ตู้ทิ้งเด็ก ที่โรงพยาบาลเซนโจเซฟ ประเทศเยอรมัน
เครดิต : essentialbaby.com.au
เครดิต : henridamien.blogspot.com
เครดิต : facthai.wordpress.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
เครดิต : tranquilheart.hubpages.com
ตู้ทิ้งเด็ก ที่โรงพยาบาลเซนโจเซฟ ประเทศเยอรมัน
โรงพยาบาลเซนต์โจเซฟ ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน มีตู้ที่เรียกว่า ตู้อบทารก (Baby hatch หรือ Babyklappe) หรือเรียกตามลักษณะการใช้งานว่า "ตู้ทิ้งทารก" เปิดให้บริการ ให้แม่ผู้ให้กำเนิดบุตรแต่ไม่ต้องการหรือไม่สามารถเลี้ยงลูก นำทารกมาวางทิ้งไว้ได้ จากนั้นเด็กจะถูกส่งตัวเข้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือหาผู้อุปการะต่อไป
ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ระบุว่า ตู้ทิ้งทารก ไม่ได้มีเฉพาะแค่ที่โรงพยาบาลเซต์โจเซฟแห่งนี้ ซึ่งถูกใช้งานจริงเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง แต่ยังมีอยู่ที่ 99 แห่งทั่วประเทศ และนอกจากเยอรมันแล้ว ก็ยังมีตู้ลักษณะนี้ในอีกหลายประเทศทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็นโปแลนด์ สาธารณรัฐเชก ฮังการี อิตาลี เบลเยียม เนเธอแลนด์ สวิทเซอร์แลนด์ วาติกัน แคนาดา รวมถึงบางประเทศในเอเชีย อย่างเช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น รวมถึงที่กำลังจะเปิดให้บริการที่เมืองเสิ่นเจิ้น ประเทศจีนด้วย
เมื่อแม่เปิดประตูเพื่อนำทารกมาวางในตู้ ซึ่งมีแผ่นนวมที่ให้ความอบอุ่นรองอยู่ สัญญาณที่ด้านในโรงพยาบาลก็จะดังขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถไปถึงตัวเด็กได้อย่างทันท่วงทีที่ถูกนำมาวางทิ้งไว้ ส่วนผู้เป็นแม่จึงสามารถละทิ้งลูกของตนไปได้โดยไม่ต้องเปิดเผยแม้แต่หน้าตาหรือชื่อเลยแม้แต่น้อย โดยเด็กทารกจะถูกรับตัวไปเลี้ยงดูแลโดยหน่วยงาน สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า หรือเข้าสู่กระบวนการรอรับการอุปถัมภ์ต่อไป แม้จะเป็นการโหดร้ายสำหรับเด็กที่จะเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีทางได้รู้จักพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเลย แต่สำหรับโรงพยาบาลที่เยอรมันแห่งนี้ ผู้ที่นำมาทิ้งจะมีโอกาสกลับไปคิดทบทวนใหม่ และสามารถกลับมารับตัวทารกกลับไปได้โดยไม่มีการติดตามเอาความผิดแต่อย่างใด ภายในระยะเวลา 8 สัปดาห์
แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่อาจหาข้อสรุปหรือทางออกที่ดีได้ว่าควรจัดการกับปัญหาพ่อแม่ที่มีลูกเมื่อไม่พร้อมและการทอดทิ้งเด็กได้อย่างไร และไม่รู้จะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจหรือดีใจ ถ้าหากว่าบ้านเราซึ่งมีข่าวเด็กทารกถูกทิ้งให้เห็นได้บ่อย ๆ ตามหน้าหนังสือพิพพ์ ก็จะมี "ตู้ทิ้งทารก" ขึ้นมาให้บริการบ้าง ..
49 ความคิดเห็น
ของทุกอย่างมักมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
แต่อันนี้เห็นด้วยค่ะ
ในเมือเราห้ามไม่ได้ เราก็ต้องปกกันแทน
แล้วค่อยๆคิดวิธีให้ลดจำนวนการท้องไม่พร้อมลงไปเรื่อยๆ
ดีกว่าไปพยายามหาต้นเหตุ ห้ามต้นเหตุโดยที่ไม่แก้ใขสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
ทิ้งในตู้แบบนี้ก็ดีกว่าทิ้งตามถังขยะ หรือ ที่ๆไม่มีคน แล้วปล่อยให้เด็กน้อยตายอย่างเลือดเย็น
แต่ถ้านำมาใช้ที่ไทย มันจะเป็นการส่งเสริมหรือป่าว? อันนี้ก็ตอบยาก ตามนิสัยคนไทยอะนะ...
แต่ในประเทศไทยทิ้งในถังขยะ
น่ากลัวกว่าต่างประเทศเยอะ
เป็นความคิดที่ดีนะ ถ้ามีในประเทศไทยคงลดการสูญเสียได้เยอะ แต่มันก็เป็นไปได้ยาก
แต่ก็ไม่รู้ว่ามีแล้วจะยิ่งทำให้คนไร้ความรับผิดชอบมากขึ้นรึป่าว
ก็ต้องวางแผนรับมือหาทางแก้ไขต้นเหตุด้วย
ยากจริงๆ ยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ TT
ถ้ามีในไทยก็คงทำให้ส่งเสริมความไม่รับผิดชอบไปกันใหญ่ แต่ก็นะปัจุบันเลือดเย็นกันจริงไปทิ้งไว้ในถังขยะ แต่ที่อยากรู้คือใครจะดูแลเด็ก และจะเอาอะไรเลี้ยงเด็กเพราะถ้าเด็กที่โดนทิ้งมีเยอะล่ะ คุณภาพชีวิตเด็กล่ะ โตไปพ่อแม่หายไปไหนถ้ามีจริงในไทยล่ะก็.... มาส่งเสริมให้ป้องกันดีกว่า เพราะเด็กน่ะชีวิตทั้งชีวิตนะ ไม่ได้เลี้ยงง่ายอย่างที่คิดนะคะ ถ้ามีจริงควรเป็นแนวของการบันทึกพ่อแม่ไว้แต่เป็นความลับและใช้นามสกุลปลอมเพื่อเวลาผ่านไปจะมาอยากได้คืน จะได้พอหากันเจอบ้าง เพราะไม่มีพ่อแม่น่ะ มันโหดร้ายนะคะ
เหมือนดาบสองคม
มองในแง่ดี เพื่อไม่ให้เด็กถูกทิ้งในที่ที่ยากต่อการพบเห็น
มองในแง่ร้าย เป็นการส่งเสริมให้ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ยังไม่พร้อมดูแลบุตรสามารถละทิ้งบุตรของตนได้โดยรู้สึกผิดน้อยลงเพราะอย่างน้อยเด็กก็จะมีผู้เลี้ยงดู
เง้ออออ...สงสารน้อง
อย่างน้อยก็เป็นการแก้ปัญหาที่ดีวิธีหนึ่งนะ ถึงจะมีข้อเสีย แต่วิธีนี้เด็กก็อยู่รอดปลอดภัย โตขึ้นมีชีวิตที่ดีได้ละนะ
แต่เราไม่เข้าใจไม่พร้อมทำไมไม่ป้องกัน....
สงสารเด็กนะ แต่ว่าก็ยังดีกว่าทิ้งในถังขยะ อย่างน้อยโตขึ้นมาก็ยังมีคนดูแล
มีสองด้าน ด้านดีและไม่ดี
แต่ก็ยังดีกว่าคนที่ไม่พร้อมมีบุตรเอาทารกไปทิ้งตามพงหญ้า ตามถังขยะ
หรือเลี้ยงแล้วไม่ค่อยดูแล สงสารเด็ก
อย่างมาก คนที่เค้าอยากมีบุตรแต่มีไม่ได้ เค้าก็จะได้รับไปเลี้ยง
ดีกว่า
แต่บางที่คนรับไปเลี้ยงบางคนก็น่ากลัว
(เห็นในข่าวในบางที น่ากลัว)
จะว่าไป ประเทศไทยเราก็น่านำมาใช้
แต่ถ้านำมาใช้ก็กลัวส่งเสริมให้กับวัยรุ่นอีก
ในอีกแง่มุมนะ...
บางคนรับผิดชอบก็ดีต่อเด็ก
บางคนฆ่าลูกตัวเองเลยด้วยซ้ำ
(จิตใจทำด้วยอะไรอ่ะ T^T)
จะมีตู้นี้หรือไม่มี....ปัญหามันก็เหมือนเดิม ก็คือ มีเด็กที่ถูกทิ้ง
แต่มันจะลดลงก็อยู่ที่จิตสำนึกของเราด้วยอ่ะนะ
มองได้หลายแง่มุมจริงๆ
อยากย้ำนะคะว่า ถ้ายังไม่มีพร้อมมีลูก โปรดใช้ถุงยางค่ะ!!!
โหดร้ายมากพ่อเเม่ต้องเป็นพ่อเเม่ที่ใจเเข็งเเน่เลย
ก็ดีขึ้นมานิดนึงอ่ะ
จะได้หมดปัญหาทิ้งเด็กไว้ในถังขยะหรืออื่นๆ
(สงสารเด็กจัง)
ก็ดีกว่าให้พ่อแม่ที่ไม่พร้อมฝืนเลี้ยงไปวันๆ
มีคนอุปการะไปก็จะได้อยู่ในความพร้อม ผมว่ามันดีจะตายไป
คนเป็นพ่อเป็นแม่ ถ้าเขาคิดจะทิ้งไม่ว่าจะมีตู้หรือไม่มีเขาก็ทิ้ง
แต่ถ้าเขาคิดจะเลี้ยงถึงจะมีตู้แล้วแถมเงินเขาก็ไม่ทิ้งลูก
เราว่ามีก็ดีนะเด็กจะได้ไม่ตายอยู่แถวๆ ถังขยะ ในส้วมหรือท่อระบายน้ำ
นำมาใช้ที่ไทยนี่ อาจจะกลายเป็นสงเสริมไปได้เหมือนกัน
แต่คิดว่ายังดีกว่าปล่อยให้เด็กถูกทิ้งตายจริง ๆ นั่นแหละ
เดี๋ยวนี้ต้องรณรงค์ว่ามีเพศสัมพันยังไงให้ปลอดภัยและไม่ท้อง
เรื่องป้องกันไม่ให้เสียตัวก่อนวัยอันควรเป็นไปได้ยาก
เพราะมันถูกฝังมานาน
ต้องปลูกจิตสำนึกเรื่องนี้อีกหลายปี กว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
ตอนนี้คงต้องแก้ปัญหาที่ป้องกันการสูญเสียชีวิตของเด็กจะดีกว่า
มันแล้วแต่จิตสำนึกของคนด้วยครับ ถ้าเขาไม่สามารถที่จะเลี้ยงได้จริงๆก็เป็นทางออกที่ดีต่อตัวเด็กและคุณแม่เองด้วย
ไอเดียก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี เพราะต่างประเทศมีการรับบุตรบุญธรรมเยอะอยู่สำหรับคนมีลูกไม่ได้ แต่ว่าถ้ามาไทยคงเป็นข้อเสียมากกว่า เพราะทุกวันนี้เด็ก12-17 มีลูกกันเยอะมาก คงได้มีเอาไปทิ้งที่ตู้นี่ทุกวัน-..-
สังเกตมั้ยครับ ประเทศที่เขามี มีเเต่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่เหมือนเมืองไทยที่พบปัญหานี้บ่อยมาก (ไม่พร้อมที่จะมีบุตร) เช่นที่เขากล่าวมา ที่เยอรมัน โรงพยาบาลเซนต์โจเซฟ ถูกใช้เฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งถ้ามันมีในไทย มันคงมีทุกวัน ผมไม่ได้มองว่ามันโหดร้ายนะ ถ้าคุณเลี้ยงเด็กด้วยความไม่เต็มใจ ไม่มีความพร้อม ใครละที่จะบาดเจ็บที่สุด ก็เป็นเด็กแฟละครับ อาจโดนลงโทษ ทารุณ เพราะพ่อแม่ไม่รัก เด็กจะถูกเลี้ยงดูมาในสภาพที่ไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโต ส่งผลกระทบทั้งทางด้านจิตใจ ร่างกาย และอาจกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป ผมว่าที่เขาทำมาคงเพราะมองตรงนี้ ถ้าเอาเด็กที่พ่อแม่ไม่พร้อมมาเลี้ยงดูหรือหาคนเลี้ยงแทน มันก็น่าจะดีกว่า สำหรับพ่อแม่ที่ไม่ต้องการจริงๆ อย่าลืมว่าคนที่ไม่ต้องการ ก็ไม่ต้องการจริงๆนะครับ ถึงไม่มี-ตู้นี้ อยากจะทิ้ง ยังไงมันก็ทิ้งอยู่แล้ว สู้สร้างช่องทางให้เด็กมีโอกาสมากขึ้นเถอะครับ แต่ยังไงผมก็ว่ามันไม่เหมาะกับไทยแน่นอน 555 ดูซีเรียสวะ
เวอร์เกินไปแล้วค่ะ เด็กที่ไม่มีพ่อแม่ก็สามารถโตมาปกติได้ค่ะ
ไม่จำเป็นต้องทำตัวแย่เลยร้าย แล้วมีอย่างที่ไหนที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้คะ
เพลียกับคุณจริงๆ
ตามโบสถ์ฝรั่งประเทศอื่นก้มี เขาเรียก ตระกร้ารับเด็ก แหม่คนไทยก็แปลซะดีเชียว ตู้ 'ทิ้ง' เด็ก แบบนี้เขาไม่เรียกทิ้งค่ะ มีคนรับดูแลต่อ สามีภรรยาที่มีลูกยากก็เยอะเขาอยากได้
บอกตรงๆ ถ้า 'ทิ้ง' จริง ต้องถังขยะไม่ก็แท้งเกลื่อนเมืองแบบไทย
ประเทศไทยคงล้นตู้
สงสารเด็กอะ....
5555 คงจะอย่างนั้น
เห็นด้วยค่ะ
แต่พวกที่เอามาทิ้งนี่สิ คงไม่มีใครนั่งอยู่ดีๆแล้วมีเด็กมาโผล่ในท้องหรอก ถ้าโดนข่มขืนมาแล้วเอาเด็กมาทิ้ง มันก้อีกเรื่องนึง แต่เชื่อสิ คนส่วนใหญ่ที่เอามาทิ้ง เค้าทำตัวเองกันทั้งนั้น
.... อย่างน้อยเด็กก็ยังได้มีชีวิตอยู่ต่อค่ะ #ถึงแม้ว่ามันจะมีข้อเสียบ้างแต่อย่างน้อยมันก็แก้ไขปัญหาได้ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ
ดูการ์ตูนมากไปรึเปล่าครับ ผมก็พี่ชายพี่สาวเลี้ยงมา
เพราะแม่เสียแต่เด็กก็ยังอยู่กับคนอื่นได้เลย
มันอยู่ที่การเลี้ยงดู =_=
ผมว่าควรมีนะครับ เพราะต้นเหตุแก้ได้ยาก แต่ประเทศไทยก้มีเยอะเด็กถูกทิ้งให้เสียชีวิตบ้าง
ส่วนที่มันส่งเสริมก็แก้ปัญหากันต่อไป แต่ไอตู้ทิ้งเด็กนี้ผมว่าเขาแก้ปัญหาเด็กทารกที่ถูกทิ้งนะครับ
เพราะถ้าไม่มี ลองนึกดูสิครับ เด็กจะถูกทิ้งในที่ลับตาคนและมีโอกาศที่จะเสียชีวิตสูง
การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกับปลายเหตุมันต่างกัน
เราว่าก็ดีอย่างนะ ดีกว่าทิ้งเด็กตามข้างถนนไม่รู้ว่าเด็กจะรอดหรือเปล่า[bb-004]
ประเทศไทยก็มีตู้ทิ้งเด็ก TT
ูตู้ทิ้งเด็กของไทย (น่าสงสาร)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?