6 นักเรียนไทย(สวย+เก่ง)ในเกาหลีใต้ กับชีวิตที่ไม่ง่าย

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com...เจอกับ พี่เป้ และ KoreanKori ตอนพิเศษ ที่เราบุกไปถ่ายถึงที่เกาหลีกันเช่นเคย ตอนนี้ก็เป็นตอนที่ 3 แล้วล่ะ ..... แอบไปสืบมาว่า ตอนนี้ที่เกาหลีมีนักเรียนไทยเรียนอยู่เป็นร้อยๆ คนเลย ใจจริงก็อยากจะพาทั้งหมดมานั่งสัมภาษณ์เลยแต่คงยากมาก เพราะฉะนั้นเลยไปสัมภาษณ์แบบ Exclusive สุดๆ กับ 6 นักเรียนไทยในเกาหลีที่เลือกมาแล้วว่า น่ารักมากกกกและเก่งมากกกก

ย้อนไปวันนั้น เรามีนัดกันกับ 6 นักเรียนไทยในเกาหลี ที่มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (เพราะที่นี่วิวสวยค่ะ) พอได้เจอตัวจริงแต่ละคน อื้อหืออออ ควรไปเดบิวต์มั้ย? เป๊ะได้อีก >_< แถมเก่งๆ กันทั้งนั้น เลยได้สัมภาษณ์และถ่ายรูปสวยๆ มาฝาก บอกเลยว่าฟิน 555555 ทั้ง 6 คนจะมีใครบ้างและกำลังเรียนอยู่ที่ไหน ไปทำความรู้จักกันได้เลย

Wasinee Srithavatch Na Ayudhaya (Kim)

จบจาก : ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
กำลังเรียนที่ : ปริญญาโท บัณฑิตวิทยาลัยการศึกษา ระหว่างประเทศและพื้นที่ (GSIAS) มหาวิทยาลัยฮันกุ๊ก ภาษาและกิจการต่างประเทศ (Hankuk University of Foreign Studies)
ทุนที่ได้รับ : ทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลานทหารผ่านศึก เกาหลี
คำแนะนำในการสมัครเรียน : ตอนสมัครเขียนไปว่าเรามี ความสนใจเกี่ยวกับประเทศเกาหลี และเราก็เรียนภาษา เกาหลีมาแล้วในระดับนึง จึงอยากเรียนในประเทศที่ใช้ ภาษาที่ 3 และเกาหลีก็เป็นตัวเลือกแรกที่เราสนใจ
ชอบอะไรที่เกาหลี : การเดินทางสะดวก อากาศไม่ร้อน
ไม่ชอบอะไรที่เกาหลี : ความใจร้อนของคนเกาหลี
อนาคต : อยากทำงานบริษัทเกาหลีที่เมืองไทย
3 คำที่อยากบอก : เรียน กิน เที่ยว
ฝากบอกน้องๆ : การใช้ชีวิตที่เกาหลีสนุกมากแต่ตอน เรียนก็ต้องมีความอดทน

ตอนได้ทุนมาเรียน ก็เริ่มเรียนภาษาเกาหลีก่อน จากนั้นก็สมัครเข้าปริญญาโท ซึ่งตอนสมัครเข้าปริญญาโทมีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก ผลคือไม่ผ่าน ตอนนั้นเฟลและอยากกลับไทยมาก แต่ลองอีกทีแล้วก็ผ่านได้ในรอบ 2

Paranisar Worakuntada (Poupae)

จบจาก : คณะมัลติมีเดียดีไซน์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
กำลังเรียนที่ : ปริญญาโท ภาควิชาศิลปะและการ ออกแบบในการออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University)
คำแนะนำในการสมัครเรียน : เขียนว่าเรามีข้อดี ข้อแตกต่าง หรือจุดเด่นจากคนอื่นยังไง ก่อนหน้านี้เราเรียนเกี่ยวกับอะไร อธิบายว่าเราทำงานวิจัยหรือสนใจอะไรมาก่อน อธิบายความสวยงามของศิลปะเกาหลีในมุมมองของเราและเขียนย้ำว่าทำไมต้องเกาหลีใต้และทำไมต้องมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ชอบอะไรที่เกาหลี : อาหาร อากาศที่มีครบ 4 ฤดู ความขยันของคนอื่น ทำให้เราได้พัฒนาตัวเอง
ไม่ชอบอะไรที่เกาหลี : ไม่มีผู้ปกครองดูแล เวลาป่วยนี่ลำบากมาก
อนาคต : คงทำงานหาประสบการณ์ที่บริษัทใหญ่ๆ ที่เกาหลีก่อน 2-3 ปี
3 คำที่อยากบอก : กาแฟ Kakaotalk เนื้อย่าง
ฝากบอกน้องๆ : เวลาที่ลำบากที่สุด นอกจากพ่อแม่ที่อยู่เคียงข้างเราผ่านทางโทรศัพท์แล้ว ก็คือเพื่อนๆ คนไทยในเกาหลี ส่วนใครจะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล อย่าลืมติดต่อกันมาล่ะ

ด้วยความที่เรียนอาร์ต งานออกแบบทุกอย่างอยู่ในโน้ตบุ๊ค วันนึงโน้ตบุ๊คดับไปต่อหน้าเพราะฮาร์ดดิสก์พัง วันนั้นตัดสินใจกลับไทยทันทีเพื่อเอาโน้ตบุ๊คเข้าแล็บ สรุปคือกู้ข้อมูลไม่ได้ ช็อกมาก ตอนนั้นนอนมองท้องฟ้าอย่างเดียว สุดท้ายก็ลุกมาลงมือทำใหม่หมด

Tanawan Thananchai (Sai)

จบจาก : โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์
กำลังเรียนที่ : ปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyung Hee University)
ทุนที่ได้รับ : ทุนรัฐบาลเกาหลี ระดับปริญญาตรี
คำแนะนำในการสมัครเรียน : เขียนว่าเราตั้งใจจะเรียนเพื่อเอาความรู้มาช่วยพัฒนาประเทศไทยให้เจริญทัดเทียมประเทศอื่น
ชอบอะไรที่เกาหลี : อากาศ 4 ฤดู อาหารเกาหลี
ไม่ชอบอะไรที่เกาหลี : บรรยากาศรถไฟใต้ดินเพราะลุงป้าแย่งที่นั่ง เดินเบียด เจอคนเมา คนอ้วก
อนาคต : เรียนต่อปริญญาโท
3 คำที่อยากบอก : โหด มันส์ เมา
ฝากบอกน้องๆ : การเรียนที่นี่ไม่ได้สนุกเหมือนใน
ซีรีส์ ทั้งโหดทั้งเครียด น้องๆ ที่จะมาควรเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม

ตามกฎของทุนที่ได้คือต้องสอบวัดระดับภาษาเกาหลีให้ผ่านระดับ 3 ซึ่งตอนแรกก็ผ่านระดับ 2 แล้วเพราะมันง่ายมาก เลยคิดว่าระดับ 3 คงหมูๆ ปรากฎยากมาก สอบไม่ผ่านจนท้อไปหมด แต่ตอนนี้จะเรียนจบปริญญาตรีแล้ว

Napas Kornvipasruang (Jan)

จบจาก : โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
กำลังเรียนที่ : สาขาสื่อและการสื่อสาร
มหาวิทยาลัยโคเรีย (Korea University)
ทุนที่ได้รับ : ทุนรัฐบาลเกาหลี ระดับปริญญาตรี
คำแนะนำในการสมัครเรียน : เขียนเล่าถึงแบ็ค กราวนด์ของตัวเองที่คิดว่าน่าจะแตกต่างจากคนอื่น คือเคยไปเรียนภาษาเกาหลีคนเดียว 1 เดือนที่เกาหลี ทำให้โตขึ้นมาก แล้วก็เขียนว่าสิ่งที่อยาก เรียนคือสื่อสารมวลชน เพราะคิดว่าตัวเองจะสาน ประโยชน์ให้ทั้ง 2 ประเทศรวมถึงทั้งโลกได้
ชอบอะไรที่เกาหลี : ความปลอดภัยในการใช้ชีวิต อาหารอร่อย
ไม่ชอบอะไรที่เกาหลี : คนเกาหลียังไม่เปิดรับ ต่างชาติมากเท่าไหร่ รวมถึงทำอะไรเร็วและใจร้อน แล้วก็ไม่ชอบการอ่านหนังสือข้ามคืนที่จริงจัง อนาคต : ทำงานที่สานประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ
3 คำที่อยากบอก : อึด!!ถึก!!สู้!!
ฝากบอกน้องๆ : เรียนเกาหลีต้องอดทน KTX ชน ต้องไม่ตาย!!!

มาอยู่คนเดียวแบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีพ่อแม่คอยดูแล ปีก่อนเคยป่วยเป็นเดือนๆ เลยเพราะอากาศหนาวมาก เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง สภาพกายไม่ค่อยโอเค ยิ่งถ้ามีเรื่องอะไรมากระทบ ใจก็ยิ่งห่อเหี่ยวได้ง่ายมาก แต่ก็ต้องอดทนให้ได้

Ubonvan Termsarasab (Oil)

จบจาก : ปริญญาตรี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย
กำลังเรียนที่ : ปริญญาเอก คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University)
ทุนที่ได้รับ : ทุนปริญญาโท Graduate Scholarship for Excellent Foreign Students (GSFS) , ทุนปริญญาเอก ทุนวิจัยของอาจารย์ที่ปรึกษา
คำแนะนำในการสมัครเรียน : เขียนถึงเป้าหมายใน อนาคตที่ชัดเจน ตอนนั้นเขียนไปว่าจะทำงานด้านวิจัย และพัฒนายา นำประสบการณ์ที่ได้มาพัฒนาด้านวิจัย และผลิตยาของไทย แล้วก็อยากเป็นอาจารย์ด้านนี้
ชอบอะไรที่เกาหลี : ความปลอดภัย สะดวกสบายในการเดินทาง
ไม่ชอบอะไรที่เกาหลี : ความเร่งรีบใจร้อนของคน หน้าหนาวที่หนาวจัด
อนาคต : อยากสมัครทำงานบริษัทยาด้านวิจัยและ พัฒนายา
3 คำที่อยากบอก : อดทน เข้าใจ ฝ่าฟัน
ฝากบอกน้องๆ : หลายคนอยากมาเรียนที่นี่เพียงเพราะว่าติดตามไอดอลหรือซีรีส์เกาหลี จึงอยากให้น้องๆ ศึกษาเกี่ยวกับระบบการเรียนของที่นี่ให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจมา

ตอนมาเกาหลีแรกๆ เพื่อนในแล็บแทบไม่มีใครคุยด้วยเลยจนเหมือนเราตัวคนเดียว ตอนนั้นโทรกลับไทยร้องไห้กับแม่บ่อยมาก สุดท้ายเลยดร็อปแล้วกลับไทย แต่เห็นเพื่อนรอบตัวที่ไปเรียนเมืองนอกมาเค้าก็อดทนผ่านมาได้ เลยตัดสินใจกลับมาเกาหลีอีกครั้ง

Lakkhana Thongsiam (Syne)

จบจาก : โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
กำลังเรียนที่ : สาขาภาพยนตร์ โทรทัศน์ และ มัลติมีเดีย มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติเกาหลี (Korea National University of Arts)
ทุนที่ได้รับ : Art Major Asian Scholarship (AMA)
คำแนะนำในการสมัครเรียน : เขียนให้เค้าเห็นว่าเรามุ่งมั่นและมีคุณสมบัติพร้อมจริงๆ เล่าประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาที่ตรงกับสาขาที่สมัคร
ชอบอะไรที่เกาหลี : บ้านเมืองเป็นระเบียบ เทคโนโลยีทันสมัย
ไม่ชอบอะไรที่เกาหลี : คนเกาหลีสูบบุหรี่จัด ชอบถ่มน้ำลายลงพื้น และเพื่อนเกาหลีมักสนใจเพื่อนฝรั่งมากกว่าเอเชีย
อนาคต : อาจจะหาโอกาสทำงานที่นี่หรือเรียนต่อ ปริญญาโท
3 คำที่อยากบอก : อึด ถึก ทน
ฝากบอกน้องๆ : ถ้าเรามานับหนึ่งที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลย การเรียนมันจะกดดันและลำบากมาก ดังนั้นภาษาเป็นอะไรที่สำคัญมาก

ตอนเรียนปี 1 ต้องออกไปพรีเซนต์งานหน้าห้องที่มีแต่เพื่อนเกาหลี ปรากฎว่าเพื่อนในห้องหัวเราะเยาะสำเนียงภาษาเกาหลีของเรา ตอนนั้นรู้สึกใจไม่ดีแต่ก็ยิ้มสู้จนพรีเซนต์จบจนได้

อ่านแล้วตกหลุมรัก <3 บอกเลยว่าเป็นบทความที่ทำแล้วเคลิ้มจริงๆ 5555 สาวไทยเราไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังเรียนเก่งและมีความสามารถกันจริงๆ น่าปลื้มจริงๆ เลยนะคะเนี่ย ต้องขอบคุณทั้ง 6 คนมากๆ ที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์กับ Dek-D.com ^^ ส่วนตอนหน้าจะเป็นเรื่องอะไรจากเกาหลี ต้องรอติดตาม บอกเลยว่าเด็ดมากๆ ไม่แพ้ตอนนี้เลย