ส่องนโยบาย ‘การศึกษา’ แต่ละพรรคการเมือง | เตรียมพร้อมวัยเรียนก่อนลงสนามเลือกตั้งปี 66

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเตรียมตัวนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงของ ‘การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566’ ซึ่งกำหนดการ D-Day ก็ได้เคาะออกมาแล้ว ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 นั่นเองค่ะ 

พี่ไนซ์เชื่อว่าน้องๆ หลายคนกำลังจะได้ใช้สิทธิ์ของตัวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด เพราะนโยบายต่างๆ นั้นล้วนส่งผลกับเราโดยตรง โดยเฉพาะวัยรุ่นวัยเรียน เห็นได้จากมีการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนก็ล้วนหยิบยกประเด็นเรื่อง “การศึกษา” มาพูดถึงและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ พร้อมนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขและพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้ดีขึ้น อย่างช่วงนี้หลายพรรคก็เริ่มออกโนยบายด้านการศึกษามาแล้ว ว่าแต่จะมีหัวข้อไหนจากพรรคการเมืองใดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับเราทุกคนบ้าง ตามมาส่องกันเลยค่าา~ 

หมายเหตุ: บทความนี้ได้รวบรวมนโยบายและอัปเดตข้อมูลของแต่ละพรรคซึ่งได้ทำการประกาศออกมาจากช่องทางหลัก, ผ่านทางสำนักข่าว และการแถลงการณ์จากพรรค ณ วันที่ 24  เม.ย. 2566

พรรคเพื่อไทย  

เริ่มกันที่พรรคเพื่อไทย นำโดย คุณแพรทองธาร ชินวัตร ซึ่งประกาศนโยบายหลักออกมา และได้ชูประเด็นการศึกษาให้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องการพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงและเกิดเท่าเทียมในสังคม โดยตัวอย่างนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา มีดังนี้

  1. มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น  เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษา Coding นำครูต่างชาติสอนร่วมกับครูไทยทั้งในห้องเรียนและออนไลน์
  2. เรียนฟรีิ อาหารกลางวันฟรี  บริการรถรับส่งนักเรียนฟรี
  3. เรียนอาชีวะฟรีมีอยู่จริง ปั้นสถานอาชีวะเป็นศูนย์สร้างสรรค์สร้างตัวได้
  4. เด็กจบใหม่เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาทขึ้นไป
  5. 1 อำเภอ 1 ทุน เพิ่มโอกาสทางการศึกษา
  6. จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด
  7. “Free tablet for all” สนับสนุนแท็บเล็ตนักเรียนและครู เปิดโอกาสทางการศึกษาผ่านออนไลน์

และล่าสุดทางพรรคเพื่อไทย ที่นอกจากจะส่งเสริมการเรียนรู้ในด้านดิจิทัลแล้วยังได้มีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนโยบาย "ยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งหมด" เพื่อลดความเลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ผู้เรียน

  1. ยกระดับการศึกษาทั้งระบบทั้งหลักสูตรดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการครู นักเรียนและผู้ปกครอง
  2. ผลักดัน พรบ. การศึกษาฉบับใหม่ และ พรบ.เรียนรู้ตลอดชีวิต
  3. เพิ่มทักษะการคิด-วิเคราะห์ ทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะดิจิทัล สื่อสารภาษาอังกฤษ เพิ่มคะแนน PISA
  4. จัดทำหลักสูตร สร้างสมรรถนะและทักษะให้เกิดขึ้นจริง ลดเวลาเรียน และ Academic  Credit Banking
  5. ลดระดับศูนย์เด็กเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำในช่วงปฐมวัย เพื่อการเริ่มต้นการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
  6. ขจัดการละเมิดสิทธิผู้เรียน กระจายอำนาจให้โรงเรียนปรับการจัดงบให้โรงเรียน
  7. เปิดโรงเรียนพ่อแม่เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ปกครอง
  8. สนับสนุนการพัฒนาห้องเรียนเป็น Smart Classroom
  9. ลดภาระเอกสารครู ปรับครูให้เป็น Coach

พรรคก้าวไกล 

ด้านหัวหน้าพรรคก้าวไกล คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เปิดนโยบาย ‘การศึกษาไทยก้าวหน้า’ เพื่อสร้างระบบการศึกษาเกิดเสรีภาพ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้เรียนได้อย่างเท่าเทียม ด้วย 20 นโยบาย ดังนี้

  1. เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
  2. ทุกโรงเรียนมีงบเพียงพอ
  3. โรงเรียนโปร่งใส ปราศจากทุจริต
  4. ส้วมสะอาด อาคารที่ปลอดภัย ซึมเศร้ามีที่ปรึกษา
  5. กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน
  6. ครูละเมิดสิทธิ พักใบประกอบทันที
  7. ยกเลิกการตั้งแถว ใช้เวลาอัปเดตเหตุการณ์บ้านเมือง
  8. ออกแบบหลักสูตรใหม่ เน้นทักษะที่ใช้ได้จริง
  9. ชั่วโมงเรียนดีมีคุณภาพ ลดคาบเรียน-การบ้าน-การสอบ
  10. โรงเรียน 2 ภาษา นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้
  11. เปิดข้อสอบ TCAS ย้อนหลังทั้งหมดพร้อมเฉลยทันที
  12. คืนครูให้นักเรียน เลิกนอนเวร ลดงานเอกสาร ยกเลิกพิธีรีตองในการประเมิน-รับแขก
  13. นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ.
  14. งบอบรมให้ครู-โรงเรียน ตัดสินใจเองว่าจะเรียนรู้อะไร ด้านการศึกษาที่ไม่จำกัดอยู่ที่โรงเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  15. คูปองเปิดโลก สูงสุด 2,000 บาทต่อปี สำหรับเรียนรู้นอกห้องเรียน
  16. เรียนฟรีอาชีวะถึง ปวส.จบแล้วมีงานทำ
  17. แพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนฟรีไม่จำกัด รับรองคุณวุฒิพร้อมระบบจัดหางาน และด้านการศึกษาที่ใกล้ชิดผู้เรียน นักเรียน-ครู-ผู้ปกครองมีส่วนร่วม ประกอบด้วย
  18. กระจายอำนาจให้โรงเรียน เติบโตได้ภายใต้ท้องถิ่น
  19. บอร์ดโรงเรียน ต้องมีตัวแทนนักเรียน
  20. สภาเยาวชน มาจากการเลือกตั้ง เสนอกฎหมายไปที่สภาฯได้

พรรครวมไทยสร้างชาติ

มากันที่แคนดิเดตน่าจับตามองจากพรรครวมไทยสร้างชาติอย่าง "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา"  ได้มีการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาเพื่อมอบโอกาสให้แก่เด็กไทยเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ  มีดังนี้

  1. มอบทุนเรียนวิชาชีพอำเภอละ 100 ทุน
  2. จัดทำสถาบันกำเนิดศิลป์ ปั้นศิลปินไทยสู่เวทีโลก

พรรคพลังประชารัฐ

ตามมากันด้วย พรรคพลังประชารัฐ  นำโดย "พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ได้เสนอนโยบายหลักในการดูแลเยาวชนให้อยู่ภายใต้ระบบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ให้เป็นไปตามนโยบายดังนี้

  1. สวัสดิการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
  2. โครงการอาหารกลางวันฟรี
  3. สร้างทางเลือกการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบททางสังคม
  4. สวัสดิการเรียนรู้ เติมทักษะ ตอบโจทย์แรงงานสมัยใหม่

พรรคประชาธิปัตย์ 

มาที่ฝั่ง พรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ชูนโยบายหลักด้านการศึกษาที่โดดเด่นและต้องการพัฒนาศักยภาพและขับเคลื่อนการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศไทย 

  1. เรียนฟรีถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ
  2. ฟรีอินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน
  3. นมโรงเรียนฟรีทั้งปี อาหารกลางวันฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงป.6

พรรคไทยสร้างไทย 

พรรคไทยสร้างไทย นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งเน้นย้ำเรื่องความสำคัญเรื่องการลงทุนกับคน จึงได้ออก 'นโยบายเรียฟรีอย่างมีคุณภาพจนจบปริญญาตรี' มีจุดหมายในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและยกระดับคุณภาพการศึกษา

  1. กำหนดเป้าหมายหลัก เน้นให้การค้นหาตนเองได้เร็ว
  2. ลดเวลาเรียนในทุกช่วงการศึกษาอย่างน้อย 3 ปี (ระดับประถม มัธยม และปริญญาตรี) เพื่อให้สามารถจบปริญญาตรีได้ในช่วง 17-19 ปี
  3. เรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี และไม่มีหนี้กยศ.
  4. ปฏิรูปหลักสูตรให้ทันสมัย ยืดหยุ่นและตอบโจทย์เด็ก

พรรคเสรีรวมไทย

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ผู้นำและหัวหน้าพรรค ได้พัฒนาและสานต่อนโยบายเดิมที่ทางพรรคจัดทำขึ้นจากการเลือกตั้งปี 2562 และเรื่องการศึกษายังคงอยู่ในนโยบายที่ได้รับการผลักดันจากพรรคเสรีรวมไทยต่อในปี 2566 

  1. เรียนฟรี จนจบระดับปริญญาตรีและยกเลิกหนี้กยศ.
  2. สนับสนุนภาคการศึกษา จ่ายตรงให้กับมหาวิทยาลัย 25,000 บาท ปีละ 2 การศึกษา เป็นเงิน 50,000  บาท ต่อคนต่อปี

พรรคเส้นด้าย

พรรคเส้นด้ายเปิดตัวไปช่วงเดือนมีนาคมที่่ผ่านมา และเป็นการลงสนามการเลือกตั้งครั้งแรกซึ่งนำทีมโดย "คุณคริส โปตระนันทน์"  ได้ผลักดันและเน้นการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนมีโอกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียม และการศึกษาก็เป็นหนึ่งเรื่องที่พรรคให้ความสำคัญเช่นกัน

  1. ปล่อยเงินกู้เพื่อการศึกษาในระดับที่ทุกคนเข้าถึงได้
  2. ขยายขอบเขตการกู้ ครอบคลุมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
  3. เพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้ให้มากกว่า 15 ปี
  4. ลดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับเมื่อผิดชำระหนี้
  5. ออกมาตรการให้ผู้กู้ซื้อประกันชีวิตมาใช้เป็นหลักประกันของเงิน กยศ. เพื่อไม่ให้ผู้ค้ำประกันต้องมารับภาระหนี้แทน

พรรคชาติพัฒนากล้า

ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งนำโดย "คุณกรณ์ จาติกวณิช" ก็ได้แถลง 12 นโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยหนึ่งในนั้นมีนโยบายที่ต้องการ ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพตนเอง ภายใต้ระบบการศึกษา

  1. สร้างเด็กไทย 3 ภาษา ไทย-ต่างประเทศ-Coding (เพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทำงานมากขึ้น ประเทศไทยต้องเรียนรู้หลายภาษา)

พรรคเพื่อชาติ 

พรรคเพื่อชาติ นำโดย "คุณปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช" ประกาศชู ‘12 นโยบายการศึกษา’ ที่มุ่งสร้างพื้นฐานระบบการศึกษาที่ดีและต้องการให้ความสำคัญต่อการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนไทย 

  1. ผลักดันเงินเดือนอาชีวะ เทียบเท่าปริญญาตรี
  2. ยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพ
  3. ครูอัตราจ้างควรได้เงินเดือนตามวุฒิการศึกษา
  4. ลดเด็กหลุดออกจากการศึกษาจากปัญหาเศรษฐกิจ
  5. กยศ. ปลอดดอกเบี้ย จบแล้วมีงานทำ
  6. ปฏิรูปกศน. สะสมหน่วยกิต เพิ่มโอกาส ต่อยอดสร้างอาชีพ
  7. ยกระดับความสำคัญสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้เป็นกลไกยืนยันความเชี่ยวชาญวิชาชีพที่หลากหลายเพื่อตอบสนองอาชีพเกิดขึ้นใหม่ในยุคปัจจุบัน
  8. ปรับโครงสร้างอาชีวะ ทั้งงบประมาณและการจัดหลักสูตร
  9. กระทรวงศึกษาธิการหาเงินได้ ความรู้คือทุน เน้นขายลิขสิทธ์วัตกรรมและสิทธิบัตรการศึกษา
  10. โรงเรียนปลอดภัย กาย ใจ ลดระบบแพ้คัดออกระบบที่ทำร้ายจิตใจ และคุณค่าในตัวเด็ก เพราะทุกคนมีศักยภาพ ทุกคนสามารถทำเพื่อชาติได้ในแบบของตนเอง
  11. Family Group Day Care สร้างพื้นฝากเลี้ยงลูกปลอดภัยในชุมชน
  12. ยกเลิกชุดนักเรียน ปรับโรงเรียนละเมิดกฎกระทรวง และเพิ่มงบอาหารกลางวันทุกโรงเรียน

พรรคชาติไทยพัฒนา

ทางด้าน "คุณวราวุธ ศิลปอาชา" หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้เปิด 10 นโยบาย " WOW Thailand"  เพื่อพัฒนาประเทศและทางพรรคก็ได้มีการผลักดันนโยบายการศึกษาร่วมด้วยเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยาวชนในประเทศไทยไว้ดังนี้

  1. เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน
  2. ปรับปรุงหลักสูตรในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะอาชีวศึกษา มัธยมศึกษา
  3. เยาวชนทำงานเป็น มีรายได้ ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมโลก

พรรคสามัญชน

ทางด้านพรรคสามัญชน นำโดย "คุณชุมาพร แต่งเกลี้ยง"  ได้เปิดนโยบายเน้นสร้างความเท่าเทียมและความเป็นธรรมให้กับสังคม ครั้งนี้พรรคได้มีการออกแบบนโยบายการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางสร้างอนาคตที่เข้มแข็งของประเทศ ดังนี้

  1. เรียนฟรีทุกช่วงอายุ
  2. สร้างพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดใกล้บ้าน เรียนรู้สิทธิพลเมือง สิทธิมนุษยชน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น
  3. ชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร
  4. ยกเลิกหลักสูตรสร้างอคติและความเกลียดชัง
  5. เพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา โภชนาการ และการคุ้มครองเด็กทุกโรงเรียน

พรรคภูมิใจไทย

ขอปิดท้ายกันที่พรรคภูมิใจไทย  ซึ่งนำโดย "คุณอนุทิน ชาญวีรกูล"  ชูนโยบายพักหนี้สิน  เพื่อหวังแก้ปัญหาจากสภาวะทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนแต่ยังคงเรื่องที่สอดคล้องกับการศึกษาสำหรับวัยเรียนผ่านนโยบายดังนี้

  1. หยุดพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยหนี้ กยศ. ถือเป็นหนึ่งในประเภทที่จัดอยู่ในระบบ โดยจะได้รับการหยุดพักอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โดยล่าสุดทางพรรคภูมิใจไทยได้มีการอัปเดตเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาเพิ่มเติม  เน้นการให้ความสำคัญกับการศึกษาออนไลน์ เพื่อเพิ่มคุณภาพให้แก่ระบบการศึกษาไทย  ซึ่งมีนโยบายดังนี้

  1. การจัดการเรียนการสอน หรือเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี
  2. สร้างระบบท เวอร์ช่วลสคูล (Virtual School) หรือออนไลน์สคูล (Online School) เด็กๆ ไม่ว่าอยู่ในชนบทห่างไกล หรือโรงเรียนขนาดเล็ก จะได้เรียนกับครูเก่งๆ
  3. ผลักดันการจัดตั้ง สถาบันพัฒนาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติขึ้น เพื่อสร้างระบบใหม่ของการจัดการเรียนการสอน ให้เด็กที่มีคุณภาพ

 ถ้าหากแต่ละพรรคมีการประกาศหรือแถลงการณ์นโยบายด้านการศึกษาเพิ่มเติม ทางทีมงานจะทำการอัปเดตข้อมูลให้อีกครั้ง

ต้องบอกเลยว่าหลายนโยบายน่าสนใจไม่น้อย และถ้าหากทำได้จริงก็จะช่วยผลักดันระบบการศึกษาและคุณภาพชีวิตของนักเรียนไทยไทยให้ดีขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามนโยบายด้านการศึกษาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะแต่ละพรรคยังมีนโยบายอีกหลายด้านประกาศร่วมด้วย แนะนำว่าให้น้องๆ ลองศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางตัดสินใจในการใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกทั้งรอบเลือกตั้งล่วงหน้า และวัน D-Day กันค่ะ และที่สำคัญอย่าลืมเตรียมตัวเพื่อออกไปใช้สิทธิในวันที่กำหนดประจำปี 2566 นี้กันด้วยนะคะ ^^ 

 

ข้อมูลจาก :https://twitter.com/MFPThailand/status/1614155076804964355 https://www.prachachat.net/politics/news-1184706  https://www.facebook.com/bhumjaithaiparty/videos/162522637459058 https://www.facebook.com/100044569743646/posts/pfbid02fm7jY2VPA7UuzSykre1UjyKvTURPBzsx41bPDJ7eHiupucF5NvCmtoX4HEatr8j2l/?mibextid=cr9u03 
พี่ไนซ์
พี่ไนซ์ - Columnist ชอบ K-POP รักหมูกระทะ สนุกกับซีรีส์และนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

วิทยาศาสตร์ ปอ หก Member 30 เม.ย. 66 23:48 น. 1

ไม่มีพรรคไหนที่แก้ปัญหาที่ปมจริงๆเลย นโยบายส่วนใหญ่ให้กู่้ กับใยกเลิกหนี้ที่กู้เพื่อการศึกษา ( ย้อนแย้งกันมาก ) ให้เรียนฟรี ( เขาฟรีอยู่แล้ว แต่ฟรีไม่จริง )ให้อาหารกลางวันฟรี ( ก็ฟรีอยู่แล้ว แต่คุณภาพแย่มากๆ ) บางพรรคแถมมีรถรับส่ง ( จะเอางบประมาณมหาศาลมาจากไหน ) บางพรรคทำนโยบายให้เรียนภาษากับครูจากต่างประเทศ ( เป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ เรื่องเขตเวลา ตารางเรียน การเชื่อมต่อ การควบคุมชั้นเรียน ถ้าจะทำแบบนั้น ลงทุนใช้ AI ช่วยทำดีกว่า) บางพรรคมีนโยบาย Virtual School หรือ Online School ( อาจเป็นไปได้จริง โดยใช้ AI ช่วย ) บางพรรคมีนโยบายปรับปรุงหลักสูตร ( สพฐ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว ) นโยบายเงินเดือนอาชีวะ เทียบเท่าปริญญาตรี ( จะทำให้คนไม่อยากเรียนปริญญาตรี แต่เอาแค่อาชีวะ เพราะเงินเดือนเริ่มเท่ากัน ส่วนนโยบายที่ไม่รู้เรื่องจริงๆคือ นโยบาย นมโรงเรียนฟรีทั้งปี อาหารกลางวันฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงป.6 ( เขาฟรีมานานแล้ว ) สุดท้าย นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ.( นโยบายนี้ไม่มีวันทำได้ ตราบใดที่ ตำแหน่งผู้อำนวยการ รร มาจากการแต่งตั้ง ยกเว่้นจะให้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เลือกมาจากสมาชิกในโรงเรียน ไม่เว้นแม้แต่นักการภารโรง และจะต้องมีวาระ 2-3 ปีเท่านั้นไม่อย่างนั้น ทุกนโยบายที่จัดมา ไม่มีทางสัมฤทธิ์ผลได้เลย


0
กำลังโหลด

1 ความคิดเห็น

วิทยาศาสตร์ ปอ หก Member 30 เม.ย. 66 23:48 น. 1

ไม่มีพรรคไหนที่แก้ปัญหาที่ปมจริงๆเลย นโยบายส่วนใหญ่ให้กู่้ กับใยกเลิกหนี้ที่กู้เพื่อการศึกษา ( ย้อนแย้งกันมาก ) ให้เรียนฟรี ( เขาฟรีอยู่แล้ว แต่ฟรีไม่จริง )ให้อาหารกลางวันฟรี ( ก็ฟรีอยู่แล้ว แต่คุณภาพแย่มากๆ ) บางพรรคแถมมีรถรับส่ง ( จะเอางบประมาณมหาศาลมาจากไหน ) บางพรรคทำนโยบายให้เรียนภาษากับครูจากต่างประเทศ ( เป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ เรื่องเขตเวลา ตารางเรียน การเชื่อมต่อ การควบคุมชั้นเรียน ถ้าจะทำแบบนั้น ลงทุนใช้ AI ช่วยทำดีกว่า) บางพรรคมีนโยบาย Virtual School หรือ Online School ( อาจเป็นไปได้จริง โดยใช้ AI ช่วย ) บางพรรคมีนโยบายปรับปรุงหลักสูตร ( สพฐ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว ) นโยบายเงินเดือนอาชีวะ เทียบเท่าปริญญาตรี ( จะทำให้คนไม่อยากเรียนปริญญาตรี แต่เอาแค่อาชีวะ เพราะเงินเดือนเริ่มเท่ากัน ส่วนนโยบายที่ไม่รู้เรื่องจริงๆคือ นโยบาย นมโรงเรียนฟรีทั้งปี อาหารกลางวันฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงป.6 ( เขาฟรีมานานแล้ว ) สุดท้าย นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ.( นโยบายนี้ไม่มีวันทำได้ ตราบใดที่ ตำแหน่งผู้อำนวยการ รร มาจากการแต่งตั้ง ยกเว่้นจะให้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เลือกมาจากสมาชิกในโรงเรียน ไม่เว้นแม้แต่นักการภารโรง และจะต้องมีวาระ 2-3 ปีเท่านั้นไม่อย่างนั้น ทุกนโยบายที่จัดมา ไม่มีทางสัมฤทธิ์ผลได้เลย


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด