ว่าด้วยเรื่อง "สัก" และ"ซัก"
สังเกตงานเขียนหลายชิ้นที่เขียนกันขึ้นมานั้น ส่วนใหญ่ใช้คำว่า "สักคน สักอัน สักวัน สักนิด ฯลฯ" เป็น "ซักคน ซักอัน ซักวัน ซักนิด ฯลฯ" นำหน้าทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะนิยายวัยรุ่น (เจอประจำตอน edit งาน แม้แต่งานวรรณกรรมเยาวชนบางเรื่องที่คนเขียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ยังเจอโผล่มาทั้งเรื่อง) เห็นอย่างนั้นก็เลยนึกแปลกใจว่าอะไรทำให้เข้าใจว่าใช้ได้กับภาษาเขียน
เท่าที่รู้มา คำว่า "ซัก" มันคือ "ซักผ้า" ซึ่งเป็นกิริยา นอกเหนือจากนั้น มาจาก "ซักถาม ซักไซ้ไล่เลียง" ประมาณนั้น
พอเอามาใช้กับชุดคำข้างต้น ถ้าจะแปลกันจริงๆ แล้วนั้น จะกลายเป็นว่า "ถามคน ถามอัน ถามวัน ถามนิด ฯลฯ" -_-'
เรารู้สึกว่ามันตลกแบบไม่ขำยังไงไม่รู้
ก็เข้าใจแหละนะว่ามันเป็นคำกร่อนเสียง เวลาพูดน่ะไม่ผิดค่ะ ใช้ได้ แต่เวลาเอามาเขียนเป็นตัวอักษรจริงๆ แล้วเขาไม่นิยมใช้กันนะคะ จากที่สังเกตงานเขียนของท่านนักเขียนรุ่นใหญ่ดูน่ะนะ
ก็บอกเล่ากันไป เพราะเดี๋ยวนี้ภาษาวิบัติเยอะเหลือเกิน เศร้าใจนิดๆ ค่ะ T^T (อนาคตของชาติ)
นั่งปรูฟงานกับ edit งานแล้วเจอแบบนี้เกือบทุกเรื่องก็ไม่ไหว เพราะจุดนี้เป็นหน้าที่ของคนเขียนต้องแก้ไขนะคะนี่ บางทีอดรู้สึกไม่ได้ว่า บ.ก. และท่านพิสูจน์อักษรคนอื่นเจอแบบนี้บ้างไหมหนอ?
ผู้เขียนท่านใดบังเอิญได้เข้ามาอ่าน เชิญแสดงความเห็นกันเลยค่ะ
PS. ...ทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่ต้องเป็น...
29 ความคิดเห็น
เรื่องนี้นู้แล้วอ่ะ สมัยก่อนเคยพิมพ์คำว่า "ซัก" แต่โดนบ.ก.เราแก้เป็น "สัก" หมดเลย ก็เลยมารู้ตอนหลังว่า "ซัก" มักเป็นภาษาพูด แต่ "สัก" มักเป็นภาษาเขียน จำไว้นะคนเขียนนิยายทั้งหลาย ฮี่ๆๆๆ
PS. รักโด๋ยจัง ห่านโหมดทำงาน = งานท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอด...
ที่ผิดกันบ่อย ๆ เพราะส่วนใหญ่เขียนตรงกับเสียงพูดน่ะค่ะ
โดยลืมไปว่าภาษาเขียนมันไม่ใช่แบบนั้น
วิธีที่ดีสุดของนักเขียนเวลาไม่แน่ใจคือเปิดพจนานุกรมค่ะ
PS. ห้ามอย่างไรเมื่อใจฉันมันรักเธอ (ห้ามไม่ทัน...ดันรักเธอ) แสงใดสว่างใสเท่าแสงแห่งรัก (แสงอรุณแห่งดวงใจ)
เมื่อครู่พิมพ์ตอบแล้วโพสไม่ผ่าน ลืมไปเลยว่าพิมพ์อะไรไปบ้าง -*-
อยากเสนอให้นักเขียน หัดใช้ภาษาเขียนให้เคยชินมากกว่าภาษาพูด ไม่ว่าท่านจะเขียนนิยายแนวไหนก็ตาม ถึงท่านจะเขียนแนวหวานแหวววัยรุ่น ก็ใช่ว่าท่านจะแหววได้ตลอด เพราะยามใดที่ท่าน "แก่" ขึ้น ท่านก็เริ่มแหววไม่ออกแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นหัดภาษาเขียนไว้ให้เคยชินดีกว่า มันจะเป็นผลดีกับตัวท่าน และคนอ่านที่หยิบนิยายท่าน ไม่ว่าจะยืนอ่าน หรือซื้อไปอ่าน อย่างน้อยเขาก็รู้สึกดีที่ท่านใส่ใจในการใช้ภาษา อีกทั้งท่านยังเป็นแบบอย่างในการใช้ภาษาให้กับนักอ่านอายุน้อย ๆ ที่ชื่นชอบงานของท่านอีกด้วยค่ะ
^ ^
ไม่รู้อ่ะ อยากใช้อันไหนก็ใช้ เพราะมันคือนิยายของข้าพเจ้า
PS. เรารักในหลวง ฝากฝังนิยายด้วยนะ http://my.dek-d.com/moacgogo/
ตามคห.1....ประสบการณ์เดียวกัน
PS. รักห่านจัง ประชาธิปัตย์...ถ้าแกโดนยุบพรรค ด้วยข้อกล่าวหางี่เง่าไร้สติพวกนั้น ฉันจะ... ฉันจะ... เฮ้อ...ช่างหัวพวกแกเถอะ...พยายามเข้าก็แล้วกัน... = =*
ขอบคุณค่ะ
เพิ่งรู้เลยค่ะเนี่ย
ใช้ "ซัก" มาตลอดเหมือนกัน
แต่ด้วยความไม่รู้ค่ะ
ต่อแต่นี้คงต้องปรับปรุง
ขอบคุณมากๆนะคะ
กระทู้นี้ดีมากๆเลย
โหวตให้เลยก็แล้วกัน
PS. สู่มิติใหม่กับเทคโนโลยีชวนพิศวง ตื่นเต้นมหัศจรรย์ยิ่งกว่าเวทมนตร์ : CLEMENCY
คห. 4 นิยายของคุณก็จริงแต่ถ้าเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์ มันก็คงไม่ลำบากจนจะตายหรอกจริงมั้ยค่ะ คุณ Friendz
จะจำไว้ฮะ ฮี่ๆ
PS. กุหลาบแดง คือ รักที่ปักอก กุหลาบตก คือ รักที่หล่นหาย กุหลาบหัก คือ รักที่มลาย กุหลาบตาย ไอควายลืมรดน้ำ [ T[]Tลาก่อนนะเพื่อนรักเเล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติมั่นคง โฮะๆๆๆ ]
จะจำไว้เหมือนกัน เพราะตัวเองก็ยังงงๆอยู่ =_=''
PS. [B][L]_สายฝน_N7 (สายฝน ^^) เน่าๆอย่างนี้ =_=^ -->[สายฝนที่พัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาในชีวิตเรา -*- ซึ้งตายละเมิง =O=^]
แล้ว สิ กับ ซิ ล่ะ ขอรับ
จริงสิ หรือ จริงซิ
นั่นสินะ หรือ นั่นซินะ
.............
PS. Yuri !!! ความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงทำไมมันโดนใจขนาดนี้.... นามปากกาใหม่ขอรับ - Saber ดาบแห่งยูริ - คลั่งเรื่อง Strawberry Panic มาก ชอบทุกคู่Yเลยทั้ง3โรงเรียน
จำไว้ครับ
PS. แหนม // กฏมีไว้แหก แต่แหนมมีไว้ป่วน
ใช้ สิ คะ ซิ ไม่ควรใช้
PS. รักโด๋ยจัง ห่านโหมดทำงาน = งานท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอด...
โหวตให้เลย เพราะว่าตัวเองก็มีปัญหามากกับการใช้คำว่า สัก และ ซัก
PS. ~~ถ้าท่านถูกถามว่า - ทำอย่างไรจึงจะไม่ให้ตาย - จงตอบกลับไปว่า - ท่านก็จง ขยันหายใจ ต่อไปเถิด ~~ ~ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท~
หลงเขียน ซัก แต่พออ่านรอบสองก็แก้เป็น สัก แล้วแหละ
PS. [[ Heart Keeper]] เจ้าของหัวใจ http://my.dek-d.com/Mcfly_Ultraviol/story/view.php?id=140092 [[A.B. Normal Love]]http://my.dek-d.com/Mcfly_Ultraviol/story/view.php?id=158071
คุณ mad_savior : ก็จริงนะคะที่ว่าคำหลายคำเพี้ยนไปบ้างไม่มีปัญหาค่ะ เช่นคำว่าเยี่ยง กับ อย่าง ที่สมมุติขึ้นมา เพราะ 2 คำนั้นความหมายเดียวกัน
ส่วนคำว่า "ไม่เป็นสรรพรส" ที่เพี้ยนเป็น "ไม่เป็นสับปะรด" (ตัวสับ ใช้ บ นะคะ ไม่ใช่ ป) เดี๋ยวขอไปหาที่อ้างอิงมาให้ค่ะ แต่ไม่ได้เกิดจากความสะดวกหรือแค่อ่านเพี้ยนเอาเองจนได้รับการยอมรับว่าใช้ได้แน่นอน ทุกอย่างมีที่มาค่ะ ข้อนี้ขอติดไว้ก่อนนะคะ ^^
แต่คำว่า ฉัน กับ ชั้น ในความเห็นเรานะ (จริงๆ ก็ไม่ใช่ของเราคนเดียวหรอก) "ฉัน" คือสรรพนามแทนบุรุษที่ 1 คำว่า "ชั้น" ใช้กับสถานที่ ตำแหน่ง และระดับ เช่น "ชั้นบน ชั้นล่าง ชั้นนอก ชั้นใน ชั้นที่หนึ่ง ชั้นดี ชั้นเลว" หรือที่วางของ (ถ้าเป็นนามนะ)
คำว่า "ฉัน" กับ "ชั้น" มันคนละความหมายกันเลยค่ะ และที่สำคัญ ทั้ง 2 คำมีความหมายของตัวมันเองอยู่แล้ว ถ้าหยวนๆ หน่อย คำว่า "ชั้น" ก็ใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ได้ ในภาษาพูด แต่ไม่ใช่ภาษาเขียน และถ้าพูดถึงความสะดวกแล้วคำว่า "ฉัน" ก็ไม่ได้ทำให้ติดขัดตรงไหนนี่คะ ความหมายตรงตัวดีออก
ก็เหมือน "สัก" กับ "ซัก" นั่นแหละ ทั้ง 2 คำมีความหมายของตัวเองอยู่แล้ว เมื่อนำมาใช้เพี้ยนหรือผิดก็ทำให้เกิดการจำรูปแบบผิดๆ
เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
คำว่า สัก ของราชบัณฑิตหมายถึง อย่างน้อย เพียง ราว เช่น สัก 2 วัน สักเล็กน้อย (ก็คือ เพียงเล็กน้อย) ฯลฯ
ส่วน ซัก ของราชบัณฑิตหมายถึง ทำให้สะอาดด้วยน้ำ กับ ไล่เลียงให้แจ้งกระจ่าง เท่านั้นค่ะ
อืม..."ความสะดวก" อาจจะใช้ได้ แต่ไม่ดีกว่า "ถูกต้อง" แน่นอน (ท่านประธานที่เคารพ ข้อนี้ขอค้านค่ะ ^^) ลองสังเกตที่ในหลวงท่านทรงเขียนสิคะ ไม่ได้ทรงเน้นที่สะดวกมากกว่าถูกต้องเลย
คำที่ใช้ประจำ ถ้าผิดหรือเพี้ยนก็จะทำให้เกิดการเข้าใจว่าถูกต้อง ทั้งๆ ที่มันเพี้ยนไปจากของเดิม ยิ่งคำที่เพี้ยนเป็นคำที่มีความหมายอยู่แล้วด้วยนี่อันตรายนะคะ เพราะเรามักคิดว่ามันเพี้ยนนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก แต่เมื่อคำนั้นถูกมองว่าถูกต้องและยอมรับได้ อนาคตต่อๆ ไป คำที่เพี้ยนก็อาจจะถูกทำให้เพี้ยนหนักขึ้น ด้วยเหตุผลเพียงแค่เพราะ "สะดวก" เท่านั้นเอง
เมื่อเขียนนิยาย คือการเล่นกับถ้อยคำ เรียบเรียงภาษา ไม่ว่าถูกหรือผิด นอกจากอรรถรสในการอ่านแล้ว คนที่อ่านก็ย่อมได้รับผลจากการเรียบเรียงภาษาและการใช้คำของคนเขียนด้วย เราคิดว่าเป็นหน้าที่หนึ่งที่คนเขียนต้องใช้คำให้ถูกต้อง ยิ่งถ้าต้องการเป็น "นักเขียน" ด้วยแล้ว นอกจากความสนุกของเรื่อง ภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องระลึกถึง
การเขียน...ไม่ว่าใครก็เขียนได้ หากอยากที่จะเขียน แต่จะเป็น "นักเขียน" ได้ ต้องเขียนให้เป็นด้วย ถ้าแม้แต่ภาษายังใช้ไม่เป็นหรือไม่ถูกต้อง ก็ยังเป็น "คนเขียน" อยู่ ไม่ใช่ "นักเขียน" ค่ะ
คุณ Rozen Maiden : "สิ" กับ "ซิ" สำหรับคำที่ยกมา ถ้าเขียนอย่างถูกต้องแล้วจะใช้ "สิ" ค่ะ เช่น นั่นสินะ จริงสิ แต่ทางราชบัณฑิตอนุญาตให้ใช้คำว่า "ซิ" ได้นะคะ
ถ้าเขียนนิยาย ในส่วนของพรรณนาหรือเล่าเรื่อง เท่าที่เห็นโดยทั่วไปจะใช้ตัว "สิ" นะคะ ส่วนประโยคคำพูดที่อยู่ในเครื่องหมายอัญประกาศ (" ") จะใช้แบบไหนก็ได้
(อันนี้หมายถึงเราเองนะ) แต่เราเขียนเราใช้แต่ สิ เป็นส่วนใหญ่ หรือบางครั้งเราจะใช้ซิ เมื่อเป็นคำกึ่งๆ สั่งหรือคะยั้นคะยอน่ะค่ะ อย่าง "ไปดูซิ" เพราะมันให้คนละอารมณ์กับ "ไปดูสิ" (ในความเห็นเราเองนะ) เพราะไปดูสิ เหมือนกึ่งชักชวน ประมาณว่า ไม่เชื่อก็ลองไปดูสิ อะไรทำนองนี้ ^^ งงไหมเนี่ย
ส่วนที่เราใช้ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก สรุปก็คือ สิ กับซิ จะใช้อะไรก็ได้นั่นเองค่ะ ราชบัณฑิตมีลงไว้ ค่ะ
PS. ...ทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่ต้องเป็น...
โอ้...ตัวหนังสือกระจิ๋วหลิวจัง T^T ขอโทษที่ทำให้อ่านลำบากนะคะ
PS. ...ทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่ต้องเป็น...
โอ้! ความเห็นบนนั่นใครเอาแว่นขยายมาให้ยืมหน่อยสิคะ เล็กจิ๋วมากเลย - -"(แซวเล่นนะคะ)
ที่ออกความเห็นว่าอยากให้ใช้ภาษาเขียนให้เคยชิน ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะการเขียนนิยายเท่านั้น แต่สืบเนื่องไปถึงในการเรียนในอนาคต การที่คุณต้องทำวิจัย ทำวิทยานิพนธ์ คุณเขียนภาษาไทยเคยชินแบบที่คุณใช้ว่าเป็นภาษาพูด ถ้าเจออาจารย์ที่ปรึกษาเคร่งเรื่องการใช้ภาษา วิทยานิพนธ์ของคุณมีหวังโดนเด้งให้กลับมาทำใหม่แน่
หรือถ้าใครเห็นว่ามันยังอีกยาวไกล และไม่ใช่เรื่องน่าห่วง พอถึงตอนนั้นค่อยปรับตัวได้ ก็ตามใจ เตือนเพราะหวังดี อยากให้ใช้ภาษาไทยกันให้ถูกต้องเท่านั้นเอง เพราะใครจะใช้ถูกไม่ถูกความจริงแล้วปัดก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรไปด้วยสักหน่อยนี่นะ แต่เห็นว่าเราอยู่บอร์ดเดียวกัน เตือนได้ก็เตือน แนะนำได้ก็แนะนำเท่านั้นเอง ถ้าอ่านความเห็นแล้วรู้สึกไม่พอใจกัน ก็ขอโทษด้วยนะคะ
เพิ่งรู้สึกว่าคห.ที่ 16 ของตัวเองจัดบรรทัดได้น่าเกลียดมาก แบบว่าพิมพ์ใน ms word แล้วก็มาเพิ่มเติมในเว็บฯ ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละค่ะ เศร้า T^T
PS. ...ทุกอย่างต้องเป็นอย่างที่ต้องเป็น...
ครับเห็นด้วยเลย ใช้ให้เป็นนิสัยจะเป็นการดีกับทั้งตัวผู้อ่านและตัวผู้เขียนด้วยครับ
ผลดีของผู้อ่านก็คือได้รับรูปแบบภาษาที่ถูกต้อง
ผลดีของเราก็จะย้อนมาอย่างที่คุณ ค.ห. 18 ว่าเลยนิ งานวิจัยภาคนิพนธ์ รายงานต่างที่ต้องใช้ภาษาเขียนให้ถูกต้อง ถ้าใช้คำผิดเล็กๆน้อยๆนี่โดนตีกลับหมด ต้องมานั่งปริ้นท์ใหม่อีก (เปลืองเหลือหลาย)
PS. Ragnarok Fiction - The legend of descendant - เรื่องราวของตำนานรบตำนานรักบทใหม่
เราเองก็อีกคนล่ะ ไม่ได้ทำงานพิสูจน์อักษรหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นคนที่เวลาอ่านเจอการใช้ภาษาประเภทนี้ในการเขียนแล้วรู้สึกไม่ชอบใจมากๆเลย ไม่รู้จะเพราะเราหัวเก่าหรือเปล่า (แต่คิดว่าไม่น่านะ) แต่อ่านเจอทีไรรู้สึกแปลกๆทุกที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนิยายเกาหลีที่มาแรงมากๆในตลาดไทยเราเดี๋ยวนี้ มีกระทั่งตัวที่ใช้อักษรเลียนแบบสีหน้าแบบนี้ --> ^0^ อยู่เยอะมากๆ เคยเปิดอ่านของเพื่อนดู (ไม่คิดซื้อเองเพราะไม่ชอบอ่านนิยายรักหวานแหววแนวนั้นเท่าไหร่) แค่สองหน้ามีอักษรแสดงสีหน้าแบบนี้เป็นสิบ บอกตรงๆว่าอ่านแล้วแทนที่จะลื่นไหลเพลิดเพลิน มันกลับทำให้เราอ่านแล้วสะดุดเป็นระยะเสียนี่ เราไม่ใส่ใจเรื่องถ้าจะใช้เวลาเม้นท์หรือพิมพ์ในแนวพูดคุยตามบอร์ดตามMSNรฃหรืออื่นๆ แต่การเอามาใช่ในนิยายนี่น่ะ เราว่ามันทำให้ภาษากับความเข้าใจผิดเพี้ยนได้นะ
ว่าไปนั่นเราเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเรื่องที่เราเขียนมันจะถูกต้องทั้งหมดหรือเปล่า แต่เราก็พยายามใช้ให้ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะ เรามันพวกซุ่มซ่ามชอบจำผิดจำถูกพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกอยู่ด้วย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?