สมุนไพรไทยไม่แพ้ยาใดในโลก

                                           

                       
                        ในปัจจุบันคนเราเริ่มมีโรคต่างๆ เข้ามารุมเร้าทำให้เจ็บปวด เจ็บป่วย และเสียชีวิตมามากมาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้โรคภัย พวกนี้หายไปได้คือ ยาสิ่งที่เรารู้จักกันดี สิ่งที่ทำให้บรรเทาอาการเจ็บปวด ยานั้นสามารถแบ่งได้ คือยาสมัยใหม่ที่ทำจากสารเคมี และ ยาสมุนไพรที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนไทยที่ใช้รักษากันมาตั้งแต่สมัยโบราณ

                          ยาสมุนไพรในปัจจุบันนี้สังเกตได้จากผู้คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ความสำคัญกันนักเพราะคิดว่ายาสมุนไพรนี้ล่าหลังกว่ายาปฎิชีวนะหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ายาฝรั่ง ทั้งๆทีี่ยาสมุนไพรนั้นมีความสำคัญพอๆกันกับยาที่ทำจากสารเคมี ยาสมุนไพรนั้นมีสรรพคุณมากมายและยังทำมาจากสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติจึงบอกได้อย่างหนึ่งว่าไม่เป็นอันตรายกับร่างกายและยาสมุนไพรนั้นยังมีปรากฎในหนังสือคัมภีร์ฉันทศาสตร์แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ที่ว่าด้วยการรักษาโรคต่างๆ ที่แพทย์ต้องใช้ศึกษาเล่าเรียนโดยยาที่ใช้นั้นก็คือยาสมุนไพรเพราะในสมัยนั้นยังไม่มียาที่ทำมาจากสารเคมีเหมือนเช่นในปัจจุบัน โดยคัมภีร์ฉบับนี้เรียบเรียงโดยพระยาพิศณุประสาทเวช (คง ถาวรเวช) เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยโดยในหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงความสำคัญของสมุนไพรการใช้รักษาสรรพคุณต่างๆ จึงทำให้เห็นว่าสมุนไพรหรือยาสมุนไพรนั้นมีความสำคัญกับคนในอดีตมาก

                         แต่คนในปัจจุบันเห็นว่ายาสมุนไพรให้ผลช้า ไม่รวดเร็วเหมือนยาปฎิชีวนะของฝรั่ง แต่ยาสมุนไพรนั้นความสามารถในการรักษาโรคเช่นกัน ฉะนั้นคนไทยเราจึงควรให้ความสำคัญกับยาสมุนไพรไทยมากกว่านี้ โดยการจัดรณรงค์ใช้ยาสมุนไพรไทย นำวิถีไทยเดิมกลับมาใช้โดยวิธีนี้ยังครอบคลุมเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย โดยสมุนไพรนั้นมาจากพืช สามารถนำมาปลูกได้ แต่ยาปฎิชีวนะนั้นเราสามารถซื้อได้อย่างเดียว และยังมีราคาสูงอีกด้วย ซึ่งเสียเงิน แต่ถ้าเราปลูกยังสามารถเก็บและนำมาต้มรับประทานได้เลย ซึ่งถือว่าได้ความเป็นเศรษฐกิจพอเพียงด้วยและแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงนั้นยังเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือที่คนไทยเรียกว่า ในหลวง ท่านสอนให้ประชาชนของท่านใช้แนวนี้เป็นแนวปฎิบัติในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและยังสืบเนื่องถึงโครงการของสมเด็จพระเทพรัตนราชสดาฯสยามบรมราชกุมาร หรือที่คนไทยเรียกว่า พระเทพ ที่ช่วยเหลือชาวเขาให้มีงานทำเป็นรายได้เลี้ยงชีพ แทนที่จะเก็บ ฝิ่นขายก็เปลี่ยนมาเป็นการเก็บสมุนไพรตามป่าเขามาทำเป็นยารักษาและยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยาสมุนไพรเผยแพร่กว้างไกลไปถึงต่างประเทศจึงทำให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกจึงทำให้เห็นว่ายาสมุนไพรของคนไทยเรานั้นก็สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ายาปฎิชีวนะที่ทำจากสารเคมีได้เช่นกัน

                       ฉะนั้นแล้วยาสมุนไพรก็มีประโยชน์และสามารถรักษาคนจากรุ่นสู่รุ่นได้โดยที่ไม่น้อยหน้าจากยาปฎิชีวนะเลย เพราะยาสมุนไพรสามารถรักษาคนในอดีตมาจนถึงปัจจุบันได้ เราจึงควรให้ความสำคัญกับยาสมุนไพรมากขึ้น และยาสมุนไพรนั้นจะอยู่คู่กับคนไทยไปตลอดกาล

สมุนไพร ไทยนี้ มีค่ามาก

พระเจ้าอยู่หัว ทรงฝาก ให้รักษา

แต่ปู่ย่า ตายาย ใช้กันมา

ควรลูกหลาน รู้รักษา ใช้สืบไป

เป็นเอกลักษณ์ ของชาติ ควรศึกษา

วิจัยยา ประยุกต์ใช้ ให้เหมาะสมัย

รู้ประโยชน์ รู้คุณโทษ สมุนไพร

เมื่อคนไทย อยู่รอด ตลอดกาล

แหล่งที่มา: http://www.chiangdaoherb.com/store/article/view/คำกลอนสมุนไพร_พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ-92537-th.html