เมื่อต้นปีที่ผ่านมา น้องๆ ชาว Dek-D.com คงเคยได้ยินข่าวโครงการทดลอง "เครื่องตรวจจับอนุภาค" ของกลุ่ม "แอตลาส" (ATLAS) ที่เกิดจากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรกว่า 2,100 คนจาก 167 องค์กรใน 37 ประเทศ ซึ่งได้เริ่มลำเลียงอุปกรณ์ที่เรียกว่า "กังหันเล็ก" (small wheel) อันเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของเครื่องตรวจจับอนุภาคลงสู่อุโมงค์ใต้ดินที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และที่แห่งนี้ก็คือที่ตั้งของห้องปฏิบัติการทางด้านฟิสิกส์อนุภาคขนาดใหญ่ของ "เซิร์น" (CERN) หรือ "องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนาทางด้านนิวเคลียร์" (European Center for Nuclear Research) นั่นเอง


ภาพจำลองทางคอมพิวเตอร์แสดงหลุมดำที่ตรวจวัดโดยสถานีตรวจวัดอนุภาคแอตลาส

     และใน "วันนี้" (วันที่ 10 กันยายน 2551) เซิร์นจะเดินเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ Large Haldron Collider (LHC) เพื่อค้นหาคำตอบว่า "จักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร" เป็นครั้งที่สอง หลังจากประสบความสำเร็จจากการทดลองครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ด้วยการทดลองที่เปรียบเหมือนกับการทดลองสร้างจักรวาลขึ้นมาในหลอดแก้ว โดยการไขความลับเอกภพครั้งนี้ ยังเป็นการพิสูจน์ "ทฤษฎีอนุภาคพระเจ้า" หรือ "God Particle" หรือ "Higgs Boson" ของ ศ.ปีเตอร์ ฮิกส์ นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอระว่าอนุภาคนี้มีอยู่จริงอีกด้วย

     เซิร์นมีกำหนดยิงแสงแรกหรือการทดลองเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีครั้งแรกในวันนี้ (วันที่ 10 กันยายน 2551) เวลา 09.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ เวลาประมาณ 14.15 น. ของวันเดียวกันตามเวลาประเทศไทย โดยที่เซิร์นเรียกวันแห่งการทดลองครั้งแรกนี้ว่า "แอลเอชซี เฟิร์สต์ บีม เดย์" (LHC First Beam Day) พร้อมทั้งเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าชม ณ ห้องควบคุม และนำชมห้องแล็บทั้ง 4 และจะมีการถ่ายทอดผ่านอินเทอร์เน็ตตั้งแต่เวลา 09.00 - 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตามเวลาประเทศไทย 14.00 น. เป็นต้นไป ที่ http://webcast.cern.ch ด้วย


เจ้าหน้าที่เซิร์นกำลังตรวจสอบแม่เหล็กตัวนำยิ่งยวดของเครื่องซีเอ็มเอส

     โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ได้มีการส่งกลุ่มอนุภาคจาก เครื่องซินโครตรอนซูเปอร์โปรตอน หรือ เอสพีเอส (Super Proton Synchrotron: SPS) ไปยังเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี และผ่านไปเป็นเวลาพอสมควร กลุ่มอนุภาคหนึ่งได้เคลื่อนเข้าสู่ท่อลำอนุภาคของแอลเอชซี แล้วหมุนตามเข็มนาฬิการอบแอลเอชซีเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร
    
     การทดสอบยิงลำอนุภาคทั้งทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกานั้น เป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมความพร้อมของเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี
ซึ่งเป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่ทรงพลังที่สุดในโลก เพื่อให้ที่สุดแล้ว ลำอนุภาค 2 ลำ ถูกเร่งและชนกัน ที่ระดับพลังงานของลำอนุภาคละ 5 เทราอิเล็กตรอนโวลต์ (TeV) ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ ได้รับการทำนายว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2551
      
     ทั้งนี้ เครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี สามารถเร่งอนุภาคให้มีความเร็วเข้าใกล้แสง 99.9999% โดยการเร่งอนุภาคดังกล่าวเกิดขึ้นภาย
ในท่อที่ขดเป็นวงกลม 27 กิโลเมตร ซึ่งฝังอยู่ใต้ดินลึกลงไป 100 เมตร ระหว่างชายแดนฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์


โครงสร้างของเครื่องตรวจวัด CMS ที่มีลักษณะเป็นชั้นๆ คล้ายหัวหอม


       โครงการทดลองนี้ ไม่ได้เป็นที่จับตามองเฉพาะในกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปอีกด้วย
เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายออตโต รอสเลอร์ นักเคมีชาวเยอรมัน ได้ออกมาคัดค้านการทดลอง โดยได้ยื่นคำร้องต่อที่ประชุมด้านสิทธิมนุษยชนยุโรป เพื่อขอระงับการทดลอง โดยให้เหตุผลว่า "เป็นการละเมิดต่อสิทธิ์การดำรงชีวิตและละเมิดสิทธิ์ในการมีครอบครัว" เนื่องจากหวั่นว่า เมื่อเดินเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่แล้ว จุดจบของโลกจะมาถึง แต่อย่างไรก็ดี จากการทดลองเดินเครื่องครั้งแรก เซิร์นได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อโลก และจะยังคงทำการทดลองต่อไป

     ด้านนักวิทยาศาสตร์ไทยก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน โดยศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้เผยแพร่ความเห็นของ ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน นักฟิสิกส์ชั้นนำของไทย ในฐานะที่ปรึกษาด้านวิชาการ ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย ต่อความวิตกในการ "เกิดหลุมดำที่จะกลืนกินโลก" ว่า โอกาสการเกิดหลุมดำจากการทดลองมีเพียง 1 ใน 50 ล้านเท่านั้น และหากเกิดหลุมดำจริง จะเป็นหลุมดำที่จะมีขนาดเล็กได้ถึงระดับพิโคเมตร หรือ 10-15 เมตรเท่านั้น (เล็กกว่าระดับนาโนเมตร คือ 10-9 เมตร)

     ขณะที่การทดลองของเซิร์นเป็นการชนกันของอนุภาคโปรตอนที่มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดของดาวฤกษ์ ดังนั้นหากเกิดหลุมดำก็จะมีขนาดที่เล็กจิ๋ว อีกทั้งตาม ทฤษฎีของฮอร์กิ้ง (Hawking) นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ได้มีการคำนวณไว้ว่า หลุมดำขนาดจิ๋วที่เกิดขึ้น จะมีการระเหิดหรือการสลายตัวภายในเสี้ยววินาที (10-15 วินาที) เท่านั้น ด้วยเหตุนี้อันตรายที่จะเกิดขึ้นจากหลุมดำถือว่าน้อยมากจนไม่น่ากังวลและไม่มีผลกระทบใดๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรม ที่สำคัญการทดลองทุกรูปแบบของนักฟิสิกส์ ได้มีการคำนวณและประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแล้ว ดังนั้นเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติจึงหยุดการทดลองได้ทันที
       
     สรุปว่า...14.00 น.วันนี้ เรามาติดตามกันดีกว่านะคะว่าโครงการของเซิร์นจะประสบความสำเร็จอย่างไรบ้าง ใครได้ดูถ่ายทอดสด
ก็มาคุยกันได้ที่นี่นะคะ (พี่จูนก็จะดูเหมือนกัน)

     และสำหรับน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกๆ คนที่สนใจเรียนรู้วิทยาศาสตร์ น้องๆ ต้องรู้จักเป็นคนช่างสังเกต ช่างสงสัย และพยายามคิดหาคำตอบนะคะ วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราสามารถเรียนรู้ได้ง่าย และในปัจจุบันข้อมูลข่าวสารต่างๆ ก็มีมากมายให้เราเลือกเรียนรู้ พี่จูนขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนนะคะ แล้วจะคอยดูว่า... จะมีนักวิทยาศาสตร์น้อยคนเก่งของเราได้ไปร่วมโครงการทดลองระดับโลกแบบนี้บ้างมั้ย ^^

 

Reference : manager online, ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย
ภาพประกอบจาก manager online

 

พี่จูน
พี่จูน - Columnist บ.ก.บันเทิง/ไลฟ์สไตล์ ใจดีกว่าหน้าตา รักสัตว์ รักเด็ก อยากเป็นนางเอกและนางงาม

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

15 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
~๐*ZombiE_FullmooN*๐~ Member 10 ก.ย. 51 16:09 น. 3

น่ากลัวค่ะเเต่อย่าแตกตื่นมากเกินไปนะค่ะ

ฝากกระทู้ค่ะ
เซิร์น:การทดลองสุดยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ ค้นหาจุดเล็กสุดสู่กำเนิดจักรวาล !!!!!! 
ตามลิงค์เลยค่ะ>>>>>>>>
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1152444&pageno=1

รูปภาพ

อาณาเขตของโครงการ

0
กำลังโหลด
mejune Columnist 10 ก.ย. 51 16:29 น. 4
น้องๆ อย่าแตกตื่นค่ะ อย่างที่บอกไปว่า มีโอกาสเกิดหลุมดำขึ้นได้ แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ก็ถือว่าติดตามข่าววิทยาการความก้าวหน้าอีกขั้นของวิทยาศาสตร์ละกันนะคะ ป.ล. พี่จูนดูคลิปถ่ายทอดสดไม่ได้ ใครได้ดูมั่งเนี่ย มาเล่าให้ฟังหน่อย TT^TT
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ไอเซอาห์ Member 10 ก.ย. 51 18:46 น. 7
อ้าวเราะ  โหย  อุตส่าห์รวมตัวกันเคาน์ดาววันสิ้นโลกแล้วนะเนี่ย  ชวดซะงั้น  แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะยังไม่ได้อยู่ดูสงครามโลกครั้งที่3ในปี2010เลยนะ  ยังแตกไม่ได้ๆ  ถ้าโลกแตกแล้วจะมีสงคราม"โลก"ได้ยังไงล่ะฟะ???
0
กำลังโหลด
๑+-+- MiKi -+-+๑ Member 10 ก.ย. 51 19:24 น. 8
นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าจับตามองมากๆค่ะ

วันนี้ไปพูดคุยกับอาจารย์ที่โรงเรียนแล้วค่ะ เห็นท่านบอกว่าถึงแม้จะเกิดหลุมดำขึ้นมา ก็กินเวลาไม่กี่วินาทีค่ะ พูดง่ายๆคือ แค่เสี้ยววินาที เท่านั้นค่ะ

น่าตื่นเต้นมากๆเลย เดี๋ยวต้องคอยติดตามข่าวต่อไปซะแล้ว *0*


หวังว่าการทดลองครั้งนี้..จะไม่เกิดเหตุการณ์อันตรายใดใดนะคะ

แล้วถ้าประสบความสำเร็จจริงๆ สงสัยต้องรื้อหลักสูตรใหม่แล้วกระมั้ง - -" เหอะๆ (ปวดหัว)
0
กำลังโหลด
~เด็กเทพ_49(~3~) Member 10 ก.ย. 51 19:26 น. 9
แหม เสียดายจริงๆ นึกว่าจะมีอะไรตื่นเต้นๆเกิดขึ้น กำลังเตรียมตัวจะรับมือ เฮ้อ~เซ็ง
0
กำลังโหลด
iiso Member 10 ก.ย. 51 20:21 น. 10
ตื่นเต้นดี ชอบๆๆๆ

ไม่ได้มีวันพรุ่งนี้เหรอคะ อ้าวพลาดงานใหญ่ เซ็ง 

ต้องโทษร.ร. ไม่ปล่อยเด็ก 555+ (เกี่ยวมั๊ยนี่)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
||-HeDw!g & P!gw!Dgeon-|| Member 11 ก.ย. 51 23:14 น. 13

เซิร์น .. รู้จักครั้งแรกเพราะอ่านเทวากับซาตานล่ะ ^^;;

งั้นก็ต้องรอให้เครื่องแร่ง เร่งอนุภาคไปก่อนใช่มั้ย
เราว่าน่าสนุกดีนะ

แต่สงสัยทฤษฎีเกี่ยวกับอนุภาคพระเจ้า
เราก็สงสัยเหมือนกันว่าจักรวาลกำเนิดขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้ยังไง  แล้วในความว่างเปล่านั้นมีอะไรบ้าง  จากความว่างเปล่านั้นเกิดอนุภาคมูลฐานขึ้นมาได้ยังไง...นี่เป้นสิ่งที่เซิร์นกำลังจะหาคำตอบใช่ป่ะ  เราเองก็อยากรู้

แต่ถ้าถามว่ารู้ไปแล้วได้อะไร...นั่นน่ะสิ - -*
รู้เพื่อสนองความอยากรู้ แค่นั้น ??

มนุษย์เราตัวเล็กนิดเดียว..แต่ทำไมถึงมีความอยากรู้ในสิ่งที่อยู่ไกลตัวและยิ่งใหญ่ขนาดนั้นด้วย
ทำไมเราจะต้องเสียเวลาศึกษาเรื่องแสง ทฤษฎีควอนตัม และการกำเนิดจักรวาล

เราสนใจสิ่งที่อยู่นอกตัว...เคยมองย้อนกลับเข้ามาในตัวเราบ้างมั้ย?
สิ่งที่เป้นนามธรรม อย่างเช่นจิตใจน่ะ  ทำไมไม่เห็นมีใครสนใจเลยล่ะ ??

0
กำลังโหลด
นกนางแอ่น 12 ก.ย. 51 13:24 น. 14
โล่งไปทีที่โลกยังไม่แตก แต่ก็หวังว่ามันจะไม่มีผลข้างเคียงอะไรนะ ตอนแรกที่ได้ยินว่าโลกจะแตกนี่ใจถูกดูดเข้าหลุมดำไปก่อนละ(ใจหายวาบเลย)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด