Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แนะนำ 15 เมืองน่าเที่ยวในทวีปยุโรป ที่คนไทยไม่ค่อยจะรู้จัก

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หากพูดถึงยุโรป เมืองที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีก็คงจะหนีไม่พ้น ปารีส ลอนดอน โรม
บาเซโลน่า ปราก อะไรประมาณนี้ เนื่องจากเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ไม่ว่าใครก็ต้องแวะมาเที่ยวหากได้มายุโรปนั่นเอง

แต่เพื่อนๆรู้ไหมว่า ยังมีเมืองอื่นๆในยุโรป ที่น่าสนใจและน่าเที่ยวมากไม่แพ้เมืองดังๆเลย แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้จักสักเท่าไหร่ จะมีเมืองไหนบ้งเราไปดูกันครับ




1. อูเทรคต์ (Utrecht) : เนเธอร์แลนด์

นอกเหนือจากอัมสเตอร์ดัมที่เพื่อนๆรู้จัก ยังมีเมืองเล็กๆที่ชื่อว่า อูเทรคต์ ซึ่งตั้งอยู่ริมคลอง และเป็นอีกเมืองที่มีกังหันลม เป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยสงครามโลก และโชคดีที่ไม่ถูกทำลายไป ทำให้สภาพหน้าตาของเมืองยังคงเหมือนสมัยปี 1700s เป๊ะ



2. เอดินเบอระ (Edinburgh) : สหราชอาณาจักร

เมืองหลวงของแคว้นสกอตแลนด์ และเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคกลาง พร้อมความเขียวขจีร่มรื่นตามแบบฉบับเมืองชนบท และยังมี Edinburgh Castle หรือปราสาทเอดินเบอระที่แสนสวยงามอีกด้วย




3. เซียน่า (Siena) : อิตาลี

เซียน่า เป็นอีกเมืองหนึ่งที่เรียกได้ว่าแทบจะอยู่ในจินตนาการของคนที่ฝันถึงอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นทัสคานี (Tuscany) เป็นเมืองยุคกลางที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะ และสถาปัตยกรรม จนยูเนสโก้ยกย่องให้ที่นี่กลายเป็นเมืองมรดกโลกเมืองปี 1995




4. มาร์แซย์ (Marseille) : ฝรั่งเศส

เมืองท่าที่สำคัญของประเทศ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีนักท่องมากถึง 2 ล้านคนต่อปี เมืองนี้รู้จักกันในนามประตูสู่เมดิเตอร์เรเนียน สมัยก่อนเคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในการค้าขายที่สำคัญ




5. มาริบอร์ (Maribor) : สโลเวเนีย

มาริบอร์นี้ก็ควรเป็นอีกเมืองที่ควรแวะมาสำหรับการมาพักผ่อนที่สโลเวเนีย ความน่าสนใจของเมืองนี้อยู่ที่สถาปัตยกรรมที่งดงาม เถาวัลย์องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก สปาต่างๆ ที่มีมากมายกระจายอยู่ในเมือง




6. ไบบิวรี (Bibury) : อังกฤษ

ได้รับยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอังกฤษเลยทีเดียว เป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยกระท่อมโบราณ โบสถ์อันเก่าแก่ อีกทั้งยังมีถนนสวยๆ รายล้อมด้วยดอกไม้สีสดใสริมสองข้างทาง เป็นหนึ่งในสถานที่สุดโรแมนติกมาก




7. ปัลมาโนวา (Palmanova) : อิตาลี

เมืองที่มีผังเมืองเป็นรูปหกเหลี่ยม และศูนย์กลางของทั้งหมดจะอยู่ที่ Grand Piazza เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่เป็นเสมือนป้อมปราการของอิตาลีมาตั้งแต่ยุค 1590s มีโบสถ์สวยงามท่าไปเยือนอย่าง Duomo Digale และเป็นเมืองยุคกลางที่สงบสุข




8. รอนด้า (Ronda) : สเปน

รอนด้าเป็นอีกเมืองที่น่าท่องเที่ยวของสเปน เพราะยังคงเสน่ห์ของเมืองชนบทไว้อย่างครบถ้วน ที่แปลกอย่างน่าประหลาดก็คือ เมืองจะตั้งอยู่บริเวณรอยแยกอันสวยงาม โดยมีสะพานทำหน้าที่เชื่อมเมืองทั้งเมืองเข้าไว้ด้วยกัน




9. ทาลลินน์ (Tallinn) : เอสโตเนีย

เมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย ซึ่งถ้าเทียบกับเมืองหลวงของที่อื่นๆในยุโรป ถือว่าที่นี่สงบมากๆ เลยทีเดียว ที่นี่เป็นเมืองมรดกโลก มีตึกเก่าแก่สวยงามมากจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองในเทพนิยายที่เคยอ่านกันตอนเด็กๆ เลยทีเดียว




10. Muhu Island : เอสโตเนีย

เกาะ Muhu Island เป็นอีกที่ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด เพราะบนเกาะนี้จะได้เห็นความต่างออกไปของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตระหว่างชาวเมืองที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ และชาวเกาะที่อยู่ไกลออกมา คล้ายๆ แบบเกาะฮาวายกับอเมริกา




11. ลอดซ์ (Lodz) : โปแลนด์

ลอดซ์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโปแลนด์ และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รอบๆ เมืองจะมีชาวยิวสร้างบ้านเรือนอยู่กันอย่างหนาแน่น ที่นี่จะมีคำตอบให้กับคุณในหลายๆ เรื่องของประวัติศาสตร์




12. East Anglia : สหราชอาณาจักร

แคว้นชนบทที่มีเสน่ห์ของสหราชอาณาจักร ที่นี่ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปจากอังกฤษ ถ้าได้มาเที่ยวที่นี่จะแทบไม่รู้สึกเลยว่า นี่คือส่วนหนึ่งของอังกฤษ เพราะชายทะเล เทศกาลดนตรี ฟาร์มหอยมุก และเทศกาลอันยิ่งใหญ่ในเดือนกันยายน




13. Formentera : สเปน

ที่นี่คือจุดอาบแดดริมหาดที่ดีติดอันดับทีเดียว นอกชายฝั่งของสเปนในหมู่เกาะ Formentera เป็นที่รู้จักกันสำหรับการเป็นเมืองชายหาดที่มีวิถีชีวิตแบบ slow life นอกจากนี้ยังเป็นที่ที่มีหาดที่สามารถเปลือยกายได้อย่างอิสระอย่างที่บางคนชื่นชอบอีกด้วย




14. ลูอิส (Lewis Island) : สก็อตแลนด์

ปลายทางสำหรับคนที่กำลังมองหาวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของสก็อตแลนด์ บริเวณที่เป็นจุดท่องเที่ยวมีสำคัญ และได้รับความนิยมมากของที่นี่ก็คือ Calanish Standing Stones, Gearannan Village และ St. Columba’s Chapel




15. ตุรกุ (Turku) : ฟินแลนด์

เมืองหลวงที่เก่าแก่ในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่องในช่วงวันหยุดฤดูหนาว และยังมีเทศกาลดนตรีใหญ่ของปีถึง 2 งาน นอกจากนี้ยังยังรูปปั้นพาโว นูรมิ หน้าสนามกีฬาโอลิมปิกที่มีชื่อเสียงมากๆ



ข้อมูลจาก: Truelife
เรียบเรียงโดย: wegointer.com

แสดงความคิดเห็น

>