ขายถูก vs ขายแพง
ตั้งกระทู้ใหม่
แต่...
มาคิดดูอีกที คนเราก็มีความโรคจิตในตัวเองประการหนึ่ง
ของถูกของดี ดันไม่เชื่อว่าดีจริง ต้องไปเสาะหาของแพงที่เหมือนกันมา ด้วยความเชื่อว่าแพงกว่าย่อมดีกว่า
ถึงสมองเราจะคิดว่าไม่หรอกกกก ไม่จริง ฉันชอบของถูก
แต่เอาเข้าจริง ราคาถูกก็มีผลต่อความไว้วางใจของลูกค้า
ทำไมถึงขายถูกได้ ร้านนู่นเหมือนกันราคาแพงกว่าเยอะ
...ของถูกมันของเก๊ป่ะ??
พอมาคิดแบบนี้ ผมก็เริ่มคิดละ ว่าจะเอายังไงดี ถ้าเกิดจะตั้งราคานิยายขายเองขึ้นมา
ท่านๆ เห็นว่าอย่างไรบ้างครับ
ช่วยผมคิดหน่อยยยย
#ราคา #นิยาย
ขายถูก
ขายแพง
เด็กซื้อง่าย ผู้ใหญ่ซื้อดี ราคาถูกคนน่าจะจ่ายง่ายเนอะ เราเน้นขายทำปริมาณก็แล้วกัน
เพื่อให้ดูมีราคา มีระดับ บทคนมันจะจ่าย ถูกแพงมันก็ตะเกียกตะกายหาเงินมาจ่ายจนได้นั่นแหละ
ลูเซีย The jar's modeller
28 ม.ค. 59 เวลา 18:35 น.
826
views
17 ความคิดเห็น
ถึงเราจะเลือกฝั่งของถูก แต่เราว่าเดินทางสายกลางก็ดีนะคะ
ไม่ถูกเกิน ไม่แพงเกิน ราคาสมเหตุสมผล
ผมเกรงว่าลูกค้าประเภทแพงไม่ซื้อก็มีเช่นกันน่ะสิครับ
ต้องดูทั้งปริมาณของในตลาด ราคาเมื่อเทียบกับสิ่งภายนอก %ความต่างของราคาที่นิยม ชื่อเสียงผู้แต่ง ภาคแรกภาคสอง บลาๆๆ(คิดมากไปไหมเนี่ย *_*)
ตามปกติถ้าเป็นผมจะขายราคาปกติหรือถูกลงมาหน่อย แต่ถ้าเรามั่นใจว่านิยายเรื่องนั้นจะทำให้มีคนมารีวิวด้านบวกอย่างท่วมท้น แพงขนาดไหนก็มีคนซื้อแน่ๆครับ
เรายอมจ่ายให้กับ e-book เพราะว่าราคามันถูกว่าหนังสือเล่มเยอะมากๆ ถ้า e-book ขายแพงกว่าปกติและต่างกับหนังสือเล่มนิดเดียว(โดยเทียบกับขนาดของหนังสือทั่วไป เช่นจำนวนบท ไรงี้) เราเก็บเงินไปซื้อหนังสือเล่มดีกว่าค่ะ แม้ว่านิยายเรื่องนั้น จะไม่ออกเป็นเล่มหรือไม่ก็ตามค่ะ ถ้าไม่เป็นเล่มจริงเราไปขออ่านกับเพื่อนก็ได้
(ใครๆ ก็รู้เดียวนี้นิยายทำมือก็มี ออกอีบุคก่อนก็ได้ แล้วค่อยทำมือเก็บถ้ามีแฟนๆ เรียกร้อง ซึ่งกรณีแบบนั้น เราก็ยอมจ่ายแบบนิยายทำมือด้วยเช่นกันค่ะ)
สรุปว่า ถ้าอีบุคแพง เรื่องดีแค่ไหน เราก็จะไม่ซื้อ ไปขอเพื่อนอ่าน หรือหารกับเพื่อนดีกว่า (เรายอมให้เพื่อนเก็บ) ไว้รออกเล่มเราค่อยซื้องี้
ปอลอ แต่ตอนนี้ซืออีบุคมากกว่าหนังสือเล่มอะ เพราะพอมันไม่แพง นี่ก็ตะบันซื้อใหญ่เลยย หนับหนุนให้ผู้แต่งออกอีบุคเยอะๆ เราชอบ 55555
