เคสเสียวสันหลังนักวาดจากเว็บพันทิป!!!รับจ้างวาดรูป แต่โดนลูกค้าเอาไปขายต่อ เป็นนายหน้า แล้ววกกลับมาจ้างคนวาดต่อ!
อันนี้เป็นเคสว่า จขทก. รับวาดรูปเสมือนโดยใช้โปรแกรมอิราส ที่นี่ลูกค้าที่รับงาน ดันเอางานที่ จขทก. วาด(และซื้อขายเรียบร้อยตามกฎหมาย ในราคารูปละ 100-200 บาท) นำไปตั้งสเตตัสของตนเองว่า รับวาดรูป โดยใช้ภาพที่ จขทก. นี่แหละวาด จขทก.เลยให้เพื่อนสวมรอยเข้าไปสืบ ปรากฎว่า ลูกค้าที่แอบอ้างตั้งเรทการวาดที่ 350 บาท พอเพื่อนลองสวมรอยสั่งออเดอร์ ตัวลูกค้าก็วกกลับมาให้ จขทก. วาดให้ โดยซื้อในราคาเรทเดิมของ จขทก....สรุปคือ ลูกค้าคนนี่ตั้งตัวเองเป็น 'นายหน้า' หลอกทั้งสองฝ่าย (แต่นางยังไม่รู้ว่าทั้งสองฝ่ายเค้ารู้ไส้นางหมดแล้ว) เพื่อน จขทก. เลยลองแย็บว่า ให้ลูกค้าวาดให้ดูหน่อย โดยให้ จขทก. อ้างไม่รับงานช่วงนั้นเพราะยุ่งไรงี้ ลูกค้าก็กลับมาตอบเพื่อนว่า...จริงๆไม่ได้วาดเอง แต่เป็นพี่วาดให้ ตนเป็นแค่นายหน้า (เอ๊า! แล้วที่บอกแต่แรกว่าวาดเองนี่คืออัลไล?)
แต่ดูความเห็นในพันทิป รู้สึกว่าจะใช้กรณีฟ้องร้องลอกไม่ได้ เพราะลูกค้าเองเขาถือว่าเค้าซื้อสินค้าไปแบบถูกกฎหมาย ไม่ได้ขโมยหรือลักไปฟรีๆแต่อย่างใดนี่ซิ อาจจะฟ้องได้ในกรณีหลอกลวงต้มตุ๋นหลายต่อหรือเปล่าไม่รู้
ถ้าลองเปรียบเป็นนิยาย ถ้าเป็นหนังสือ มันก็เหมือนการซื้อหนังสือไปแล้วขายต่อในราคาแพง(แต่มุกนี่ไม่น่าใช้ได้แล้ว) กับการซื้อ E-BOOK แล้วไปขายต่อในที่ส่วนตัวของคนซื้ออีกที โดยที่คนขายไม่รู้ มันต่างกับการลักที่ว่า เจ้าตัวไม่ได้ดูดลักไฟล์ฟรี แต่ซื้อมาถูกต้อง แค่เอาไปโก่งขายต่อตัดราคากับคนขายต้นทาง...พูดง่ายๆคือ คนที่ซื้อต่อ มีการตลาดลูกค้าที่เยอะกว่า เจ้าของสินค้าที่ขายเอง
โลกนี่ช่างซับซ้อนอยู่ยากเสียจริง
ส่วนรายละเอียดของเรื่องทั้งหมด อยู่ในลิงค์นี่เน้อ
http://pantip.com/topic/33686713
6 ความคิดเห็น
ฟันหัวคิวชัดๆ
บอกเลยว่าคิดสั้นมาก วงการนี้ก็ไม่ได้กว้างมาก ส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยหรือเคยเห็นกันแม้จะผ่านๆ
ยิ่งตามเสพงานจากเฟสได้ ยิ่งหาผู้สร้างผลงานที่แท้จริงไม่ยากเลย
การฟันหัวคิวนี่มีทุกวงการและทุกระดับจริงๆ
เคยเจอกรณีเพื่อน พาเพื่อนไปรับวาดรูปกับชาวต่างชาติแล้วแอบเป็นนายหน้าฟันหัวคิว
สุดท้ายก็แทบเลิกคบกันไป (เพราะนอกจากฟันแล้วยังเบี้ยวเงินอีก)
เพื่อนเราก็มีเคสแบบนี้เหมือนกัน
ก็เลยไม่ชอบรับงาน Freelance กับคนไม่รู้จัก
-*-
ลายเส้นก็เหมือนลายเซ็นอะ เป็นเอกลักษณ์ อย่างมากก็คล้ายๆ กัน
คิดจะทำธุรกิจบนหลังคนมันต้องแถให้เก่ง แถไม่รอดก็แย่กันไป
แต่คือเพราะเป็นสินค้าที่ซื้อมาิอย่างถูกต้องไงคะ เหมือนซื้อซีดีถูกลิขสิทธิ์มาขายเป็นมือสง อัพราคาเพราะหายากก็ทำได้นะ
ถ้ามองในมุมกฎหมาย เขาก็ไม่ผิดนะคะ เพราะเขาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานที่จ้าง ยกเว้นว่าจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น
แต่เขาผิด ไม่สมควรที่แอบอ้างว่าวาดเอง ไม่ได้จ้างมา
คิดว่า คห.16 บอกในมุมกฎหมาย ค่อนข้างเคลียร์ ตามนี้
4. ประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ จริงๆ แล้วเคสนี้ ถือว่า คุณ ญป. เป็นผู้ว่าจ้าง ให้เพื่อน จขกท. วาดนะครับ ดังนั้น เพราะถ้าไม่ได้มีการทำสัญญาระบุไว้ชัดเจน ลิขสิทธิ์จะตกเป็นของคุณ ญป. ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง
5. ถามว่าคุณ ญป. ผิดไหม ผิดครับที่ไปแอบอ้างกับลูกค้าของเค้าว่า ตัวเองเป็นคนวาดเอง ผิดทั้งจรรยาบรรณต่อลูกค้า และผิดทั้งทรยศความรู้สึกของคนวาด (ขอบอกกันดีๆ คงไม่เกิดกระทู้นี้ กลายเป็นเรื่องวิทยาทาน หรือ case study)
แต่เห็นในกระทู้ มีบ้างที่ไม่เข้าใจลิขสิทธิ์กัน ก็คิดว่าน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี
ทางแก้ก็เพิ่มราคา ให้เท่ากับฝั่งนู้นเอา น่าจะง่ายกว่า หรือถ้ามีการสั่งงานอีกรอบหน้า ก็ตกลงกันให้เรียบร้อย ว่าเราให้สิทธิ์เขาในงานมากน้อยเพียงใด
เยี่ยมเลย... //ขอบคุณนัทจังมาก
เพราะเจ๊ค่อนข้างเข้าใจว่า ถ้าเราขายงานไปแล้ว 'สิทธิ' ของเราก็ขาดไปด้วย
ดังนั้นเวลาจะยื่นผลงานให้ใคร จึงตกลงก่อนว่าจะให้สิทธิใช้ทำอะไรบ้าง
และขออนุญาตใส่ลายเซ็นของตัวเองไว้ที่ผลงานเลย
=w=
เห็นเพื่อนๆ เจ๊โดนแล้วเสียวมาก ยิ่งหักค่าหัวคิวนี่ เป็นอะไรที่ทำให้เลิกคบกันได้ง่ายๆ เลยจริมๆ
แล้วถ้าลูกค้าเค้าขอให้เอาลายเซ็นออกล่ะครัช จะว่ายังไงอ่ะ
เรื่องนี้เคยมีดราม่า กรณีการรับงานถ่ายรูปรับปริญญา เวดดิ้งด้วยนะเออ ที่เค้าร้องเรียนว่า พวกช่างภาพ เอาลายเซ็นมาใส่ในภาพนะ
ก็แล้วแต่ผู้รับจ้างวาดอ่ะค่ะ ว่าจะตกลงกันยังไง
edit คิดว่าถามเราเรื่องลายเซ็น ขออภัย ท่าทางจะถามเจ๊มู่มากกว่าใช่มั้ยคะ 555 แต่ไหนๆแล้วก็ตอบรวมไปเลยแล้วกัน แหะๆ T^T
เรื่องลายเซ็น ปกติที่เข้าใจ เวลาจ้างวาดรูป คนวาดเขาจะไม่ใส่ลายเซ็นอยู่แล้วในงานที่วาดนะคะ เพราะถือว่างานนั้นตกเป็นสิทธิ์ของผู้จ้าง
ส่วนดราม่ากรณีถ่ายรูปที่มีลายเซ็น ไม่แน่ใจว่าจะคล้ายกับกรณีจ้างวาดมั้ยนะคะ เพราะเราไม่ได้คลุกคลีกับวงการถ่ายภาพ
แต่คิดว่าน่าจะคล้ายกันในเคสที่เป็นการจ้างงานเหมือนกัน คือถ้าเวลาส่งมอบงานเสร็จแล้ว ช่างไม่ควรใส่ลายเซ็นของตัวเองลงในรูป เพราะรูปที่จ้างถ่าย เป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง
@ท่านพลอย
ไม่ว่าจะงานวาด หรืองานถ่ายภาพ เรามองว่าแล้วแต่บุคคลมากกว่า
แต่ถ้าเจ้าของภาพ ต้องการเช่นนั้น ก็ควรพูดคุยกันให้เข้าใจเสียก่อน
ซึ่งดราม่าบางครั้ง เรามองว่า อาจจะเป็นการพูดคุยที่ไม่ชัดเจนค่ะ
แต่เวลาล้างรูป(พรีเวด) มันก็ไม่มีลายเซ็นนะคะ
แต่สำหรับเรา...
้ถ้าเป็นงานวาดปกนิยายจะไม่ใส่ลายเซ็นให้ค่ะ
แต่ทาง สนพ. หรือผู้แต่ง(ผู้ว่าจ้างเนี่ย) อาจจะเครดิตให้เราที่หน้าปก ค่ะ
ซึ่งปกติ การทำหนังสือใดๆ ก็มักจะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
ส่วนงานแบนเนอร์ หรือออกแบบภาพประกอบที่แปะตามเว็บทั่วไป
อันนี้ต้องขอให้แปะลายเซ็นไว้เลยค่ะ...
เพราะงานเราโดนเอาไปแอบอ้างตามกรุ๊ปวาดรูปบ่อย
ขนาดมีลายเซ็นแปะนะเนี่ย ส่วนมากก็เป็น FC มาแจ้งทั้งนั้น ;w;
เราเข้าใจว่าการใส่ลายเซ็น มันป้องกันการแอบอ้างน่ะค่ะ
อย่างกรณีในข่าวนี้
ตามที่คุณนัทบอก เหมือนขายสินค้าไปแล้ว ลูกค้าก็เอาไปขายต่อแบบเกร็งกำไร ซึ่งไม่ผิดตามกฎหมาย
แต่ก็ยังผิด ในฐานแอบอ้างว่าเป็นผู้ผลิต เหมือนกันหลอกว่ามาจากโรงงานของตัวเอง แต่จ้างโรงงานประเทศเพื่อนบ้าน
ผมเคยเจอในกรณีใกล้เคียงอีกเรื่อง
คือ ญาติของผมรับดูดวงทางไปรษณีย์ (เขาเป็นคนเจนเนอร์ชั่นเก่า)
ในราคาที่ค่อนข้างถูกมาก แต่เขาก็มีฝีมือมีทักษะประสบการณ์สูงมาก ลงหนังสือก็เคยมาแล้ว
ก็มีคนมาดูดวงด้วยจำนวนหนึ่ง แต่ก็มีขาประจำอยู่สองราย
1 อาจารย์รร.รัฐ ซึ่งเมื่อดูแล้วก็บอกต่อ มีดวงมาให้ดูจากอาจารย์ในรร.และญาติพี่น้องมาสม่ำเสมอ
2 พระ หรือพระครูปลัดท่านหนึ่ง ผมเห็นซองจดหมายด้วยตัวเอง
เขียนชื่อผู้ส่งเป็นพระครูปลัดจากจังหวัดหนึ่ง ปั้มตราของวัดมาด้วย
ซึ่งก็ส่งมาบ่อยๆ ถามครั้งละ 2-3 ดวง
ในกรณีครู ผมอาจจะไม่กล้าฟันธงว่า ฟันหัวคิว
แต่กับพระครูปลัด ผมว่าใช่ชัวร์ (ฮา)
พระที่ไหน ท่านจะส่งดวงมาให้ดู ผมเคยเห็นแต่พระท่านดูเอง
มันเหมือนกับท่านก็อยากทำนั่นแหละ แต่ดูไม่เป็น ก็หานอมิมี่เป็นญาติของผม
ส่วนผมก็บอกข้อสงสัยไปว่า โดนฟันหัวคิวแน่นอน
เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะดูเป็นงานอดิเรก แล้วก็ชอบดู ดีเสียอีกมีคนหาลูกค้ามาให้
ผมละเสียดายแทน ต้องโดนฟันอย่างน้อยก็ 2-3 เท่าที่เก็บเองแน่ๆ
นั้นซิครัช มันจะดีกว่านะ ถ้าลูกค้าเจอกับผู้ผลิตจริง ไม่ต้องเจอกับนายหน้าอ่ะ
ตัดลายน้ำหรือไม่ ในเมื่อซื้อไปแล้ว อันนี้ผู้วาดน่าจะเรียกร้องลำบาก เพราะถือว่าขายไปแล้ว สิทธิ์ในรูป ผู้ใช้จะเอาไปทำอะไรก็ได้ แล้วแต่ ยกเว้นจะกำหนดหรือตกลงกันไว้ก่อน ซึ่งอันนั้นก็คือผิดสัญญา ถ้ามีลายลักษณ์อักษรก็ฟ้องร้องได้ ถ้าไม่มี เป็นสัญญาแต่ปาก ก็คงได้แค่โวยวายแล้วจำไว้ว่าไม่ร่วมงานกันอีก
แต่มาตรการที่ผู้วาดทำได้ตอนนี้ ผมคิดว่ามีสองแบบ
1. แบบไม่ก้าวร้าวมาก คือติดต่อผู้ซื้อ ถ้าหาทางรู้ก่อนได้ว่านายหน้าติดต่อผู้ค้าคนไหน ชิงติดต่อไปก่อน แล้วบอกราคาที่แท้จริง แล้วพยายามกระจายข่าวปากต่อปาก หรือกระจายข่าวในช่องทางของตัวเองว่ามีคนเอารูปไปขายที่ราคาสูงกว่าปกติ ให้ระวังและช่วยเผยแพร่ด้วย
2. แบบก้าวร้าว บุกถึงหน้าเฟสหรือช่องทางการติดต่อของนายหน้าไปเลย แล้วแปะราคาจริง ซึ่งแน่นอนเจ้าของเฟสลบ แต่นั่นแปลว่าเขาก็ไม่สามารถจ้างวาดรูปได้อีกแล้ว เท่ากับไม่มีงานไปขาย ยกเว้นจะหาเหยื่อรายใหม่ได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?