|
คุณเป็นคนฉลาดหรือไม่
ปัจจุบันนี้ มองไปทางไหนก็มีแต่ตัวช่วยพัฒนาสมอง ของกินเพิ่มวิตามินให้สมอง เกมหรรษาพัฒนาสมอง หนังสือประเทืองปัญญา เพลงช่วยเพิ่มพลังความคิด วิธีการปลูกความคิดสร้างสรรค์ เก้าความถนัดตามแนวทางพหุปัญญา เข้าค่ายสร้างพรสวรรค์ ฟังบรรยายสร้างแรงบันดาลใจ ฯลฯ เรียกว่า ใครๆ ก็อยากฉลาด อยากสมองดี เพราะเราเชื่อว่า "การมีสมองดีจะสร้างอนาคตที่ดีและความสุขให้ชีวิตได้" ดังนั้น ใครๆ จึงอยากมีสมองดี พากันหาตัวช่วยเสริมทัพพัฒนาสมองกันอย่างมากมาย ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนเลยค่ะ พี่เกียรติเอง ก็ถือเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะนำเสนอเคล็ดลับพัฒนาสมองให้น้องๆชาว Dek-D.com ได้อ่านกัน ก็อย่างที่เคยบอกไงล่ะ
แต่การมีสมองดี เป็นคนหัวดี เป็นคนฉลาดนั้น ไม่ใช่เพียงการที่เราคิดเลขได้เก่งกว่าเพื่อน พูดภาษาอังกฤษคล่องอย่างกับภาษาแม่ สอบได้เกรดดีกว่าเพื่อน ไปแข่งขันตอบปัญหาต่างๆ แล้วชนะเลิศเท่านั้นนะคะ
จริงๆ แล้วการมีสมองดีไม่ใช่เพียงการมีความรู้มากกว่าคนอื่นเท่านั้นค่ะ แต่ต้องประกอบกับเป็นคนที่คนที่คิดอะไรได้รวดเร็วฉับไว ที่เขาเรียกกันว่าแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยค่ะ และส่วนใหญ่คนเก่ง ก็เป็นคนพูดเก่ง สื่อสารดี เขียนหนังสือดีอีกด้วย เพราะสามารถกลั่นข้อมูลจากสมองออกมาเป็นคำพูดและข้อความได้
แต่นั่นก็ไม่ใช่ลักษณะของคนสมองดีทั้งหมดอยู่ดีค่ะ เพราะคนที่มีความรู้มาก คิดอะไรได้รวดเร็ว แต่คิดผิด คิดแต่เรื่องไม่สร้างสรรค์ก็มีถมไป แบบนั้นต่อให้คิดอะไรออกมาได้รวดเร็ว มีผลการเรียนเป็นที่หนึ่งมาตลอด แต่เรื่องที่คิดมีแต่เรื่องไม่ดี พูดเก่ง แต่เก่งแต่ตำหนิติเตียนคนอื่น ยกเรื่องดีเข้าหาตัวเอง ใส่ความผู้อื่น เก่งแต่พูดเอาตัวรอดหลบเลี่ยงภาระงาน เหล่านี้ แม้จะทำให้ชีวิตสุขสบาย แต่ก็ไม่นับว่าเป็นคนที่มีลักษณะของคนที่มีสมองดี คนฉลาดที่แท้จริงค่ะ แล้วลักษณะของคนมีสมองดีที่แท้จริงเป็นอย่างไรนะ? น้องๆ คงอยากทราบกันแล้วเนอะ
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผ่านมา นักวิชาการด้านการศึกษา ออกมาบอกว่าเด็กไทยต้อง เก่ง ดี มีสุข และก็คล้ายคลึงกับที่นักวิทยาศาสตร์ผู้สนใจเรื่องการพัฒนาสมองนั้น ล้วนออกมาบอกว่า การเป็นคนฉลาดที่แท้จริงนั้น ต้องประกอบด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ คือ
1. คิดคล่อง คือ คนที่สามารถคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว คิดได้ไว้ เปรียบกับความคล่องแคล่วนั่นเอง น้องๆ อาจจะเห็นว่าเพื่อนที่เก่งๆ นั้น มักสามารถตอบปัญหาในชั้นเรียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีเหมือนกันที่เราเองหลงไปกับความคิดของคนที่ดูเหมือนจะเก่งกว่า เพราะเขาเป็นคนเสนอความคิดออกมาก่อนใคร เราซึ่งอาจกำลังคิด หรือยังไม่ได้ทันคิดด้วยซ้ำ แต่พอมีคนเสนอไอเดียอะไรออกมา ก็รู้สึกไปเลยว่า โอ้ แม่เจ้า ทำไมตานั่นเก่งขนาดนี้ คิดออกมาได้ไงเนี่ย แล้วก็เชื่อเขาไปเลยโดยตัวเองไม่คิดทบทวน ซึ่งจริงๆ เจ้าวิธีการที่ตานั้นผู้เสนอไอเดียได้ภายในสามวินาทีนั้น จริงๆ แล้ว เมื่อนำมาใช้จริงอาจกลับล้มเหลวไม่เป็นท่าเลยก็ได้ ดังนั้น คิดเร็วอย่างเดียวก็ไม่ได้หมายความว่าเก่ง ฉลาด หรือมีสมองดีค่ะ ต้องประกอบกับ คิดเป็น ดังข้อต่อไปด้วย
2. คิดเป็น คิดเป็น คือ การคิดถูกต้อง และดีด้วย ปัญหาต่างๆ บางทีก็ง่ายดาย บางทีก็ก็ซับซ้อนมากมาย จึงทำให้การคิดแก้ไขเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้อง นั้นจึงเป็นเรื่องยาก และคนที่จะคิดให้ถูกต้องได้อย่างรวดเร็วก็เป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ แม้คนที่มีระดับเชาวน์ปัญญาสูงหรือไอคิวสูง (Intelligence Quotient : IQ) ก็อาจทำไม่ได้ เพราะการคิดเรื่องต่างๆ ให้ถูกต้องนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ถ้าต้องการแก้ไขโจทย์คณิตศาสตร์ให้ถูกต้องก็ต้องรู้สูตร แต่ถึงแม้จะรู้สูตร แต่ใช้สูตรไม่เป็น หรือไม่รู้แม้กระทั่งบวกลบเลขธรรมดา แบบนี้จะคิดแก้โจทย์ให้ถูกต้องคงทำไม่ได้ แต่การคิดให้ถูกต้องในเรื่องความรู้ วิชาการต่างๆ ก็ยังง่ายกว่าการคิดและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมจรรยาความเป็นคนดี พูดง่ายๆ คือ เป็นคนนิสัยดียากกว่าเป็นคนมีความรู้ดีเสียอีก มีคำถามหนึ่งที่พี่เกียรติฟังมา น่าสนใจทีเดียว อยากให้น้องๆ ลองตอบ ว่าน้องๆ จะคิดอย่างไร?
| สมมติว่าน้องๆ ขับรถไปบนถนนใหญ่เลียบถูเขา ถนนโล่ง น้องๆ เลยขับรถเร็วพอควร แต่จู่ๆ ก็มีคุณยายคนหนึ่งเดินตัดหน้ารถหมายจะข้ามถนนเสียอย่างนั้น น้องๆ เลยจะหักพวกมาลัยหนี แต่ฝั่งหนึ่งเป็นต้นไม้ต้นหนึ่ง...ไม่ใหญ่มาก ถัดจากต้นไม้ไปเป็นเหว เรียกว่า ถ้าต้นไม้ยันไม่อยู่ก็ตกเหวเลย อีกฝั่งเป็นภูเขา แต่มีคุณแม่ตั้งครรภ์เดินอยู่ น้องๆ จะทำอย่างไร ถ้าต้องเลือกชนหรือเหยียบอะไรสักอย่าง น้องจะเหยียบอะไร คิดคำตอบดีๆ นะ จะเลือกเป็นคนมีคุณธรรมหรือจะเอาชีวิตตัวเองให้รอดแน่ๆ แต่ไม่ว่าจะคิดคำตอบออกมาอย่างไร ก็ต้องลงมือทำนะคะ ไม่อย่างนั้นไม่ครบคุณลักษณะของคนฉลาด ดังข้อต่อไปค่ะ |
3. ทำตามความคิดของตนเองที่ไตร่ตรองแล้วให้เกิดผลสำเร็จ คิดดีแล้วแต่ไม่ทำ มันก็เหมือนฟองสบู่ค่ะ สวย แต่อยู่ได้แป๊บเดียวก็แตกสลายไป การคิดช่วยให้สมองเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็จริง แต่ความคิดที่ไม่เคยเป็นรูปธรรมจริงๆ ก็จะกลายความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ไปเสีย ไม่เกิดผลอะไรทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ที่สำคัญยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยความความคิดที่เราคิดออกมาได้นั้นถูกต้องหรือเปล่า เพราะไม่เคยได้ลงมือทำ เช่นเดียวกับเรามองคนประเภทหนึ่งว่า ดีแต่พูด แล้วเจ้าคำพูดของคนประเภทนั้น ทำออกมาไม่ได้เรื่องเลย การลงมือทำจริงให้เกิดผลดีจริงๆ นั้น ยากกว่าการคิดอย่างเดียวด้วย หรือบางทีเริ่มต้นทำแล้วก็ไม่สำเร็จเสียอีก น้องๆ คงไม่อยากให้ใครมองว่า ดีแต่เพ้อฝัน ดีแต่พูด ดีแต่จับจดไปวันๆ ใช่ไหม เพราะฉะนั้น คิดแล้วต้องลงมือทำจริงนะ
ตอนนี้น้องๆ คิดไขปัญหาของข้อคิดถูกที่พี่เกียรติถามไว้แล้วหรือยังคะ??
เอ๊ะ ยังไม่ได้คิดล่ะสิ เพราะมัวแต่อ่าน... งั้นพี่เกียรติให้เวลาสามบรรทัดนะ
ถ้าต้องเลือกเหยียบอะไรสักอย่างเพื่อให้รอด
จะเลือกเป็นคนดียอมเสี่ยงต่อชีวิตชนต้นไม้ดีไหม
หรือคุณยายดี คุณยายแก่แล้ว น่าจะเสียสละให้เด็กได้อยู่เพื่อนาคตของชาติต่อไป
แต่ถ้าพุ่งไปหาคุณยายจริงๆ เราจะเสียบุคคลทรงคุณค่าและภูมิปัญญาไป ลูกหลานก็เสียใจด้วย
มาดูคำตอบของนายบอมบอมกันดีกว่า
คิดง่ายนิดเดียวเลยครับ!!
เจอคำตอบของผมไหมครับ?
จากคำตอบของบอมบอม ทำให้ทราบได้ว่า เราต้องรีบฝึกฝนให้คิดให้เร็ว และคิดให้เป็น ทั้งยังต้องมีสติด้วยนะ บางทีสถานการณ์ก็ทำให้เราลืมเรื่องบางเรื่องไป ทั้งที่มันก็เกิดขึ้นอัตโนมัติแท้ๆ ฮา
ฉลาดอย่างแท้จริงแล้ว อย่าลืมมีความอดทน ความตั้งใจ และพร้อมที่จะใช้ความฉลาดของตนเองให้เป็นประโยชน์แก่ครอบครัว และสังคมด้วยค่ะ
แหล่งอ้างอิง: วิจิตรวาทการ, พลตรี หลวง, มันสมอง, กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2552.
|
62 ความคิดเห็น
...^_^...
ตอบเหมือนบอมเลย=w=
อิอิ
อย่างน้อยก็ช่วยลดความเร็วก่อน
แล้วก็ชนต้นไม้มันอาจช่วยได้นะ...หวังว่า
(เป็นความคิดที่ดูเป็นคนดี...)
เราตอบเหมือนบอมบอมด้วย เหยียบเบรก
ตอนแรกว่าจะตอบ ชนต้นไม้ แต่เปลี่ยนใจ กลับมาเหยียบเบรกดีกว่า
ตอบก็หยุดซะสิ นี่ได้ไหมอ่า
มันก็ครือกันอ่าเนอะ???
เหยียบเบรกจริง ๆ ด้วยอะ ตอบเหมือนกันเลย ยังพอฉลาดอยู่บ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้ง ๆ ที่เราว่าเราไม่ได้แก้ไขสถานการณ์หรือฉลาดอะไรขนาดนั้นนะ
อย่างน้อยถึงตายไปก็ไม่เสียใจว่าตัดสินใจฆ่าใคร แค่เสี่ยงต่อโชคชะตาเฉย ๆ
(พี่เล่นบอกว่าให้เลือกชนนีน่า T T)
เห็นเหยียบ ๆ นั่นแล้วก็นึกถึงเหยียบเบรกเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเหยียบเบรกทันแล้วจะให้เลือกชนทำไม ? (แอบคิดถึงเหยียบพื้น จากนั้นก็เลยไปขนถึงหักพวงมาลัยให้ออกไปทางต้นไม้แล้วกระโดดลงพื้น)
(อ่า...ยังมีคนคิดไม่ทันอยู่ตรงนี้หนึ่งคน)
เอ่อ..ถ้าเราเหยียบเบรกจะต้องมีเสียงดังทำให้ยายหัวใจวาย!! แล้วรถก็ไถลไปชนหญิงตั้งครรภ์อีก..เหอะๆ^^ จะเป็นไงหนอ..?? ทางที่ดีที่สุดคือเราไม่ควรประมาท....
ของคุณคร๊าบ