นิยายขายในเว็บมีความยืดหยุ่นเรื่องราคาได้มากกว่าแบบเล่มเยอะ
ของงี้พูดยาก ขึ้นอยู่กับหัวการค้าของคนขายซะมากกว่า
ถ้าชัวร์ว่างานตัวเองโหด ขายแพงก็มีคนซื้อ จะอัพราคาก็ไม่มีใครว่า(แค่อาจจะด่า)
แต่ในมุมมองมนุษย์มักน้อยอย่างผม ขอเลือกขายในราคาถูกดีกว่า
ขายแพงมุมมองผมนี่คือควรเป็นแบบพรีเมียม หรือของสะสมไปเลยน่ะครับ จะได้รู้สึกว่าคุ้มแก่การหยิบไป จ่ายออก
แต่ถ้าอยากให้คนได้อ่านเยอะๆ ราคาเอาแบบสมน้ำสมเนื้อน่าจะดีกว่า เราก็รู้สึกว่าสมกับมูลค่าและคุณค่าที่สร้างออกมา ส่วนคนอ่านก็เต็มใจซื้อน่ะนะ
ถ้ามองในเชิงธุรกิจนะครับ กลยุทธ์การตั้งราคาอันดับแรกคือการรู้ให้ได้ว่ากลุ่มลูกค้าของตัวเองเป็นยังไง มีอำนาจในการจ่ายขนาดไหน ซึ่งนี่ก็อาจจะใช้การทดลอง การทำการสอบถาม สำรวจ ต่างๆก่อน ถึงจะตั้งราคาได้อย่างสมควรนะครับ
ส่วนในเรื่องราคาจริงๆนี่ ผมชอบราคาสูงนะ ไม่ใช่ว่าสูงมากมหาศาล แต่ควรจะสูงให้เหมาะสมกับคุณภาพ และมากกว่าราคากลางในตลาดระดับหนึ่ง ซึ่งเหตุผลก็เรื่องคุณภาพ และความต่างแหละครับ มันเป็นเรื่องที่แปลกแต่จริงว่า "คนเราพอใจที่จะซื้อของแพงมากกว่า"
อืม ผมอาจจะตั้งโจทย์ได้ไม่เคลียร์เท่าไหร่ ขอเพิ่มเติมครับ
เพราะความจริงแล้ว คำว่าถูกหรือแพงนั้นอยู่ที่การประเมินด้วย
อันนี้ผมถามสำหรับการขายหนังสือออนไลน์
แพง คือราคาอีบุ๊กที่ขายกันตาม Meb (ผมรู้สึกว่าแพงนะ ไม่มีเล่ม แต่ลดราคาลงมาไม่กี่เปอร์เซ็นต์เอง)
ถูก คือถูกแบบถล่ม ลด 50++% จากราคาเล่ม
ซึ่งเอาเข้าจริง ผมก็ผิดเองที่ไม่เคลียร์กับนิยามถูกหรือแพง
...ผมอยากหาราคาสมดุลน่ะครับ จะขายยังไงดี
เครียด....(แต่ยังไม่มีนิยายให้ขายเลย55555+)
ยิ่งถูกยิ่งดีครับ แจกฟรีได้จะวิเศษเลย
แต่การแจกฟรีเนี้ย ยิ่งแจกเท่าไหร่ เงินก็ได้กับคนเขียนด้วย จะวิเศษคูณ 2 ไปเลยละ
ผมชอบชื่อพวก ไลท์โนเวล ก็เพราะมันถูกเนี้ยแหละครับ (เห็นว่าญี่ปุ่นถูกยิ่งกว่าราเมงหนึ่งชามเสียอีก) // เทียบราเมงกับของไทย ก็คงคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามละมั้ง /// นิยายไทยเล่มเดียว กินก๋วยเตี๋ยวได้เกือบสิบมื้อ -*-
ของยิ่งมีคุณภาพ แถมยังขายถูก คนก็ยิ่งซื้อเข้าไปใหญ่
สำหรับผมยอดขายจึงสำคัญสุด ความพรีเมียมไม่สำคัญเลย
ตอบยาก แต่โหวตแพงขอรับ (จริงๆ ข้าน้อยว่าราคาตลาดนะ แต่บางเล่มอาจจะราคาพอๆ กับเล่มจริง ไม่ใช่ราคาสำหรับ E-book น่ะ)
แล้วแต่กลุ่มลูกค้าด้วยล่ะมั้ง คนที่อ่านงานข้าน้อยส่วนมากผู้ใหญ่ ประเภทรุ่นๆ เดียวกัน ถ้าชอบก็ซื้อขอรับ ราคาไม่เกี่ยงถ้ามันคุ้มค่าพออ่ะ
ปล. ถ้าข้าน้อยไม่ขายราคานั้น ก็ให้โหลดฟรีเลยขอรับ (รู้สึกจะให้โหลดฟรีเยอะอยู่ เพราะประเด็นจริงๆ คืออยากให้คนอ่านมากกว่าอยากขายอ่ะ)
จริงๆ นักอ่าน อาจจะไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลยก็ได้
แต่บางทีซื้อมาแพง ปาหัวหมาเล่นก็มีนะ
e-book เจ๊คิดว่าเน้นราคาถูก เพราะมันจับต้องไม่ได้เท่าไหร่
ระบบ coin ก็ปรับราคาลดลงมาละ
ถ้าเป็นรูปเล่ม รีดเดอร์ที่ไม่เกี่ยงเรื่องราคาเลยก็มี
แต่ก็สงสารรีดเดอร์ที่ยังเป็นเด็กเหมือนกัน เพราะต้องเก็บเงินซื้อ
เอ็นดู๊ เอ็นดู โอนธนาคารไม่ได้ ขอส่งธนาณัติก็ยังมี 55555+
สำหรับอีบุค คิดว่า ไม่ควรแพงเกินไปเพราะเราไม่ได้ลงทุนอะไรมากค่ะ
เราจะรู้สึกเคลือบแคลงของถูกก็ต่อเมื่อเราเคยใช้ของแพงแบบเดียวกันมาก่อนเท่านั้นค่ะ
แต่ว่านิยายนี่ ไม่มีทางรู้ได้ว่ามันจะเป็นยังไง มาตรฐานระดับไหน (โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่นักเขียนที่ติดตาม และถึงเป็นนักเขียนคนโปรดก็ใช่ว่าจะเรื่องตรงใจทุกเรื่อง) ดังนั้น เราจะอยากได้ของถูกมากกว่า และจะไม่คาดหวังมากด้วยค่ะ
เราไม่ควรทำให้นิยายเป็นสินค้าจำพวกที่ต้องตัดราคาสู้กันนะ เพราะจะยิ่งทำให้ตลาดโดยรวมดูแย่ เหมือนเวลาไปสมัครงาน เราก็ไม่ควรลดค่าตัวเพื่อให้ได้งาน จะเป็นการตัดอนาคตรุ่นน้องถัด ๆ ไปที่มาสมัครงานนะ
ไม่แน่ใจความหมายถูกหรือแพงของจขกท. ผมขออนุญาตอนุมาน (ฮา)
ถูก หมายถึงต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น อาจจะเพื่อดึงดูดหรือตั้งใจให้เผยแพร่ได้ปริมาณมากขึ้น
แพง หมายถึงสูงกว่าราคามาตรฐาน เพราะปัจจัยหลายอย่าง
ทีจริงเรื่องราคาอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ขายและผู้ซื้อ ไม่มีถูกหรือแพง
ผมตอบแพง เพราะเคยได้ฟังแนวคิดของรุ่นพี่คนนึงที่เป็นนักวาด
ผลงานของเราราคาแพงไม่ได้หมายความดีเลิศกว่าใคร แต่เป็นค่าของความพยายาม
ตั้งราคาถูกแล้วความพยายามจะดูด้อยค่า เหมือนไม่รู้คุณค่าของตัวเอง
อีกทั้งที่กล้าตั้งแพงกว่าใครๆ ก็เพราะเป็นประกาศว่าผลงานของเราจะไม่ทำให้ผิดหวัง
แรกๆ ผมก็คิดว่าพี่เขาจะเน่าเอานะ (ฮา)
แต่เขารู้ว่าขายใคร รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร และขายของเป็น
ราคางานของเขาจึงก้าวกระโดดทุกครั้ง ขายต่างชาติ ขายเป็นงานพรีเมี่ยม อาร์ตเวิร์คต่างๆ
ผมจึงทราบว่าผลตอบแทนก็เป็นแรงจูงใจ ทำให้คนพัฒนาอย่างยิ่งยวด
สำหรับตัวเอง ผมจะเลือกขายถูก (อ้าว) ก็คนยังไม่ได้มั่นใจตัวเองขนาดนั้น
ไม่ขายแพง เพราะเห็นใจน้องๆค่ะ แต่ละคนอยู่ในวัยเรียน และเงินที่นำมาซื้อนิยายเรา ก็มาจากเงินที่คุณพ่อคุณแม่ให้
E-book ของนิลเลยตกอยู่ที่เรื่องละ 100 บาท จากจำนวนหน้า 300 - 400 หน้า ยกเว้นภาคใหม่ของนิยายตีพิมพ์ก็จะเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่ 120 บาทค่ะ เนื่องจากไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ปกก็ทำเองหมด แหะๆ เลยไม่มีต้นทุนอื่นค่ะ นอกจากต้นทุนฝีมือ
ทำไมต้องให้โหวตก่อนคอมเม้นด้วย T_T
สำหรับเราถ้าเป็นคนซื้อก็อยากได้ของถูก ที่ดูแล้วเลอค่าน่าจับจอง
สำหรับเรา เราดูปกก่อน จริงๆนะ ปกน่าอ่านต่อให้แพงก็ซื้อ เป็นคนชอบดูที่ภายนอก
แต่จริงๆเรื่องราคาก็เป็นปัญหากับหลายๆสายอาชีพเหมือนกันโดยเฉพาะเหล่านักออกแบบนักวาด
น่าจะมีราคากลางมาตั้งขึ้นเพื่อให้คนอื่นๆอิงตามราคานั้นๆ จะเป็นการดีมาก
จากนั้นก็มากำหนดความเสี่ยงเอาเอง ถ้าแพงเกินคนก็บ่น ไม่คุ้มบ้าง อะไรบ้างแล้วแต่คน
ถ้าถูกลงกว่าราคากลางก็ดูไม่เจ๋งพอ แต่อัตตราการซื้อก็น่าจะสูง
ในเรื่องนี้ก็ยังเป็นปัญหากันต่อไป ต่อให้พิมพ์หูกระจงร้อยบรรทัดก็ยังหาจุดลงตัวไม่ได้
ยกเว้นเสียแต่จะนำทฤษฏีการประมูลราคามาใช้ (ป๊าด เวอร์!)
ถ้าเป็นคนขาย ก็อยากขายราคาสูงให้ดูมีค่าน่าจับจองอีกนั่นแหละ
งานทุกงานมันมีคุณค่าของมัน ถูกแพงคนที่ตัดสินคือคนอ่านที่ซื้อไปแล้วไม่ใช่คนเขียน ต่อให้ขายเล่มละบาทแต่ถ้าคนอ่านไม่ชอบก็ว่าไม่คุ้มเสียดายตังค์ ต่อให้ขายเป็นพันแต่ถ้าคนอ่านแล้วโคตรฟินก็บอกว่าถูกเหลือหลาย เพราะฉะนั้นคนขายก็ควรตั้งราคาตามที่ตนเห็นสมควรดีกว่า...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?