Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สถาปัตย์...สอนอะไรผม? มาดู 10 สไตล์การเรียนแปลกๆ ของเด็กถาปัตย์ที่ไม่เหมือนคณะอื่น

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่





สวัสดีครับ พบกับพี่อีกแล้วนะครับ แนะนำตัวหน่อยเผื่อน้องๆที่พึ่งอ่านจะจำพี่ไม่ได้



พี่ชื่อพี่วิน อยู่สถาปัตย์จุฬา ภาคสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปี 4 ครับ





กลับมาอีกครั้งกับบทความที่เกี่ยวกับคณะสถาปัตย์ ที่จะทำให้น้องๆเข้าใจถึงแก่นแท้ของเด็กถาปัตกันมากขึ้นนะครับ คราวนี้มาในหัวข้อเกี่ยวกับการเรียนบ้าง น้องๆคงอยากจะรู้ว่าเบื้องหลังโมเดลสวยๆกับลุคเท่ๆของสถาปนิก มันมีที่มาของการเรียนการสอนอย่างไร บอกเลยว่าเบื้องหลังเนี่ย โหด มันส์ ฮา สุดๆเลยครับ












พี่จะเน้นย้ำอีกครั้งว่าการเรียนการสอนคณะสถาปัตย์เป็นอะไรที่แตกต่างไปจากคณะอื่น การเรียนแบบ ม.ปลาย เป็นการเรียนแบบ Textbook Based คือการอ่านหนังสือเป็นบทๆแล้วสอบ อาจจะมีการคิดวิเคราะห์บ้างตามความยากง่ายของวิชา แต่สถาปัตย์ไม่สามารถวัดผลด้วยหลักการแบบนั้น เพราะเป็นศาสตร์ที่จำเป็นต้องมี ‘ผลทางกายภาพ’ ออกมาให้อาจารย์เห็นทุกครั้งที่ไปเรียน ไม่ว่าจะเป็น แบบสถาปัตย์ แบบก่อสร้าง หรือ โมเดล สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือสื่อสารให้อาจารย์เข้าใจระบบความคิดในหัวของเรา และสามารถแนะนำเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ 








เพราะฉะนั้นหากเราไม่มีงานไปให้อาจารย์ เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าที่เราคิดอยู่ในหัวมันเวิคหรือเปล่าในชีวิตจริง ซึ่งการเรียนแบบนี้เรียกว่า Project Based หรือการเรียนผ่าน พัฒนาการของโปรเจกต์ที่ได้รับมอบหมายนั้นเองครับ สำหรับใครที่อยากดูว่างานที่ทำในคณะออกมาเป็นประมาณไหน สามารถตามไปอ่านได้ที่กระทู้ http://www.dek-d.com/board/view/3603349/  ทีนี้ มาดูกันดีกว่า ว่าการเรียนที่ว่าแปลกของเด็กถาปัต เป็นยังไง555+












1. การนอนในห้องเลคเชอร์ เป็นเรื่องธรรมดามักๆ


ถาปัตไม่ได้เรียนแต่ออกแบบนะครับ น้องๆ พวกเรามีวิชาเลคเชอร์ทั่วไปที่ค่อนข้างเยอะประมาณนึง ซึ่งภาพอุดมคติของอาจารย์หน้าห้องที่สอนอย่างตั้งใจ กับเด็กทุกคนที่นั่งตาแป๋วจนจบคลาส 3 ชั่วโมงนั้น หาได้ยากมากกกกกก หลายๆครั้งที่พี่ตั้งใจจะเข้าไปฟังอาจารย์เต็มที่เลยครับ แต่เผลอแป๊ปเดียว ...คร่อก.. หายไปทีสามชั่วโมงรวด ตื่นมาพร้อมกับหน้าอาจารย์ที่มองค้อนพี่ 1 ทีแรงๆก่อนออกจากห้อง 555+ หลายๆครั้งที่พี่รู้สึกผิดมากๆ แต่ทำไงได้หล่ะครับ ก็เมื่อคืนไม่ได้นอน หันไปหาเพื่อนๆในห้อง.. พอกันเลยครับ สรุปคือบางทีอาจารย์เหมือนมาพูดคนเดียว แต่ก็จะมีเพื่อนๆบางกลุ่มที่ตาแข็งมาก สามารถอดทนได้จนจบคาบ พี่ก็ต้องชาบูพวกมันประมาณนึง เพราะถึงเวลาสอบ พวกนี้แหละครับจะเป็นโรงงานผลิตสรุปที่ต้องอ่านก่อนสอบ นั่นแหละครับน้องๆ พวกเราทำงานกันเป็นรุ่นครับ 555+ 








หลับประจำ จนติดนิสัย






2. บางคนถึงขั้นตัดโมในคาบ..


อ่อ พี่ต้องบอกก่อนว่า ในห้องไม่ได้ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือเด็กเรียน กะเด็กหลับนะครับ จะมีอีกกลุ่มนึงครับ เขาทำอะไรกันรู้มั้ยน้องง.. ตัดโมเดลครับ! เค้าพกกันมาหมดทั้งแผ่นรองตัด กรรไกร กระดาษชานอ้อย(กระดาษที่เด็กถาปัตใช้ตัดโม ขนาดใหญ่กว่า A4 ประมาณ 4 เท่า) คัตเตอร์ และสกิลของการหลบหลีกอาจารย์ในการตัดโมนี่ถึงขั้นเซียน คืออาจารย์จะมองไม่เห็น(หรือจริงๆพี่ว่าอาจารย์เห็นใจมากกว่านะครับ เพราะรู้ว่าน่าจะทำไม่ทันกัน ไม่ท่านก็คงเอือมระอา และขี้เกียจด่า555+) หลังจากจบคาบครับ บอกเลยว่าเพื่อนพี่บางคนไม่มีงาน สามารถเสกบ้านได้ทั้งหลังจากเวลาแค่ 3 ชั่วโมงนะฮะ เก่งมักๆ


 





โมเดลพัฒนาการของแบบ







โมเดลที่พี่แอบทำในห้อง






3. งานไม่จบ กลับไปคิดต่อที่บ้าน


อย่าคิดนะครับว่าเลิกเรียนแล้ว จะจบ ถ้าเป็นคณะอื่นก็จะเห็นได้ตามสยาม เซ็นเวิร์ด แต่ถาปัตนี่ต้องรีบกลับบ้านไปเก็บแต้มนอนไม่ก็ทำงานเลย เพราะว่าสิ่งที่ต้องคิดมันเยอะมาก การไปเรียนเหมือนเป็นการเอางานที่คิดมาไปส่ง แล้วอาจารย์จะให้คอมเมนท์กลับมา แล้วเอากลับไปแก้ส่งต่อครั้งต่อไป ซึ่งมีเวลาแค่ 2-3 วันเท่านั้น เพราะฉะนั้น บอกเลยว่า ยุ่งตลอดเวลา





อยู่บ้านพี่ยังต้องทำแบบเลยเห็นปะ






4. ช่วงสอบ ชิลมากกกกก(เทียบกับคณะอื่น)


คือเนื่องจากเวลาปกติคือการทำงานและส่งแบบ อาจจะมีรางวัลอยู่บ้างคือช่วงสอบ ที่คณะอื่นต้องอ่านหนังสือกันเป็นตั้งๆ บางคณะเช่นนิติศาสตร์ ถึงกับต้องอ่านแบบเข้าเดือนออกเดือน คือเตรียมอ่านหนังสือก่อนสอบประมาณ 1 เดือน แต่ถาปัตพี่ให้แค่ 3 วันก่อนสอบก็พอจะอ่านทันละครับ ประกอบกับมีเลคเชอร์ของเพื่อนๆที่อยู่หน้าห้องแล้ว ถือว่าเป็นช่วงเอาคืนของเราเลยครับ ช่วงสอบเด็กถาปัตจะชิลเป็นพิเศษ แต่ประเด็นคือชวนใครก็ไม่ได้เพราะคณะอื่นอ่านหนังสือกัน ก็เลยได้แต่อยู่กันเอง เที่ยวกันเองนี่ยแหละครับ






5. ไม่อ่านหนังสือแต่ได้เกรดดี


ถาปัตเป็นคณะในฝันของน้องๆหลายคนก็เพราะเรื่องนี้แหละครับ เนื่องจากวิชาที่เป็นแบบ Project Based หน่วยกิตมากกว่า และมีปริมาณมากกว่า Textbook Based ทำให้เด็กไม่อ่านหนังสือมีสิทธิได้คะแนนดี แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลของการที่เราจะอ้างไม่อ่านหนังสือนะครับ เพราะวิชาเลคเชอร์ก็สำคัญ เป็นฐานให้เราออกแบบได้ดีขึ้น เช่น วิชาประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม วิชาพื้นฐานการออกแบบ เป็นต้น






6. ไม่ค่อยซีเรียสมากเรื่องเวลาเรียน


ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานครับ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเรียน เพราะฉะนั้นคณะถาปัตจะไม่คร่อยเคร่งครัดเรื่องเวลาเรียนเท่าไหร่นัก แต่ตามระเบียบมหาลัยต้องเข้าเรียนมากกว่า 90% จึงจะได้สอบ ดังนั้นหากจะขาดจำเป็นต้องมีเหตุผล และต้องคุยกับอาจารย์ให้รียบร้อย แต่ถ้ากรณีแบบอยู่ดีๆหายไปเลย พี่ว่าอาจารย์ก็เช็คขาดและจำหน้าเอาไว้เหมือนกันนะครับ









7. วางโน้ตบุ้คไว้ ไม่หาย แต่วางเครื่องเขียนไว้ หายเรียบ


เป็นอะไรที่แปลกมากเหมือนกันครับคณะนี้ คือคนมักจะขโมยเครื่องเขียนต่างๆ เช่น ไม้สเกล(เอาไว้วัดมาตราส่วนของแบบ), ไม้บรรทัด, ยางลบ, ดินสอกด ของพวกนี้คือวางไว้ หายเรียบ แต่หากทิ้งโน้ตบุ้ค มือถือ หรือของที่คนข้างนอกมองว่ามีค่า มักจะไม่หายครับ กลับมาเอาก็จะอยู่ที่เดิม แรกๆพี่ก็ไม่ชิน แต่หลังๆเริ่มปล่อยปละละเลย แต่อย่าลืมเครื่องเขียนไว้เชียวนะ ไปถามใครก็ได้คำตอบประมาณว่า ‘ไม่ๆกรูไม่ได้เอาปายยย’ ปรากฏเห็นของพี่อยู่ในกระเป๋ามัน รีบเอาคืนแทบไม่ทันอะครับ บอกเลยว่าต้องเขียนชื่อเอาไว้ที่เครื่องเขียนทุกชิ้น ขอย้ำว่าทุกชิ้น ไม่งั้น หายเลยฮะ555+






8. แต่งตัวชิลเว่อร์


คณะสถาปัตย์จะไม่ค่อยซีเรียสกับเครื่องแต่งกายมากครับ เดินดูจะหาคนแต่งตัวถูกระเบียบไม่เจอเลย บางคนใส่กางเกงสีแดงแป๋น บางคนใส่ยีนส์ บางคนใส่คอนเวิส ใส่โรงเท้าผ้าใบ หนักกว่านั้นยางคนใส่เสื้อข้างนอกมาเรียนเลย ซึ่งเอาเข้าจริงไม่สมควรเท่าไหร่นัก แต่อาจารย์ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพราะเหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานานแล้ว อาจารย์เองแต่ละคนก็มีสไตล์การแต่งตัวไม่ใช่เล่น ถือว่าเป็นคณะที่ค่อนข้างแฟชั่นมากๆ ออกแนวสตรีต ฮิพเสตอร์หน่อยๆ แต่เวลาสอบนี่ไม่ได้นะครับ ทุกคนต้องแต่งกายถูกระเบียบ พอถึงเวลาทำตามกฎ ก็ต้องทำให้เป็น ไม่ใช่คิดจะแหกกฎอย่างเดียว ไม่เท่นะครับ






9. อาจารย์ใกล้ชิดกับเด็กๆมาก


เนื่องจากคณะนี้เป็นการเรียนแบบตรวจแบบ เฉลี่ยอาทิตย์ละ สองครั้ง ทั้งหมดประมาณสิบกว่าครั้งต่อโปรเจกต์ ทำให้เด็กกับอาจารย์สนิทกันมาก จำได้ตั้งแต่ชื่อ สไตล์งาน ความขยัน ขี้เกียจ อาจารย์จะจำได้หมด และแซวเด็กเป็นว่าเล่น เนื่องจากตอนตรวจแบบอาจารย์จะใส่ใจและต้องคุย และมีการแลกเปลี่ยนไอเดียกันเยอะมาก จึงไม่แปลกที่อาจารย์จะจำเด็กได้เสมอ และอาจารย์จะคุยๆกันด้วยว่าเด็กคนนี้เป็นยังไง เพื่อเวลาส่งต่อไปหาอาจารย์อีกคนจะได้ต่อกันติดครับ (โหดมาก บอกเลย555+)






บรรยากาศตอนตรวจแบบ อาจารย์กำลังนั่งเครียดกับแบบของพี่และเพื่อนพี่ 555+






10. ดูงานนอกสถานที่


พี่ว่าเป็นหนึ่งในคณะที่ได้ออกไปข้างนอกมากกว่าคณธอื่นครับ เพราะการทำสถาปัตยกรรมจำเป็นต้องเห็นของจริงมากกว่าการนั่งเทียนอยู่ในห้อง ทำให้อาจารย์จะพาไปดูงานข้างนอกบ่อย บางทีก็ไปบ้านคนดัง บางทีก็เข้าไปดูงานระบบตึก บางทีก็อาจมีพาไปตรวจแบบนอกสถานที่ นัดดูงานเพิ่มเติม หรือเอาคนนอกมาพูดให้ฟัง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจในการออกแบบและเป็นการเรียนรู้ทางตรงมากกว่านห้องเรียน ซึ่งพี่ว่าพี่ชอบมาก เพราะพี่เป็นคนไม่ค่อยชอบเรียนในห้อง บางทีการไปดูของจริงอาจทำให้เราได้อะไรมากกว่าอ่านหนังสือหรือดูรูปอยู่ในห้องเลคเชอร์






  


ดูงานที่บริษัทพฤกษาและที่ตึก เดอะ เมท สาทร








เป็นไงครับจบไปแล้วกับสไตล์การเรียนแปลกๆของพี่ๆถาปัต จุฬา หวังว่าจะทำให้น้องๆเห็นภาพมากขึ้นว่าเบื้องหลังการเรียนการสอนของคณะสถาปัตย์เป็นอย่างไร หวังว่าจะมีประโยชน์กับน้องๆทุกคน ใครที่กำลังสอบเข้าสถาปัตย์และอยากให้พี่ให้คำแนะนำ ไม่ต้องกังวลสามารถไลน์มาถามได้เสมอที่ Kavin.Cherd หรือจะคอมเมนท์ใต้กระทู้ก็ได้ ส่วนตอนหน้า จะเป็นเรื่องไหนที่เกี่ยวกับเด็กถาปัต คอยติดตามอ่านกันด้วยนะครับ ส่วนใครที่ชอบก็กดไลค์กดแชร์ให้เพื่อนๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยเน้อ!

สำหรับใครที่ต้องการสอบถามเรื่องการสอบ
และการติวสถาปัตย์แนะนำเพจนี้เลยครับ
https://www.facebook.com/TohDraftStudio/
มีพี่ๆถาปัตคิยตอบตลอดนะครัช :)


Facebook : Kavin Cherdchanyapong
Ig : winnerc







แสดงความคิดเห็น

22 ความคิดเห็น

Supikakan99 7 มี.ค. 59 เวลา 18:25 น. 1

เวลาอ่านกระทู้พี่วินแต่ละอัน แล้วรู้สึกเหมือนได้แรงบันดาลเพิ่มขึ้นตลอดเลยค่ะ 55555555555555 จากที่อยากเรียนอยู่แล้ว ก็อยากเรียนเข้าไปอีก พี่ทำให้หนูได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวถาปัตย์เยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ หนูจะต้องสอบติดถาปัตย์ให้ได้เลย สู้! 

2
Tezuka 9 มี.ค. 59 เวลา 21:47 น. 6-1

นั่งเทียนหล่ะครับถูกแล้ว นั่งเทียนคือการคิดเองเออเอง โดยที่เรายังไม่ได้เห็นของจริง เพราะงั้นการลงพื้นที่มันจึงช่วยให้เราเห็นอะไรได้มากกว่า การที่จะมานั่งคิดเองอยู่ในห้องครับ

0
suha 8 มี.ค. 59 เวลา 20:08 น. 8

ตอนนี้หนูยังลังเลว่าตัวเองควรเรียนสายนี้ดีมั้ย เพราะหนูเองก้อไม่อยากผิดหวังซ้ำสองกับทางที่ตัวเองเลือก ตอนนี้หนูเรียนโลจิสติกส์ แต่หนูรู้สึกว่ามันไม่โอเคอ่ะค่ะ แต่หนูก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเรียนอะไร ในความคิดหนู หนูคิดเสมอว่าตัวเองวาดรุปไม่เก่ง แต่เพื่อนๆชอบชมว่าสวยเเล้ววอนให้หนูวาดตลอดเลยย บางทีไอเราก้อขี้เกียจน่ะ เเต่ก้อทำๆไป อาจารก็เอาหนูพาไปแข็งบ้างอาจจะกดดันบ้างเพราะในความคิดของตัวเองมันบอกว่า ทำไม่ได้เเน่ๆ5555 หนูก็ งง ในตัวเองเหมือนกันน่ะ พรสวรรค์มั้ง อิอิ เเต่หนูก็มีความสุขที่ได้เห็นผลงานจของตัวเอง จากที่ได้อ่านของพี่หนูก็รู้สึกว่ามันใช่น่ะค่ะ อ่านไปยิ้มไป อิอิ แต่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเรียนไม่ไหว เห้อออ
#ขอคำปรึกษาาาด่วนนจากพี่เเล้วก้อเพื่อนๆด้วยน่ะค่ะ
เรียนสายนี้ต้อเก่งเลขด้วยใช่ไมค่ะเศร้าจัง

2
Kavin Cherdchanyapong 9 มี.ค. 59 เวลา 00:25 น. 8-1

ไม่จำเปนต้องเก่งเลขขนาดนั้นครับ แต่ต้องมี sense และ หลักเหจุผล ตรรกศาสตร์ที่ดี

0
โย่วเย่ 9 มี.ค. 59 เวลา 14:25 น. 8-2

อย่าไปกลัว ผมก็เรียน โลจิสติกส์มอรัฐแห่งหนึ่ง แล้วตัดสินใจทำตามฝันออกมาเรียนสถาปัตย์มอรัฐแห่งหนึ่งได้สมใจ พยายามตามฝันดีกว่ามานั่งเสียใจเพราะไม่ได้ทำอะไรเลย

0
chocofrozen 8 มี.ค. 59 เวลา 20:30 น. 9

เรียนสถาปัตย์ต้องเก่งเลขไหมคะ?
แล้วถ้าไม่เรียนในสถาบัน (เพราะพี่อายุเกินไปโขแล้ว) จะไปหาเรียนได้ที่ไหนบ้างคะ?
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

0
พีเอไออา 9 มี.ค. 59 เวลา 12:49 น. 10

บางครั้งก็คิดนะว่าเราเรียนสถาปัตย์เนี่ยคิดดีแล้วหรอไหวแน่นะ แต่พอคิดทีไรก็ได้แต่คำตอบว่า "ถ้า-ไม่เรียนสถาปัตย์แล้ว-จะเรียนอะไร55555" นั่นดิเรียนอะไร อยากบอกว่าทุกวันนี้มีความสุขมากที่ได้เรียนสถาปัตย์ อาจจะหน้าโทรมลงทำแต่งาน แทบไม่มีเวลาให้กับอะไรเลย แต่มันก็มีความสุขนะที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก อยากให้น้องๆลองใช้ใจมองคณะนี้แล้วน้องๆจะรู้ว่าคณะนี้มันก็น่าเรียนนะ5555เยี่ยม

0
BothBudsaya 10 มี.ค. 59 เวลา 09:38 น. 11

ตอนสอบก็ชิวค่ะ ชิวโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้าไม่มีวิชานอก =__=  ดึงเกรดฮวบฮาบเลยค่าาาาาาา
แต่ก็ยังทำตัวชิวอยู่ดี 55555+

0
Hikari Haruka 18 มี.ค. 59 เวลา 21:46 น. 12
ช่วงสอบ ชิลมากกกกก(เทียบกับคณะอื่น)...
ข้อนี้หนูเชื่อค่ะ ถถถถถถ เคยไปสอบสัมภาษณ์คณะสถาปัตย์ของมหาวิทยาลัยนึง นั่งรออยู่ข้างนอกได้คิวที่ 84 ตอนนั้นคิวอยู่ประมาณคิวที่ 30 กว่าๆ รุ่นพี่ที่มาดูแลเหล่าน้องๆ จู่ๆพี่เค้าก็พูดขึ้นมาว่า "แกๆฉันเบื่ออ่ะ เล่นเกมเศรษฐีกันป่ะ" เพื่อนก็ว่า "เออๆเอาดิ" เราก็นึกว่าเล่นเกมส์เศรษฐีในโทรศัพท์กัน แต่พี่เค้าเอาเกมส์เศรษฐีแบบกระดานมาตั้งเล่นหน้าห้องสัมภาษณ์กันเลยทีเดียว พวกพี่เค้าก็เล่นกันไปจนถึงคิวที่ 84 คิวหนูพอดี กำลังจะเดินเข้าห้องสัมภาษณ์ ทางรุ่นพี่ก็หันมาบอกกับหนู่ว่า "อ้าวน้องถึงคิวน้องแล้วเหรอ อยู่ตั้งแต่พี่เริ่มเล่นจนพี่เล่นจบเลยนะ โชคดีนะพี่ไปสอบก่อน" ...... คือชิลมากค่ะ เล่นเกมส์เศรษฐีก่อนสอบกันเลยทีเดียว เป็นอะไรที่ประทับใจมากค่ะ น่ารักดี 


0
namtoey7 19 มี.ค. 59 เวลา 21:08 น. 13

ข้อเจ็ดนี่จริงมากกกกก ลืมโทรศัพท์ไว้ครึ่งวันไม่เคยหาย แต่ลืมดินสอดราฟไว้แปบเดียว ไม่เหลือร่องรอยเลย 55555555555555555555

0
เด็กถาปัดจุฬา 13 ส.ค. 60 เวลา 09:39 น. 16

อ่านแล้วย้อนกลับไปดูตอนเรียนถาปัดจุฬาเหมือนกัน

อื้อหือ......ใช่เลย

เหนื่อยมาก แต่สนุกและได้อะไรดีดีจากคณะนี้มากๆ

น้องๆที่อยากเข้า แนะนำว่าต้องหาตัวเองให้ดีดีก่อนเข้าไป จะได้ไม่พลาด

และ หาที่ติวดีดี จะได้สมหวัง เย้ เพื่อให้เข้าถาปัดจุฬาเหมือนพี่ทั้งสองให้ได้นะ

เอาใจช่วยทุกคน

เพจ พี่โจ้ถาปัดจุฬา

0
mai and ho 16 พ.ค. 61 เวลา 17:28 น. 17

พี่คะ เวลาจะสอบเข้าคณะนี้ต้องเตรียมอ่านวิชาอะไรเป็นพิเศษรึป่าวคะ คือตอนนี้อยู่ ม.4 แต่สนใจอยากจะเรียนสถาปัตค่ะ

0
Aunblack'sGirl / อัญศิตา 16 มิ.ย. 61 เวลา 18:17 น. 18

ที่เข้ามานี่ไม่ได้มีความอยากเรียนเลยค่ะ จุดประสงค์หลักคือต้องการหาแหล่งอ้างอิงนิยายที่จะเขียนค่ะ แต่ไม่รู้ทำไมพออ่านแล้วรู้สึกอยากเรียนขึ้นมาซะงั้น ...ทั้งที่ตอนนี้ก็ยังไม่มีจุดหมายที่ชัดเจนในชีวิตพอ แต่พอเห็นกระทู้พี่วินแล้วเริ่มมีความสนใจขึ้นมาเลยค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะสำหรับข้อมูลที่ได้และทำให้เราได้ตัวเลือกสายที่จะเรียนในชีวิตเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง ^^

0
DEMON SHADOW 13 ส.ค. 62 เวลา 09:31 น. 19

จริงแท้ทุกอย่างเลยค่ะพี่5555 ชอบคณะนี้เพราะมันเป็นแบบที่พี่เล่ามานี่แหละ เรื่องนอนหลับนี่คือหลับได้ทุกที่จริง ๆ แต่อ.เคร่งเรื่องเรื่องเวลามาก เลคเชอร์เสร็จสั่งงานแล้วอยากทำอะไรก็ทำ ถึงเดทไลน์ต้องมีงานส่ง ช้าไปวินาทีเดียวก็ไม่ได้ ไม่งั้นศูนย์ (อ.เขาตั้งเวลาจริง ๆ ) ตอนวิ่งไปส่งงานนี่วิ่งไม่คิดชีวิตกันเลย 555+ และต่อให้อยู่ต่างม.แต่ก็รู้สึกได้ว่าเด็กถาปัตย์มีออร่าที่เหมือนกัน

0
Oum 2 ก.ย. 63 เวลา 19:23 น. 20

อ่านไปก็น่าเรียนมากๆเลยค่ะ แต่กลัวว่าเรียนจบจะไม่มีงานทำ แต่ก็มีบ.รองรับแหละนะ อ่านของพี่ทำให้มีกำลังใจในการเรียนเลยค่ะ

0