าใจสูงมาพูดเป็นเรื่องพื้นๆให้ คนเชื่อตาม

[นั่นล่ะ ข้อความในเว็บของมันจะเป็นไปในแนวนั้น]


.................................................................................................................................................................................

การโฆษณาชวนเชื่อ แตกต่างและน่ากลัวกว่าการโฆษณาและชักจูงตามปกติ
เพราะมันจะทำให้ตรรกะของคุณบิดเบี้ยวโดยคุณไม่รู้ตัว
คุณจะเห็นคนอื่นผิดหมด ขณะที่ตัวเองถูกต้องเพียงคนเดียว
คุณจะไม่เหลียวแม้แต่หางตามองสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเชื่อของคุณ
คุณจะกล้าใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่าทอ เสียดสี คนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ ทั้งๆที่คุณไม่เคยมีนิสัยหยาบคายมาก่อน
คุณจะพร้อมบริจาค ทุ่มเททั้งกำลังกายและทรัพย์สินให้กับสิ่งที่คุณเชื่อ โดยไม่เหลือให้ตัวเองและครอบครัว
และเมื่อคุณรู้ตัว สังคมของคุณจะเหลือเพียงแต่กลุ่มคนที่เชื่อโฆษณาชวนเชื่อแบบเดียวกับคุณเท่านั้น

War is Peace
Freedom is Slavery
Knowledge is Ignorance

Big Brother is Watching You!



ระวัง! ผมอาจจะกำลังโฆษณาชวนเชื่อพวกคุณผู้อ่านอยู่เช่นกัน

อ้างอิง

กิติมา สุรสนธิ. การสื่อสารสาธารณมติ. คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2550.
http://en.wikiquote.org
http://en.wikipedia.org/wiki/Propaganda
http://www.holocaustresearchproject.org ... zprop.html 


เอามาจากเด็กดีนี่แหละ แต่ข้อความในเครื่องหมาย [  ] เป็นของผมนะ แสดงให้เห็นว่าวิธีการที่พวกหมาล้มเจ้าใช้ ก็คล้ายกับฮิตเลอร์ ใครเข้าไปอ่านเพื่ออยากรับฟังเหตุผลพวกมัน อยากหาหลักฐานเถียงสู้พวกมัน หรืออะไรก็ตาม คุณต้องใช้วิจารณญาณให้ดีๆนะครับ ผมขอเตือนไว้ก่อน การโฆษณาชวนเชื่อแบบนี้น่ากลัวนะ เพระผมเองก็เคยโดนวิธีเดียวกัน เพียงแต่ไม่ใช่เรื่องเดียวกับหมาพวกนี้ แต่ตอนนั้นเชื่อฝังหัวครับ เกือบไม่ฟังใคร น่ากลัวจริงๆ

ปล.อีกครั้ง อยากเข้าไปอ่านเว็บต้องห้าม ระวังติดเชื้อนะครับ อันตรายมาก



แก้ไข : ลบลิงค์นะครับ เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องการเมืองครับ แต่ถ้ามีลิงค์ใดดูแล้วคิดว่ามีปัญหาอีกก็แจ้งได้เลยครับ ผมจะรีบลบให้ครับ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 เมษายน 2553 / 10:25

แสดงความคิดเห็น

>

23 ความคิดเห็น

มนุษย์ไม้แมน 26 เม.ย. 53 เวลา 10:07 น. 1

เกือบลืมกระทู้ต้นฉบับ http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1159758

เตือนอีกครั้ง ใครอยากเข้าไปอ่านเว็บหรือข้อมูลเหล่านั้น ใช้วิจารณญาณให้มากๆ นะครับ ที่พูดเพราะผมเคยเห็นคนนึงบอกว่า จะเข้าไปอ่านเพื่อหาเหตุผลหลักฐานมาสู้พวกมัน เลยเป็นห่วง

0
ศิลป์_ผู้รักมั่นในประเทศไทย 26 เม.ย. 53 เวลา 10:16 น. 2

ถ้าโยงลิงค์ไปเว็บเนชั่นว่าเป็นการชวนเชื่อ
โยงลิงค์ไปช่องเสื้อแดงดีกว่าครับ


PS.   เตรียมพบกับ my id ของ "นายศิลป์" ในรูปแบบ "เรารักประเทศไทย ถิ่นแดนทอง" เร็วๆนี้ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการจัดทำ (แล้วเสร็จ 50%)
0
มนุษย์ไม้แมน 26 เม.ย. 53 เวลา 10:17 น. 3

อยากให้อ่านอันนี้ เรื่องความเท่าเทียม

อุดมการณ์ที่ไม่ได้ยืนอยู่บนข้อเท็จจริง
อาจสร้างหายนะได้มากกว่า
ความชั่วร้ายในสังคมนะครับ

ผมคิดว่าเราควรยอมรับว่าความเท่าเทียมมันไม่มีในโลก
ความไม่เท่าเทียม มันเกิดมาตั้งแต่วินาทีแรกที่เราลืมตา
ดูโลกแล้ว

สิ่งที่เราควรทำจึงไม่ใช่แสวงหาความเท่าเทียมแต่ทำยังไ
ให้คนอ่อนแออยู่ได้ คนเข้มแข็งไม่ไปรังแกคนอ่อนแอ และ
คนเข้มแข็งต้องพยายามช่วยเหลือคนอ่อนแอ ส่วนคนอ่อนแอ
ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้เข้มแข็งเพื่อไปช่วยเหลือคนอ่อนแอกว่า


เราจึงควรสร้างกลไกพัฒนาสังคมเหล่านี้
ไม่ใช่กลไกเพื่อให้คนเราเท่าเทียมกัน

จากคุณ : Pongkm (Pongkm) 

ประชาธิปไตยคืออะไรเหรอครับ
คือการลงคะแนน ใครได้มากกว่าก็ชนะไปแค่นั้นหรือ
ส่วนตัวผมว่าไม่ใช่แน่นอน มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

ผมเองมองว่ามันก็เป็นระบบหนึ่งเท่านั้น ที่คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นระบบที่ดี
ช่วยให้ได้คนที่ดีมาบริหารประเทศ
แต่ขอโทษอาจจะไม่ใช่กับประเทศนี้ เพราะคนที่เข้ามาบริหารประเทศส่วนมากก็เขี้ยวลากดินทั้งนั้น

ปัจจุบันคนกลุ่มหนึ่งไม่เห็นความสำคัญของสถาบัน
ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ
ถ้าไม่มีสถาบันที่เป็นศูนย์รวมใจคนจำนวนมากของประเทศ
ประเทศเราจะเป็นอย่างไร
ประชาธิปไตยปลอมๆ (ที่หวังแค่ได้ลงคะแนน) แบบประเทศเราเนี่ยจะนำพาประเทศไปได้แค่ไหน
เลือกตั้งกี่ทีก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

อีกหน่อยก็เป็นแบบประเทศทางแอฟริกากันพอดี หรือไม่ก็เพื่อนบ้าน
มีเลือกตั้งตลอด แต่คนที่ได้ก็คือผู้มีอำนาจที่จัดการเลือกตั้ง
จะโกงจะทำอะไรก็แก้ไขไม่ได้เพราะกุมอำนาจแต่เพียงผู้เดียว
เอาแบบนั้นหรือครับ

ไม่ว่าสังคมอะไรก็ไม่มีหรอกความเท่าเทียมกันน่ะ
เลิกหวังลมๆแล้งๆได้แล้ว เชื่อด้วยเหรอ ความเท่าเทียมกันน่ะ
ประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์น่ะ ชนชั้นปกครองเค้าลำบากไหม
ลูกหลานเค้า่ล่ะ ลำบากเหมือนชาวบ้านไหม ถ้ามีบอกด้วย
คนที่ลำบากก็คือคนทั่วไปเนี่ยแหละ ลำบากกระจายให้ทั่วถึง
ส่วนคนรวยยังไงมันก็ไม่มาลำบากเป็นพวกเดียวกับชาวบ้านหรอก


จากคุณ : gto14982

จากเว็บ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9085480/K9085480.html

อุดมการณ์ที่สวยหรูเกินไป บางครั้งก็ทำจริงในทางปฏิบัติไม่ได้นะครับ

0
มนุษย์ไม้แมน 26 เม.ย. 53 เวลา 10:19 น. 5

อ่า เรื่องการโยงลิงค์ อันนี้เจ้าตัวคนเขียนบทความเขาโยงเองครับ ผมไม่ทราบ

ถ้าไม่พอใจเดี๋ยวผมจะเอาออกให้ก็ได้ครับ

0
ศิลป์_ผู้รักมั่นในประเทศไทย 26 เม.ย. 53 เวลา 10:22 น. 6

อ๋อ
อ่าครับ
ผมก็นึกว่า จขกท.โยงไปเอง
ทางทีดี ลบลิงค์นั้นออกดีกว่าครับ
เดี๋ยว WM โผล่มาลบทิ้ง
หาว่ามีการโยงลิงค์ไปยังเว็บอื่นอีกนะครับ


PS.   เตรียมพบกับ my id ของ "นายศิลป์" ในรูปแบบ "เรารักประเทศไทย ถิ่นแดนทอง" เร็วๆนี้ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการจัดทำ (แล้วเสร็จ 50%)
0
กหฟกหฟ 26 เม.ย. 53 เวลา 10:23 น. 7

นปช.อ่านนไว้น่ะครับ *-*


PS.  ตอนที่เราอายเพื่อนฝูงหรือคนรัก ไม่ต้องกับไปคิดมาก แต่แค่คิดว่า''เราแค่เป็นตัวของตัวเอง''ก็พอ
0
ศิลป์_ผู้รักมั่นในประเทศไทย 26 เม.ย. 53 เวลา 10:36 น. 10

คุณ "แปะกาแฟแก้ว"
ผมกราบหละครับ
อ่านหน่อยเถอะ

หาความรู้บ้าง อะไรบ้าง


PS.   เตรียมพบกับ my id ของ "นายศิลป์" ในรูปแบบ "เรารักประเทศไทย ถิ่นแดนทอง" เร็วๆนี้ ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการจัดทำ (แล้วเสร็จ 50%)
0
||-HeDw!g & P!gw!Dgeon-|| 26 เม.ย. 53 เวลา 10:39 น. 11

โหวตว่ามีสาระ
เคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ช่วง WWII มานิดหน่อย...
ใช่.. ฮิตเลอร์อาศัยการโฆษณากรอกเข้าไป กรอกเข้าไป....

แล้ววิธีนี้ก็เป็นวิธีพื้นฐานของการปลุกระดมมวลชนทั่วโลก....
ในไทยก็ทั้งเหลืองทั้งแดงแหละ เอาจริงๆนะ - -''

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 26 เมษายน 2553 / 11:53


PS.  นี่คือความคิดเห็นจากมักเกิ้ลคนหนึ่ง
0
มนุษย์ไม้แมน 26 เม.ย. 53 เวลา 10:48 น. 12

ยาว เยอะ ยาก ไม่อยากอ่าน ตามสบายครับ

สวัสดี แต่ทีหลังไม่อยากอ่านก็กดมุมบนสุดด้านขวา เครื่องหมายX ก็ได้ ไม่ต้องโพสให้เมื่อยมือ เน้อออออ

ขอบคุณ 



ปล.ขอบคุณแอดมินจ่า แห่งเว็บดราม่า ที่อนุเคราะห์ภาพหน้าแสดงอารมณ์ให้ครับ 

0
bunnybug 26 เม.ย. 53 เวลา 10:51 น. 13

ฉะนั้นเวลาดูสื่อใดๆ ควรดูทุกๆฝ่าย ไม่ใช่ว่าดูฝ่ายเดียวแล้วมาวิจารณ์ 

ให้ใครจูงจมูกไปทางไหนก็ได้ หรือไม่ก็เอาเงินทองเข้าแลกกับการที่ไปเข้าข้าง

คนพวกนี้ส่วนใหญ่...มักไม่มีอุดมการณ์เป็นของตัวเอง แต่กลับเห็นประโยชน์ที่ตนจะได้รับ[โฆษณาชวนเชื่อ]

หรืออุดมกิน และเมื่อประเทศของเรานับวันยิ่งใกล้ปับบทความที่จขกท.กล่าวไปทุกที

สุดท้ายประเทศของเราจะไปทางไหน อนาคตก็ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน ไม่ใช่ผู้นำที่ไหนทั้งนั้น

แต่เป็นตัวเราเองที่จะเลือกผลประโยชน์ส่วนรวม หรือส่วนตัว...........

0
bunnybug 26 เม.ย. 53 เวลา 11:13 น. 14

คุณ แปะกาแฟแก้วค่ะ 

เรื่องการเมืองเนี่ย เถืองกันไม่มีวันจบหรอกนะค่ะ แต่เรื่องสถาบันขอได้มั้ย

ที่คุณบอกว่า "-สร้างสมญานาม แดงล้มอ้าว"  เนี่ยนะ 

ถ้ายังไม่ทราบว่าพวกคุณทำอะไรกับสถาบันบ้าง ลองไปอ่าน

หนังสือ voice of taksin ที่พวกคุณเขียนแล้วกัน คุณอาจจะไม่ชอบอ่าน

แต่ขอให้กลับไปอ่านหน้าปกซะ ว่าจาบจ้วงแค่ไหน แล้วอย่ามาบอกว่าไม่รู้เรื่อง

0
Yots 26 เม.ย. 53 เวลา 11:16 น. 15

ชมอดีตนายกทุกวัน&nbsp ด่านายกคนปัจจุบันทุกวัน

ยังไงแดงก็ผิด&nbsp แต่ชอบอ้างว่าไม่ผิด

เอาความดีใส่ตัว&nbsp ความชั่วไปให้เขา

แดงมีอาวุธกันทุกคน&nbsp ความจริงมันน่าจะตายยกโคด แต่รัฐบาลเจือกไม่ทำ

ชูรูปทักกี้พ่อของแดงด้วยความรักและลุ่มหลง&nbsp  นี่แหละ นปช.

0
มนุษย์ไม้แมน 26 เม.ย. 53 เวลา 11:17 น. 16

แดงเนี่ย หมิ่นเหม่มากครับ ตั้งแต่กรณีปกหนังสือเสียงของทักกี้ และอำมาตย์80

แล้วยังมีเสื้อแดงคนหนึ่ง(และหลายๆคนจากเว็บหมาๆ)โพสหมิ่นแบบแฝงนัยยะ แต่ก็บอก ไม่ได้หมิ่นๆ

เท่านั้นไม่พอ เหล่าเสื้อแดงหลายคนของเว็บนี้ ยังมาช่วยปกป้องมันอีก ทั้งที่บางคนก็รู้อยู่แก่ใจ(ผมรู้ว่ามีคนรู้อยู่แก่ใจบ้างแน่ๆ คนอื่นไม่เกี่ยวอย่าร้อนตัวครับ )

ถ้าฉลาดก็เลิกปกป้องคนที่หมิ่นนะครับ ไม่งั้นคนกลางหลายคนจะค่อยๆเป็นศัตรูกับแดงทีละคนๆ

อย่างผม จากกรณีหมิ่นที่เกิดกับแดงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมสงสัยว่า มันบังเอิญเกินไปรึเปล่าแล้ว และคงไม่สนับสนุนเสื้อแดงแน่ๆ

0
Eposa 26 เม.ย. 53 เวลา 11:20 น. 17

เห็นด้วย กับ คห.17 อย่างแรง

&nbsp &nbsp แต่อย่าว่าเรย&nbsp เสื้อ แดงเขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยไหนแร้วและเนอะ

0
ฺbananajung ~ 26 เม.ย. 53 เวลา 11:57 น. 19

-*-
แปะกาแฟ เมื่อไหร่จะเลิกเง่า
เห็นละรำคาญ*


PS.  d;d;f'vg;f'f'g'.dfg,plfdkh,;fd,[hd'fpglp[l;d.,'lpcxf[vhl's."hf.';gold-0prl,;rf,pkldpokf;d,l't;glgrd]'[;sp=-ep[fffffffffffffffffffffffffffffffffffff
0
ไม้แมน ขี้เกียจล็อกอิน 26 เม.ย. 53 เวลา 11:59 น. 20

อ่อ ผมเพิ่งรู้ว่าองคมนตรีแทนด้วยคำว่า "เจ้า" ก็ได้

แล้วองคมนตรีพิการที่ตานี่ ผมก็เพิ่งรู้

ปล.เสื้อแดงและทักกี้ ผมบอกว่าแค่หมิ่นเหม่ แต่นาย ก.นี่&nbsp ดูยังไงก็หมิ่นฯ

สวัสดี

0