ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย (คณะวิทยาศาสตร์)

 
คณะวิทยาศาสตร์  Issue 002 week3, May 2009
 
คณะคณะวิทยาศาสตร์
ตอนที่ 2/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
 
เสียงจากคนที่อยู่คณะวิทยาศาสตร์
         สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com คอลัมน์คณะในฝันคราวนี้ พี่ยีนจะพา บุกรั้วคณะวิทยาศาสตร์ 3 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ตามไปดูชีวิตของพวกพี่ๆ ชาววิทยาศาสตร์กันดีกว่าว่า การเรียน กิจกรรม และยามว่าง พวกเขาทำอะไรกันบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ...
 
สาววิทยาศาสตร์คนที่ 1: พี่มุก สาขาคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
 
พี่ยีน: แนะนำตัวหน่อยให้น้องๆ รู้จักหน่อยครับ?
น้องมุก: สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ ภัทราภรณ์ บุญมานำสิน ชื่อเล่น มุก จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ชั้นปีที่ 4 ค่ะ
 
พี่ยีน: ทำไมถึงเลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยครับ?
น้องมุก: เพราะมุกได้อ่านข่าวจากในอินเตอร์เนตว่า คณะวิทยาศาสตร์กำลังจะเปิดเอกใหม่ คือ สาขา Computer Animation ซึ่งโดยปกติแล้ว สาขา Animation จะไปรวมอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ค่ะ ทำให้มุกสนใจในหลักสูตร แล้วตอนนี้ animation ก็กำลังเป็นที่นิยมด้วยค่ะ
 
 พี่ยีน: นอกจากสาขาคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นที่มุกเรียนอยู่แล้ว ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีสาขาอะไรอีกบ้างครับ?
 น้องมุก:คณะที่เรียนอยู่มี 6 สาขาวิชา คือ
วิทยาการคอมพิวเตอร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
วิศวกรรมการเงิน
การจัดการธุรกิจอาหาร
คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น
     สำหรับวิธีการเลือกเอกจะอยู่ที่ผู้สมัครเข้า เมื่อสมัครแล้วจะสามารถเลือกเอกได้ทันทีค่ะ ซึ่งจะต่างกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ต้องเรียนก่อนแล้วค่อยเลือกเอกทีหลัง โดยสาขาที่กำลังฮิตของที่นี่มีหลายสาขาค่ะ เช่น วิศวกรรมการเงินและคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นค่ะ
 
 
 
 
 
 
พี่ยีน: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?
น้องมุก:: ส่วนใหญ่เนื้อหาหลักสูตรจะแยกกันไปตามเอกที่เรียนค่ะ แต่ละเอกก็จะเรียนหนักต่างกันไม่ว่าจะเน้นไปด้านคำนวณหรือด้านโปรแกรม 
     สำหรับเอกคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น หลักสูตรจะให้นักศึกษาทำแอนิเมชั่นได้ และเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ในการสร้างแอนิเมชั่นได้ด้วย บางคนวาดรูปเป็นก็อาจจะเน้นไปด้านทำแอนิเมชั่น แต่ก็มีพื้นฐานเขียนโปรแกรมเพื่อเข้าใจหลักการทำงานของตัวโปรแกรม บางคนวาดรูปไม่เก่งก็อาจจะเน้นเขียนโปรแกรมเป็นหลัก แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมารวมทีมเพื่อทำงานกัน ทำให้ได้เห็นมุมมองของทั้งคนที่เป็นคนวาดและคนที่เขียนโปรแกรมค่ะ
     นอกจากนี้หากน้องๆ คนใดมีความสนใจนอกห้องเรียน และต้องการนำเสนอหรือสร้างผลงาน ทางคณะก็พร้อมที่จะสนับสนุนค่ะ โดยจะเปิดเป็นวิชาเสริมนอกเวลาเรียน เช่นตอนนี้มีการเปิดคอร์สสอนเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม และสอนโปรแกรม Corel painter เป็นต้น
     ด้านความหนักของการเรียนจึงขึ้นอยู่ว่าน้องๆ สนใจหาความรู้เพิ่มเติมมากแค่ไหนค่ะ เรียนมาก หนักมาก ความรู้ก็มากตาม
    ด้านกิจกรรมต่างๆ ก็จะมีจัดขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เช่น การพาไปค่ายฝึกปั้นด้วยมือ หรือกระทั่งการประกวดแอนิเมชั่นกันในสาขาก็มีค่ะ nk.hi5.com/

 

พี่ยีน: มีความภูมิใจในคณะวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยด้านไหนบ้างครับ?

น้องมุก: อย่างแรกเลยคือความอิสระค่ะ อยากเรียนอะไร อยากรู้อะไรก็ทำได้ นักศึกษาจะมีความเป็นตัวเองสูงมาก พัฒนาในด้านที่ตนเองขวนขวาย มีเทคโนโลยีรองรับนักศึกษา เช่น เครื่อง 3D Scanner, Clay Tools, iMac, Mac Pro ค่ะ 
     อาจารย์ทุกท่านก็มีความเป็นกันเอง สามารถปรึกษาได้ทุกเรื่องที่สามารถให้คำแนะนำได้ ด้านมหาวิทยาลัยมีจุดเด่นตรงที่มีการประยุกต์ด้านธุรกิจเข้ากับศาสตร์วิชาต่างๆ และมีการเรียนการสอนที่เป็นแบบ hybrid ในห้อง e-classroom ค่ะ
 
 


พี่ยีน:
คณะนี้จบไปแล้วทำงานอะไรได้บ้างครับ
?

น้องมุก:จบไปแล้วสามารถเป็นได้ทั้งนักเขียนโปรแกรม หรือจะทำหนังแอนิเมชั่น สื่อโฆษณา ทั้ง 2D และ 3D จนถึงการทำเกมที่ไม่ได้ทำจากโปรแกรมเกมสำเร็จรูปค่ะ และหากใครที่วาดรูปเก่งๆ ก็สามารถไปเป็นนักวาดภาพประกอบเกมหรือหนังก็ได้เช่นกันค่ะ
 
 พี่ยีน: วางแผนสำหรับอนาคตหลังเรียนจบไว้อย่างไรบ้างครับ?
 น้องมุก: ตัวมุกวางแผนอนาคตไว้ว่า เมื่อเรียนจบก็จะขอต่อปริญญาโทจากทุนของมหาวิทยาลัยค่ะ ซึ่งหลังจากเรียนจบ ป.โท แล้ว ก็จะกลับมาสอนน้องๆ อีกที หรือไม่ก็เป็นคนทำโมเดล 3D ค่ะ
 
  
 
 
 
 
    
สาววิทยาศาสตร์คนที่ 2: พี่ติม ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป/วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จุฬาฯ
 
พี่ยีน: แนะนำตัวหน่อยให้น้องๆ รู้จักหน่อยครับ?
พี่ติม: สวัสดีค่ะ ชื่อจินดาลักขณ์ คุ้มสุวรรณค่ะ ชื่อเล่นไอติม นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ
 
พี่ยีน: ตอนสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ?
พี่ติม: การเตรียมตัวสอบของติมคือเตรียมตัวตั้งแต่ตอนช่วง ม4-ม.6 เลย เรียนพิเศษค่อนข้างเยอะค่ะ วิชาที่เน้นหลักๆที่จะสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ แน่นอนค่ะว่าคงไม่พ้น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิต อังกฤษ สำคัญทุกวิชาเลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่แล้วเรียนพิเศษวิชาพวกนี้แล้วอาจารย์จะมีการบ้านให้มาทำตลอดเลย ก็ถือเป็นการทบทวนในสิ่งที่เรียนมา แต่อย่านิ่งนอนใจไปค่ะ เราต้องขวนขวายด้วยตัวเองด้วย โดยการเอาข้อสอบเก่ามาทำเพราะยังงัยข้อสอบก็จะออกไม่พ้นแนวเดิม ตรงนี้จะช่วยได้เยอะค่ะ 
 
  
 
 
 
พี่ยีน: ติมเรียนเอกอะไรในคณะวิทยาศาสตร์ครับ?
พี่ติม:เรียนภาควิทยาศาสตร์ทั่วไป / วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมค่ะ ซึ่งวิธีเลือกเอกของติมนั้น สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ ดูว่าเราชอบอะไร เราถนัดอะไร  อยากเรียนอะไร เลือกเลยค่ะ
     ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ของจุฬาฯ เวลาเรียนแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ กลุ่มกายภาพและกลุ่มชีวภาพ ในแต่ละภาควิชาจะเรียนแตกต่างกันออกไป ภาควิทยาศาสตร์ทั่วไป/วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ที่ติมเรียนจะเน้นกลุ่มชีวภาพเสียมากกว่า ตอนปีสองจะมีการเลือกสาขากันอีกครั้งว่า คุณจะเลือกวิทย์ทั่วไปหรือสิ่งแวดล้อม ติมกะจะเลือกสิ่งแวดล้อม เลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบและอยากเรียนมากที่สุดค่ะ
     ส่วนเอกวิชาอะไรที่ฮิตสุดๆ ก็บอกได้อย่างเดียวว่าแล้วแต่ความถนัด ความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าถามว่าภาคไหนคะแนนสูงๆ ก็คงเป็นภาค Chem Food ค่ะ
 
พี่ยีน: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?
พี่ติม: ตอนปีที่ 1 ก็จะเรียนเหมือนๆ กัน คือ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แคลคูลัส อังกฤษเป็นพื้นฐานค่ะ แต่เป็นพื้นฐานที่ยากค่ะ ความยากง่ายในแต่ละวิชาขึ้นอยู่กับภาควิชาที่เรียน อย่างภาควิชาภาควิทยาศาสตร์ทั่วไป/วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจะเน้นกลุ่มชีวภาพ เวลาเรียนฟิสิกส์และแคลคูลัสจะง่ายกว่ากลุ่มกายภาพ แต่จะเน้นพวกวิชาชีวะเสียมาก
    เวลาเรียนบอกตรงๆ เลยค่ะว่า คณะวิทยาศาสตร์เรียนหนักมากค่ะ การอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยคิดว่าหนักแล้ว แต่การที่เรียนในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นอยากกว่านะคะ เพราะเวลาที่เราเรียนตั้งแต่ ม.4 - ม.6 เราเรียนอาทิตย์ละ 2 - 3 บท แต่พอเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ความรู้ตอน ม.4 - ม.6 อัดอยู่ในเทอมเดียว ถ้าเรารักในการเรียนวิทยาศาสตร์ เชื่อค่ะว่าเราต้องทำได้อย่างแน่นอน ถึงแม้การเรียนจะหนักหนาสาหัสสักแค่ไหนก็ตาม
     สำหรับเรื่องกิจกรรมนั้น คณะวิทยาศาสตร์จุฬาก็มีกิจกรรมดีๆ ให้เรารู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องเชียร์ที่คณะ (กิจกรรมนี้เราจะเห็นความทุ่มเทของพี่ๆ จริงๆ ) พิธีมอบอะตอม (เด็กวิทยาแต่ละคนจะมีอะตอมเปรียบเสมือนหัวใจของแต่ละคนเลยค่ะ) และอีกกิจกรรมของปีหนึ่งคือพิธีถอดไทด์ พับถุงเท้า (เป็นพิธีที่ขลังนะคะ ประมาณว่า freshy ก้าวเป็นรุ่นพี่ของรุ่นน้องที่จะมาในปีหน้าค่ะ)
 
พี่ยีน: ติมมีความภูมิใจในคณะวิทยาศาสตร์ด้านไหนบ้างครับ?
พี่ติม: คณะเราเป็นคณะวิทยาศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย จึงถือว่าเป็นต้นแบบของคณะวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ และเป็นที่ผลิตบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพ จึงถือเป็นส่วนสำคัญในการคิดค้น วิจัย และพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ เพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ของโลกค่ะ
     จุดเด่นของคณะเราอยู่ตรงที่การมีศาสตร์หลายแขนงให้เลือกเรียนตามความถนัดและความชอบของนิสิตแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ หรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น อาหาร ธรณีวิทยา และสิ่งแวดล้อม
     นอกจากนี้ คณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ เป็นคณะเดียวในประเทศไทยที่มีวิทยาศาสตร์สาขาเคมีวิศวกรรม และที่สำคัญสำหรับนิสิตที่สนใจเรียนต่อ ที่นี่มีทุนสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนเยอะมากๆ   จะบอกอีกว่า เวลานี้ประเทศเราขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์นะคะ  ถึงแม้ว่าอาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยอะไรพวกนี้ในประเทศไทยยังไม่มีรูปแบบที่แน่นอน แต่ในอนาคตอันใกล้ อาชีพพวกนักวิทยาศาสตร์จะเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะศาสตร์บางสาขา เช่น เคมี ฟิสิกส์ พฤกษศาสตร์  พันธุศาสตร์ จะยิ่งสำคัญ เพราะวิทยาการต้องพัฒนาเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ และมนุษย์เองก็ต้องการมันสมองทางด้านเหล่านี้มาช่วยกันคิดค้นสิ่งต่างๆ ด้วยค่ะ 
 
 
 
 

 

พี่ยีน: คณะนี้จบไปแล้วทำงานอะไรได้บ้างครับ?

พี่ติม: คณะวิทยาศาสตร์นั้น ในความคิดของใครหลายๆ คนคงคิดว่า จบไปแล้วก็เป็นอาจารย์ เป็นนักวิจัยอะไรทำนองนี้  แต่จริงๆ แล้วคณะวิทยาศาสตร์จบมาทำงานได้หลากหลายค่ะ หลายๆ คนพอจบไปก็จะมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนมาจองตัว เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อย หรือไม่ก็จบไป มีความรู้ก็เปิดธุรกิจในสาขาที่ตัวเองเรียนมาก็ได้
      บางภาควิชาสามารถเรียนต่อปริญญาโทในคณะวิศกรรมศาสตร์ เพื่อเป็นวิศวกรได้ และถ้าอยากจะเป็นหมอ แต่คะแนนในการสอบไม่ถึง พอเรียนคณะวิทยาศาสตร์ไป ก็เรียนต่อเป็นอาจารย์หมอก็ได้นะคะ นอกจากจะเป็นอาจารย์แล้ว ก็ยังรักษาคนไข้ได้เหมือนกัน จะเห็นว่าวิทยาศาสตร์ที่เรียนมาสามารถเรียนต่ออะไรได้หลายอย่างและทำงานได้หลายอย่างเช่นกัน ส่วนติมนั้น ในอนาคตกะจะเรียนต่อถึงปริญญาโททางด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นนักวิจัยค่ะ เพราะโลกปัจจุบันมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอยู่มาก โลกยังต้องการบุคลากรในการช่วยกันแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นพวกเราทุกคนควรจะช่วยกันนะคะ
 
หนุ่มวิทยาศาสตร์คนที่ 3: พี่โอม สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
 
พี่ยีน: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยครับ?
น้องโอม: สวัสดีครับน้องๆ ทุกคน ก่อนอื่นพี่ต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคับ พี่ชื่อ อภินันท์  คณะสุวรรณ์ หรือเรียกพี่โอมก็ได้นะครับ ตอนนี้พี่ก็เรียนอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ครับ
 
พี่ยีน: ตอนสอบเข้าคณะนี้ มีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ?
น้องโอม:  ก่อนอื่นนะครับ การที่น้องๆ จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะใดก็ตาม เราก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นทั้งการรับตรง โควต้า หรือแอดมิดชั่น
     การที่จะเข้าเรียนในคณะวิทยาศาสตร์นั้น น้องๆ ก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และคณิตศาสตร์ เป็นต้น วิชาเหล่านี้เป็นวิชาหลักที่น้องๆ จะต้องเรียนในคณะนี้นะครับ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ก็จะแบ่งย่อยออกไปตามภาควิชาต่างๆ นะครับ 
 

 
 
 

 

 
พี่ยีน: โอมเรียนสาขาอะไรในคณะวิทยาศาสตร์ครับ?
น้องโอม: คณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็จะมีสาขาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรีอยู่ประมาณ 13 สาขา (พอดีว่าพี่ก็จำไม่ค่อยได้) ได้แก่ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ จุลชีวะ เทคโนโลยีชีวภาพ วิทยาศาสตร์ทั่วไป สถิติ โพลิเมอร์ เป็นต้น (ในสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไปเราจะเรียนเป็นวิชาคู่นะครับ เช่น เคมี-ชีวะ)  
    
ตอนนี้พี่เรียนอยู่เอกเคมีนะครับ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเอกเคมีส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่มีคะแนนค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนวิธีในการเลือกวิชาเอกนั้น มีอยู่ 2 วิธี คือ เลือกตอนที่น้องสอบแอดมิดชั่นเข้ามาเลย ส่วนอีกวิธีน้องก็ต้องเข้ามาเรียนก่อน 1 ปี แล้วจึงเลือกวิชาเอก โดยจะมีเกณฑ์พิจารณาจากเกรดที่น้องเรียน และเกรดรายที่วิชาที่ทางคณะพิจารณาครับ
     ในปัจจุบัน สาขาที่ฮอตฮิตของคณะก็คือ เคมี โพลิเมอร์ และจุลชีวะ ซึ่งส่วนใหญ่ น้องๆ ปี 1 มักจะเลือก 3 สาขาเหล่านี้ไว้เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับก็จะถูกลดหลั่นกันไปตามความสามารถของตัวน้องๆ เองครับ
 
พี่ยีน: การเรียนในคณะวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไรบ้างครับ?
น้องโอม: การเรียนในคณะวิทยาศาสตร์ก็มีทั้งยากและง่ายสลับกันไปตามรายวิชา พี่เชื่อว่าทุกคณะต่างก็มีความยากง่ายเหมือนๆ กัน ดังนั้นจึงอยู่ที่ตัวเรามากกว่าครับ   
    การที่น้องเข้ามาเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น น้องๆ ก็จะได้เจอเพื่อนใหม่ มีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย ดังนั้นน้องๆ ทุกคนก็ควรที่จะต้องมีการแบ่งเวลา เนื่องจากมีกิจกรรม เช่น รับน้อง ประชุมเชียร์ เป็นต้น
 
พี่ยีน: โอมมีความภูมิใจในคณะวิทยาศาสตร์ในด้านไหนบ้างครับ?
น้องโอม: สำหรับความภูมิใจในคณะวิทยาศาสตร์ที่นี่นะครับ ถ้าใครสนใจก็ลองเข้ามาดูเองนะครับ แล้วจะรู้ว่าคณะของเรามีความอบอุ่น อยู่กันแบบรุ่นพี่รุ่นน้อง
     จุดเด่นของคณะเรานะครับ จะมีตึกรูปฟักทองตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัย  ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจ เพราะนักศึกษาทุกคณะจะต้องมาเรียนที่ตึกฟักของเรา 
 
 พี่ยีน: คณะนี้จบไปแล้ว ทำงานอะไรได้บ้างครับ?
น้องโอม: เมื่อน้องๆ สำเร็จการศึกษาไปแล้ว ก็มีงานให้ทำเยอะแยะมากมายตามสาขาที่น้องๆ ได้เรียนมานะครับ เช่น พี่เรียนอยู่สาขาเคมี พี่ก็ไปทำงานโรงงานยาก็ได้ โรงงานบำบัดน้ำเสีย โรงงานกำจัดสารพิษ เป็นต้น
 
พี่ยีน: อยากฝากอะไรเพิ่มเติมกับน้องๆ ที่กำลังจะสอบแอดมิชชั่นบ้างไหมครับ
น้องโอม:  สุดท้ายนี้ พี่ก็ขอฝากให้น้องๆ ลองเก็บสิ่งดีของคณะนี้ไว้ แล้วลองไปพิจารณาดูนะครับ ถ้าน้องๆ คนใดสนใจ คณะวิทยาศาสตร์ของเรายินดีต้อนรับเสมอคับ
 
 
     เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของพี่ๆ คณะวิทยาศาสตร์แต่ละคน เรื่องราวของเขาและเธอคงทำให้น้องๆ มองเห็นภาพกันบ้างแล้วใช่ไหมครับว่า ถ้าได้เข้าไปเรียนในคณะวิทยาศาตร์แล้ว ตัวน้องเองจะไหวหรือจะวืด..อิอิ 
      แต่ถ้าใครคิดล่วงหน้าไปอีกหนึ่งสเต็ปว่า จบไปแล้ว จะมีงานทำไหม เรียนไปทำงานอะไรได้บ้าง ตรงนี้ขอบอกว่า อย่าลืมติดตามในตอนหน้า เพราะพี่ยีนได้พาพี่ๆ บัณฑิตจากคณะวิทยาศาสตร์มาให้ได้ล้วงลึกชีวิตหลังจบการศึกษากัน เรื่องราวของแต่ละคนจะน่าสนใจแค่ไหน ต้องคอยติดตามกันนะครับ...
 
 
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เด็กคณะวิทย์ 18 ม.ค. 53 15:48 น. 24
เรียนแล้วน่าเศร้า จบมาหางานก้อ.....เรียนก้อหนักมาก ยากก็ยาก แลปก็เยอะ ขมขื่น คณะก้อเอาใจแต่เด็กทุน เด็กกลางๆก็ช่างหัวมัน มีการแบ่งชนชั้นระหว่างเด็กทุนกับเด็กธรรมดาอย่างชัดเจน จะมีใครมาเข้าใจเด็กธรรมดาบ้างละ ชีวิตในคณะวิทยาศาสตร์ไม่สวยงามนักหรอกนะ เข้าง่ายแต่จบยาก ใครที่จะเลือกไว้กันหลุดในแอดมิชชั่นคิดให้ดี คำว่าเรียนได้กับชอบเรียนความหมายต่างกันนะ ถ้าคุณไม่ใช่เด็กทุนคณะนี้ก้อไม่มีโอกาสให้คุณได้ลืมตาอ้าปากหรอก
0
กำลังโหลด

29 ความคิดเห็น

*ฟูฟ่องจัง* Member 26 พ.ค. 52 13:34 น. 1

เด็กวิทยา เหมือนกันค่ะ  เอกชีวะ

ได้ทุนเรียน ส่งถึงเอก จบไปก็เป็นอาจารย์ด้วยค่ะ


และก็อยากเป็นอาจารย์หมอมากๆ ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
+-+ 26 พ.ค. 52 20:11 น. 4
รอมาตั้งนานว่าเมื่อไหร่จะมีคณะวิทย์ ผมSC MU ครับ ผมยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเองง ยังอีกไกลกับเส้นทางส่ายนี้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nuddss Member 27 พ.ค. 52 22:34 น. 10

อนิเมชั่นค่ะ

แต่คงไม่ใช่ หอการค้าอะค่ะ 

แหะๆ ทำไงดี รัฐบาลยังไงก็ดีไม่เท่าเอกชนสินะ ในคณะแบบนี้

แต่ถ้าสอบติดก็คงอยากจะเข้ารัฐบาลแหละ ทำไงดี T^T

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
swu 9 ต.ค. 52 21:38 น. 20
จุลชีววิทยา มศว ประสานมิตร

สาขานี้อนาคตรุ่งแน่

เรียนเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆ

ตอนนี้อินเทรนสุดก้อ ไปผลิตวัคซีนต้านหวัด 2009 ไง

หรือ ทำlapตามโรงบาล โรงงานก้อได้

ตื่นเต้นหน่อยไปต่อนิติวิทยาสาด พิสูจศพกะคุณหมอพรทิพก้อได้

โรงบาลตำรวจเดกจุลชีว เยอะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด