สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเตรียมตัวนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงของ ‘การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566’ ซึ่งกำหนดการ D-Day ก็ได้เคาะออกมาแล้ว ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 นั่นเองค่ะ
พี่ไนซ์เชื่อว่าน้องๆ หลายคนกำลังจะได้ใช้สิทธิ์ของตัวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องบอกว่าการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด เพราะนโยบายต่างๆ นั้นล้วนส่งผลกับเราโดยตรง โดยเฉพาะวัยรุ่นวัยเรียน เห็นได้จากมีการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนก็ล้วนหยิบยกประเด็นเรื่อง “การศึกษา” มาพูดถึงและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ พร้อมนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขและพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้ดีขึ้น อย่างช่วงนี้หลายพรรคก็เริ่มออกโนยบายด้านการศึกษามาแล้ว ว่าแต่จะมีหัวข้อไหนจากพรรคการเมืองใดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับเราทุกคนบ้าง ตามมาส่องกันเลยค่าา~
หมายเหตุ: บทความนี้ได้รวบรวมนโยบายและอัปเดตข้อมูลของแต่ละพรรคซึ่งได้ทำการประกาศออกมาจากช่องทางหลัก, ผ่านทางสำนักข่าว และการแถลงการณ์จากพรรค ณ วันที่ 24 เม.ย. 2566
พรรคเพื่อไทย
เริ่มกันที่พรรคเพื่อไทย นำโดย คุณแพรทองธาร ชินวัตร ซึ่งประกาศนโยบายหลักออกมา และได้ชูประเด็นการศึกษาให้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องการพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงและเกิดเท่าเทียมในสังคม โดยตัวอย่างนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา มีดังนี้
- มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษา Coding นำครูต่างชาติสอนร่วมกับครูไทยทั้งในห้องเรียนและออนไลน์
- เรียนฟรีิ อาหารกลางวันฟรี บริการรถรับส่งนักเรียนฟรี
- เรียนอาชีวะฟรีมีอยู่จริง ปั้นสถานอาชีวะเป็นศูนย์สร้างสรรค์สร้างตัวได้
- เด็กจบใหม่เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 บาทขึ้นไป
- 1 อำเภอ 1 ทุน เพิ่มโอกาสทางการศึกษา
- จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ TCDC และ TK Park ให้ครบทุกจังหวัด
- “Free tablet for all” สนับสนุนแท็บเล็ตนักเรียนและครู เปิดโอกาสทางการศึกษาผ่านออนไลน์
และล่าสุดทางพรรคเพื่อไทย ที่นอกจากจะส่งเสริมการเรียนรู้ในด้านดิจิทัลแล้วยังได้มีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนโยบาย "ยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งหมด" เพื่อลดความเลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ผู้เรียน
- ยกระดับการศึกษาทั้งระบบทั้งหลักสูตรดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการครู นักเรียนและผู้ปกครอง
- ผลักดัน พรบ. การศึกษาฉบับใหม่ และ พรบ.เรียนรู้ตลอดชีวิต
- เพิ่มทักษะการคิด-วิเคราะห์ ทักษะศตวรรษที่ 21 ทักษะดิจิทัล สื่อสารภาษาอังกฤษ เพิ่มคะแนน PISA
- จัดทำหลักสูตร สร้างสมรรถนะและทักษะให้เกิดขึ้นจริง ลดเวลาเรียน และ Academic Credit Banking
- ลดระดับศูนย์เด็กเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำในช่วงปฐมวัย เพื่อการเริ่มต้นการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
- ขจัดการละเมิดสิทธิผู้เรียน กระจายอำนาจให้โรงเรียนปรับการจัดงบให้โรงเรียน
- เปิดโรงเรียนพ่อแม่เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ปกครอง
- สนับสนุนการพัฒนาห้องเรียนเป็น Smart Classroom
- ลดภาระเอกสารครู ปรับครูให้เป็น Coach
พรรคก้าวไกล
ด้านหัวหน้าพรรคก้าวไกล คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เปิดนโยบาย ‘การศึกษาไทยก้าวหน้า’ เพื่อสร้างระบบการศึกษาเกิดเสรีภาพ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้เรียนได้อย่างเท่าเทียม ด้วย 20 นโยบาย ดังนี้
- เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
- ทุกโรงเรียนมีงบเพียงพอ
- โรงเรียนโปร่งใส ปราศจากทุจริต
- ส้วมสะอาด อาคารที่ปลอดภัย ซึมเศร้ามีที่ปรึกษา
- กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน
- ครูละเมิดสิทธิ พักใบประกอบทันที
- ยกเลิกการตั้งแถว ใช้เวลาอัปเดตเหตุการณ์บ้านเมือง
- ออกแบบหลักสูตรใหม่ เน้นทักษะที่ใช้ได้จริง
- ชั่วโมงเรียนดีมีคุณภาพ ลดคาบเรียน-การบ้าน-การสอบ
- โรงเรียน 2 ภาษา นักเรียนพูดภาษาอังกฤษได้
- เปิดข้อสอบ TCAS ย้อนหลังทั้งหมดพร้อมเฉลยทันที
- คืนครูให้นักเรียน เลิกนอนเวร ลดงานเอกสาร ยกเลิกพิธีรีตองในการประเมิน-รับแขก
- นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ.
- งบอบรมให้ครู-โรงเรียน ตัดสินใจเองว่าจะเรียนรู้อะไร ด้านการศึกษาที่ไม่จำกัดอยู่ที่โรงเรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- คูปองเปิดโลก สูงสุด 2,000 บาทต่อปี สำหรับเรียนรู้นอกห้องเรียน
- เรียนฟรีอาชีวะถึง ปวส.จบแล้วมีงานทำ
- แพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนฟรีไม่จำกัด รับรองคุณวุฒิพร้อมระบบจัดหางาน และด้านการศึกษาที่ใกล้ชิดผู้เรียน นักเรียน-ครู-ผู้ปกครองมีส่วนร่วม ประกอบด้วย
- กระจายอำนาจให้โรงเรียน เติบโตได้ภายใต้ท้องถิ่น
- บอร์ดโรงเรียน ต้องมีตัวแทนนักเรียน
- สภาเยาวชน มาจากการเลือกตั้ง เสนอกฎหมายไปที่สภาฯได้
พรรครวมไทยสร้างชาติ
มากันที่แคนดิเดตน่าจับตามองจากพรรครวมไทยสร้างชาติอย่าง "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ได้มีการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาเพื่อมอบโอกาสให้แก่เด็กไทยเช่นกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ มีดังนี้
- มอบทุนเรียนวิชาชีพอำเภอละ 100 ทุน
- จัดทำสถาบันกำเนิดศิลป์ ปั้นศิลปินไทยสู่เวทีโลก
พรรคพลังประชารัฐ
ตามมากันด้วย พรรคพลังประชารัฐ นำโดย "พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ได้เสนอนโยบายหลักในการดูแลเยาวชนให้อยู่ภายใต้ระบบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ให้เป็นไปตามนโยบายดังนี้
- สวัสดิการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ
- โครงการอาหารกลางวันฟรี
- สร้างทางเลือกการศึกษาให้เหมาะสมกับบริบททางสังคม
- สวัสดิการเรียนรู้ เติมทักษะ ตอบโจทย์แรงงานสมัยใหม่
พรรคประชาธิปัตย์
มาที่ฝั่ง พรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดย คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ชูนโยบายหลักด้านการศึกษาที่โดดเด่นและต้องการพัฒนาศักยภาพและขับเคลื่อนการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศไทย
- เรียนฟรีถึงปริญญาตรี สาขาที่ตลาดต้องการ
- ฟรีอินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน
- นมโรงเรียนฟรีทั้งปี อาหารกลางวันฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงป.6
พรรคไทยสร้างไทย
พรรคไทยสร้างไทย นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งเน้นย้ำเรื่องความสำคัญเรื่องการลงทุนกับคน จึงได้ออก 'นโยบายเรียฟรีอย่างมีคุณภาพจนจบปริญญาตรี' มีจุดหมายในการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและยกระดับคุณภาพการศึกษา
- กำหนดเป้าหมายหลัก เน้นให้การค้นหาตนเองได้เร็ว
- ลดเวลาเรียนในทุกช่วงการศึกษาอย่างน้อย 3 ปี (ระดับประถม มัธยม และปริญญาตรี) เพื่อให้สามารถจบปริญญาตรีได้ในช่วง 17-19 ปี
- เรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี และไม่มีหนี้กยศ.
- ปฏิรูปหลักสูตรให้ทันสมัย ยืดหยุ่นและตอบโจทย์เด็ก
พรรคเสรีรวมไทย
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ผู้นำและหัวหน้าพรรค ได้พัฒนาและสานต่อนโยบายเดิมที่ทางพรรคจัดทำขึ้นจากการเลือกตั้งปี 2562 และเรื่องการศึกษายังคงอยู่ในนโยบายที่ได้รับการผลักดันจากพรรคเสรีรวมไทยต่อในปี 2566
- เรียนฟรี จนจบระดับปริญญาตรีและยกเลิกหนี้กยศ.
- สนับสนุนภาคการศึกษา จ่ายตรงให้กับมหาวิทยาลัย 25,000 บาท ปีละ 2 การศึกษา เป็นเงิน 50,000 บาท ต่อคนต่อปี
พรรคเส้นด้าย
พรรคเส้นด้ายเปิดตัวไปช่วงเดือนมีนาคมที่่ผ่านมา และเป็นการลงสนามการเลือกตั้งครั้งแรกซึ่งนำทีมโดย "คุณคริส โปตระนันทน์" ได้ผลักดันและเน้นการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนมีโอกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียม และการศึกษาก็เป็นหนึ่งเรื่องที่พรรคให้ความสำคัญเช่นกัน
- ปล่อยเงินกู้เพื่อการศึกษาในระดับที่ทุกคนเข้าถึงได้
- ขยายขอบเขตการกู้ ครอบคลุมการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- เพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้ให้มากกว่า 15 ปี
- ลดอัตราดอกเบี้ยค่าปรับเมื่อผิดชำระหนี้
- ออกมาตรการให้ผู้กู้ซื้อประกันชีวิตมาใช้เป็นหลักประกันของเงิน กยศ. เพื่อไม่ให้ผู้ค้ำประกันต้องมารับภาระหนี้แทน
พรรคชาติพัฒนากล้า
ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งนำโดย "คุณกรณ์ จาติกวณิช" ก็ได้แถลง 12 นโยบายในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยหนึ่งในนั้นมีนโยบายที่ต้องการ ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพตนเอง ภายใต้ระบบการศึกษา
- สร้างเด็กไทย 3 ภาษา ไทย-ต่างประเทศ-Coding (เพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทำงานมากขึ้น ประเทศไทยต้องเรียนรู้หลายภาษา)
พรรคเพื่อชาติ
พรรคเพื่อชาติ นำโดย "คุณปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช" ประกาศชู ‘12 นโยบายการศึกษา’ ที่มุ่งสร้างพื้นฐานระบบการศึกษาที่ดีและต้องการให้ความสำคัญต่อการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนไทย
- ผลักดันเงินเดือนอาชีวะ เทียบเท่าปริญญาตรี
- ยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพ
- ครูอัตราจ้างควรได้เงินเดือนตามวุฒิการศึกษา
- ลดเด็กหลุดออกจากการศึกษาจากปัญหาเศรษฐกิจ
- กยศ. ปลอดดอกเบี้ย จบแล้วมีงานทำ
- ปฏิรูปกศน. สะสมหน่วยกิต เพิ่มโอกาส ต่อยอดสร้างอาชีพ
- ยกระดับความสำคัญสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้เป็นกลไกยืนยันความเชี่ยวชาญวิชาชีพที่หลากหลายเพื่อตอบสนองอาชีพเกิดขึ้นใหม่ในยุคปัจจุบัน
- ปรับโครงสร้างอาชีวะ ทั้งงบประมาณและการจัดหลักสูตร
- กระทรวงศึกษาธิการหาเงินได้ ความรู้คือทุน เน้นขายลิขสิทธ์วัตกรรมและสิทธิบัตรการศึกษา
- โรงเรียนปลอดภัย กาย ใจ ลดระบบแพ้คัดออกระบบที่ทำร้ายจิตใจ และคุณค่าในตัวเด็ก เพราะทุกคนมีศักยภาพ ทุกคนสามารถทำเพื่อชาติได้ในแบบของตนเอง
- Family Group Day Care สร้างพื้นฝากเลี้ยงลูกปลอดภัยในชุมชน
- ยกเลิกชุดนักเรียน ปรับโรงเรียนละเมิดกฎกระทรวง และเพิ่มงบอาหารกลางวันทุกโรงเรียน
พรรคชาติไทยพัฒนา
ทางด้าน "คุณวราวุธ ศิลปอาชา" หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้เปิด 10 นโยบาย " WOW Thailand" เพื่อพัฒนาประเทศและทางพรรคก็ได้มีการผลักดันนโยบายการศึกษาร่วมด้วยเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยาวชนในประเทศไทยไว้ดังนี้
- เรียนในสิ่งที่ใช่ ใช้ในสิ่งที่เรียน
- ปรับปรุงหลักสูตรในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะอาชีวศึกษา มัธยมศึกษา
- เยาวชนทำงานเป็น มีรายได้ ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมโลก
พรรคสามัญชน
ทางด้านพรรคสามัญชน นำโดย "คุณชุมาพร แต่งเกลี้ยง" ได้เปิดนโยบายเน้นสร้างความเท่าเทียมและความเป็นธรรมให้กับสังคม ครั้งนี้พรรคได้มีการออกแบบนโยบายการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางสร้างอนาคตที่เข้มแข็งของประเทศ ดังนี้
- เรียนฟรีทุกช่วงอายุ
- สร้างพิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดใกล้บ้าน เรียนรู้สิทธิพลเมือง สิทธิมนุษยชน ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมท้องถิ่น
- ชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตร
- ยกเลิกหลักสูตรสร้างอคติและความเกลียดชัง
- เพิ่มผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา โภชนาการ และการคุ้มครองเด็กทุกโรงเรียน
พรรคภูมิใจไทย
ขอปิดท้ายกันที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งนำโดย "คุณอนุทิน ชาญวีรกูล" ชูนโยบายพักหนี้สิน เพื่อหวังแก้ปัญหาจากสภาวะทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนแต่ยังคงเรื่องที่สอดคล้องกับการศึกษาสำหรับวัยเรียนผ่านนโยบายดังนี้
- หยุดพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยหนี้ กยศ. ถือเป็นหนึ่งในประเภทที่จัดอยู่ในระบบ โดยจะได้รับการหยุดพักอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดยล่าสุดทางพรรคภูมิใจไทยได้มีการอัปเดตเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาเพิ่มเติม เน้นการให้ความสำคัญกับการศึกษาออนไลน์ เพื่อเพิ่มคุณภาพให้แก่ระบบการศึกษาไทย ซึ่งมีนโยบายดังนี้
- การจัดการเรียนการสอน หรือเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี
- สร้างระบบท เวอร์ช่วลสคูล (Virtual School) หรือออนไลน์สคูล (Online School) เด็กๆ ไม่ว่าอยู่ในชนบทห่างไกล หรือโรงเรียนขนาดเล็ก จะได้เรียนกับครูเก่งๆ
- ผลักดันการจัดตั้ง สถาบันพัฒนาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติขึ้น เพื่อสร้างระบบใหม่ของการจัดการเรียนการสอน ให้เด็กที่มีคุณภาพ
ถ้าหากแต่ละพรรคมีการประกาศหรือแถลงการณ์นโยบายด้านการศึกษาเพิ่มเติม ทางทีมงานจะทำการอัปเดตข้อมูลให้อีกครั้ง
ต้องบอกเลยว่าหลายนโยบายน่าสนใจไม่น้อย และถ้าหากทำได้จริงก็จะช่วยผลักดันระบบการศึกษาและคุณภาพชีวิตของนักเรียนไทยไทยให้ดีขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามนโยบายด้านการศึกษาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะแต่ละพรรคยังมีนโยบายอีกหลายด้านประกาศร่วมด้วย แนะนำว่าให้น้องๆ ลองศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางตัดสินใจในการใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกทั้งรอบเลือกตั้งล่วงหน้า และวัน D-Day กันค่ะ และที่สำคัญอย่าลืมเตรียมตัวเพื่อออกไปใช้สิทธิในวันที่กำหนดประจำปี 2566 นี้กันด้วยนะคะ ^^
ข้อมูลจาก :https://twitter.com/MFPThailand/status/1614155076804964355 https://www.prachachat.net/politics/news-1184706 https://www.facebook.com/bhumjaithaiparty/videos/162522637459058 https://www.facebook.com/100044569743646/posts/pfbid02fm7jY2VPA7UuzSykre1UjyKvTURPBzsx41bPDJ7eHiupucF5NvCmtoX4HEatr8j2l/?mibextid=cr9u03
1 ความคิดเห็น
ไม่มีพรรคไหนที่แก้ปัญหาที่ปมจริงๆเลย นโยบายส่วนใหญ่ให้กู่้ กับใยกเลิกหนี้ที่กู้เพื่อการศึกษา ( ย้อนแย้งกันมาก ) ให้เรียนฟรี ( เขาฟรีอยู่แล้ว แต่ฟรีไม่จริง )ให้อาหารกลางวันฟรี ( ก็ฟรีอยู่แล้ว แต่คุณภาพแย่มากๆ ) บางพรรคแถมมีรถรับส่ง ( จะเอางบประมาณมหาศาลมาจากไหน ) บางพรรคทำนโยบายให้เรียนภาษากับครูจากต่างประเทศ ( เป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ เรื่องเขตเวลา ตารางเรียน การเชื่อมต่อ การควบคุมชั้นเรียน ถ้าจะทำแบบนั้น ลงทุนใช้ AI ช่วยทำดีกว่า) บางพรรคมีนโยบาย Virtual School หรือ Online School ( อาจเป็นไปได้จริง โดยใช้ AI ช่วย ) บางพรรคมีนโยบายปรับปรุงหลักสูตร ( สพฐ ทำเป็นประจำอยู่แล้ว ) นโยบายเงินเดือนอาชีวะ เทียบเท่าปริญญาตรี ( จะทำให้คนไม่อยากเรียนปริญญาตรี แต่เอาแค่อาชีวะ เพราะเงินเดือนเริ่มเท่ากัน ส่วนนโยบายที่ไม่รู้เรื่องจริงๆคือ นโยบาย นมโรงเรียนฟรีทั้งปี อาหารกลางวันฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงป.6 ( เขาฟรีมานานแล้ว ) สุดท้าย นักเรียนประเมินครู ครูประเมิน ผอ.( นโยบายนี้ไม่มีวันทำได้ ตราบใดที่ ตำแหน่งผู้อำนวยการ รร มาจากการแต่งตั้ง ยกเว่้นจะให้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เลือกมาจากสมาชิกในโรงเรียน ไม่เว้นแม้แต่นักการภารโรง และจะต้องมีวาระ 2-3 ปีเท่านั้นไม่อย่างนั้น ทุกนโยบายที่จัดมา ไม่มีทางสัมฤทธิ์ผลได้เลย