Q&A : เฟรชชี่เตรียมพร้อม รับน้องมาแล้ว! เคลียร์ 8 คำถามคาใจเรื่องรับน้อง

        สวัสดีน้องๆชาว Dek-D ที่น่ารักทุกคนนะคะ ใกล้เข้ามาแล้วกับวินาทีประกาศผลแอดมิชชั่น ตอนนี้รู้สึกยังไงกันบ้างเอ่ย? ใจเต้นตึกตักเหมือนอยากออกมาทักทายโลกภายนอกมั้ยน้า? ระหว่างรอลุ้นผลพี่เมก้าก็มีเรื่องราวดีๆ มารับขวัญน้องๆ ก่อนจะเข้าไปเป็นเฟรชชี่เต็มตัวกันค่ะ


 
        วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่อง "รับน้อง" ดีกว่า พี่เมก้าแอบเห็นน้องๆ เริ่มทยอยมาถามปัญหาคาใจกันบ้างแล้ว รับน้อง ม.A เป็นยังไง? ต้องทำกิจกรรมอะไรบ้าง? รับน้อง ม.B โหดมั้ย? กดดันมากรึเปล่า? ทำไงดีๆ เอาละ ไม่ต้องตื่นเต้นไปค่ะ เดี๋ยวพี่เมก้าจะเคลียร์ให้ทีละเรื่องเลย

       Q1 : "รับน้อง" กิจกรรมเป็นยังไง? ใช้เวลาเป็นเดือนจริงหรือ?
        A1 : รับน้องคือกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับเฟรชชี่น้องใหม่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยอย่างอบอุ่น กิจกรรมนี้สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจนถือเป็นประเพณี น้องๆ อาจเคยได้ยินว่าประเพณีรับน้องคือการส่งมอบความสุขจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง แม้ความสุขนั้นอาจทำให้ใครหลายคนนึกกลัวไปก่อนว่าจะสุข เศร้า เคล้าน้ำตารึเปล่านะ? แต่พี่เมก้าขอยืนยันว่าเป้าหมายของกิจกรรมรับน้องเป็นไปเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อนใหม่ร่วมสถาบันเดียวกันค่ะ

        รูปแบบของกิจกรรมรับน้องแตกต่างกันไปตามธรรมเนียมของแต่ละที่ บางที่เน้น "ความสนุกสนาน" แดนซ์มันส์ฮากระจาย บางที่เน้น "ความหนักแน่น" ระดับโหดปนหวานแต่สิ่งที่เหมือนกัน กิจกรรมรับน้องทำให้หลายๆ คนรู้จักมหาวิทยาลัยมากขึ้น รู้จักรุ่นพี่ รู้จักเพื่อนร่วมรุ่นทั้งคณะเดียวกันต่างคณะกัน และที่สำคัญได้รู้วิธีปรับตัวเพื่อให้อยู่ร่วมกับสังคมหมู่มากได้อย่างมีความสุข
        น้องๆอาจเคยได้ยินมาบ้างว่าบางมหา'ลัยมีรับน้องแยกย่อยเยอะมาก ทั้งรับน้องมหา'ลัยรับน้องคณะ รับน้องสาขา รับน้องหอ ฯลฯ นี่จึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า "รับน้องครั้งหนึ่งกินเวลานานเป็นเดือน" นั่นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพี่เมก้าก็ขอยืนยันว่าระยะเวลาการจัดกิจกรรมขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของแต่ละมหา'ลัยเช่นเดิม บางที่อาจจัดวันเดียวครั้งเดียวจบหรือบางที่อาจจัดต่อเนื่องกันเป็น 2-3 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน หรือมากกว่านั้นก็ได้ค่ะ

       Q2 : ทำใจไม่ได้! รับน้องมาพร้อมความไม่ปลอดภัย? กลัวมากเลย
        A2 : พี่เมก้าดีใจนะคะที่เห็นน้องๆ เป็นห่วงเรื่องสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเอง แต่ให้โยนความกลัวทิ้งไปได้เลยค่ะ รับน้องไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แถมปัจจุบันมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็หันมาให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรม "รับน้องปลอดภัย" แล้วค่ะ กิจกรรมเลยเบาบางลงไปมากเลย มีเข้ากลุ่มสัมพันธ์ ทัวร์มหาวิทยาลัย เต้นสันทนาการกันพอกรุบกริบ

        หากจะมีเรื่องเสี่ยงๆเกิดขึ้น ส่วนใหญ่น่าจะมาจากการที่น้องๆไม่กล้าบอกรุ่นพี่ เช่น ไม่สบาย แพ้อาหาร มีโรคประจำตัว ฯลฯ เป็นอะไรที่อันตรายและหลายๆ คนชอบปล่อยผ่าน ดังนั้นก่อนร่วมกิจกรรมถ้ารุ่นพี่ให้กรอกข้อมูลที่สำคัญต่อความเป็นความตายของชีวิตเรา ได้โปรดบอกไปให้หมดเลยค่ะ ยิ่งระหว่างทำกิจกรรมเกิดหน้ามืดตาลายไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนตัวเอง รีบสะกิดเรียกเพื่อนเลย เกิดปล่อยให้น้องเป็นอะไรขึ้นมา คุกเรียกหารุ่นพี่แน่ๆ TT__TT


Q3 : "โซตัสในตำนาน" ยังมีอยู่มั้ย? คำกล่าวขานจากวันนั้นถึงวันนี้
        A3 : น้องๆอาจจะเคยได้ยินคำกล่าวขานของ "ระบบโซตัส" ว่าเป็นการรับน้องในรูปแบบเข้มข้น หากใช้แบบผิดๆมักจะมาพร้อมความสูญเสียมากกว่าทำให้เกิดสิ่งดีๆ ต้องยอมรับว่าเรื่องโซตัสที่ปรากฎในหน้าสังคมค่อนข้างรุนแรง มักทำให้เกิดภาพความเครียดความกดดัน มองดูเป็นกิจกรรมไม่สร้างสรรค์ สร้างแต่ความรุนแรง

        หากถามว่า "โซตัสในตำนาน" ยังมีอยู่มั้ย? ต้องขอตอบว่าบางมหา'ลัยยังมีอยู่ค่ะ แต่ได้ลดทอนความรุนแรงลงไปมากถึงมากที่สุดแล้ว เพราะหากย้อนกลับมามองเป้าหมายที่แท้จริงของระบบนี้ โซตัสเน้นรูปแบบการทำกิจกรรมที่ทำให้น้องๆ ทุกคนมีระเบียบวินัย มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในกลุ่มเพื่อน รู้จักแบ่งปันความรัก และเคารพในสิทธิของกันและกันมากกว่า เพราะสิ่งเหล่านี้สำคัญมากที่สุดต่อการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมแล้วค่ะ ยังไงพี่เมก้าก็เชื่อว่ารับน้องโซตัสแบบดีงามยังมีอยู่จริงนะคะ


      Q4 : "พี่ว้ากโหด เข้ม ดุ" ข่าวลือหรือเรื่องจริง?
        A4 : เอาละไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว พี่เมก้าจะขอแถลงดูสักตั้งว่า เอ? พี่ว้ากโหด เข้ม ดุจริงมั้ยนะ ขอตอบแว่...เอ้ย...ว่า..."เรื่องจริงไม่อิงนิยาย" ค่ะ แต่ที่พี่ว้ากต้องโหดจนทำให้น้องเฟรชชี่หวาดกลัวถึงขั้นเก็บไปฝันร้ายทุกคืนแบบนี้ ทุกอย่างมีเหตุผลนะคะ น้องๆ อาจจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของพี่ว้ากมาบ้างจนนึกกลัว รีบไปสืบว่าเราจะเจอพี่ว้ากมั้ยนะ? บางที่ไม่มีพี่ว้าก แต่ดันใช้ชื่อเรียกอื่นๆ เช่น พี่วินัย พี่อบรม พี่ระเบียบ ฯลฯ 


 
        แต่ต้องบอกก่อนว่าท่าทีเข้มๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงกิจกรรมรับน้องเท่านั้น หลังจากผ่านกิจกรรมไปทุกอย่างก็กลับมาเป็นพี่น้องกันค่ะ เพราะไม่มีรุ่นพี่คนไหนลุกขึ้นมาบ้าอำนาจ ตะคอกเสียงใส่หน้ารุ่นน้องแล้วหัวเราะสะใจวะฮะฮ่าหรอกนะคะ ถึงแม้น้องๆอาจจะคิดว่าความหวังดีสามารถมอบให้กันด้วยวิธีอื่นก็ได้ แต่พี่ๆก็ยังคงมองว่าวิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี สักวันน้องจะเข้าใจว่าสิ่งที่รุ่นพี่อบรมเรา มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความปรารถนาดีอยากเห็นน้องๆ อยู่ในระเบียบวินัย เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาไปพร้อมกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในรุ่นก็เท่านั้นเอง

        น้องๆ คนไหนเกิดเข็ดขยาดกับพี่ว้ากจนกลัวไม่กล้าร่วมกิจกรรมนะคะ พี่เมก้าขอให้ลองเปิดใจดูก่อน ไม่แน่พี่ว้ากก็อาจกลัวน้องๆเกลียดอยู่เหมือนกันนะ ถ้าเป็นแบบนั้นน่าสงสารแย่เลย แอบเห็นบางคนปากบอกว่ากลัว แต่เข้าร่วมกิจกรรมไม่เคยขาด ก็แหม#พี่ว้ากหล่อบอกต่อด้วยนี่นา หุหุ  


Q5 : ไม่อยากเจอ "รับน้องรุนแรง" ไม่เข้าได้มั้ย?
        A5 : ความจริงแล้วจะเข้าหรือไม่เข้ารับน้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของน้องๆ นะคะ ไม่มีใครกล้าบังคับเราหรอก แต่ปัญหาคือ ช่วงที่ผ่านมาน้องๆ อาจหาข้อมูลต่างๆ แล้วดันไปเจอเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะเรื่อง "รับน้อง" บางคนถึงขั้นช็อกไปเลยค่ะ

        พี่เมก้าขอบอกไว้ก่อน! อย่าเพิ่งเชื่อหรือตัดสินอะไรไปโดยผิวเผิน เราไม่มีทางรู้ถ้าตราบใดที่ยังไม่ได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง แต่ละคนอาจจะตีค่าระดับความโหดไม่เท่ากัน แบบไหนถึงเรียกว่ารับน้องโหด? บางคนอาจรู้สึกว่าพี่พูดเสียงดังถือว่าโหด แต่ในขณะที่ถ้าซ้อมน้องจนซี่โครงหักกระอักเลือด เต้นท่าลามกอนาจาร อันนี้รุนแรงจริง ไม่ต้องทนค่ะ รีบหนีออกมาเลย และแจ้งเรื่องให้ทางคณะหรือมหาวิทยาลัยรับทราบโดยทันที


        แต่ถ้ารับน้องที่เราเข้าร่วมไม่เหมือนอย่างที่นึกไว้ ไม่ได้น่ากลัวแถมยังสนุกอีกต่างหาก น้องๆ อาจจะได้ความรู้สึกอีกแบบกลับคืนมาเลยก็ได้นะคะว่า "หากไม่ได้เข้าเสียดายแย่" เพราะรับน้องครั้งแรกเป็นเพียงความทรงจำครั้งเดียวในชีวิต ใช่ว่าทุกมหา'ลัยจะ "รับน้องรุนแรง" เสมอไป "รับน้องสร้างสรรค์" ยังมีอยู่ และไม่ได้เป็นเพียงภาพในอุดมคติด้วยค่ะ อย่าปล่อยให้พฤติกรรมแย่ๆ ของคนบางกลุ่มมามีอิทธิพลเหนือเรา แล้วทำให้เราเสียโอกาสดีๆไปนะคะ


 
        

Q6 : แล้วถ้าไม่เข้ารับน้องจะเกิดอะไรขึ้น? กลัวถูกตัดขาดจากสังคม
        A6 : เข้าใจว่าน้องบางคนฝังใจกับการรับน้อง เพราะข่าวรับน้องรุนแรงมีให้เห็นมากมายเหลือเกิน ถ้าเลี่ยงได้หลายๆ คนก็อยากเลี่ยง แต่! มันติดตรงที่ว่าถ้าเราไม่เข้ารับน้อง ก็มีคนขู่มาอีกว่าจะโดนตัดขาดจากสังคม รุ่นพี่ไม่รับรุ่น เพื่อนไม่คบ! 
        ขอบอกว่าไม่เป็นความจริงหรอกค่ะ แม้ว่าการรับน้องอาจทำให้เราพลาดการทำความรู้จักรุ่นพี่และเพื่อนๆ ไปแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะถูกตัดขาดจากสังคม มันจะเป็นแค่ช่วงแรกๆของการเปิดเทอมเท่านั้นค่ะ พอหมดรับน้องเดี๋ยวน้องๆ ก็มีเพื่อนแล้ว
        แต่ถ้าเกิดเจอภาวะถูกแบนขึ้นมาจริงๆ เราก็อาศัยการเข้าร่วมกิจกรรมของทางคณะอื่นๆ เพื่อสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆได้อีกทางหนึ่ง แต่ถ้ายังเป็นอยู่ พี่เมก้าคิดว่าก็ปล่อยเขาไปค่ะ เราไปหาคนที่พร้อมจะเป็นเพื่อนกับเราดีกว่า ส่วนเรื่องโดนตัดรุ่นอันนี้ก็ยิ่งไม่จริงใหญ่ ถ้าเราตั้งใจเรียน เรียนจบทันเวลา ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับเพื่อนๆของเราอยู่ดี


 
        ยังไงก็ตามแต่ เพราะค่านิยมของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ความรู้สึกรักและเป็นส่วนหนึ่งของคณะก็แสดงออกไม่ซ้ำกันด้วย มันอาจจะทำให้น้องๆ บางคนได้รับแรงกดดันจากสังคมรอบข้างขึ้นมาจริงๆ ตรงส่วนนี้เป็นอะไรที่เราต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ค่ะ แต่พี่เมก้าเชื่อว่าถ้าน้องๆมีเหตุผลเพียงพอที่ไม่ร่วมรับน้อง เช่น มีโรคประจำตัว เดินทางไม่สะดวก ฯลฯ ไม่มีรุ่นพี่คนไหนกล้าบังคับเราหรอกค่ะ ยังไงความสมัครใจของน้องๆย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเนอะ

Q7 : เราได้อะไรจากการ "รับน้อง"? สิ่งที่ทุกคนอยากรู้แต่ไม่อยากถาม  
        A7 : เอ? ที่อยากรู้แต่ไม่อยากถามเป็นเพราะกลัวรึเปล่าน้า~~~ หากน้องๆ ถามว่าเข้ารับน้องแล้วจะได้อะไรคะพี่เมก้า ขอเหตุผลหน่อย! อยากบอกว่าข้อดีมีมากมายเล่าให้ฟังเป็นวันๆ ยังไม่จบเลยค่ะ อิอิ นี่ไม่ได้อวยนะคะน้องๆ แต่อยากบอกว่าดีจริงๆ แค่นึกถึงบรรยากาศความสนุกความมันส์ ความฮา ความซึ้งที่ยกขบวนกันเข้ามาแล้วล่ะก็ พี่เมก้านี่อยากจะย้อนวัยกลับไปเป็นเฟรชชี่อีกสักครั้งเลย เอาเป็นว่าเรามาดูสิ่งดีๆ 3 ข้อใหญ่ที่ใครๆ ต่างก็เทใจให้รับน้องกันดีกว่าค่ะ
        

1. รับน้องทำให้รู้จักมหาวิทยาลัยมากยิ่งขึ้น
        กว่าที่เฟรชชี่จะได้เป็นหนึ่งใน Survivor ผ่านด่านเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในฝันได้ ต้องผ่านทั้งความท้อและเหนื่อยล้ามามากเท่าไหร่ กิจกรรมรับน้องนี้ก็เหมือนของรางวัลที่รุ่นพี่มอบให้กับน้องๆคนเก่งนั่นเอง พี่ๆจะพาเราไปทำความรู้จักกับมหา'ลัย ทั้งเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ วิสัยทัศน์ต่างๆ รวมถึงพาทัวร์สถานที่สำคัญๆ เพราะต่อไปนี้น้องๆจะต้องใช้ชีวิตในรั้วมหา'ลัยไปตลอดจนจบการศึกษา ปฏิเสธไม่ได้ว่ากิจกรรมรับน้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเกิดความรักและภาคภูมิใจในสถาบันมากขึ้นค่ะ

2. รับน้องเปิดโอกาสให้พบเจอมิตรภาพใหม่ๆ


 
        เอาจริงบรรยากาศวันรับน้องนี่ครึกครื้นจนเราแทบจะตั้งรับไม่ทันเลยค่ะ พอน้องๆ เดินไปถึงซุ้มพี่ๆ ก็อาจเข้ามาแบ่งกลุ่มให้ หันไปมองคนข้างๆ เอ๊ะ! นี่มันคนแปลกหน้าชัดๆ แต่อนาคตอันใกล้คนแปลกหน้าคนนี้นี่แหละค่ะที่จะกลายมาเป็นเพื่อนเรา เพราะฉะนั้นจงเชื่อพี่เมก้า เปิดใจให้กว้างนะคะ กิจกรรมรับน้องจะทำให้น้องๆได้เพื่อนใหม่กลับมาเยอะแยะเลยค่ะ ที่สำคัญนอกจากมิตรภาพระหว่างเพื่อนแล้ว น้องๆยังอาจได้รับความรู้สึกดีๆ มาจากรุ่นพี่ที่คอยดูแลเราตลอดการเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

3. รับน้องช่วยทลายกำแพงของแต่ละคน
       น้องบางคนนี่ขี้อายมาก~~~ ไม่กล้าทักใครก่อน เลยขอนั่งนิ่งๆ เข้มๆ จนตัวเกร็งเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง กิจกรรมสนุกๆ จะค่อยๆ ละลายพฤติกรรมของน้องๆ ออกไปเอง รับรองว่าก่อนกับหลังรับน้องเราอาจจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยก็ได้นะคะ อย่างเพื่อนพี่เมก้านี่ปกติตายด้านมากค่ะ สีหน้าไร้อารมณ์สุดๆ พอเต้นสันฯเท่านั้นแหละ หน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม อ้าว! แต่แดนซ์มันส์ซะเอวแทบหลุดเลยค่ะ =__= แถมปกติจากคนที่ไม่เคยซาบซึ้งกับอะไรมาก่อนยังกลายเป็นคุณนายโฮได้ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลองดูให้ได้นะคะ

Q8 : พร้อมร่วม "ทริปรับน้อง" แล้ว เตรียมตัวยังไงดี? "ขอทริคหน่อย"
        A8 : เย้ๆๆ สำหรับน้องๆคนไหนที่พร้อมจะร่วมเดินทางในทริปรับน้องนี้แล้ว พี่เมก้าก็มีทริค เตรียมความพร้อมเล็กๆน้อยๆมาฝากด้วยค่ะ ตามไปดูกันเลย

1. เตรียมเช็กกำหนดการ
        พลาดกันมาหลายรายแล้วกับกิจกรรมรับน้อง (พี่เมก้าก็เป็นหนึ่งในนั้น TT__TT) น้องๆ หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอมาก เพียงแต่ไม่ได้เกาะติดข่าวสารว่าปีนี้รับน้องจัดวันไหน แล้วอย่างที่พี่เมก้าบอกรับน้องของแต่ละที่มีทั้งรับน้องมหา'ลัย รับน้องคณะ รับน้องสาขา รับน้องหอ คือเยอะแยะมาก ไม่รู้อะไรจัดก่อนจัดหลัง ทำให้สับสนจนเฟลไปตามๆกัน ทันรับน้องคณะ ไม่ทันรับน้องมหา'ลัยบ้าง ทันรับน้องสาขา ไม่ทันรับน้องหอบ้าง เพราะฉะนั้นรีบเช็กแล้วจดใส่ปฏิทินไว้เลยค่ะ จะได้ไม่พลาดความสนุกเนอะ

        อีกอย่างในกำหนดการมักจะบอกไว้ด้วยว่าน้องๆต้องเตรียมอะไรมาบ้าง โดยรวมแล้วพี่เมก้าเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของน้องๆเป็นสำคัญค่ะ ยาประจำตัวนี่ห้ามลืมเด็ดขาด ร่วมกิจกรรมตอนกลางวันเตรียมหมวกกับพัดไปด้วยก็ดี เพราะอากาศบ้านเรานั้นร้อนเร่าไม่เข้าใครออกใคร กลางคืนก็อย่าลืมทายากันยุง เคยเจอมั้ย? ยุงยักษ์กัดทะลุกางเกง บรื๋อ
~ ที่สำคัญพี่ๆให้เตรียมเสื้อผ้ากี่ชุด? อย่าลืมนำไปให้ครบนะคะ เกิดต้องไปลุยโคลนแล้วไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแย่แน่ๆเลย

2. เตรียมกายให้ฟิต
        ต้องบอกก่อนว่ากิจกรรมรับน้องนี่เข้าร่วมกันตลอดวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น แถมบางที่ยาวนานติดต่อกันไปจนข้ามวันข้ามคืนเลยก็มีค่ะ (ที่เค้าเรียกกันว่า Overnight)  รูปแบบกิจกรรมก็เป็นธรรมดาที่ต้องเน้นความสนุกสนาน รุ่นพี่ก็จะเป่านกหวีดประจำตัวปี๊ดๆปี๊ดๆ ให้น้องวิ่งเข้าฐานนู้นออกฐานนี้ เกมกีฬาที่อาจต้องใช้แรงและสมองก็ยกขบวนมาให้เล่นกันมากมาย เรียกว่าจบรับน้องเราอาจสลบไปเสมือนเตียงดูดวิญญาณ นอนนิ่ง 3 วัน 3 คืนได้เลยค่ะ


 
        เอาเป็นว่าเตรียมฟิตร่างกายมาให้พร้อมจะดีกว่านะคะ ปิดเทอมนี้อยู่บ้านก็ซ้อมเต้นไปเยอะๆเลย ฝึกเรียกพลังและลมปราณเข้าไว้ เพราะพี่เมก้าเชื่อว่าแค่สันทนาการเพียงอย่างเดียวก็ทำเราร่างพังได้แล้วค่ะ ร้องไห้หนักมาก

3. เตรียมใจให้พร้อม
        มาถึงการเตรียมความพร้อมในด่านสุดท้ายแล้ว! แถ่น แทน แท้น~~~ (ตื่นเต้นทำไม =___=) "เตรียมใจ" นั่นเองค่ะ ใจคือพลังที่สำคัญที่สุด น้องบางคนอาจจะคาดหวังความสนุก ความฮาจนท้องคัดท้องแข็งไว้มาก แต่พอมาเข้ารับน้องกลับกลายเป็นว่า "นี่ยังไม่เพียงพอ เราต้องการความมันส์มากกว่านี้!" ก็กร่อยไปตามๆกัน หรือน้องบางคนคาดหวังความตื่นเต้นเร้าใจ พอมาปุ๊บกลายเป็นได้รับความกดดันไปแทนซะงั้น อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ใจเราต้องพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงเสมอค่ะ
       
        แต่ที่พี่เมก้าอยากให้น้องๆรับรู้ไว้อย่างหนึ่งคือ พี่ๆทุกคนตั้งใจเตรียมงานเพื่อต้อนรับน้องๆที่น่ารักทุกคนมาก เหนื่อยสายตัวแทบขาดเลยนะคะ เพราะฉะนั้นหากมีอะไรไม่โดนใจเราไปบ้างก็ขอให้นึกถึงใจหัวจิตหัวใจดวงน้อยๆของรุ่นพี่ไว้ด้วยค่ะ

        เอาล่ะค่ะ ตอนนี้พี่เมก้าก็จัดการ "เคลียร์ 8 คำถามคาใจเรื่องรับน้อง" ไปจนครบแล้ว เคลียร์รึเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ พี่เคลียร์มาก! หากน้องๆว่าที่เฟรชชี่คนไหนยังมีคำถามค้างคาๆ ในใจอีกก็สามารถพูดคุยกันต่อได้ที่ความเห็นด้านล่างเลยเจ้าค่ะ พี่เมก้าไม่กัด ฉีดยาแล้ว
~ อิอิ ขอให้รับน้องนี้เป็นความทรงจำที่สุดแสนจะอบอุ่น ซาบซึ้ง ประทับอยู่ในใจของน้องใหม่เฟรชชี่ทุกคนนะคะ
 
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

21 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด