แบบนี้ต้อง...ย้ายโต๊ะ!!



  
         สวัสดีค่ะ มาพบกับพี่เกียรติอีกครั้ง กับบทความพัฒนาสมอง เรื่องราวน่าหนักใจของใครหลายๆ คนเพราะบางทีก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะพัฒนาหรือใช้กลเม็ดเคล็ดลับเพื่อพัฒนาสมองขนาดไหน ก็รู้สึกไม่ฉลาดขึ้นเสียที นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนเราจะให้เก่งขึ้นโดยไม่ทำอะไรก็เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เกิดมาอัจฉริยะพูดแปดภาษาได้ด้วยอายุเพียง 6 ขวบ ก็ยังไม่น่าอัศจรรย์เท่ากับตัวเราใช้สมองให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมให้ดีที่สุด 


      เพราะฉะนั้นแต่อย่าได้วิตกกันไปค่ะ แม้สมองของเราจะทำให้ผลการเรียนเราดีขึ้นไม่ได้ในสามเดือน แต่มันก็จะดีขึ้นได้ในสามปี ถ้าเราตั้งใจจริง และเชื่อเสมอว่า "เราเป็นคนฉลาด" เอ้า ถ้ามัวแต่คิดว่าตัวเองโง่ ก็จะโง่ตลอดไปนะ ไม่ใช่เพราะว่าไอคิวเราต่ำ แต่เราโง่เพราะเราบอกตัเราเองเองว่าโง่ สมองเราจึงจำคำนี้ติดไว้ และบันทึกคำนี้ไว้ในจิตใต้สำนึกเลย ถ้านึกแบบนี้ต่อให้ไอคิวสูงขนาดไหน ก็โง่อยู่ดีนั่นเอง นี่เป็นผลทางจิตวิทยาที่เขาวิเคราะห์ออกมาแล้ว "คิดอย่างไร เป็นอย่างนั้น" ไง


          นอกจากนี้ เราจะเพียงแต่ฝึกสมองไม่ได้ ต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนอย่างเพียงพอ ที่สำคัญ มันต้องมีการจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมด้วย พี่เกียรติเคยว่าเรื่อง การจัดห้อง ช่วยสมองดีไปแล้ว วันนี้พี่เกียรติก็ไปเจอกลเม็ดดีๆ จากเว็บหมอชาวบ้าน ซึ่งเป็นการสรุปความมาจากหนังสือของ จากหนังสือ KODOMO NO ATAMA O YOKUSURU SEIKATSU SHUKAN เขียนโดย DR. YOSHIRO NAKAMATSU ที่พี่จะนำมาเล่าให้ฟังกัน นั่นคือ การจัดมุมโต๊ะเรียน หรือโต๊ะที่เราใช้อ่านหนังสือ ทำการบ้านที่บ้านของเรานั่นเอง สำหรับพี่เกียรติเรื่องนี้ดูไม่น่าเชื่ออยู่บ้าง แต่ก็มีเหตุผลดีอยู่เหมือนกัน และก็สามารถอธิบายตามหลักการทางวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์เลยทีเดียว ฮา




  
1. ไม่ควรโต๊ะเรียนไว้ตรงหน้าต่าง

          ตั้งโต๊ะเรียนไว้ในจุดที่เหมาะสมช่วยให้ขยันขึ้นด้วยนะ แต่ถ้าตั้งผิดจุดโดยเฉพาะตรงหน้าต่าง แทนที่จะได้รับลมและแสงเพียงพอ ในทางกลับกันกลับทำให้ขยันน้อยลง เพราะ ทิวทัศน์ ภาพต่างๆ ที่เราเห็นจากหน้าต่าง จะทำให้ไม่มีสมาธิ มัวสนใจแต่เรื่องที่เกิดขึ้นนอกหน้าต่าง ยิ่งกว่านั้นแสงอาทิตย์ก็เป็นศัตรูร้ายต่อสมองด้วย เพราะ รังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งเป็นต่อสมองคน สรุปได้ง่ายๆ จากการวางภาพสีไว้ที่ระเบียงที่ถูกแดดสีบนภาพจะจางลงอย่างรวดเร็ว และเลือนหายไปภายใน  3 เดือน ศีรษะของคนบอบบางกว่านั้น ถ้าถูกแสงแดดตลอด ยิ่งเวลาที่ต้องใช้สมองทำการบ้านแล้วด้วย ไม่อยากคิดเลยว่าสมองเราจะทำงานได้แย่ลงขนาดไหน ดังนั้น ควรวางโต๊ะเรียนไว้ในที่ที่ไม่ถูกแดดโดยตรง และก็ไม่ตรงกับหน้าต่างเป๊ะ แต่ก็ต้องมีอากาศถ่ายเทดี



  
2. วางในที่ที่อากาศถ่ายเทดี

           การตั้งโต๊ะเรียนในบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่ดี จะมีผลต่อระบบการหายใจของคนที่อยู่บรเวณนั้นนานๆ ยิ่งถ้าต้องนั่งอ่านหนังสือทำการบ้านด้วยแล้ว อิริยาบถอาจแทบไม่เปลี่ยนท่า อากาศที่หายใจเข้าออกจะไม่มีการเปลี่ยนถ่าย  ออกซิเจนจะเข้าร่างกายน้อย เพราะแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สะสมอยู่ในบริเวณที่ไม่ถ่ายเทนั้น มีผลทำให้ร่างกายอึดอัด หายใจไม่สะดวก เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำงานเฉื่อยชาลง ง่วงหงาวหาวนอนได้ง่าย และในทางตรงกันข้าม หากมีลมมากเกินไปก็ไม่ดี เพราะทำให้รวมศูนย์สมาธิได้ยาก จิตใจวอกแวกได้ง่าย


3.ควรหลีกเลี่ยงการตั้งโต๊ะใกล้ประตูเข้าออก

       เพราะถึงแม้จะปิดประตูดูหนังสือ ในใจของเด็กก็รู้อยู่ว่าประตูนั้นเป็นทางออกไปสู่โลกภายนอก จึงเป็นเหตุให้ใจกระสับกระส่ายได้เช่นกัน เรื่องนี้พิสูจน์ได้จากตัวเราเอง เพราะหากมีใครเปิดเข้าออกประตู เราก็จะหันไปสนใจ ยิ่งใครชอบหวาดระแวง ยิ่งใกล้ประตูสมาธิยิ่งแตกซ่านได้ง่าย เพราะกลัวใครไม่รู้จะโผล่มา ฮ่าๆๆ ดังนั้นห่างประตูได้ยิ่งดีเนอะ และส่วนใหญ่แล้วเราจะวางโต๊ะเรียนเราไว้ในห้องนอนเราใช่ไหม ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เขาว่าประตูเป็นทางผ่านผี เรามาอ่านหนังสือตรงทางผ่านผี มันก็น่ากลัวอะสิ บรึ๋ย




4. ควรใช้โต๊ะเรียนที่ทำจากไม้

       วัสดุทำโต๊ะอย่างเหล็กได้รับอิทธิพลจากสนามแม่เหล็กโลก คลื่นสมองจะทำปฏิกิริยากับคลื่นแม่เหล็กที่เป็นวัสดุจากโต๊ะ แม้จะไม่มีผลมากเหมือนคลื่นโทรศัทพ์มือถือ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ แต่ก็ยังรบกวนสมองได้ เป็นไปได้ให้ใช้ทั้งโต๊ะและเก้าอี้จากไม้ หรือวัสดุธรรมชาติอย่างกระดาษรีไซเคิลดีกว่าจ้า เดียวกันในเรื่องคลื่นแม่เหล็กนี้ ก็ไม่ควรวางโต๊ะเรียนใกล้เสาตึกเพราะเสาตึกมีโครงเหล็กอยู่ภายใน เมื่อเหล็กรับอิทธิพลจากแกนของโลกก็จะส่งผลไม่ดีต่อสมองของเด็กซึ่งกำลังดูหนังสือเช่นกัน

  
       ชาวญี่ปุ่นผู้เขียนเรื่องนี้ บอกไปถึงว่า โต๊ะเขียนหนังสือของเด็กประถมญี่ปุ่นสมัยนี้ มักจะมีเครื่องประดับประดามากมาย นอกจากทำด้วยเหล็กแล้ว ยังติดนาฬิกา ติดเทอร์โมมิเตอร์ บางแบบถึงกับมีลูกโลกติดอยู่กับโต๊ะ พ่อแม่ก็คิดว่าโต๊ะดีๆ มีสติกเกอร์สวยๆ ติดอยู่ด้วย อาจทำให้ลูกขยันดูหนังสือขึ้นบ้าง แต่ยิ่งโต๊ะมีเครื่องประดับมากก็ยิ่งทำให้จิตใจของเด็กวอกแวก พี่เกียรติเลยยังดีใจอยู่นะที่โต๊ะเรียนบ้านเรา ยังนิยมแบบปกติอยู่ บ้านใครติดเทอร์โมมิเตอร์แล้วบ้างหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ 

5. กั้นโต๊ะสามทิศทาง 
          ปล่อยให้ด้านหลังเท่านั้นที่ว่างให้เข้าไปนั่งได้ ให้น้องๆ นึกถึงโต๊ะอ่านหนังสือเฉพาะบุคคลที่ห้องสมุดใหญ่ๆ นั้นเองจ้า แต่โต๊ะตามบ้านเราไม่มีกั้นแบบนั้นเนอะ เราก็สามารถเอาชั้นหนังสือมาตั้งไว้สองข้าง หรือใช้มู่ลี่กั้นก็ได้ การสร้างพื้นที่เฉพาะของเราเวลาอ่านหนังสือ จะทำให้ผู้อ่านไม่เจอสิ่งเร้าล่อตาล่อใจ และจะมีสมาธิ ทำงานได้ดีค่ะ


 

6. แสงสว่างพอเพียง

ต้องคำนึงถึงอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเราจัดกั้นโต๊ะเรียนเรารอบสามด้านไปแล้ว  หากมืดเกินไปจะเป็นต้นเหตุทำให้สายตาสั้น หากสว่างเกินไปจะทำให้สายตาอ่อนล้า ถ้าสามารถจัดโคมไฟ หรือไฟที่มีสวิตช์ปรับแสงสว่างได้ตามความต้องการจะดีมากๆ เพราะเราควรปรับแสงสว่างให้พอดีกับสภาพร่างกายและสภาพสมองของเราในแต่ละวันได้ โดยเฉพาะช่วงนี้เดี๋ยวฟ้าครึ้ม เดี๋ยวฟ้าสว่าง อากาศแปรปรวน ไฟที่ปรับระดับสว่างได้ย่อมเหมาะสมกับการเรียนรู้และสมองของเรา




           ลองจัดโต๊ะทำงานประจำของเราให้เข้ากับคำแนะนำนี้ พี่เกียรติว่าจะทำให้เราอ่านหนังสือได้ดีขึ้น ทำการบ้านได้อย่างไหลลื่นแล้วล่ะ แต่ถ้าบ้านใครไม่เอื้ออำนวยก็ไม่จำเป็นต้องไปทุบกำแพงหรือหาซื้อโต๊ะไม้มาใหม่นะ เราแค่ประยุกต์ให้เหมาะสมและเราจัดตามสไตล์ที่เราชอบขอแค่ไม่รก และเป็นระเบียบ แค่นี้ก็เข้ากับสมองของเราแล้วล่ะ



 
แหล่งข้อมูล,ภาพประกอบ: 
    http://www.doctor.or.th/node/4346
    ครูมะนาว-facebook.com/classkrumanow
    pjinomaha-flickr
    tachyondecay-flickr
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

40 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
whenever Member 27 ต.ค. 54 14:40 น. 8

มองโต๊ะตัวเอง มันเป็นโต๊ะก็จริง... แต่ไม่ใช่โต๊ะเรียน เป็นโต๊ะวางการ์ตูนกับนิยาย


ถ้าได้ไปเรียนเมื่อไหร่คงกลายเป็นโต๊ะเรียนซะที เพราะพ่อคงเอามาวางเต็ม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Porcupine tail Member 27 ต.ค. 54 22:42 น. 15
 ขอบคุณครับ   จะได้เอาไว้ไปจัดโต๊ะให้เหมาะสม(แต่รู้สึกว่าควรจะจัดหนังสือบนโต๊ะก่อนอ่ะนะ)


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 ตุลาคม 2554 / 22:43
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
mii-Yo!! Member 29 ต.ค. 54 16:02 น. 18

ตั้งไว้ริมหน้าต่างที่มันไม่พออะนะ  แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบเพราะ อ่าแต่ตอนกลางคืน แถมปิดม่านกลัวไรมาเกาะ  แหะๆ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด