พืช-สัตว์น่ารู้ เรื่องที่คุณอาจไม่รู้

[toeytoeytus]

“ทูน่า ปลาสารพัดประโยชน์”

          ปลาทูน่าในน่านน้ำทั่วโลกนี้ก็มีหลายชนิดหลายสายพันธุ์ต่างกันออกไปแต่ละสายพันธุ์ก็มีลักษณะพิเศษแตกต่างกันไป ซึ่งได้มีการคัดเลือกไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ปลาทูน่าแต่ละชนิดมีความโดดเด่นในการสร้างเมนูที่ต่างกัน โดยพบว่าปลาทูน่าทั่วโลกมีทั้งหมด 4 สกุล และปลาทูน่าที่ได้รับความนิยมของตลาดผู้บริโภคมีอยู่ประมาณ 5 ชนิดเด่นๆ คือ 
1. ปลาทูน่าครีบยาว (Albacore) ลักษณะพิเศษที่เห็นได้ชัดคือ ความกว้างของขนาดลำตัว ซึ่งปลาทูน่าชนิดนี้ได้สมญานามว่า “ไก่ทะเล” (sea chicken) ซึ่งปลาทูน่าชนิดนี้นิยมนำมา บรรจุกระป๋อง บริโภคสด แช่แข็ง

2. ปลาทูน่าครีบเหลือง (Yellow fin Tuna) ปลาทูน่าครีบเหลืองขนาดใหญ่จะพบจุดสีเข้มเป็นแถวตามแนวดิ่งซึ่งปลาทูน่าชนิดนี้ในทางอุตสาหกรรมนั้นนิยมนำมาทำเป็น ทูน่ากระป๋อง บริโภคสด แช่แข็ง ซาชิมิ รมควัน


3. ปลาทูน่าตาโต (Bigeye Tuna) ปลาทูน่าชนิดนี้นิยมนำมาผลิต ซาชิมิ หรือนำมาบริโภค


4. ปลาทูน่าท้องแถบ (Skipjack Tuna) หรือปลาโอบ้านเรานั่นเอง นิยมบริโภคในทางเศรษฐกิจ นิยมนำมาบรรจุกระป๋อง บริโภคสด แช่แข็ง หรือรมควัน 

5. ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน (Blufin Tuna) มีลักษณะค่อนข้างอ้วน สั้น หัวโต ตาโต นิยมนำมาบรรจุกระป๋อง หรือบริโภคสด
ทั้งนี้ลักษณะทางกายภาพของปลาทูน่าจะเป็นตัวกำหนดเป้าประสงค์ในการนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความแตกต่างกัน
1.ปลาทูน่ากระป๋อง เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันและคลอเลสเตอรอลต่ำเป็นแหล่งของวิตามินและเกลือแร่ จะเลือกใช้เฉพาะปลาทูน่าพันธุ์ท้องแถบเป็นปลาที่มีเส้นใยอาหารสูงและเนื้อแน่น ค่อนข้างนุ่ม สีขาว ไม่มีกลิ่นคาว 
2. ซาชิมิ หรือ ปลาดิบ จะเป็นปลาทูน่าที่มีคุณภาพดีและมีขนาดใหญ่ จึงนิยมนำมาทำเป็นซาชิมิที่ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งนิยมนำปลาทูน่าสายพันธุ์ตาโตมาทำเป็นวัตถุดิบ
3. ทูน่าแช่แข็ง  ซึ่งนิยมนำปลาทูน่า สายพันธุ์ Tongol มาผลิต

“ปลา” คงจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆที่หลายคนนึกถึงเพราะปลาเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายที่สำคัญอุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารอีกมากมาย
1. คลอเลสเตอรอลต่ำ ไขมันที่ได้รับจากปลาทูน่าจัดเป็นไขมันชนิดดี
2.โปรตีนสูง ปลาทูน่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ย่อยง่าย ซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายที่สึกหรอ
3. โอเมก้า ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ พัฒนาระบบสมอง
สิ่งที่รับประทานเข้าไปนั้นนอกจากจะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย 
1. ป้องกันโรคหัวใจ การรับประมานเนื้อปลาทุกสัปดาห์ป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ
2. ป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ประกอบด้วยสารเซเลเนียมแร่ธาตุที่ช่วยต่อสู้กับเนื้อร้ายในร่างกาย 
3. ลดความเครียด โอเมก้าทรีที่อยู่ในเนื้อปลานั้นยังช่วยลดระดับของสารเซโรโทนินในสมองของคน
สารอาหารต่างๆไม่เพียงแค่ปลาทูน่าล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าจะหันมาเลือกรับประทานและใส่ใจกับสิ่งนั้นหรือไม่ สิ่งดีๆธรรมชาติได้สร้างมาอย่างสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่คุณจะสนใจมากแค่ไหน

นางสาวณัฐชยา   พลเกษตร  ม.5/2  เลขที่  14
ที่มา : http://www.fisheries.go.th/marine/DeepSea/images/SpeciesTuna.htm


เรื่องราวน่ารู้อีกมากมายที่
http://www.dek-d.com/board/view/3144431/share_topic