สวัสดีค่ะ พบกันกับคณะในฝันนะคะ เดือนนี้เราก็ยังอยู่กันที่ คณะการแพทย์แผนไทย ค่ะ คราวนี้พี่แป้งโชคดีมากๆ เลยที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณหมอที่เป็นแพทย์แผนไทยมาฝากน้องๆ ด้วย เราไปพบคุณหมอพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
พี่หมอวัฒน์ ธีรวัฒน์ สุดขาว
แพทย์แผนไทย
โรงพยาบาลการแพทย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
พี่แป้ง : สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นอยากให้แนะนำตัวกับน้องๆ ในเว็บ Dek-D ก่อนเลยค่ะ
พี่หมอวัฒน์ : ขอแนะนำตัวนะครับ พี่ชื่อ ธีรวัฒน์ สุดขาว ชื่อเล่นชื่อ วัฒน์ ส่วนใหญ่น้องๆ ในคณะเรียก พี่หมอวัฒน์ ครับ เรียนจบที่คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตอนนี้ทำงานเป็นแพทย์แผนไทยอยู่ที่โรงพยาบาลการแพทย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ครับ แบบว่าจบปุ๊บก็ได้งานที่คณะเลยครับ
พี่แป้ง : งานของแพทย์แผนไทยในส่วนที่ทำ เป็นงานเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?
พี่หมอวัฒน์ : งานจะมีเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ ครับ ก็คือ เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย ผดุงครรภ์ไทย และนวดไทย พี่จะดูแลเรื่องเวชกรรมไทยกับเภสัชกรรมไทยเป็นหลักครับ ส่วนลักษณะงานนั้นมาดูแต่ละด้านละกันนะครับ
1. ส่วนเวชกรรมไทย
ลักษณะงาน คือเป็นการตรวจวินิจฉัยโรคผู้ป่วย โดยแพทย์แผนไทยจะมีข้อดีกว่าแผนปัจจุบันคือ แพทย์แผนไทยจะวิเคราะห์รายละเอียดผู้ป่วยได้เยอะกว่า โดยบางครั้งเป็นสิ่งที่ทางการแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีหรือมองข้ามเช่น เรื่องของสภาพธาตุของร่างกาย ความสามารถของไฟย่อยอาหาร ความร้อนเย็นของแต่ละคน อาหารหรือพฤติกรรมที่เหมาะสมของแต่ละคน โดยอาหาร ยาหรือพฤติกรรมบางอย่างเหมาะกับคนหนึ่งแต่อาจเป็นผลเสียสำหรับอีกคนหนึ่งครับ บางทีอาจมาจากสภาพจิตใจ แสดงออกมากับน้ำเสียงการพูดพฤติกรรมหรือความฝัน เราก็สามารถที่จะอธิบายสาเหตุความเจ็บป่วยบางอย่างได้
นอกจากนี้หมอเองก็ต้องเข้าใจเรื่องภูมิศาตร์ สภาพอากาศ ฤดูกาลต่างๆ ของธรรมชาติด้วย เพราะล้วนมีผลต่อธาตุในร่างกายแตกต่างกัน รายละเอียดเหล่านี้จะเห็นว่าการแพทย์แผนไทยให้ความสำคัญที่จะค้นหาสาเหตุเพื่อแก้ที่ต้นเหตุของโรคจริง ๆ เน้นการป้องกันไม่ให้ตัวเองป่วยครับ
แต่จะมีข้อเสียคือไม่สามารถใช้เครื่องไม้เครื่องมือได้เทียบเท่าแผนปัจจุบัน หรือ ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เป็นต้น จนมีสำนวนเรียกแพทย์แผนไทยว่า หมอมือเปล่า คือไปที่ไหนไม่มีเครื่องมืออะไรก็รักษาคนได้ครับ ซึ่งในความเป็นจริงก็มีการบูรณาการระหว่างองค์ความรู้แผนปัจจุบันและแผนไทยโบราณในการตรวจวินิจฉัยครับ
ดังนั้นแพทย์แผนไทยจึงรักษาได้เกือบทุกโรค ไม่เพียงแต่นวดเท่านั้น ซึ่งบางโรคผลการรักษาดีกว่าแผนปัจจุบันครับ เช่น วัยทอง น้ำเหลืองเสีย ความผิดปกติของระบบประจำเดือน ภูมิแพ้ชนิดต่างๆ มีบุตรยากโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร อาการปวดกล้ามเนื้อ เรื้อรัง อัมพฤกษ์ อัมพาต การรักษาพิษงู เป็นต้น ปัจจุบันจึงยังมีคนมารักษาด้วยการแพทย์แผนไทยอยู่และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเห็นผลเสียของการใช้ยาแผนปัจจุบัน
2. เภสัชกรรมไทย
เป็นเรื่องของการผลิตยาและพัฒนารูปแบบยาสมุนไพรสำหรับผู้ป่วย ซึ่งต้องใช้ความรู้บูรณาการระหว่างหลักเภสัชกรรมแผนโบราณและเภสัชกรรมแผนปัจจุบันครับ เพราะเราต้องรู้ตำรับยาโบราณ รู้จักยาสมุนไพร และรู้จักสรรพคุณและโทษ ร่วมกับการดัดแปลงเป็นยารูปแบบต่างๆโดยใช้หลักเภสัชแผนปัจจุบันมาช่วยในการพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้ตลอดการสร้างงานวิจัยเกี่ยวกับผลของยาแผนโบราณ ยิ่งปัจจุบันจะสังเกตได้ว่างานวิจัยยาสมุนไพรตำรับโบราณถูกนำมาวิจัยและสร้างมูลค่ากันมากขึ้น กว่าพี่จะรู้จักสมุนไพรต่างๆ ได้จนสอบผ่านมาได้ ก็ต้องผ่านตา ผ่ามือ ผ่านลิ้นมานับไม่ถ้วนครับแถมเข้าไปบริจาคเลือดให้ยุงตอนเดินป่าไปเยอะเหมือนกันครับ
3. ผดุงครรภ์ไทย
เป็นฝ่ายที่มีผู้สนใจมาใช้บริการมากเช่นกัน โดยเป็นการดูคุณแม่ทั้งก่อนคลอดระหว่างและหลังคลอดแต่ที่รพ.ของเราเน้นที่หลังคลอด นั่นก็คือการอยู่ไฟหลังคลอดนั่นเองครับ โดยจะมีการนวด อบสมุนไพร ประคบ ทับหม้อเกลือ การขัดผิว การทับหม้อเกลือ การแก้ไขปัญหาหลังคลอดเช่นน้ำนมไม่ไหล เป็นต้น
4. นวดไทย
ถือเป็นจุดที่ทุกคนรู้จักเมื่อพูดถึงแพทย์แผนไทย การนวดที่เป็นเชิงรักษาจริงหาได้ไม่กี่ที่ครับ ถือเป็นการรักษาด้วยมือเปล่าที่ช่วยแก้อาการผิดปกติต่างๆ ของร่างกายได้อย่างมหัศจรรย์โดยไม่ต้องพึ่งยา อาการที่พบเจอมารักษาบ่อย เช่น ไหล่ติด หันคอไม่ได้ ยกแขนไม่ขึ้น นั่งพับเพียบไม่ได้ ข้อเท้าแพลง ปวดหลังและบ่าเรื้อรัง ปวดศีรษะไมเกรน กล้ามเนื้ออ่อนแรง อัมพฤกต์อัมพาต คนป่วยหลายคนเลือกที่จะรักษาอาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วยการรับประทานยาลดปวด บางคนกินเป็นปีๆ เจอโรคกระเพาะอีก สุดท้ายมาหายกับการนวดมานักต่อนักแล้วครับ หรือคนที่แม้แต่จะนั่งก็ทำไม่ได้ นอนอยู่บนเตียงมาเป็นปี ญาติไม่เป็นอันทำงาน เสียเงินเสียทองมากมายในการรักษา แต่การนวดทำให้เขาเดินได้ ทำให้เขามีกำลังใจในการใช้ชีวิต ทำให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น พี่ว่าเราคงต้องเปลี่ยนทัศนคติต่อการนวดใหม่ เพราะมันเป็นสมบัติที่มีค่าของไทย คงต้องบอกว่าการรักษาด้วยการนวดไม่มีชาติใดสู้เราได้จริงๆ ครับ
นอกจากนี้งานของพี่ก็ยังมีงานสอนนักศึกษา ทำงานวิจัย จัดโครงการอบรมให้กับผู้สนใจวิทยากรตามหน่วยงานต่างๆ และงานบริหารโรงพยาบาลครับ
พี่แป้ง : อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเรียนการแพทย์แผนไทยคะ?
พี่หมอวัฒน์ : คงต้องบอกตามตรงครับว่าพี่ก็ยังงงตัวเองมากเหมือนกันครับ 5555 เริ่มแรกเดิมทีมีความสนใจเรื่องคอมพิวเตอร์กราฟฟิก และการเขียนโปรแกรมมาตั้งแต่ ม.4 ครับ หนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เต็มบ้านเลย ตอนนั้นรู้เลยว่ามันมีความสุขมากที่ได้ทดลองทำอะไรพวกนี้ หลายครั้งอาจารย์ให้สอนเพื่อนแทนอาจารย์ จนได้เปิดชมรมเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมมัลติมิเดียมาแล้วครับ ตอนนั้นวางเป้าเลยว่าจะเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์หรือไม่ก็วิทยาการคอมพิวเตอร์แน่นอนครับ (รู้สึกเด็ดเดี่ยวมาก)
พูดถึงแพทย์แผนไทย สมัยนั้นบอกเลยว่าไม่มีใครรู้จักเลย พี่เองก็เพิ่งรู้ว่ามีคณะนี้หลังสอบ admission เสร็จไม่กี่วัน แต่พอเห็นชื่อคณะรู้สึกสนใจ (เริ่มหวั่นไหว รักพี่เสียดายน้อง) เลยไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เลยรู้สึกว่าโดนต่อมบางอย่างเข้าอย่างจังรับ เหมือนมันเปิดเพื่อเรายังไงยังงั้นเลย 555 ซึ่งตอนนั้นมีหลายเหตุผลที่ทำให้พี่เลือกเรียนแพทย์แผนไทยมีดังนี้ครับ
- มีความสนใจเรื่องการดูสุขภาพด้วยการแพทย์ทางเลือกเป็นการส่วนตัวมานานอยู่แล้ว
เพราะมีความรู้สึกว่ามหัศจรรย์มากครับ ชอบการที่คนโบราณมองว่าเรากับจักรวาล
และธรรมชาติมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน
- มีทักษะเรื่องการนวดและกดจุด และสมุนไพร ให้กับคนใกล้ตัวอยู่บ้าง
- ปู่และทวดทั้งสายพ่อละแม่เป็นแพทย์แผนไทย จึงมีองค์ความรู้และตำราใบลานอยู่มาก
ซึ่งท่านเสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีใครสืบสานต่อครับ
- ช่วงนั้นกระแสซีรีย์เกาหลีมาแรงครับ ทั้งแดจังกึม หมอโฮจุน กระแสการแพทย์โบราณ
ยิ่งทำให้ไฟในตัวลุกโชน 5555
- มุมมองเรื่องตลาดงาน การทำเงิน การต่อยอดรู้สึกว่าทำอะไรได้อีกเยอะ เนื่องจากเป็น
ภูมิปัญญาที่มีความเป็นเอกลักษณ์จึงสามารถสร้างจุดสนใจในระดับโลกได้
- พี่ไม่อยากป่วยครับ คนที่เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยหนักๆ จะทราบดีครับว่า
ความรู้สึกนั้นมันทรมานขนาดไหน เพราะพี่รู้ดีครับว่าการทำงานกับคอมพิวเตอร์นานๆ
ส่งผลเสียอย่างไรบ้างถึงจะมีความสุขแต่ทำให้สุขภาพพี่อ่อนแอลง เลยคิดว่าการเรียน
การแพทย์แผนไทยจะทำให้พี่สุขภาพดี และเป็นทักษะติดตัวไปตลอดชีวิต
- นิสัยส่วนตัวไม่ชอบเสียงดังและความวุ่นวาย ชอบบรรยากาศงานที่ผ่อนคลาย จึงคิดว่า
บรรยากาศงานของแพทย์แผนไทยน่าจะเหมาะกับนิสัยตัวเองครับ
- เรื่องของใบประกอบวิชาชีพครับ พี่คิดว่ายังไงถ้าเรายังรักชอบพวกเทคโนโลยีจริงๆ
ยังไงเราก็ศึกษาเองได้เพราะที่ผ่านมาเราเรียนรู้เองมาตลอด แต่แพทย์แผนไทยเป็น
ศาสตร์ที่ต้องศึกษาผ่านผู้รู้ และจำเป็นต้องทีใบประกอบวิชาชีพ จะรักษาเก่งแค่ไหน
ไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ก็ถือเป็นหมอเถื่อน เลยตัดสินใจเรียนคณะนี้ครับ
- ได้ช่วยเหลือคนอื่นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นครับ
ตอนนั้นคิดก่อนเลยว่า “เรียนแล้วจะไม่กลับมาเสียใจตอนหลังไหม” ตอนนั้นตอบเลยครับว่าไม่เสียใจแน่นอนเพราะเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว สุดท้ายพี่เลยเลยเลือกคณะนี้ จนตอนนี้ก็รู้สึกเลือกถูกแล้วครับ แม้มันจะมีอุปสรรคมามากมายก็ตาม
พี่แป้ง : คนไข้เคสไหนที่เจอแล้วรู้สึกประทับใจที่สุด
พี่หมอวัฒน์ : เป็นเคสที่รักษาตอนไปฝึกงานที่ รพ.ฝางเชียงใหม่ ครับ ตอนนั้นยังเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานไม่ประสีประสา ต้องไปรักษาคุณลุงที่นอนอยู่ห้องพิเศษมาเป็นปี ไม่สามารถนั่งหรือยืนได้เนื่องจากประสบอุบัติเหตุจนมีเลือดออกในสมอง ทำให้ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ครับ กายภาพไม่ค่อยได้ผล ทางโรงพยาบาลได้เพียงดูแลประคับประคองอาการและไม่รู้จะรักษาอย่างไรต่อ
ตอนนั้นความรู้เรื่องการรักษาโรคด้วยยาของเราน้อยมากครับ สิ่งที่ทำได้คือการนวดครับ พี่เองกับเพื่อนที่ไปฝึกงานด้วยกันเลยรักษาด้วยการนวดทุกๆ วัน ในเวลาประมาณเดือนเศษๆ คุณลุงสามารถเดินได้และใช้ชีวิตตามปกติที่บ้าน ถือเป็นเคสแรกที่ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ได้เห็นพัฒนาการคนไข้จนพยาบาลและหมอที่นั่นแปลกใจกันเลยทีเดียวครับ ตอนรักษาตอนนั้นเหนื่อยมากครับ ต้องนวดคนไข้ทุกวัน เคยมีคำถามเกิดขึ้นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เหนื่อย ท้อ ไม่อยากเรียนแล้ว แต่พอคนไข้หายจากความเจ็บป่วย มีความสุข ญาติมีความสุข ทุกคนขอบคุณเรา ตอนนี้ภูมิใจกับความเป็นแพทย์แผนไทยมากๆ ครับ และลบทัศนคติที่ไม่ดีต่อการนวดไปหมดเลยครับ และเป็นแรงให้เราเรียนรู้เรื่องการรักษาคนไข้โรคอื่นๆมากขึ้นครับ
พี่แป้ง : นอกจากงานแพทย์แผนไทยแล้ว จบการแพทย์แผนไทย มาสามารถทำงานอะไรได้อีกบ้างคะ?
พี่หมอวัฒน์ : - แพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลต่างๆ
- ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท-เอก ในคณะที่เกี่ยวข้องการวิจัยสมุนไพรและยา
- อาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัย
- นักวิจัยเกี่ยวกับยาและสมุนไพรไทย
- ธุรกิจคลินิกแพทย์แผนไทย
- ธุรกิจร้านยาสมุนไพร
- เปิดสปาหรือเป็นผู้ดูสปาทั้งในและต่างประเทศ
- ดีเทลยา
พี่แป้ง : การสอบเป็นแพทย์แผนไทย มีขั้นตอนอย่างไรบ้างคะ?
พี่หมอวัฒน์ : สอบ admission โดยต้องจบสายวิทย์-คณิตครับ ถ้าคะแนนถึงเกณฑ์ของคณะ ก็เข้าสอบสัมภาษณ์ คำถามที่เจอส่วนใหญ่ก็คือ ทำไมมาเรียนคณะนี้ เพราะอาจารย์ต้องการทราบทัศนคติของเราคร่าวๆ ครับว่าพอจะเรียนไหวหรือเปล่า การเรียนใช้เวลา 4 ปี วิชาที่ต้องเรียนทั้งส่วนที่เป็นวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ที่ต้องใช้เช่น anatomy, botany, micro,biochemistry ฯลฯ หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่วิชาที่เกี่ยวกับการเป็นแพทย์แผนไทยมากขึ้น เช่น เวชกรรมไทย การปรุงยา สรรพคุณเภสัช เภสัชวัตุ ผดุงครรภ์ไทย นวดไทย ฯลฯ พอขึ้นปี 4 ก็จะเริ่มทำงานวิจัยเพื่อเตรียมตัวจบครับ (ม.อ. เป็นมหาวิทยาลัยที่ให้นักศึกษาเรียนรู้การทำงานวิจัยได้โดดเด่นมากที่สุด)โดยจะมีสอบประมวลอีกทีครับ สอบไม่ผ่านก็สอบใหม่อีกปีหน้าครับ
ถึงสอบผ่านก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทยสมบูรณ์นะครับ ต้องไปสอบใบประกอบโรคศิลปะอีกทีซึ่งยากเอาการครับ ถ้าสอบผ่านก็จะได้รับใบประกอบโรคศิลปะและสามารถรักษาคนได้ถูกต้องตามกฎหมายครับ
พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรถึงน้องๆ ที่อยากเป็นแพทย์แผนไทยหน่อยค่ะ
พี่หมอวัฒน์ : คุยกับตัวเองให้ชัดครับ ว่าเรารักที่จะทำอะไร มีทักษะด้านนั้นบ้างหรือไม่ เรียนแล้วสามารถให้รายได้ตามที่เราต้องการหรือเปล่า อาชีพของเราช่วยเหลือโลกได้อย่างไรบ้าง และที่สำคัญคือ ตอบโจทย์เป้าหมายของชีวิตหรือเปล่า ถ้าแพทย์แผนไทยเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตของน้องๆ พี่สนับสนุนเต็มที่ครับ แต่ไม่อยากให้เรียนตากระแส หรือมีใครบังคับให้เรียน เพราะน้องๆจะรู้สึกทุกข์ทรมาน และรู้สึกว่ามันยากไปหมด จนเกิดความเบื่อหน่าย อยากให้น้องๆเลือกสิ่งที่ดีสุดสำหรับตัวเอง จงใช้ทั้งหัวใจและเหตุผล ถ้าน้องๆอยากเป็นส่วนหนึ่งในการต่อลมหายใจการแพทย์แผนไทย ก็เข้ามาเรียนรู้และพัฒนาการแพทย์แผนไทยให้ดังไกลไปทั่วโลกด้วยกันนะครับ
การเรียนแพทย์แผนไทยไม่ยากอย่างที่คิดเลยนะคะ ขอแค่มีความมุ่งมั่น ก็ประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ การรักษาด้วยวิธีทางธรรมชาติมีข้อดีมาก ๆ อย่างนึงคือจะไม่มีสารเคมีตกค้างในร่างกาย แต่ถ้าเกิดกินยาผิดล่ะก็ผลเสียร้ายแรงเลยนะคะ เพราะฉะนั้นคุณหมอทางด้านนี้จะต้องมีความเชี่ยวชาญมาก ๆ เลยค่ะ สุดท้ายนี้พี่แป้งมีคลิปดี ๆ มาฝากน้อง ๆ ค่ะ เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย ลองชมกันนะคะ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า คณะนี้ใช่สำหรับเราหรือเปล่า??
12 ความคิดเห็น
ฟังดูน่าสนใจมากๆเลย
ตอนนี้เราก็ได้ที่เรียนแพทย์แผนไทย เราชอบสาขานี้มาตลอด ตอนนี้ไม่กลัวแกทแพทเลย เพราะสถาบันที่เราสอบเขาไม่เอาคะแนนส่วนนี้ เรียนในจังหวัดบ้านเกิดด้วย
จะตามไปเป็นรุ่นน้องนะคะ
เป็นคณะที่น่าสนใจดีค่ะ
คงหนีไม่พ้นกระแสซี่รี่ย์เกาหลีมาแรงจริงๆ พ่วงด้วยความสงสัยแบบสุดขั้วของคนสมัยก่อนแล้วอย่างนี้มันต้องเรียนให้รู้กันไปข้างหนึ่งเลย
ผมเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขาการเเพทย์เเผนไทยประยุกต์ ภูมิใจคับ ถึงใครจะเรียกหมอนวด เเต่สำหรับผมคำคว่าหมอ ขอเเค่ได้รักษาคนไข้ ให้หายจากโรคภัยเเค่นั้นก็พอ ถึงใครจะมองเป็นเเค่หมอนวดก็ตาม