Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

(ถาม)เเบตโน้ตบุ๊คเสื่อม ทำไงดี T T

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือพอเราชาร์จเเบตโน้ตบุ๊คได้ประมาณชั่วโมงนึง อ่ะ เเล้วพอเราเอาที่ชาร์จออก ไม่ถึงนาทีมันก็ดับน่ะ
ต้องชาร์จตลอดเวลาเลย T T เราเห็นวิธีนึงที่แก้น่ะ คือ เอาเเบตไปห่อหนังสือพิมพ์สองสามชั้นเเล้วมัดยางให้เเน่นใส่กล่องเเล้วเเช่ช่องฟรีท เเต่เราไม่รู้ว่า วิธีนั้นใช้กับโน้ตบุ๊คหรือเปล่า? กลัวว่าจะใช้กับเเบตโทรศัพท์

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

PRINCEARM 15 ต.ค. 53 เวลา 14:51 น. 1

ซื้อใหม่ครับ เป็นเรื่องปกติ

ผมก็เป็น ซื้อมาใหม่แล้วต้องชาร์ตก่อนเล่น

เล่นเสร็จแล้วค่อยชาร์จ หรือไม่ก็เสียบปลั๊กเข้าโน้ตโดยตรง ไม่ต้องใส่แบ็ต

เอิ้กๆๆ


PS.  การศึกษา ความศรัทธา และประสบการณ์ คือทางออกของทุกปัญหาในชีวิต
0
Bilbert Boisloy 15 ต.ค. 53 เวลา 17:27 น. 2

ซื้อไม่แพงป่าวอ่ะคับ ... มีของแท้ ของเทียม เหมือนแบตโทรศัพท์มือถือป่าว
แล้วมันต้องซื้อแบตเตอรี่ที่เจาะจงกับรุ่น หรือยี่ห้อของโน้ตบุคของเราไหมอ่ะ หรือว่าแบตไหน ๆ ก็ใช้ได้หมด

0
chenjinchai 16 ต.ค. 53 เวลา 01:05 น. 3

หมด  ประกันแล้ว หรอครับ  ถ้ายังไม่หมด  ก็  claim ได้เรยย


ไม่งั้นก็  ซื้อใหม่โลดดดด

0
Corette 16 ต.ค. 53 เวลา 08:52 น. 4

รู้เปล่า เอาแบตไปแช่ตู้เย็นแล้วมันจะใช้ได้นานขึ้นน่ะ


PS.  หากโลกนี้ยังคงมีแสงสว่าง สิ่งที่จะอยู่เคียงข้างฉัน มีเพียงเงาของฉันเท่านั้น
0
LoveOneDD 16 ต.ค. 53 เวลา 12:58 น. 5

คือ ต้องขอบอกก่อนว่า ในกรณีที่เอาแบตไปแช่ตู้เย็นนั้น คือการยืดอายุการใช้งานคับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเอาแบตเสื่อมไปแช่ตู้เย็นแล้วมันจะใช้ได้นานขึ้น

การแช่ตู้เย็นถือเป็นวิธีการหนึ่งของการเก็บรักษาแบตเตอรี่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้นานๆ เช่น พวกที่ซื้อมาสำรองหลายก้อนอะ ปัจจัยหลักๆที่ทำให้แบตเสื่อมเร็วจะมาจากความร้อนเป็นหลัก ซึ่งแน่นนอนว่าการตั้งไว้ข้างนอกเฉยๆนั้นทำให้มันเสื่อมเร็วขึ้นแน่(ทั้งที่ไม่ได้ใช้) จึงมีวิธีการเอาไปเก็บในตู้เย็น โดยวิธีการคร่าวๆคือ ชาร์จ(หรือใช้)ให้มันเหลือ40%ก่อน(ประมาณนี้ เห็นเขาว่าที่ระดับนี้จะเก็บได้นานขึ้น) แล้วให้ไปใส่พวก ถุงกันความชื้นพวกซิบล๊อกอะไรแบบนี้ แล้วใส่เข้าไปในช่องแช่แข็ง แล้วพอจะใช้ก็ ตั้งไว้ให้มันหายเย็นก่อน

ส่วนเรื่องแบตเสื่อมทำได้ดังนี้

1.  เปลี่ยนใส้แบตเตอรี่ เหมาะกับในกรณีที่รุ่นนั้นไม่มีขายแล้ว การเปลี่ยนใส้ถือเป็นทางเลือกเดียว ราคาถูก แต่ถ้าต่อไม่ดีอาจมีปัญหาภายหลัง

2. ไปซื้อใหม่ มันมีหลายแบบอย่าเช่น
     - ของแท้  ขายตามศูนย์ที่เราซื้อโน๊ตบุ๊คมานั่นแหละ แบบนี้จะดีที่สุด
     - ของเทียบเท่า อันนี้มีคุณภาพ แต่อาจไม่ดีเท่าของแท้(แต่ก็ใช้งานได้) พวกนี้จะมีลัญลีักษณ์ มอก. รับรองอยู่
     - ของปลอม ถูกมากๆ แต่อย่าใช้เลย มันไม่มีคุณภาพ

0
17 ต.ค. 53 เวลา 20:54 น. 6

เพิ่งไปถอยแบตแลปทอปอันใหม่มา
ตอนนี้เวลาเล่นอยู่กับบ้านปกติก็ถอดแบตออกอะ
เอาไว้ใช้เวลาออกไปข้างนอก


PS.   "Life Is a Box of Chocolates", don't 4get it..
0
รักเธอได้คนเดียว 7 ก.พ. 54 เวลา 20:52 น. 7

แบตเสื่อมทำยังไงดี

แบตเสื่อม ทำยังไง มาดูวิธีการ แก้ไขให้แบตกลับมาใช้ได้อีก, สำหรับ แบตที่ ยังไม่บวม นะครับ สามารถทำให้นำกลับมาใช้ได้

หลายท่านคงเคยประสบปัญหา แบตโทรศัพท์ ,โน็ตบุค, PDA หรือ PocketPC ตัวโปรด ของคุณเก็บไฟไม่อยู่
แต่สภาพแบตภายนอกยังดูดีและไม่บวม(และช่วงนั้นไม่ค่อยมีตังซื้อใหม่ “ทำไงดี”) ผมมีวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาแบตไม่เก็บไฟมาฝากคับ

วิธีแก้ ที่พบ มักจะคล้ายๆกันนะคับ
คุณกำลังสงสัยกันอยู่ใช้ไหมว่าจะนำกลับมาใช้ได้จริงหรือเปล่า ?

จากการที่ผมได้ลองทำดูแล้วกับเจ้าแบต ASUS P 535 คับ ปรากฏว่าใช้ได้เหมือนใหม่เลยจริงๆ คับ แบตสามารถกลับมาทำงานได้ 100% เลย ครับ

(มันจริงเหรอ!!) มาดูว่าเขาให้ทำกันยังไงนะครับ



1. ให้นำแบตที่เสื่อม (แต่ยังไม่บวม) แล้วนำหนังสือพิมพ์ มาหอให้เรียบร้อย สัก 3 ชั้น แล้วรัดด้วยหนังยางให้แน่น (เหตุผล ก็เพื่อให้หนังสือพิมพ์ดูดความชื้น และเพื่อป้องกันความชื้นเขาแผงวงจรของแบตบางชนิดครับ)

2. แล้วนำมาใส่กล่องพลาสติก หรือใส่ถุงพลาสติกก็ได้ แล้วปิดให้สนิท

3. นำไปแช่ตู้เย็นช่องแช่แข็ง คับ (ถ้าเป็นระบบ โนฟรอสต์ให้ความเย็นสม่ำเสมอ ไม่มีน้ำแข็งเกาะ ยี่ห้อไหนก็ได้)

4. แช่เอาไว้เป็นเวลา 3-7 วัน แต่ผมแนะนำให้แช่ 7 วัน เพื่อความชัวร์ ครับ

5. เมื่อครบ ตามกำหนด ให้แกะหนังสือพิมพ์ออกแล้ว นำแบตมาใว้ ในอุณหภูมิห้องปกติ จนกว่าจะไม่มีไอน้ำมาเกาะหรือประมาณ 2 วัน ครับ

6. แล้วนำมาชาร์จทิ้งไว้ 8 ชม. เพื่อกระตุ้นเซล ครับ

เพียงเท่านี้ คุณก็ไม่ต้องซื้อแบตใหม่อีกแล้วคับ

บทความดีๆ โดยคุณ niab-romkloa จากเว็ป http://www.siamfishing.com ครับ (ขออนุญาตดัดแปลงนิดนะครับ)
อ้างอิงจากที่อื่น ว่าได้จริงก็ ตามนี้ >> http://www.deedeejang.com/tip/tech/00009.html
โดย: Bangk [20 ก.พ. 53 23:12] ( IP A:110.164.96.20 X: )&nbsp 

--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 1
&nbsp  วิธีที่ 2
*วิธีช่วยฟื้นชีวิต แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คจาก1ชม. ให้กลับมา2-3ชม. เหมือนเดิม
*การทำ calibrate แบตเตอรี่
มีความสงสัยกันมากในหมู่ผู้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีพลังงาน
ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเพลง MP3 กล้องถ่ายรูป และอื่นๆ ว่า
ทำอย่างไรจึงจะทำให้แบตเตอรี่ชนิดประจุไฟได้ที่มาพร้อมเครื่องมีอายุยืนยาว
เพราะเมื่อเสื่อมสภาพแล้วจะซื้อใหม่ราคาช่างเจ็บปวดหัวใจเสียเหลือเกิน

บางคนก็บอกว่า ให้ถอดแบตเตอรี่ออกใช้การเสียบอะแดปเตอร์แทน
วิธีการนี้อายุของแบตยิ่งจะไปเร็วเพราะไม่มีการกระตุ้นด้วยการใช้งานเลย
บางคนก็บอกว่า เสียบอะแดปเตอร์ไว้ตลอดเวลาจะได้ชาร์ทให้เต็มตลอดเวลา
นี่ก็ไม่เหมาะอีกเพราะยังไม่ได้คลายประจุออกมาก็อัดคืนเข้าไปแล้ว
แล้วจะทำอย่างไรดี?

นี่คือคำตอบ ที่ได้มาจากฝ่ายสนับสนุนฮาร์ดแวร์ของบริษัท แอบเปิ้ล
ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac ชื่อดัง และโทรศัพท์ iPhone
เครื่องเล่นเพลงอย่าง iPod แนะนำมาอย่างนี้ครับ

การปรับแต่งแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เพื่อยืดอายุให้นานวันและมีพลังเพียงพอในการทำงานเสมอ
(โดยเฉพาะแบตเตอรี่ยุคใหม่ที่เป็น Lithion) ควรจะทำการ calibrate
ตามขั้นตอนดังนี้

1. เสียบปลั๊กเพาเวอร์อะแดปเตอร์ให้ชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็ม
จนกระทั่งไฟแสดงการชาร์ท หรือไอค่อนแสดงการชาร์ทในอุปกรณ์นั้นแสดงว่าเต็ม
100%.
2. ปล่อยให้มีการชาร์ทต่อไปอีกสัก 2 ชั่วโมง
ซึ่งในระหว่างการชาร์ทนี้คุณยังสามารถทำงานกับเครื่องอุปกรณ์ได้ตามปกติ.
3.
ถอดปลั๊กเพาเวอร์อะแดปเตอร์ แล้วใช้งานไปตามปกติจนกระทั่งแบตเตอรี่หมด
(ถ้าทำงานสำคัญให้หมั่นเซฟงานไว้ด้วย) จนกระทั่งแบตเตอรี่จ่ายไฟจนหมด
ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์จะมีกรอบหน้าต่างเตือน หรือเสียงเตือน (ถ้าตั้งค่าไว้)
ก็แค่กดปุ่มปิดกรอบแจ้งเตือนนั้น แต่ทำงานต่อไป.
4.
จนกระทั่งแบตเตอรี่หมดจริงๆ และเครื่องเข้าสู่ภาวะหลับ (sleep)
อย่าลืมเซฟงานสำคัญไว้ก่อนเมื่อมีการเตือนก่อนที่เครื่องจะหลับไป.
5.
ปิดเครื่องหรือปล่อยให้มันหลับไป ทิ้งไว้ประมาณ 5 ชั่วโมงหรือมากกว่า
ถ้ามีงานต้องทำอาจจะถอดแบตเตอรี่ออกแล้วใช้กำลังไฟจากเพาเวอร์อแด็ปเตอร์แทน
ได้ (ถ้าเครื่องนั้นทำได้
เพราะมีบางเครื่องถ้าถอดแบตเตอรี่ออกจะเปิดไม่ได้ก็มี
กรณีนี้ก็นอนหลับพักผ่อนเถอะ).
6. ครบ 5
ชั่วโมงแล้วเชื่อมต่อเพาเวอร์อะแดปเตอร์อีกครั้ง
ทำการชาร์ทไฟให้เต็มที่อีกครั้ง
แบตเตอรี่ของคุณจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง.

Tip: วิธีการนี้ผมลองทดสอบกับเครื่องโน้ตบุ๊คที่ใช้งานมาประมาณปีเศษ
จากที่เคยใช้งานได้นานสามชั่วโมงก็จะเหลือเพียงชั่วโมงเศษๆ
แบตเตอรี่ก็หมดประจุแล้ว เลยใช้วิธีการนี้ดูบ้าง
ปรากฏว่าทำให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้เกือบสองชั่วโมง เลยทำการ calibrate
ซ้ำไปสี่ห้าครั้ง เรื่องไม่น่าเชื่อก็บังเกิด
แบตเตอรี่ก้อนนั้นสามารถกลับมาจ่ายประจุได้สามชั่วโมงอีกครั้งหนึ่ง
ทดลองดูซิครับ
อาจจะไม่ต้องเสียเงินห้าหกพันสำหรับแบตเตอรี่ก้อนใหม่ก็ได้นะครับ

จะทดลองทำดู....มันก็ไม่เสียหายอะไร มิใช่หรือครับ
ผมยังไม่ได้ลองดูนะครับ
แต่จากที่อ่านดูแล้วก็น่าจะเป็นการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่จนหมด(Discharge)
แล้วประจุไฟแบต(Charge)เข้าไปใหม่
โดย: Bangk [15 ก.ค. 53 2:40] ( IP A:110.164.104.219 X: )

0