สวัสดีครับ กลายเป็น Talk ให้ดราม่าไปซะแล้ว สำหรับประเด็น "กฏใหม่!! เรียน รด.ก็ยังต้องเกณฑ์ทหาร" ซึ่งในเรื่องนี้สร้างความสนใจให้กับเด็กไทยเป็นอย่างมากกกกกกก โดยเฉพาะน้องๆ นักเรียนชาย ม.ปลาย ที่เมื่อได้ยินได้ข่าวนี้ให้ ถึงกับเกิดความคิดจะเลิกเรียน รด.ไปเลยก็มี
ก่อนอื่น พี่ลาเต้ ขอย้อนไปที่ต้นเรื่องในครั้งนี้ก่อน เริ่มมาจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ.56 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้พูดในงานวันสถาปนาหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนครบ 65 ปี โดยมีใจความสำคัญว่า "จะทำอย่างไรให้นักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด. มีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลประเทศชาติมากขึ้น ซึ่งนโยบายของรัฐบาลนั้นให้มีการเพิ่มอัตรา รด. ในแต่ละปี ซึ่งเมื่อมีคนเรียนเยอะ ก็จะทำให้คนเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารน้อยลง ซึ่งแต่ละปีนั้นกองทัพต้องการทหารประมาณ 8 หมื่นนาย จึงมีแนวคิดที่จะให้นักเรียน รด. ต้องผ่านการเกณฑ์ทหารด้วย เพราะที่ผ่านมามีนักเรียนเรียน รด. มากขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อส่วนการเกณฑ์ทหาร"
ฟังแนวคิดจากผู้ใหญ่ไปแล้ว มาฟังเสียงของเด็กไทยกันบ้าง วันนี้ พี่ลาเต้ ไปคว้าตัวมาจากสมรภูมิเขาชนไก่ ค่ายฝึกภาคสนามของ รด.ปี 3 กันเลยทีเดียว พวกเขาจะว่ายังไงไปดูกัน
นายกิตติพัฒน์ วงษ์ล้วนงาม หรือโบนัส ม.6 โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ 1 ใน 4 กัปตันแบรนด์แอดมิชชั่นเรียลลิตี้ปี 4 เปิดเผยว่า "ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เลย เพราะว่าเรียน รด. ก็เหมือนเรียนวิชาทหาร แล้วทำไมยังต้องไปเกณฑ์ทหารให้ซ้ำซ้อนอีก โดยส่วนที่สมัครเรียน รด.เพราะไม่อยากเกณฑ์ทหาร แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่เรียนเพราะเพื่อน เพื่อนส่วนใหญ่เรียนแล้วมันได้อะไรหลายอย่างทั้งประสบการณ์ วินัย การใช้ชีวิต โดยมองว่าหากเรียน รด.แล้วต้องเกณฑ์ทหารแบบเต็มเวลาอีก ก็คงไม่เรียน แต่ถ้าเรียนแล้วลดเวลาเกณฑ์ทหารลงก็คงเรียน เพราะตามกฎหมายยังไงชายไทยทุกคนก็ต้องเป็นทหาร"
นายพีรภาส สุทิฐธรรมกุล หรือพี ม.6 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย 1 ใน 4 กัปตันแบรนด์แอดมิชชั่นเรียลลิตี้ปี 4 "ไม่เห็นด้วย เพราะเรียน รด.มาแล้ว 3 ปีแล้ว ก็น่าจะปลดประจำการได้แล้ว อย่างบางประเทศเค้าก็เป็นระบบสมัครใจ บางคนอาจจะมองว่าเป็นหนีทหาร ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่ไปฝึก รด. ก็คือฝึกระเบียบอยู่แล้ว ก็ไม่ควรบังคับ ส่วนสาเหตุที่ผมเรียน รด.ก็คืออยากมีชีวิตเพิ่มอีก 2 ปี คือถ้าจบ ม.6 เราก็มีชีวิตอิสระเลย เพราถือว่าคุณฝึกมาแล้ว ถ้าเค้าเรียกเกณฑ์ไป คุณก็พอรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร หากเรียน รด.แล้วยังต่อไปเกณฑ์ทหาร ย้อนกลับไปได้ ผมคงไม่เรียน ไม่ใช่ไม่รักชาตินะ แต่อยากมีชีวิตเพิ่ม คือถ้าเรียนแล้วไม่ได้มีประโยชน์ ก็ไม่อยากเรียน"
หากจะพูดกันตรงๆ ในความคิดของพี่ ส่วนใหญ่คนที่เรียน รด.ปี 1-3 ก็มีจุดมุ่งหมายชัดเจนคือไม่อยากเกณฑ์ทหาร เพราะแต่ละคนอาจจะวางเส้นทางในอนาคตไว้แล้ว ว่าผมจะเป็นหมอ ผมจะเป็นครู หนูจะเป็นแอร์ ดังนั้นจึงสมัครใจที่จะเรียน รด.3 ปีเพื่อใช้สิทธิ์ในการเป็นทหารให้กับตัวเอง แต่อีกมุมหนึ่งอาจจะมองได้ว่า เมื่อทุกคนเรียน รด.3 ปีกันหมด จำนวนผู้มีสิทธิ์คัดเลือกเป็นทหารก็จะลดน้องลง ซึ่งอาจจะส่งผลถึงความมั่นคงของประเทศ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นทั้งคู่
แต่ไม่ว่ายังไงสิ่งที่ลูกผู้ชายไทยต้องจำให้ขึ้นใจนั้นก็คือ "เราไม่สามารถหนีการเป็นทหารได้" ถึงแม้จะจบ รด.ปี 3 ปี 5 แต่สถานะของเราคือ กำลังกองหนุน เมื่อประเทศต้องการเราก็ต้องพร้อมในการเรียกพล!! ส่วนประเด็นข่าวนี้จะมีความคืบหน้าอย่างไร พี่ลาเต้ จะนำมาอัพเดทให้ทราบกันอีกทีครับ

ใครเล่นทวิตเตอร์มา Follow ตามข่าวรับตรงแอดมิชชั่นจากพี่ได้นะ @lataedekd




255 ความคิดเห็น
ถ้ายังได้เกณฑ์ทหารอีก
โอ้!!! สิบเอกเต็มกองพัน!!
ปัญญาอ่อนไปปะ ผบ.ทบ.
[b-009][b-009][b-009][b-009][b-009][b-009]
ตามข่าว เขาแค่เสนอเรื่องแต่ยังไม่บังคับใช้
ผมก้อเพิ่งจบไป แต่ก้อตกใจเล็กน้อย แต่เขาบอกว่ายังไม่บังคับใช้แต่ถ้าเป้นจริง เด้กรุ่นใหม่จะได้รับการใช้กฏนี้ คือ ในความคิดผมถ้าเป้นจริง คงไม่มีใครที่จะเรียนต่อมหาลัยเรียนรด.เพราะ ผมจำได้ว่า การไปรด.หนึ่งครั้งก้อกระทบเวลาเรียนไปด้วยถ้าไม่วางแผนให้ดีหรือวันนั้นไปตรงกับวิชาสำคัญอาจตามเพื่อนไม่ทันทำให้เกรดออกมาไม่ได้ตามต้องการ จึงไม่ไปแล้วไปรอเกณทหารจะดีกว่า เพราะ เรียไม่เรียนก้อเกณอยู่ดี
ท่านครับมองให้ทุกมุมครับ :)
จบ รด.ปี3 ก็คือทหารกองหนุน เกณทหารสองปีก็ทหารกองหนุนเหมือนกัน เมื่อปีการเรียกพลก็ต้องไปเหมือนกันอยู่ดี
รด. ก็แค่การเรียนทหารก่อนเวลาเฉยๆ
ตอนนี้พวกเขาเรียนอยู่ปี 4 และใกล้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยกันแล้ว
มีอยู่คนนึงที่ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ไปเกณฑ์ทหารและเพิ่งถูกปลดออกมา
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2556 / 17:10
กลับมาแทบไม่ได้เรียนลอกแต่งานเพื่อนส่ง