Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[กระทู้พลีชีพ] จากใจพี่ว๊ากคนหนึ่ง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงนี้เปิดเทอมเเละเป็นช่วงรับน้อง เเน่นอนความสนุกในชีวิตเฟรชชี่เริ่มต้นเช่นกัน เเละดราม่าที่ตามมาคือ การว๊ากน้องของพี่บ้าอำนาจ สั่งให้ทำนู่นนี่ บลาๆ รำคาญมันมากเลยเเต่ทำไรไม่ได้ มีสองอย่าง คือ อดทนทำตามที่พี่สั่ง กับไม่เข้าร่วมกิจกรรม

พี่เป็นคนหนึ่งที่ผ่านกิจกรรมรับน้องมาเเล้วเเละทำหน้าที่เป็นพี่ว๊าก ส่วนตัวพี่คิดว่ามันเป็นการละลายพฤติกรรมรูปเเบบหนึ่งที่ต่างจากกิจกรรมสันทนาการ เต้นๆ เล่นเกม ว๊าก ตะคอก เสียงดัง ต่างกันเเต่ก็เหมือนกันเเทบเเยกไม่ออก ส่วนตัวเเล้ว พี่ขอใช้ เสียงดังเเล้วกันนะคะ การที่พี่ว๊ากหรือกดดันน้องเป็นการดึงอารมณ์ให้น้องทนต่อสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้น้องเห็นอกเห็นใจกันในสถาณการณ์เดียวกัน การสามัคคีเเละการเป็นผู้นำ การมีสติจะทำน้องผ่านภาวะกดดันมาได้ การสอนในเเต่ละรูปเเบบย่อมเเตกต่างกันออกไปซึ่งน้องจะรับรู้เเละเข้าใจในเหตุผลที่พี่ทำลงไปนั้นหรือไม่อยู่ที่ตัวน้องจะเปิดใจยอมรับหรือไม่

(มหาลัยพี่เป็นอย่างนี้)
พี่รู้อยู่เเล้วว่าว๊ากน้อง น้องไม่ชอบ บางคนถึงขั้นเกลียด รำคาญ คนที่เป็นว๊ากได้ต้องเสียสละนะคะ ยอมให้น้องเกลียดทั้งที่รักน้อง อยากคุย ห้ามเเตะตัวน้อง เวลาโดนตัวน้องต้องขออนุญาิติจากน้องก่อน อยากเล่นกับน้องเหมือนพี่เชียร์ พยาบาล ลีด สวัสดิการ เเต่ทำไม่ได้ ต้องทำหน้าขรึมเหมือนโกรธใครมา
ทำทุกอย่างต้องมีเหตุผลรองรับทุกการกระทำ ไม่ใช่ว่าฉันอยากทำ
น้องเหนื่อยพี่เหนื่อยกว่า น้องวิ่งพี่ต้องวิ่งนำน้อง
น้องทุกคนอยู่ในความดูเเลของพี่ว๊าก เพราะพี่ว๊ากเป็นฝ่ายที่สอนน้อง พูดคุยกับน้อง ทำโทษน้องเวลา้น้องทำผิด เวลาน้องโดนทำโทษจะมีพี่โดนด้วย
เมื่อน้องเป็นอะไรไปพี่ว๊ากคือฝ่ายเเรกที่จะโดนทางมหาลัยสอบสวน เมื่อน้องไม่สบายพี่ว๊ากจะคอยดูเเลโดยเเจ้งพี่ฝ่ายพยาบาล เเละติดตามอาการน้อง
ต้องส่งน้องเข้าหอทั้งที่พี่ต้องกลับมาประชุมที่คณะอีก ง่วงเหนื่อย ก็ต้องทน

พี่ไม่รู้นะคะว่าที่อื่นเป็นเเบบไหน เเต่ให้เชื่อไว้เสมอเเหละค่ะว่าพี่ทุกคนรักเเละหวังดีกับน้อง เพียงเเต่ว่า พี่เค้าจะเเสดงออกเเบบไหน ไม่มีใครอยากให้ตัวเองโดนเกลียดทั้งที่มันเป็นหน้าที่
เมื่อเราทำหน้าที่นี้เเล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุด

พื้นที่นี้ขอเเสดงความคิดเห็นเล็กน้อยของพี่ที่ทำหน้าที่ว๊ากคนหนึ่งเเม้ว่า น้องจะไม่ชอบก็ตาม เมื่ออยู่ในบทพี่ว๊ากก็ต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เมื่อยู่ในหน้าที่พี่ พี่ก็รักน้องทุกคน (ทุกวันนี้ต้องสร้างเฟสปลอมเพื่อคุยกับน้อง เพราะหน้าที่พี่ว๊ากค้ำคออยู่ T_T)อ่อ เเยกให้ออกนะคะ พี่เชียร์กับพี่ว๊ากไม่เหมือนกันนะคะ เเต่โหดพอกัน ;-)

จากที่พี่อ่าน คหสต. จากหลายๆท่านเเล้ว เเต่ละคนต่างมีความคิดเห็นต่างกันออกไป พี่เชื่อค่ะว่า ส่วนใหญ่รำคาญ อีว๊ากนี่มากเลย เเต่สำหรับพี่เเล้วรับฟังทุกความเห็นค่ะ เพราะเราอยู่ในสังคมที่ทุกคนสามารถเเสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี เเล้วใครใช้ให้พี่ว๊าก หากลองเปิดใจฟังถึงเหตุผลของพี่ทุกคนไม่มีใครอยากให้น้องเกลียดหรอกค่ะ เเต่พี่เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกประทับใจในหน้าที่นี้ เพราะต้องเหนื่อย เสียสละ  น้องทำโทษพี่ก็ต้องโดนด้วยเเต่ไม่ให้น้องเห็น เวลาลงน้องพี่กลัวมาก กลัวว่าน้งจะร้องไห้ กลัวว่าน้องจะเป็นอะไรไป เเต่เมื่ออยู่ในบทพี่วาก พี่ต้องทำ นี้เป็นอีกคำถาม ถามว่าพี่เจ็บคอมั้ย ไม่ค่ะ เพราะพวกพี่ว๊ากผ่านการฝึกช่วงปิดเทอมมาเป็นเดือนๆ พวกพี่ใช้เสียงจากท้องไม่ได้ใช้คอ เเบบตะโกนตะคอกเเหกปาก เเบบนั้นมันน่ากลัวเกินไป พวกพี่ต้องวิ่งฝึกเสียงให้กังวานเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองเจ็บคอ เวลาใช้เสียงน้องก็มองว่าว๊าก เเต่ความจริงเเล้วพี่ใช้ลมจากท้องเปล่งออกมา จึงไม่เจ็บคอเเละเสียงไม่เ้น้นว๊ากเหมือนตะคอก ไม่ว๊ากใส่น้องคนเดียวไม่ตะคอกใส่น้อง นี่คือสิ่งที่พี่ว๊ากทุกคนปฎิบัติ

จากที่อ่านมาหลายความคิดเห็น หลายคนยังเข้าใจกับคำว่า พี่ว๊าก ผิดไปจากเจตนาเดิมนะคะ ที่อื่นเป็นอย่างไรพี่ไม่รู้ เเต่พี่มันคือหน้าที่ที่สำคัญ  น้องป่วยน้องไม่สบายพี่ก็ต้องดูเเล ส่งถึงหอ ซื้อยาให้ โทรถามอาการ เรียกรถฉุกเฉิน พาน้องไปโรงพยาบาล  หลายคนบอกว่าลองไม่ว๊ากสิ พี่ลองเเล้วค่ะ ปรากฎว่า น้องเหลว ระเบียบเละมาก ที่จริงพี่ไม่ได้ว๊ากนะคะ เพียงเเค่ใช้เสียงดัง เราต้องผ่านการฝึกทา้งด้านร่างกายเเละจิตใจ เราต้องสวมบทบาทเป็นน้อง ว่าน้องไม่ชอบอะไรพี่จะไม่ทำอย่างนั้น เเต่พี่ใช้เสียงดังเพื่อคุมน้องทั้งคณะให้ฟัง ดึงจุดสนใจของน้อง เช่น เรื่องการไห้ว อันนี้หน้าที่พี่ว๊ากที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าน้องไม่ไห้วพี่ก็ทำโทษ พี่ก็โดนด้วย เพราะพี่ต้องให้น้องไห้วทุกคนเพราะอะไรลองฟังเรื่องเล่าจากพี่นะคะ
มีพระราชาองค์หนึ่งเดินทางเข้าป่าพร้อมพระโอรส พระราชาเจอนักบวชจึงก้มกราบ พระโอรสเห็นจึงได้เก็บความสงสัยไว้ว่าทำไม พระราชาที่ปกครองเมืองต้องก้มลงกราบนักบวชผู้ต่ำต้อยด้วยเล่า พระโอรสจึงตรัสถามความสงสัยนั้น พระราชาไม่ตอบสั่งให้พระโอรสไปหาศรีษะมา 3 อย่าง มีศรีษะเสือ ศรีษะเเพะ เเละศรีษะมนุษย์(ที่ตายเเล้ว) พระโอรสจึงไปหามาได้ พระราชาจึงให้นำไปวางขาย ปรากฎว่าศรีษะเเพะเเละเสือขายได้ เเตไม่มใครซื้อศรีษะมนุษย์ ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้คืออะไรคะเมื่ออ่านจบ  ศรีษะมนุษย์เป็นของสูง เเต่เมื่อตายไปเเล้วกลับใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้จากนิทานเมื่อข้างต้น จะเห็นได้ว่าพระราชาก้มลงกราบนักบวชเเสดงถึงความนอบน้อม ใครเห็นก็เอ็นดู รักใคร่ เเต่เมื่อศรีีษะมนุษย์ที่ตายไปกลับมีเเต่คนรังเกียจ ดังนั้นเมื่อเรายังสามารถเเสดงความนอบน้อมต่อผู้อื่นได้จึงควรทำ 

พี่เชื่อค่ะว่า มีคนส่วนใหญ่ที่เกลียดการรับน้องเเบบนี้เเต่ พี่ทุกคนมีเหตุผลที่ทำลงไป วันที่ปิดกิจกรรมรับน้อง เฟรชชี่หน้าใสทุกคนจะรู้จากหัวใจของน้องเองเลยค่ะว่า ที่พี่ทำไปเพราะพี่รักน้อง น้อมรับทุกความคิดเห็นค่ะ หวังว่าเสียงพี่คนนี้จะส่งไปให้ถึงหัวใจเฟรชชี่ทุกคนนะคะ

น้องเอยขวัญน้องอย่าหวั่นภัย   จากบ้านพ่อเเม่มาไกลขอพี่นี้ดูเเลเเทน
  

แสดงความคิดเห็น

>

579 ความคิดเห็น

SyncOre 11 ส.ค. 57 เวลา 16:58 น. 1

ครับ ผมทำงานมา 3 ปีตำแหน่ง purchase office ของ บมจ. แห่งหนึ่ง
ตอนนี้ลาออกแล้ว เรียนอยู่ วิศวะ ปี 2 ผมพูดได้ใช่ไหมครับ

ผมบอกเลย ว่าถึงผมจะอายุน้อยตอนทำงาน แต่แรงกดดันที่ผมได้ไม่แพ้ พนักงานท่านอื่นเลย
ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้าคุณทนแรงกดดันที่พี่ว้ากส่งให้คุณไม่ได้ คุณจะใช้เวลาปรับตัวนานมาก
ในที่ทำงานทำงานวันแรก ๆ คุณอาจจะแอบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำเลยก็ได้
ที่เค้าว่ากันว่า ฝึกรับแรงกดดัน เพื่อตอนทำงาน ใช้ได้จริงครับ อยู่ที่ว่าคุณจะมีภูมิคุ้มกันมากแค่ไหน ไม่ได้มโนครับ

ผมไม่เก่งศัพท์เฉพาะทางนะครับ ความรู้ไม่ค่อยเยอะ แต่ผมทำงานเป็น
ที่คณะผม ไม่มีการแบนครับ ใครไม่เข้ามันเป็นสิทธิของเขา เราไม่มีการบีฟ
และเราสอนน้องว่าไม่ให้แบนเพื่อน แยกให้ออกนะครับ แบน กับ ไม่ชอบส่วนตัวไม่เหมือนกัน

ผมไม่ใช่พี่ว๊ากครับ ผมอยู่ฝ่ายสันทนาการ แต่ก็มีบางจังหวะที่น้องไม่ฟังและผมต้องเสียงดัง
เชื่อเถอะครับ ถ้าไม่มีพี่ว๊าก เละครับ คณะจะไม่ใช่คณะอีกต่อไป ทุกคนก็จะไม่เห็นความสำคัญ
ของคณะของการรับน้อง พอน้องไม่เคยโดนว้าก ไม่เคยโดนซ่อม พอน้องมีน้อง
น้องจะเอาอะไรไปสอนน้องของน้องครับ หรือจะต่างคนต่างอยู่ไป ?

0
funyfm 11 ส.ค. 57 เวลา 16:58 น. 2

แบบเวลาเห็นเพื่อนโดนทำโทษโดนว้ากเดี่ยวทั้งที่ไม่ได้ทำไรผิด บางทีพี่ก็แกล้ง คือเราก็สงสารเพื่อนป้ะ แบบจะช่วยก็โดนด่า พอนั่งตามที่พี่บอกก็โดนด่า อ่าว ฟ?ั ... แบบน้ำตาตก ไมพี่ทำงี้ ไม่หนุกนะ สงสารเพื่อน เส้า ยกเลิกเถอะว้งๆว้ากๆ?

0
Lalatar 11 ส.ค. 57 เวลา 16:51 น. 3

เราใช้เสียงดังเพื่อให้น้องฟังพี่ เพื่อให้น้องมีสติเวลาที่พี่เเจ้งข่าวหรือสื่อสารกับน้อง ดังนั้นพี่ให้น้องเงียบเเล้วฟังสิ่งที่พี่พูด เราจะเรียกน้องมาเข้าเเถวก่อนส่งต่อให้เชียร์เช็คชื่อน้อง ถ้าน้องหายไปพี่จะถามน้องถ้าน้องเป็นอะไรไปพี่ก็จะไปหาที่หอซึ่งพี่จะให้เพื่อนในเเถวตอบ หากเพื่อนไม่ทราบพี่ก็จะโทรตาม เหตุผลการอดทน การรับน้องของเราคือการทำกิจกรรมวิ่งค่ะ วิ่งตอนเช้า พี่จะบอกให้น้องอดทนเสมอเมื่อไม่ไหวจริงๆ พี่จะเข้าไปช่วยพาขึ้นรถ ถามว่าวิ่งทำไม เราวิ่งเพื่อให้น้องร้องเพลงเชียร์เเล้วเสียงกังวาน มันจะมีน้องบางคนที่เห็นเเก่ตัวเพื่อนไม่สบายเเต่ตัวเองกลับนั่งปล่อยให้เพื่อนยืน พี่ว๊ากมักจะให้น้องอดทนเพื่อให้เพื่อนคนที่ไม่สบายจริงๆได้พัก เเละก็เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกให้น้องไม่เห็นเเก่ตัว หากเพื่อนไม่ไหวน้องต้องเสียสละให้เพื่อนที่ไม่สบายพัก เเล้วคนที่อดทนได้ไปวิ่งต่อ มันอาจไม่เห็นอะไรนะคะ เเต่ความจริงใจจะได้กันตรงนี้เเหละค่ะ

0
funyfm 11 ส.ค. 57 เวลา 16:51 น. 4

แค่รับน้องของม.ปลายโดนพี่เค้าว้ากใส่เหมือนมหาลัยแค่นี้น้องก็เกลียดพี่ไปเยอะแล้วอ่ะค่ะ แบบหนูกับเพื่อนนี่เกลียดไปเลยจริงๆ เจอหน้าก็แบบ พี่นี่ไงๆๆๆ ไม่อยากให้มีจริงๆนะเสียความรู้สึกไงไม่รู้ แต่ละคนไม่ได้เหมือนกันนะคะ บางคนก็เซนซิทิฟเกินไป เจออะไรแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ จริงๆก็เข้าใจอยู่แต่ไม่ชอบค่ะ มากกกกกกกกก.

0
~ล่องลอย~ 11 ส.ค. 57 เวลา 00:18 น. 5

เป็นเฟรชชี่ค่ะ หนูเข้าใจพี่ว้ากนะคะ เป็นกำลังใจให้ พี่ว้ากคณะหนูซึนมากค่ะ จะให้พักยังต้องด่านำ แต่ไม่เนียน น่ารักดี 555


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

โสระกา 11 ส.ค. 57 เวลา 11:50 น. 8

จะตะคอกตะโกน ก็ทำไปเถอะครับ อยากให้น้องไหว้ก็ทำไปเถอะครับ แต่เวลาถามคำถามที่ตอบอะไรไปก็ไม่ถูกเนี่ย เซ็งที่สุดครับ คำถามที่ต่อให้พี่โดนเองก็ตอบไม่ได้อ่ะครับ?

0
Hologous 11 ส.ค. 57 เวลา 11:55 น. 10

คนมันมาจากหลายที่ จะละลายพฤติกรรม หรือทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยการพูดดีๆ ปลอบ โอ๋ น้องทำอย่างนั้นนะ น้องฟังพี่ก่อนนะ ทำึความรู้จักคนข้างๆนะคะเพราะอยู่สถาบันเดียวกันจะได้พึ่งพากัน ตั้งใจนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงหนม มันเป็นไปได้ยาก?

การว๊ากนี่แหละเห็นผลเร็วดี
ป.ล.แต่เราก็กลัว

0
ปราชญ์วรา 11 ส.ค. 57 เวลา 11:55 น. 11

เข้าใจนะคะว่าพี่ว๊ากต้องแบกรับอะไรไว้บ้าง
แต่ตอนที่เราอยู่ปี 1 เคยโดนพี่ว๊ากตะคอกใส่หน้า (คนเดียว) เพราะพี่ดาวน์ไม่ทัน
นั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เราไม่ชอบพี่ว๊ากเอามากๆ
ตอนนั้นก็ยอมรับนะคะว่าไปกวนประสาทพี่เค้า เพราะเราก็แอนตี้โซตัสมาตั้งแต่แรก
แถมยิ่งมาโดนตะคอกใส่หน้าบนแสตนด์ (ถึงไม่มีการแตะตัวตามกฏ แต่ตะคอกใส่หน้าแบบใกล้มากๆ ความรู้สึกมันไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกค่ะ)
โดนว๊ากเดี่ยวล่างแสตนอีก เพราะเราเป็นเฮดงานคัทเอาท์ เพื่อนไม่ยอมทำงาน เราขอยังไงเพื่อนก็ไม่ช่วยกัน จนเราต้องก้มหน้าทำคนเดียว พองานมันออกมาไม่ดี พี่รู้ก็หาว่าเราไม่ยอมให้เพื่อนช่วยเลยโดนว๊ากแยก

ปล.พี่ว๊ากที่ใช้เหตุผลกับอารมณ์ มันต่างกันแค่เส้นบางๆ ขอให้คนที่เป็นพี่ว๊ากระวังจุดนี้หน่อยนะคะ ที่เราโดนเพราะพี่ดาวน์ไม่ทันนี่ก็จำไปจนตายละค่ะ พาลมองหน้าพี่เค้าไม่ติดอีก

0
คุณหญิงนฤมล 11 ส.ค. 57 เวลา 11:58 น. 13

มิทราบว่ามีอะไรที่สนับสนุนทฤษฎีนี้หรอคะ?
คนที่ผ่านการว้ากน้องมาหลายต่อหลายรุ่นก็ใช่ว่าจะดีไปซะหมด

และการที่พี่มาว้ากน้องเสร็จแล้วมาดีตอนหลังนี่ฉันคนนึงที่ไม่ชอบค่ะ
มันเหมือนการตบหัวแล้วลูบหลัง..

0
Porporlee 11 ส.ค. 57 เวลา 12:04 น. 14

ขอยาวๆ หน่อยละกันค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าการสร้างดราม่ากดดัน(ว้าก)ให้เด็ก หรือคนในรุ่นตัวเอง ให้เข้ากิจกรรมนั้น ค่อนข้าง 'effective' ในด้านเกณฑ์คนมาทำกิจกรรม และอาจจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นผ่านกิจกรรมดราม่า ที่ผ่านอะไรที่มีอารมณ์ร่วมกัน แต่ในขณะที่การดราม่าทำให้คนเข้ามาร่วมกันทำกิจกรรมและสนิทกันในกลุ่มที่ผ่านการดราม่ามาด้วยกันนั้น มันเป็นการสร้างแรงกดดันให้รู้สึกเกลียดคนที่เขาไม่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวโดยไม่รู้ตัว "ทำไมแม่งไม่มาวะ/เห็นแก่ตัวว่ะ/ไม่ช่วยเพื่อน Etc."
ซึ่งการรับน้องแบบนี้มันจะทำให้ได้ กลุ่มน้องกลุ่มนึงที่รักกันมากๆ แล้วเกลียดคนอีกกลุ่มที่ถูก branded ให้เป็นพวก ไม่ทำงาน/ไม่ช่วยเพื่อน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ส่วนตัวเราเชื่อว่าการรับน้องแบบนี้มัน เฟล ที่จะบรรลุจุดประสงค์ที่จะทำให้น้อง หรือเพื่อน "รักกัน" ถ้าหากมันสร้างความ"เกลียดชัง"
ไปพร้อมๆกันใน process นั้นๆ
ดังนั้น เราจึงเกลียดแนวคิดการบังคับน้องร่วมกิจกรรมเอามากๆเพราะมันดู เป็นแนวคิดที่ 'hypocrite' เอามากๆ
ถ้าจะว่าไอว้ากเนี่ยมันเสริมสร้าง resistance เกี่ยวกับแรงกดดันในการทำงาน คือ คุณ-ทำงานกันแล้วหรอถึงรู้ว่าแรงกดดันในการทำงาน กับแรงกดดันที่มโนๆ สรรสร้างขึ้นมาเนี่ยสามารถเทียบกันได้
อ่อ ทำงานได้เงินเดือนด้วยนะคะ ส่วนแรงกดดันที่มาจากรับน้องนี่ได้อะไรคะ?

0
Por Peeravit Boonsat 11 ส.ค. 57 เวลา 12:07 น. 15
ทำให้นึกถึงนิยายsotusเลย
- "น้องเหนื่อพีก็ต้องเหนื่อยกว่า"?พีอาทิตย์ได้กล่าวเอาไว้
- ?"
ฮ่า ๆ กลัวอะไรล่ะค่ะน้อง พี่ว้ากเขาไม่ได้ดุขนาดนั้นหรอก เขาก็ทำไปตามหน้าที่ -ที่น้องโดนทำโทษกันน่ะ พวกพี่ว้ากเขาทำมาหมดแล้ว ถึงจะมาสั่งพวกน้องได้ ไม่ใช่ลงโทษเอาตามความสะใจ เขาต้องฝึกเป็นเดือน ๆ นะกว่าจะได้แบบนี้ เพราะต้องคุมอารมณ์ตัวเองให้อยู่ เวลามีสถานการณ์ฉุกเฉินอะไรจะได้รับมือไม่ให้น้องเป็นอันตราย" พีฟางได้กล่าวเอาไว้?
-
?จริง ๆ แล้วพี่ไม่อยากให้น้องโกรธหรือเกลียดพี่ว้ากเลยนะ เพราะมันเป็นแค่หน้าที่ที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญ พวกน้องรู้มั้ยว่า...คนที่ห่วงพวกน้องมากที่สุด ก็คือ...พี่ว้ากเนี่ยแหละ? พีฟางก็ได้กล่าวไว้
ส่วนหนึ่งจากบทที่เขียนในนิยาย555 ตรงโคตร(ชักอยากโดนซะแล้วซิแต่ต้องรออีก3ปี)
0
wallop 11 ส.ค. 57 เวลา 12:12 น. 16

ลองไม่มีว๊าก ซักรุ่นดีมั้ยครับ คําถามเล็กๆ เเล้วในกระทู้ มันคือความในใจครับ เขาทำงานเป็นทีมครับ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

podin 11 ส.ค. 57 เวลา 12:14 น. 18

คุณเลือกที่จะทำในสิ่งที่ดีได้ แต่คุณไม่ทำแล้วหาข้ออ้างว่าสิ่งที่ทำคือหน้าที่ ?จริงๆแล้วหน้าที่คุณคือเรียนหนังสือ ไม่ใช่หรอ??? ?

อย่าตกเป็นเหยื่อของประเพณีบ้าบออะไรแบบนี้เลย?

0
TonChai 11 ส.ค. 57 เวลา 12:15 น. 19

ผมไม่รู้ว่านี่เรียกเหตุผลของการว้ากรึป่าว แต่ผมคิดว่าเป็นการ 'แถ' ของคนที่อยากว้ากมากกว่า อย่าอ้างว่าให้น้องอดทน อย่าอ้างว่าละลายพฤติกรรม มันไม่สมเหตุสมผล หลายๆที่ว้ากแบบหาเรื่อง ไม่มีเหตุผล ไม่มีคนดูแล รูมเมทผมเป็นไฮเปอร์ 2 รอบ จากการโดนว้าก 2 ครั้ง โดยมีแต่รุ่นพี่ที่ไม่มีความรู้เรื่องไฮเปอร์มาดูแล ปฐมพยาบาลแบบโง่ๆ เอามาส่งที่ห้องทั้งๆที่อาการยังหนัก ให้ผมมาดูแลเอง แล้วมันก็ไป อย่าแถให้กิจกรรมโง่ๆนี้มีประโยชน์ มีคุณค่า กิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนๆ และพี่กับน้องมีมากมาย กิจกรรมที่สร้างสรรค์มีตั้งเยอะ ?มีคำกล่าวว่า คณะไหนมีรุ่นพี่โง่ๆเยอะ ก็จะมีว้ากเยอะ ถึงมันจะดูแรงไปหน่อย แต่มันก็จริงนะ เพราะคนที่มีการศึกษาจริงๆ เขาจะไม่ทำกัน ขึ้นชื่อว่าได้อยู่ในมหาวิทยาลัย ก็น่าจะทำตัวให้เหมือนคนมีการศึกษาหน่อย
ปล.เรื่องรูมเมทผม ที่พี่ไม่ไปส่งโรงพยาบาล เพราะกลัวเรื่องถึงอาจารย์ นี่มันเป็นเรื่องผิดชัดๆ?

0
Youseejeam 11 ส.ค. 57 เวลา 12:17 น. 20

? ? ?เอิ่ม ม.ของผมไม่มีพี่ว้าก ก็ไม่เห็นรุ่นน้องเดือดร้อนหรือไปทำอะไรไม่ดีงามนา ทุกวันนี้ก็สามัคคีกันดี รุ่นพี่เห็นเราเป็นน้องที่ดีไม่ต้องว้ากก็คุยด้วยเหตุผลกันรู้เรื่อง ส่วนพฤติกรรมที่หลายคนอ้างว่าต้องละลายกันนั้น ผมคิดว่ามันอยู่ที่สังคมในพื้นที่มหาลัยนั้นๆมากกว่า ถ้ามีนักศึกษาที่ใช้เหตุผลกันและยอมฟังคนอื่นก็ไม่ต้องไปว้ากหรือกดขี่รุ่นน้องให้เปลืองน้ำลายหรอก ส่วนคนที่ไม่ดี ว้ากใส่ทุกวันสันดานก็ไม่เปลี่ยนหรอกครับ ยังไงก็เป็นตัวถ่วงในรุ่นตัวเองอยู่ดี

? ? สุดท้ายนี้ผมคิดว่านักศึกษาควรใช้วุฒิภาวะ ความรู้ความสามารถมาร่วมคุยกัน มากกว่าใช้ความอาวุโสชั้นปีสูงกว่ามาบังคับ กดขี่ ว้ากใส่รุ่นน้อง ถ้ารุ่นน้องเค้าไม่มาร่วมกิจกรรมก็ปล่อยเค้าไป สุดท้ายแล้วกรรมก็ตกอยู่กับตัวรุ่นน้องเองเพราะการเรียนสร้างความเป็นคน กิจกรรมสร้างความรู้งานแถมได้มิตรภาพระหว่างงานครับ

ป.ล. มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่สำหรับอารยะชนผู้มีการศึกษามีปัญญาและเหตุผล ไม่ใช่พื้นที่ของสัตว์ป่าที่จะมาคำรามโอ้อวดอำนาจความอาวุโสใส่กัน

0