|
ใครหนอ...เหมาะกับ 10 อาชีพชื่อ "เรียกยาก" (ตอน 2)
จากตอนที่แล้ว พี่เกียรติได้นำเสนออาชีพชื่อเรียกยากไปแล้ว 5 อาชีพ ได้แก่ นักคณิตศาสตร์ประกันภัย นักบรรพชีวิน นักกีฏวิทยา มัณฑนากร และนักคติชนวิทยา หลายอาชีพที่เสนอไป ทั้งชื่อเรียกยากแล้วเรายังไม่ค่อยรู้จักกันอีกด้วย แต่ในครั้งนี้พี่เกียรติมาต่ออีก 5 อาชีพที่เหลือ ซึ่งชื่อเรียกง่ายกว่าหน่อย เพราะพี่เกียรติคิดว่าชาว Dek-D.com ส่วนใหญ่รู้จักอยู่แล้ว แต่จะรู้จักและเข้าใจถึงลักษณะอาชีพนั้นๆ จริงหรือเปล่า คราวนี้แหละ เราจะได้มารู้กัน แล้วใครจะเหมาะกับอาชีพเหล่านี้ น้องๆ ต้องเป็นผู้ตัดสินตัวเอง อิ อิ
6. ภัณฑารักษ์: Museologist คือ ผู้ทำหน้าที่ดูแลของและจัดแสดงสิ่งของในพิพิธภัณฑ์ สามารถออกแบบการนำเสนอและแสดงของมีค่า ของแปลก ของเก่า มาประกอบกับความรู้ต่างๆ ที่เนื้อหาอาจล้าสมัย เข้าใจยาก และน่าเบื่อ มาทำให้คนชมพิพิธภัณฑ์สนใจในของนั้นๆได้ แต่ถ้าแค่ออกแบบการแสดงสิ่งของเฉยๆ จะเป็นภัณฑารักษ์ที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ ยังต้องมีหน้าที่ดูแลวัตถุที่จัดแสดงด้วย เพราะของเหล่านี้จะมีค่ามากทั้งในด้านประวัติศาสตร์ชาติ และอาจมีชิ้นเดียวในโลกก็ได้!!! คำว่า ภัณฑารักษ์ อาจเป็นชื่อที่เข้าใจยากไปสักนิด แต่พี่เกียรติเห็นว่าเริ่มมีคนใช้ชื่อว่า "นักพิพิธภัณฑ์" แล้ว
ภัณฑารักษ์ เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถรอบตัว น้องๆ ที่สนใจอาชีพนี้ ต้องมีความสามารถในสื่อสาร มนุษยสัมพันธ์ดี มีความรู้รอบตัว นอกจากนี้ต้องที่มีความคิดสร้างสรรค์ สนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ มีหัวทางการศิลปะและการออกแบบ ชอบการพบปะผู้คน และรักการค้นคว้าอีกด้วย
คณะที่เหมาะสมกับคนอาชีพนี้ไม่จำเพาะเจาะจงเป็นพิเศษนัก เพราะพิพิธภัณฑ์มีหลายประเภท โดยมากคนที่เข้ามาเป็นภัณฑรักษ์ก็จะเป็นคนที่เรียนจบมาในด้านนั้นๆ นั่นเอง แต่คณะโบราณคดี ของมหาวิทยาลัยศิลปากร มีวิชาโทสาขาวิชาพิพิธภัณฑสถานศึกษา และภัณฑารักษ์ที่รับราชการของกรมศิลปากร ส่วนมากจะจบจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขา/เอกประวัติศาสตร์ และถ้าสนใจในวิชาชีพนี้อย่างจริงจังสามารถเรียนต่อได้ในระดับปริญญาโทและเอก ในเอกพิพิธภัณศึกษาค่ะ
7. นาวิกโยธิน: Marine ชาว Dek-D.com อาจไม่คิดว่าชื่ออาชีพนี้แปลกหรือไม่รู้จัก และยังรู้ด้วยว่าคือทหารเรือเหล่าหนึ่ง แต่จริงๆ นาวิกโยธินไม่ใช่ทหารเรือนะคะ ทหารนาวิกโยธินเป็นทหารที่ทำการรบแบบสะเทินน้ำสะเทินบก เรียกว่าจะรบบนบกอย่างทหารบกก็ได้ และไปรบในน้ำก็ได้ แต่ไม่ได้รบบนเรือเป็นหลักอย่างทหารเรือ พื้นที่ทำการรบของนาวิกโยธินจึงมักอยู่ตามชายทะเล หรือพื้นที่ที่มีทั้งพื้นดินและพื้นน้ำ เพียงแต่ว่าหน่วยนาวิกโยธินของไทยอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือเท่านั้น แต่ถ้าในต่างประเทศเขาจะแบ่งแยกเป็นคนละกองทัพค่ะ
แน่นอนว่าถ้าใครสนใจอาชีพนี้ อย่างหนึ่งเลยต้องแข็งแรง ไม่จำเป็นว่าต้องมีอุปนิสัยฮึกเหิมตลอดเวลา แต่ต้องมีจิตใจเข้มแข็ง ชอบกีฬากลางแจ้ง ไม่กลัวผาดโผน มีความกล้าหาญ และมีไหวพริบ เพราะชาวนาวิกโยธินจะเรียนการต่อสู้ การวางแผน และการใช้อาวุธอย่างหนัก เพราะตามหลักการแล้วต้องทำการรบในหลายภูมิประเทศ
การเข้าศึกษาเพื่อเป็นทหารนาวิกโยธินของกองทัพเรือไทยนั้น ต้องสมัครเข้าศึกษาในโรงเรียนจ่าทหารรเรือ (จบชั้นม.6 หรือ ปวช. ปี 3) หรือเลือกเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของโรงเรียนนายเรือก็ได้ แล้วหลังจากนี้จะมีการแบ่งแยกไปตามพรรค ตามเหล่า ที่เลือกได้ตามความสนใจหรืออันดับที่ ซึ่งคนเลือกนาวิกโยธินมักจะเป็นชอบออกสนามมากกว่าหน้าที่แบบอื่นนั่นเอง
8. นักอัญมณีศาสตร์: Gemologist คือ ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องคุณสมบัติทางกายภาพ และองค์ประกอบทางเคมีของแร่รัตนชาติต่างๆ เช่น เพชร พลอย สามารถวิเคราะห์และแยกชนิดของอัญมณีต่างๆ ว่าเกิดจากธรรมชาติหรือจากการสังเคราะห์ได้ (ดูออกว่าของแท้หรือเทียม) รวมถึงสามารถช่วยออกแบบการเจียระไน ตกแต่ง ทำตัวเรือนของอัญมณีต่างๆ ได้ ช่วยแนะนำและให้ความรู้เรื่องอัญมณีต่างๆ แก่คนทั่วไป ถ้าในร้านขายอัญมณีใดๆ มีนักอัญมณีศาสตร์ที่ได้ใบรับรองจากสถาบันที่ได้รับการรับรองต่างๆ มาทำงานแล้ว จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือ อัญมณีของร้านนั้นก็จะมีราคาสูงกว่าร้านอื่น หากทำงานในโรงงานผลิต อาจประจำอยู่ในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจวิเคราะห์ อัญมณี และตรวจสอบคุณภาพอัญมณีจากแหล่งต่างๆ และสามารถทำเป็นงานอิสระ เดินทางเพื่อทำธุรกิจซื้อขายอัญมณีทั่วโลกก็ได้
คนที่เหมาะสมกับอาชีพนี้ คือ คนที่ชอบของสวยงามหรือหลงใหลในความงดงามอย่างอัศจรรย์ของหินธรรมดาที่กลายเป็นเครื่องประดับได้ หรือคนที่สนใจการทำธรุกิจอุตสาหกรรมอัญมณี
คณะที่ใช่เลย คือ คณะอัญมณี ซึ่งแบ่งแยกสาขาตามความสนใจ แต่ต้องรักอัญมณี ซึ่งพี่มิ้นท์ได้เคยนำเสนอบทความเรื่องคณะอัญมณี สวรรค์ของคนรักจิวเวอรี่!! ไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีคณะวิทยาศาสตร์ สาขา/เอกวิชาอัญมณีวิทยา ในหลายมหาวิทยาลัย
9. นักธรณีฟิสิกส์: Geophysicist คือ นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ทฤษฎีความรู้และเครื่องมือทางฟิสิกส์ เข้ามาช่วยในการศึกษาเรื่องพื้นพิภพ เรื่องคุณสมบัติของชั้นหินบนผิวโลกและองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในของผิวโลก นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเรื่องของน้ำใต้ดิน มหาสมุทร คุณสมบัติของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้าและความโน้มถ่วงของโลก รวมถึงเทคนิคการวัดคลื่นความไหวสะเทือนแบบ 3มิติ (3D Seismic) ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ระดับสูงเข้ามาช่วยในการพัฒนารูปแบบโครงสร้างใต้ผิวดินแบบ 3 มิติ ซึ่งช่วยในการค้นหาแหล่งปิโตรเลียม รวมไปถึงแผ่นดินไหวได้ นักธรณีฟิสิกส์สามารถทำงานได้หลายงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม อาทิ ปิโตรเลียม เหมืองแร่ งานสำรวจพื้นผิวพิภพต่างๆ
น้องๆที่สนใจอาชีพนี้ ต้องชอบวิชาฟิสิกส์มาเป็นอันดับแรก และสนใจเรื่องราวทางธรณีวิทยา เช่น สนใจว่ามีอะไรอยู่ใต้เปลือกโลก ทำไมถึงมีแผ่นดินไหว ทำไมโลกเราถึงมีภูเขา แม่น้ำ ที่ราบสูงราบต่ำแตกต่างกันไป เป็นต้น นอกจากนี้ก็ต้องเป็นคนที่ชอบงานกลางแจ้ง และชอบใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมออีกด้วย
คณะที่เปิดสอนสาขานี้โดยตรงในระดับปริญญาตรียังไม่มีในประเทศไทย แต่สามารถเรียนสาขาที่เกี่ยวข้องได้ คือ คณะวิทยาศาสตร์ สาขา/เอกฟิสิกส์ และลงเรียนวิชาเกี่ยวกับธรณีวิทยาไว้บ้าง แล้วจึงค่อยต่อในสาขาธรณีฟิสิกส์โดยตรงในระดับปริญญาโทและเอกต่อไป
10. นักจัดการโลจิสติกส์: Logistics manager คือ นักวางแผนและดูแลให้การปฏิบัติงานภายในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด โดยนักจัดการโลจิสติกส์ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการกระบวนการทำงานขององค์กรตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบที่ต้นทุนต่ำ คุณภาพดี สามารถลดค่าจัดส่งจากแหล่งต้นวัตถุดิบจนมาถึงบริษัทได้ เช่นเดียวกันเมื่อบริษัทได้รับวัตถุดิบและแปรรูปเป็นสินค้าเรียบร้อยแล้ว นักจัดการโลจิสติกส์ต้องวางแผนการจัดส่งและกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ มีกระบวนการเก็บรักษาดูแลสินค้าอย่างดี จนถึงมือผู้รับสินค้าได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะวางแผนและปฏิบัติการผ่านเทคโนโลยีการขนส่งและสารสนเทศต่างๆ นักโลจิสติกส์ต้องรู้จักเครือข่ายในแหล่งวัตถุดิบ ระบบการขนส่งของประเทศ การจัดการเรื่องการดูแลรักษาสภาพสินค้า มีทักษะการสื่อสารกับผู้ผลิตและผู้บริโภค และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของทั้งสองฝ่ายได้ ซึ่งหลักๆ ก็คือลดค่าใช้จ่าย ตรงเวลา และสินค้าดีนั่นเอง
น้องๆที่สนใจอาชีพนี้ ต้องรู้จักการวางแผน ชอบการวิเคราะห์ และมีทักษะในการติดต่อสื่อสารที่ดี ที่สำคัญต้องเป็นคนรอบคอบและมัธยัสถ์ เพราะความสำคัญหลักๆของการจัดการโลจิสติกส์ คือ ความคุ้มค่าจากเงินที่ลงทุนไปนั่นเอง ดังนั้นถ้าเป็นคนประหยัด พอเพียง คิดก่อนใช้อยู่แล้ว ก็จะยิ่งจะเหมาะสมกับการทำอาชีพนี้อย่างมาก เพราะเข้าใจถึงคุณค่าของการจัดการโลจิสติกส์นั่นเอง
คณะที่เปิดสอนด้านนี้ คือ คณะโลจิสติกส์ นอกจากนี้ยังมีสาขาวิศกรรมโลจิสติกส์ ที่สังกัดอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ และสาขาการจัดการโลจิสติกส์ ที่สังกัดอยู่ในคณะบริหารธุรกิจอีกด้วย
พออ่านจบแล้ว ชาว Dek-D.com คิดว่าตนเองเหมาะกับอาชีพไหนบ้างไหมคะ?
ชื่ออาชีพเท่ๆ แบบนี้ มีไม่มากนะ อิ อิ
อ่านตอนก่อนหรือยังจ๊ะ>> ใครหนอ...เหมาะกับ 10 อาชีพชื่อ "เรียกยาก" (ตอนแรก)
ภาพ: http://commons.wikimedia.org/wiki
http://www.heatheronhertravels.com
http://www.gemologyproject.com
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?





19 ความคิดเห็น
ลุงบอกว่าต้องตัวเล็กๆเตี้ยๆป้อมๆ
ไม่เหมือนพวกทหารทั่วไไปที่ต้องตัวสูง 555
ไม่เป็นไร อาชีกเรียกง่ายๆรอเราอยู่


=w=
...โทพิพิธฯ ฮ่าฮ่าฮ่า คือเรียนสาขาเอกที่คณะโบราณคดี แล้วท่านก็เลือกวิชาโทพิพิธฯนั่นเอง แต่ต้องดูด้วยนะว่าต้องเรียนตัวไหนยังไงเป็นพื้นฐานตอนปีหนึ่ง พอดีไม่ได้โทพิพิธฯ แหะๆๆ
เศรษฐศาสตร์ มีเอก การขนส่งและสาธารนูปโภค นะ *-*
อิอิ ได้ป่าวหว่า~
น่าสนนะ น่าสน
เรียนอยู่เลยย คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก
ดันเรียนออทิสติกส์ซะงั้น -*-
นาวิกโยธินชื่อเพราะอ่ะ
