สวัสดีครับ เรื่องลี้ลับในสถาบัน และหมอผีลาเต้ มาแล้วครับ เรื่องผีในโรงเรียนสัปดาห์นี้ นับว่าหลอนสุดในรอบเดือนก็ว่าได้ และหาก พี่ลาเต้ อยู่ในเหตุการณ์คงลาป่วยไป 2 อาทิตย์เต็มๆ โอ้ววว ว่าแล้วเราก็ไปสัมผัสเรื่องลี้ลับในสัปดาห์นี้กันเลยครับ ผลงานเรื่อง “ห้องดนตรีสีแดง” เรื่องเล่าจากน้อง กานต์รวี ครับ

 

          สวัสดีค่ะ พี่ลาเต้ และเพื่อนๆ เว็บเด็กดีทุกคน เรามีเรื่องลึกลับในโรงเรียนของเพื่อนพี่เรามาเล่าให้ฟังค่ะ ขอใช้นามสมมติเพื่อนพี่คนนั้นว่า ชื่อ A ก็แล้วกันนะ เราจะขอไม่บอกว่าโรงเรียนนี้ชื่ออะไร เอาเป็นว่า อยู่ในเขตกทม.นี่แหละค่ะ

 

 

          เรื่องมีอยู่ว่าพี่ A เขาต้องอยู่รอเพื่อนที่ต้องซ้อมดนตรีไทย ตอนแรกพี่เขาก็รออยู่ในห้องเรียน ทำการบ้านรอไปเรื่อยๆ จนซักหกโมงกว่าๆ พี่ A เขาก็เห็นว่ามันเริ่มมืด เลยเก็บของแล้วก็เดินไปทางห้องดนตรีไทยที่อยู่สุดทางเดินของชั้นเดียวกัน พอไปถึง ปรากฏว่าห้องดนตรีไทยดันปิดอยู่ ผลักเปิดไม่ได้ด้วย แต่ก็ได้ยินเสียงระนาดเล่นอยู่เบาๆ

 

          ด้วยความที่พี่ A เขาไม่กลัวผี เขาเลยแอบมองลอดช่องระหว่างประตูกับพื้นเข้าไป แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากแสงสีแดง ตอนนั้นพี่ A เขาก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะท้องฟ้าตอนนั้นก็เป็นสีส้มๆ แดงๆ อยู่แล้ว เลยคิดว่าคงเป็นแสงที่ส่องมาจากทางหน้าต่าง พอเห็นว่าห้องดนตรีไทยปิดแล้ว พี่ A ก็โกรธเพื่อนใหญ่เลยที่ปล่อยให้รอตั้งนานไม่มาตาม เลยจัดการหยิบมือถือออกมาจะโทรหา แต่ก็ไม่เจอมือถือในกระเป๋า

 

          พอไม่เจอมือถือ พี่ A เลยตัดสินใจกลับไปหาที่ห้องเรียนที่นั่งทำการบ้านค่ะ พอมาถึงห้องเรียนก็เจอมันวางอยู่บนโต๊ะพอดี พี่เขาก็หยิบขึ้นมา โทรหาเพื่อนแล้วเดินลงจากตึกไปด้วย เลือกทางที่ต้องผ่านห้องดนตรีไทยอีกรอบ เผื่อว่าเพื่อนพี่เขาจะย้อนกลับมา แต่คราวนี้ห้องดนตรีไทยเปิดอยู่ค่ะ มีเสียงระนาดเล่นอยู่เหมือนเดิม พี่ A เขาเลยมองเข้าไปในห้อบ

 

