มาเรียนแพทย์เฉพาะทางเอาตอน 37 ไหวไหม
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
5 ความคิดเห็น
ผมว่าพี่น่าไปถาม เวบไทยคลีนิกจะได้คำตอบแบบมากประสบการณ์มากกว่าในเด็กดีนะครับ
ส่วนตัวผม ผมว่ามันขึ้นอยู่กับคนด้วย แต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนอายุจะ 40 ก็กระฉับกระเฉง พลังงานเหลือเฟือ ในขณะที่บางคน 35 ก็เหนื่อยง่าย เพลียง่าย เริ่มมองหาความสงบ สบายแล้วครับ
ประเด็นคือเฉพาะทางบางสาขามันก็ไม่ได้รับเข้าง่ายครับ เห็นว่าต้องแข่งกันมากเหมือนกัน ถ้าพี่แข่งเค้าได้
ก็โอเคนะครับ (เช่นประสบการณ์พี่อาจจะดีกว่า แต่พละกำลังกายกำลังใจ จะสู้เค้าไหวมั้ย คนที่ตัดสินใจเค้าก็มี criteria ของเค้าใช่มั้ยครับ)
ความเห็นของคนเกษียณอายุราชการ แต่มีลูก มีหลานเรียนจบแพทย์ ม.รัฐ ไปทำงานใช้ทุนแล้ว
ก็ต้องการให้ลูก หลานเรียนจบแพทย์เฉพาะทางเร็วๆ จะได้ไม่เสียเวลา เพราะไฟยังแรงอยู่
ความรู้ไม่มีใครแก่เกินเรียน คนอายุ 37 ยังถือว่ากลางๆคน ไม่ถือว่ามากเกินไป
เรียนแพทย์เฉพาะทางเมื่อตอน 37 ยังพอไหว ถือว่ามีประสบการณ์ชีวิตมากพอ
โดยปกติ คนเรียนจบแพทย์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ต้องการเรียนแพทย์เฉพาะทางให้จบเร็วๆ
เพราะกลัวว่าจะไม่ทันเพื่อน กลัวว่ายิ่งอายุมากขึ้น สมองจะไม่ไบร๊ทเท่าตอนอายุน้อย
บางคนเลือกทำงานใช้ทุนไปด้วย เรียนแพทย์เฉพาะทางไปด้วยใช้เวลา 4-5ปีจบแพทย์เฉพาะทาง
บางคนทำงานใช้ทุน 1 ปีเพื่อมีคุณสมบัติครบ แล้วยอมเสียค่าปรับ ออกไปเรียนแพทย์เฉพาะทาง ก็เพราะต้องการจบแพทย์เฉพาะทางเร็วๆ ได้เป็นแพทย์เฉพาะทาง ตำแหน่งและเงินเดือนสูงๆ
คนเราส่วนมากต้องการความก้าวหน้า ต้องการตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี และเงินเดือนที่สูงขึ้น
หากไม่เรียนแพทย์เฉพาะทาง ก็ต้องเป็นหมอทั่วไปตลอดชีวิต ซึ่งบางคนอาจพอใจเพียงเท่านี้ก็ได้
ถ้าตอนนี้พร้อมที่จะเรียน ใจอยากจะเรียนแพทย์เฉพาะทางแล้ว ไม่ถือว่าสายเกินไปหรอก ดีกว่าไม่เรียนเลย ควรสู้ ยอมลำบาก อดทนเพียงไม่กีิ่ปี(ส่วนใหญ่ 3 ปีจบ) ก็จบแพทย์เฉพาะทางแล้ว อนาคตจะสดใสยิ่งเดิม
สรุป เห็นด้วยกับเรียนแพทย์เฉพาะทาง แม้อายุ 37 ปีแล้ว
มีเพื่อนรุ่นเดียวกันคนหนึ่งเป็นทนายความ ลูกเรียนจบแพทย์ มศว จับคู่กับเพื่อนสมัครไปทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลจังหวัดอุทัยธานี โชคดีไม่มีคนแย่งเลยไม่ต้องจับฉลาก
ระหว่างทำงานที่โรงพยาบาลที่นั่น ก็พยายามติดตามข่าวการรับสมัครแพทย์เฉพาะทางตลอดมา ทำงานรับราชการได้ปีกว่า เกือบ 2 ปี ก็สมัครได้เรียนแพทย์เฉพาะทางสูตินารี ที่โรงพยาบาลศิริราช(ที่ติดอาจจะเพราะจบเกียรตินิยม) ยอมใช้เงินค่าปรับประมาณแสนกว่าบาท(ลาออกก่อนครบสัญญา)
แต่ระหว่างต้องรอเข้าเรียนแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลศิริราช ว่างประมาณ 6 เดือน ก็ไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ทำสัญญาจ้าง 6 เดือน ได้เงินเดือนเดือนละ 1 แสนบาท ทำ 6 เดือน ได้เงิน 6 แสนใช้ค่าปรับให้หลวงแล้ว ยังมีเงินเหลืออีกเยอะเลย
ตอนนี้เรียนจบแพทย์เฉพาะทางแล้ว กำลังเรียนต่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ(ไม่รู้ใช่มะเร็งสตรีหรือไม่)ที่ศิริราชที่เดิมอีก
นี่คนนอกไม่รู้เรื่องนะคะ แต่ถ้าเรียนไหวก็น่าเรียนนะคะ
แต่ถ้าไม่เรียนเฉพาะ มันไม่มีแบบ ประกาศนียบัตร หมอทั่วไปเชี่ยวชาญ อะไรแบบนี้หรือคะ หมอทั่วไปที่เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรค และส่งต่อได้ถูกต้อง ก็จำเป็นมากนะคะ ถ้าไม่มีหมอทั่วไปที่เก่งๆ และวินิจฉัยได้ถูก คนไข้ที่เจ็บป่วยด้วยโรคแบบไม่ชัดเจน แต่ไม่หายซะที หรืออาจเป็นหนักแต่ไม่แสดงอาการก็มีมาก ก็ต้องตรวจไปตรวจมา แต่กว่าจะเจอโรคก็กำเริบพอดี ถ้ามีหมอทั่วไปเก่งๆ แบบมองโรคออก สโคปโรคและตรวจได้ก็น่าจะดีมากๆๆๆ เลยค่ะ
หมอทั่วไปเก่งๆ เป็นที่น่านับถือมากเลยสำหรับหมอเฉพาะทางที่ใจเปิดกว่านะคะ เป้นครูของหมอใหม่ทั้งหลาย (อันนี้ก็คิดเองอีก มโนเอา 55)
เรียนดีกว่าคับ ช่วยเติมเต็มคำว่าหมอ เพื่อนเราที่จบ broad med ด้วยกันอายุจะ 40 ปี แหละ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?