ทำไมเราต้องฟัง "แนะแนว...อาชีพ"






          ไม่ทราบว่าน้องๆ ชาว Dek-D เคยฟังแนะแนวคณะ/อาชีพ หรือคุณครูพารุ่นพี่มาแนะนำหรือเปล่า สำหรับพี่เกียรติตอนสมัยมัธยมนะ...ชอบช่วงเวลาที่มีรุ่นพี่มาพูดมาแนะนำน้องๆ ในการสอบเข้ามากๆ เพราะพี่ดีใจที่ไม่ต้องเรียนไปอีกคาบ ฮ่าๆๆ แล้วพอรุ่นพี่หรือผู้มีประสบการณ์ในอาชีพนั้นๆ มา ไม่ว่าจะครูเชิญหรือเป็นหน่วยงานเอกชนขอมาก็ตาม เขาก็จะเล่าเรื่องต่างๆ ให้เราฟัง ถ้าเราสนใจ ก็อาจจะได้ข้อมูลอะไรไปบ้าง แต่บางทีผู้พูดก็พูดไม่น่าสนใจ บางทีเราก็อยากนั่งคุยกับเพื่อน บางทีก็ว่าไกลตัว เพราะบางครั้งคุณครูก็พารุ่นพี่มาพูดให้น้อง ม.4 หรือเด็กกว่านั้นฟังเหมือนกัน เราอาจจะมองว่าอนาคตไกลตัวเองไปนิด (ส่วนมากคุณครูจะพารุ่นพี่มาพูดให้ม.6 หรือชั้นปีสุดท้ายฟังมากกว่าเนอะ) สุดท้ายก็จะมีเสียงจ้อกแจ้กกันไปตลอดงานทุกที เรื่องดีๆ แง่มมุมเจ๋ง ที่เขาตั้งใจพูดก็อาจไม่ค่อยเกิดประโยชน์ต่อผู้ฟังนัก...





        แต่น้องๆ ทราบหรือไม่ว่าจริงๆ การแนะแนวอาชีพมีความสำคัญมากๆ นะ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอาชีพอะไร ไม่รู้จะเรียนอะไรต่อ ไม่รู้จะชอบอะไร  เพราะเราจะได้ฟังแง่มุมต่างๆ ของแต่ละคณะ แต่ละอาชีพที่บางทีเราก็ไม่ได้รู้จากการค้นหาในอินเทอร์เน็ต แถมจะยังได้เคล็ดลับสอบ และอาจจะยังได้อีเมลสำหรับการสอบถามข้อมูลที่สงสัยอีกด้วย วันนี้พี่จึงขอแถลงชี้แจงประโยชน์ของการแนะแนวอาชีพ ว่าทำไม...ถ้ามีการแนะแนวจากครู จากรุ่นพี่ จากคนที่มีประสบการณ์ แล้วเราจึงควรต้องฟัง ไม่ใช่แค่ไปนั่งคุยสนุกกับเพื่อนหรือดีใจที่ได้โดดเรียนอย่างมีเหตุผลแบบพี่เกียรติ ฮ่าๆๆ


ประโยชน์ของการแนะแนวคณะ/อาชีพ
         1. รู้จักเลือกคณะ/อาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถของตน เช่น ความถนัด ความสามารถ ความสนใจ บุคลิกภาพ ความต้องการของตนเอง เป็นต้น
         2. ให้รู้จักโลกของงานอาชีพ เช่น อาชีพต่างๆ ที่อยู่ในชุมชนนั้นเป็นอย่างไร ลักษณะงานของอาชีพนั้นๆ คุณสมบัติของบุคคลที่จะประกอบอาชีพ หรือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบในอาชีพนั้น เช่น เป็นหมอต้องทนแรงกดดันจากคนไข้และญาติ ความก้าวหน้า รายได้ ความมั่นคง การฝึกอบรมที่จะเข้าสู่อาชีพต่างๆ
         3. ให้รู้จักเตรียมตัวเพื่อประกอบอาชีพ เช่น การเตรียมตัวให้มีคุณสมบัติตามที่คณะนั้นๆหรืออาชีพนั้นๆ ต้องการ เช่น อยากเป็นนักกายภาพบำบัด แต่โดดไปเรียนสายศิลป์ซะงั้น เพราะบอกไม่ชอบเลข (แล้วจะสอบต่อได้ไหมเอ่ย) รู้จักบริษัท และวิธีการสมัครงาน เตรียมตัวสัมภาษณ์ เป็นต้น



         น้องๆ จะเห็นว่า นอกจากการไปนั่งฟังคนมีประสบการณ์พูดแล้ว การเข้าค่ายอบรมค่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ทำให้เรารู้จักโลกอาชีพต่างๆ มากขึ้น การไปเรียนทักษะอะไร เล็กๆ น้อยๆ เช่น ศิลปะ ทำอาหาร ซ่อมคอมพิวเตอร์ เพิ่มพูนทักษะก็ทำได้  (นอกเหนือจากเรียนพิเศษนะ) เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องรายได้ คุณสมบัติพิเศษที่ต้องมีก่อนการสมัครของอาชีพเหล่านั้นก็สำคัญ น้องๆ จะไม่สามารถทราบได้เลย ถ้าเราไม่หาข้อมูลและไม่ฟังเคยใครแนะแนวจ้า บอกไว้เผื่อน้องๆ มีโอกาสได้ฟังแนะนำจากรุ่นพี่ หรือการแนะแนวจากหน่วยงานใดๆ (แม้จริงๆ เขาจะแฝงโฆษณาก็ตามจ้า) นี่คือเหตุผลที่ต้องมีการแนะแนว เช่นเดียวกับที่ทุกโรงเรียนต้องมีครูแนะแนว  


เมื่อมีโอกาสต้องตั้งใจฟังให้เข้าถึงแต่ละอาชีพ 
เราก็อาจจะค้นพบอาชีพของเราได้ค่ะ






 
แหล่งข้อมูล: 
     กรมการจัดหางาน - http://www.doe.go.th/vgnew/Content/frmNews.aspx?DetailID=1&fColID=3
 

พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

10 ความคิดเห็น

ปรัสรา Member 9 มี.ค. 55 18:23 น. 1
 อยากเป็นนักเขียนแต่ดันไม่เคยสมัครเข้าค่ายใดเลย  กลัวว่าผู้ปกครองจะไม่พาเข้าแคมป์

...น่าโมโหนัก สองสามวันก่อนเปรยๆขึ้นมา  ผู้ปกครองดันบอกว่าจะพาไปแน่ๆ  รู้งี้ถามก่อนดีกว่า!

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Arcanist Member 9 มี.ค. 55 19:58 น. 3
อ่า... อยากมีเหมือนกันนะค่ะเเบบนี้
เพราะว่าอยากรู้จักหลายๆอาชีพอ่ะค่ะ จะได้รู้ว่าชอบหรือเปล่า TT
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
p'pan...g Member 10 มี.ค. 55 15:23 น. 5
 ตอนนีั้เป็นอยู่ค่ะ  ไม่รู้ว่าชอบอะไร  ไม่รู้จะเรียนอ่ะไร   


ส่งผลให้เวลาในชีวิตมันเป็นไปเรื่อยๆ  ไม่มีจุดหมายที่แน่นอนของตัวเองเลยคุ่ะ   



0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Mewka'ii Member 13 มี.ค. 55 14:07 น. 14
 ใครที่รู้แนวทางของตัวเองนี่ถือว่าโชคดีมากนะค่ะ
เพราะเพื่อนเราหลายๆคนยังไม่รู้ตัวเองเลย(ตอนนี้อยู่ม.3)
ตอนที่มีโครงการมาอบรม แล้วให้เขียนว่าอยากเป็นอะไร?
เราที่รู้ตัวเองแล้วก็สามารถเขียนได้อย่างมั่นใจ แต่พอเราหันไปดูเพื่อนข้างๆ
มันเขียนหมอ แล้วก็ไกด์(อาชีพที่เราเขียนไป คือมันลอกเรานั้นเอง-.-) 
แล้วมันก็พยายามจะเรียนพิเศษเยอะๆ ชีวะ ม.4 บลาๆ
แต่ไม่รู้จุดหมายของตัวเอง เรียนสะเปะสะปะ สุดท้ายก็ไม่ดีสักวิชาหนึ่ง  แถมเปลืองเงินอีก

ฉะนั้น เรื่องนี้สำคัญมากนะค่ะ  
อย่างเราอยากเป็นไกด์ เราก็เรียนแต่ภาษาอังกฤษ เพราะเราชอบอยู่แล้วด้วย 
รู้ว่าเราชอบอะไร แล้วเรียนฝึกฝนอย่างเต็มที่ มันไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่เลย 


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
kola 26 มี.ค. 55 22:09 น. 19
เอ่อ......คือ

ตอนที่เขาแนะแนวอาชีพอย่าพา พ่อ+แม่ไปน่ะ เดี๋ยวเผื่อทางเลือกมันจะไม่ตรงกัน
เหมือนกับเราตอนนี้
พ่อ อยากให้เรียนบริหารธุรกิจ จบมาจะได้มาช่วยกิจการทางบ้าน
แม่ อยากให้เรียนหมอ
ตา อยากให้เป็นวิศวะ
ยาย อยากให้เรียนครู
แต่เรา อยากเป็นสัตวแพทยศาสตร์
0
กำลังโหลด
c-for-jubu Member 1 เม.ย. 55 16:38 น. 20
 ตอนแรกอยากเป็นหมอ

ต่อมาเภสัช

ต่อมานิเทศ อยากเป็นช่างภาพ

ต่อมา อยากเป็นไกด์

สุดท้ายหรือจะเรียนการโรงแรมว๊ะ- - - 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด