อียอง After School ดนตรีโพสต์โมเดิร์น , ฮวานฮี Fly to the sky ดนตรีโพสต์โมเดิร์น
แรงบันดาลใจสู่ "นักศึกษาคยองฮี"
อย่างแรกเลยเพราะว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในเกาหลีครับ ซึ่งลำดับ Ranking ของมหาลัยดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
และมีสถาบันสอนภาษาเกาหลีที่ได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ในด้านของตัววิทยาเขตเองไม่ต้อง
พูดถึงครับ คยองฮีได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี มีนักท่องเที่ยวทั้งเกาหลีและต่างชาติต่างเข้ามา
เยี่ยมชมความงามของมหา'ลัยกันอย่างไม่ขาดสาย และที่สำคัญทำเลที่ตั้งของมหาลัยอยู่ไกลออกมาจากตัวเมือง
นิดหน่อย ไม่พุกพล่านวุ่นวาย ไม่มีสิ่งยั่วยุมากนัก ทำให้นักศึกษาสามารถจดจ่ออยู่กับการเรียนได้อย่างเต็มที่
แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก การเดินทางก็สะดวกสบาย สามารถนั่งรถเมล์หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน
เข้าตัวเมืองได้โดยใช้เวลาไม่นาน เรียกได้ว่าเป็นมหา'ลัยที่ไม่เยอะกินไปและก็ไม่น้อยเกินไป ทุกอย่างลงตัวพอดี
ก็เลยทำให้น่าอยู่ครับ
บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัย น่าอยู่แค่ไหน
โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าดีมากครับ ^^ จริงๆ แล้วทางเข้าอาจจะดูไม่ค่อยน่าสะดุดตาเท่าไหร่ (แต่ความงามมัน
ซ่อนอยู่ด้านใน) ตั้งแต่เข้าประตูมหา'ลัยไป จะมีต้นซากุระปลูกอยู่สองข้างทาง ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เจ้าต้น
ซากุระพวกนี้ก็จะออกดอกชมพูสวยเต็มต้น และก็จะร่วงลงมาตกบนบ่าของนักศึกษาที่เดินผ่านไปมา ช่างเป็นวิว
ที่น่าประทับใจมากครับ
ส่วนบรรยากาศด้านในมหา'ลัยค่อนข้างเย็นสบาย เนื่องจากตั้งอยู่หน้าภูเขา ในช่วงหน้าร้อนก็จะมีลมอ่อนๆ พัด
มาเป็นระยะให้พอคลายร้อนได้บ้าง ในขณะที่เราเดินอยู่ในมหา'ลัย ถ้ามองไปที่ตัวอาคารจะสัมผัสได้ถึงความ
งดงามของศิลปะแบบตะวันตก โดยเฉพาะตัวอาคารห้องสมุดซึ่งเคยใช้เป็นที่ถ่ายภาพยนต์เรื่อง The classic มา
ก่อน ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้คิดว่ามาเห็นจะต้องจำได้แน่ๆ
ถัดมาทางซ้ายของห้องสมุดจะเป็นตึกอำนวยการใหญ่ เป็นตึกที่ถูกสร้างตามแบบศิลปะตะวันตกเช่นเดียวกัน
หน้าอาคารจะมีบันไดสีขาวลาดยาวลงมารับกับน้ำพุที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การคว้า
กล้องขึ้นมาแชะภาพมากๆ เลยทีเดียวครับ และหากเราเดินขึ้นไปจากตัวตึกอำนวยการ ก็จะเห็นหอประชุมใหญ่
ของมหา'ลัย ซึ่งที่นี่จะใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีการสำคัญ เช่น ปฐมนิเทศ รับปริญญา เป็นต้น และหอประชุมนี้ยัง
เข้าไปอยู่ในละครเกาหลีมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง ยังไม่หมดแค่นั้น ด้านหลังมหา'ลัยอย่างที่ได้บอกจะมีภูเขา
เล็กๆ อยู่ สามารถทำข้าวกล่องขึ้นไปปิกนิกกับเพื่อนๆได้ นอกจากได้ชมวิวทิวทัศน์แล้วยังได้ออกกำลังกายไปใน
ตัวด้วย
จุดเด่นโดนๆ นี่แหละ คยองฮี!
จริงๆ แล้วคยองฮีมีจุดเด่นหลายอย่าง แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะเป็นสถาบันสอนภาษาครับ สถาบันสอน
ภาษาของมหางลัยคยองฮีจากประสบการณ์ที่เรียนภาษาที่นี่มา 6 เดือน รู้สึกว่าที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่อง
วิชาการ มีการปรับปรุงพัฒนาสื่อการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ มีการจัดอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของอาจารย์
ผู้สอน ทำให้เด็กที่เข้ามาเรียนมีความรู้และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง
ในขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่ทางมหา'ลัยหรือสถาบันภาษาเองจัดให้ เช่น กิจกรรมทัศนศึกษา
โดยทางสถาบันจะพานักเรียนไปสัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลีนอกตำรา พาไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
และมีชื่อเสียงในเกาหลี ทำให้นักเรียนได้รับความรู้ไปพร้อมๆ กับความสนุกสนานเพลิดเพลิน ต่อด้วยกิจกรรม
เพื่อนช่วยเพื่อนหรือ Doumi เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีของเหล่านักศึกษาภายในรั้วคยองฮีและเป็นการ
เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนภาษาเกาหลีของนักศึกษาชาวต่างชาติมากขึ้น โดยจะจับคู่นักศึกษา
ต่างชาติกับนักศึกษาเกาหลี(ทางสถาบันได้ทำการคัดเลือกแล้ว) เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติได้มีเพื่อนชาวเกาหลี
ได้ฝึกใช้ภาษา และเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีผ่านทางคนเกาหลีจริงๆ
และนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอาหารนานาชาติ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำเอาอาหาร เครื่องดื่ม หรือของจาก
ประเทศตัวเองมาขาย เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของนักศึกษาชาติเดียวกันในมหาลัย อีกทั้งยังเป็นการเปิด
โอกาสให้ได้เจอเพื่อนใหม่จากหลายประเทศทั่วโลก งานนี้ได้ทั้งความสนุกสนาน ได้เพื่อน แถมยังได้เงินติดไม้
ติดมือไปด้วย คุ้มมมจริงๆ…..
จุดรวมตัวของเด็กคยองฮี ต้องไปที่นี่เลย
จุดรวมตัวของเด็กคยองฮีจริงๆ มันค่อนข้างหลากหลายนะครับ คือปริญญาตรี ปริญญาโทก็คนละที่ แต่ละคณะก็
จะมีร้านโปรดไม่เหมือนกัน ส่วนที่เด็กคยองฮีไม่ว่าเรียนอะไรจะต้องไปกินอย่างน้อยครั้งนึงคิดว่าน่าจะเป็น
ร้านแกงเผ็ดไก่สไตล์เกาหลี (Taktoritang) ร้านหน้ามหา'ลัย เดินตรงออกมาจากมหา'ลัยเลี้ยวซ้ายเข้าซอย
นิดนึงก็จะเห็น ตัวร้านไม่ใหญ่มาก เข้าไปด้านในจะมีที่นั่งแบบนั่งโต๊ะกับโซนนั่งพื้น
จุดเด่นอีกอย่างของที่ร้านนี้คือ ป้าคนขายค่อนข้างด่าเก่ง จนมีฉายานามว่าร้านป้าปาก…. (ละไว้เดี๋ยวไม่สุภาพ)
ซึ่งคนเยอะมาก บางทีต้องนั่งรอเป็นครึ่งชั่วโมง แต่ก็รอเพราะของเค้าดีจริง ทำรสชาติกลมกล่อมมาก (ไม่รู้ใส่ชูรส
ไปกี่ซอง >_<)
และถ้าเราเบื่ออาหารประเภทแกง ก็ให้เลี้ยวขวาซอยที่สามจากหน้ามหา'ลัย แล้วเลี้ยวซ้ายอีกรอบจะถึงร้านหมูย่าง
ชื่อดังที่มีเฟรนชายส์ไปทั่วเกาหลี (Sorae) ซึ่งร้านนี้เหมาะกับเป็นที่สังสรรค์น้ำเมาเป็นอย่างมาก หมูย่างไม่แพง
น้ำจิ้มเด็ด และที่สำคัญราคาย่อมเยาว์ ^^
และหลังจากกินของคาวเสร็จมาต่อที่ร้านกาแฟ ร้านกาแฟหน้ามหาลัยมีอยู่หลายร้านด้วยกัน แต่ที่นักเรียนนิยมไป
กันเห็นจะหนีไม่พ้น STARBUCK COFFEE ที่อยู่ตรงหน้ามหาลัยพอดี เดินตรงมาไม่นานก็จะเจอทางฝั่งซ้ายมือ
มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นใต้ดินจะมีพื้นที่สำหรับใช้ประชุมหรือสัมนา เรื่องรสชาติกาแฟขอไม่พูดถึง ก็คือสตาบัคส์ทั่วไป
ส่วนอีกร้านที่จะแนะนำคือร้านชื่อว่า EIGHT STREET เป็นร้านกาแฟอยู่ซอยทางขวาถ้าเดินมาจากหน้ามหา'ลัย
ร้านบรรยากาศดี ตกแต่งสวย มีเครื่องดื่มหลากหลาย มีน้ำผลไม้ปั่นสำหรับคนที่ไม่ชอบเครื่องดื่มผสมคาเฟอีน
มีอาหารกินเล่นประเภทแซนด์วิช ขนมปังต่างๆ เอาไว้ดับหิวในช่วงบ่ายแก่ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อนๆ คนไทยแวะ
มาเที่ยวก็ลองไปชิมกันได้นะครับผม^^
วิทยานิพนธ์ที่ต้องทำก่อนเรียนจบปริญญาโท
ก่อนจบทำวิทยานิพนธ์หัวข้อ "การสอนคำยืมจากภาษาจีนในภาษาเกาหลีให้กับนักเรียนไทย" ครับ ถ้าถามว่า
ทำไมถึงเลือกทำวิทยานพนธ์เรื่องนี้ จริงๆ แล้วเพราะว่าโดยส่วนตัวเคยเรียนภาษาจีนมาตอนปริญญาตรีครับ
แล้วพอมาเรียนภาษาเกาหลีก็รู้สึกได้ว่า มันมีส่วนคล้ายคลึงกันอยู่ค่อนข้างเยอะระหว่างสองภาษา ถ้าขยายความ
ก็คือในภาษาเกาหลีมีคำศัพท์หลายๆ คำที่ยืมมาจากภาษาจีน(ถ้าผมจำไม่ผิดประมาณเกือบ 70% ของคำศัพท์
ในภาษาเกาหลีเลยทีเดียว) โดยจะปรากฎมากในการเรียนระดับสูงขึ้นไป ทำให้คนจีนหรือญี่ปุ่นที่มาเรียนภาษา
เกาหลีมีความได้เปรียบกว่าชาติอื่น ผมจึงมีความคิดว่าถ้าเราคิดค้นวิธีการสอนคำยืมเหล่านี้ให้กับนักเรียนไทยได้
ก็จะช่วยให้นักเรียนไทยสามารถเดาศัพท์ได้ จำศัพท์ได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถนำรากศัพท์เหล่านั้นไปแตกศัพท์
ต่อไป
ส่วนขั้นตอนในการทำวิทยานิพนธ์นั้นค่อนข้างยาก ในช่วงแรกที่ต้องอ่านบทความหรือวิจัยที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด
จำกัดขอบเขตของงานวิจัยที่เราจะทำ และนำไปสู่การค้นหาเอกสารและข้อมูลในการทำวิจัยต่อไป ซึ่งช่วงต้น
ค่อนข้างกินเวลานิดหน่อย แต่พอทุกอย่างลงตัว รู้ว่าเป้าหมายและทิศทางของวิทยานิพนธ์ที่จะทำคืออะไร ก็จะลื่น
ขึ้น ระหว่างช่วงเขียนและวิเคราะห์ข้อมูลอาจจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อยแต่ก็แก้ไขกันไปทีละอย่างจนเสร็จสิ้น โดย
ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ว่าจะวิจัยหัวข้ออะไรก็มีความยากง่ายอยู่ในตัวทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเรามีความชอบและสนใจมันมาก
แค่ไหน หากเรามีความสนใจในหัวข้อที่เราจะทำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การทำวิทยานิพนธ์ก็สนุก ไม่น่าเบื่อและที่
สำคัญเราจะมีกำลังใจเขียนมันจนเสร็จครับ
ชีวิตความเป็นอยู่ในหอพักเด็กทุน
ผมพักที่หอพักนักเรียนทุนรัฐบาลเกาหลี(NIIED) อยู่ตรงถนน Daehungno ซึ่งเป็นย่านละครเวที ในทุกๆ วัน
ก็จะมีหนุ่มสาวคู่รักชาวเกาหลีมาเข้าแถวดูละครเวทีกัน โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี่คนเยอะมาก นอกจากนี้
ด้านหลังหอจะมีภูเขาลูกเล็กๆ เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะเล็กๆ ที่ให้คนขึ้นไปออกกำลังกาย กินลมชมวิวได้
ระหว่างทางไปยังสามารถชมศิลปะตามกำแพงไปเรื่อยๆ เรียกว่าเดินเพลินจนไม่รู้สึกเหนื่อยกันเลย
ส่วนภายในตัวหอจะเป็นหอพักสามชั้น แบ่งเป็นสองปีกบันได อยู่ตรงกลางปีกซ้ายจะเป็นห้องคู่ ส่วนปีกขวาจะเป็น
ห้องเดี่ยว ซึ่งตรงล็อบบี้ของแต่ละชั้นจะมีโซฟา ไมโครเวฟ ตู้กดน้ำ และทีวีให้ (แต่ทีวีนี่โดนตัดสัญญาณไปแล้ว
>_<) ส่วนในห้องพักจะมีเตียง ตู้ โต๊ะ ตู้เย็น และชุดครัวเล็กๆ มีห้องน้ำเล็กๆ อยู่ถัดเข้ามาจากประตู เรียกได้ว่า
สะดวกสบายพอสมควรครับ
สำหรับเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าจะอยู่ชั้นใต้ดิน และนอกจากจะมีบริเวณซักผ้าแล้ว ยังมีโซนออกกำลังกาย
เป็นฟิตเนสเล็กๆ เอาไว้สำหรับให้นักศึกษาได้ออกกำลังกายหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเรียน สำหรับตัวผมเองอยู่
ที่นี่มาสามปี มีเพื่อนทั้งไทยและต่างชาติมากมาย โดยเฉพาะเพื่อนๆ คนไทย เราช่วยเหลือกัน ทำกับข้าวกินกัน
ทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้รู้สึกว่าที่นี่เหมือนเป็นบ้านอีกหลังนึง ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเวลาเดินทางไปมหา'ลัยกว่าครึ่ง
ชั่วโมง แต่ก็คิดว่าคุ้มค่าครับ แลกกับการได้อยู่ที่นี่
ความในใจแด่มหาวิทยาลัยคยองฮี
ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณมหาลัยที่ให้โอกาสผมได้เข้ามาศึกษาต่อที่นี่ และขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ได้ให้
ความรู้ทั้งในตำราและความรู้นอกตำราที่ผมสามารถนำไปปรับใช้กับอาชีพการงานของผมในวันข้างหน้า ขอบคุณ
สำหรับมื้ออาหารทุกๆ มื้อที่มหา'ลัยจัดให้ และมิตรภาพของเพื่อนๆ พี่น้องชาวคยองฮีทุกคน มหาลัย'นี้ถึงแม้จะไม่
ได้มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของเกาหลี แต่ก็ได้สร้างนักศึกษา สร้างคนที่มีคุณภาพสู่สังคมเกาหลีมากมาย
และหวังว่ามหา'ลัยนี้จะพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไปในทุกๆ ด้าน ขอบคุณครับ LOVE YOU KYUNGHEE!
39 ความคิดเห็น
(ตอนแรกเปิดมาเห็นรูปไอคอนของบทความแล้วชะงักไปสามวิ นึกว่าดงแฮหรือไม่ก็สน 555)
>___< !!
หนูเองก็สนใจอยากเรียนจีน และกำลังคิดต่อยอด หาทุนไปเรียนโทนอก จะได้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย
ต้องเพิ่มสกิลภาษาของตัวเองด่วนๆเลย
ยูชอนจบ Modern Music. แจจุงจบ เอก Information and Communication degree ค่ะ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 12 สิงหาคม 2556 / 01:44