          รอบนี้เขาเห็นว่ามีผู้หญิงใส่ชุดไทยกำลังรำอยู่ ส่วนเสียงระนาดมาจากเครื่องเล่นที่เปิดอยู่ข้างๆ ค่ะ ผู้หญิงที่กำลังรำได้หันหลังให้พี่เขา ซึ่งพี่เขาก็คิดว่า แปลกมาก ทำไมเย็นขนาดนี้ยังรำอยู่ได้คนเดียว ใส่ชุดซะเต็มยศอีกต่างหาก พอเขาหันกลับมาเท่านั้นแหละค่ะ พี่ A ถึงได้เห็นว่า ตาของผู้หญิงคนนั้นไม่มีทั้งตาดำ และตาขาว แต่เป็นสีแดงทั้งตา

 

          พี่เขาตกใจสุดขีด อย่างนี้แสงสีแดงที่เห็นผ่านช่องประตูตอนแรก ก็คือตาของผู้หญิงคนนี้น่ะสิ ?? พี่ A ก็ไม่รอช้าให้นางรำได้พูดอะไรหรอกค่ะ วิ่งลงบันไดสุดชีวิตเลย พอออกมาได้ก็เห็นว่าเพื่อนคนนั้นมานั่งรออยู่ตรงม้านั่งหน้าตึกแล้ว พอเดินไปหาเขาก็ถามว่า “โทรไปทำไมไม่รับ นี่เราลงมารอตั้งนานแล้ว ไปตามที่ห้องเรียนก็ไม่เห็น” พี่ A (ที่ยังตกใจอยู่) เลยเล่าให้ฟัง พอฟังจบ เพื่อนพี่เขาก็หัวเราะหึๆ แล้วบอกว่า…….

 

          โอ๊ย เด็กดนตรีไทยน่ะเจอประจำ เลยไม่มีใครอยู่ซ้อมเกินห้าโมงซักคน นี่แกไม่รู้เหรอ ?

 

          ลาเต้ลิขิต : ส่งเรื่องลี้ลับในสถาบันของคุณมาได้ที่ latae@dek-d.com 

พี่ลาเต้ ขอขอบคุณรูปภาพจาก ภาพยนตร์ผีสามบาท

พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
nuying29 Member 20 ม.ค. 55 14:05 น. 3
แฮะๆ เราไม่เคยเดินผ่านห้องดนตรีไทยหรอก กลัวจัดอ่ะ เพราะรู้ว่าเครื่องดนตรีมีครู

เหวอ หลอนจริงอะไรจริง


0
กำลังโหลด

53 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
nuying29 Member 20 ม.ค. 55 14:05 น. 3
แฮะๆ เราไม่เคยเดินผ่านห้องดนตรีไทยหรอก กลัวจัดอ่ะ เพราะรู้ว่าเครื่องดนตรีมีครู

เหวอ หลอนจริงอะไรจริง


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ManowandManow Member 21 ม.ค. 55 21:09 น. 13
 เพื่อนพี่ A ทำไมไม่เดินมาหานะที่ห้องเรียนนะ

ให้เอนั่งรออยู่คนเดียว  จนเดินไปตาม

อ่านแล้วไม่ค่อยกลัว  แต่โกรธเพื่อนแทน  บ้าปล่อยให้ช้านอยู่คนเดี่ยวได้ยังไง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Tollwars Member 22 ม.ค. 55 17:04 น. 15
ค.ห.5 ผิดบรรยกาศไปหน่อยมั้ยอ่ะ
สยองแฮะ
เพื่อนพี่Aเขาขึ้นไปตามแล้วทำไมถึงไม่เห็นอ่ะ
สวนกันตอนไหน

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 มกราคม 2555 / 17:07
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
อรรฆย์ศร Member 23 ม.ค. 55 16:06 น. 19



นี่ถ้าเราเป็นพี่ A คงเลิกคบกันแล้ว

มีที่ไหนเลิกซ้อมตั้งแต่ก่อนห้าโมง

แต่ให้เรารอถึงหกโมงกว่าๆ โทรศัพท์อะไรก็ไม่ติดต่อบอกกัน  แต่กลับไปนั่งรอเราอยู่หน้าตึกเนี่ยนะ

ขอย้ำ!!! รอตั้งชั่วโมงกว่านะ ไม่ใช่สิบนาที

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด