หลังงานสัปดาห์หนังสือ พี่ตินกลับบ้านพร้อมหนังสือกองโต (มากกกกกกกก) และค่อยๆ ทยอยไล่อ่านตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ภูเขาเริ่มค่อยๆ ยุบลงแล้ว และหนังสือสามเล่มก็ผุดขึ้นมา...

            นั่นก็คือหนังสือชุด ความลับของผีเสื้อ จาก สำนักพิมพ์อรุณ ราคาเล่มละ 295 บาท แบ่งออกเป็นสามเล่ม ได้แก่ ใต้ปีกรักสีเพลิง (โดยสิริณ) เริงราตรีสีขาว (โดยภาวิน) และเงารักสีน้ำเงิน (โดยอสิตา)
 

            รู้สึกว่าสมัยนี้ เขานิยมเรื่องชุดกันเนอะ พี่ตินเห็นมาหลายชุดแล้ว ส่วนใหญ่ก็ขายดีกันมาก ชุดนี้ก็ขายดีเช่นกัน หลักๆ ที่สะดุดตาพี่ตินมากคือปกสวยเด่นจริงๆ สีที่ใช้ก็เข้ากับชื่อเรื่องมาก เหมือนงานศิลปะที่จัดมาอย่างพอดิบพอดี ไม่มีที่ไหนเกิน

            หลังอ่านจบ พี่ตินลงความเห็นว่าชุดความลับของผีเสื้อทั้ง 3 เล่มเป็นงานเขียนลึกลับ เรื่องมีความเหนือธรรมชาติอยู่บ้าง และเน้นไปที่ตัวละครผู้หญิงเป็นหลัก ผู้หญิงของทั้งสามเรื่องมีเสน่ห์น่าอ่านมาก พระเอกก็อีกเรื่องหนึ่ง

            แต่พี่ตินคิดว่าเมื่อมันมีคำว่า “ความลับของผีเสื้อ” มันจึงชวนให้เรานึกถึงเรื่องของผู้หญิง ทั้งพรนางฟ้า ณราตรี และวนัสสา (ชื่อเพราะทุกคนเลย) ล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับการเดินทางของชีวิต และสิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับ ‘ผีเสื้อ’ ทั้งสิ้น
 

ใต้ปีกรักสีเพลิง สิริณ

เรื่องย่อ : เมื่อผู้หญิงที่ไม่มั่นใจ ได้รับสร้อยปริศนาซึ่งเปลี่ยนให้เธอกล้าขึ้น พรนางฟ้า จึงยื้อแย่งทุกสิ่งที่เคยหลุดมือคืนจาก สุภัทรชา เธอร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ตลอดเวลาของความเปลี่ยนแปลงมีเพียงคิรินทร์ที่อยู่เคียงข้างเธอ แต่แล้ว พรนางฟ้าก็พบว่าเขาปิดบังความจริงบางอย่างที่สำคัญไว้!

สีส้มทำให้พี่ตินนึกถึง : ความสนุกสนานร่าเริง ผู้หญิงสักคนที่เต็มไปด้วยพลัง ความมีชีวิตชีวา เปิดเผย ชัดเจน ไม่ปิดบัง ไม่หลอกลวงใคร ความปราดเปรียว การตัดสินใจฉับไวโดยไม่ย้อนกลับมาเสียใจหรือยั้งใจไว้ การยอมรับความผิดพลาด และพร้อมยอมแก้ไข

สิ่งที่พี่ตินได้จากการอ่าน : เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบในเรื่องหน้าที่การงาน ซึ่งคงเป็นจุดเด่นของสิริณ นักเขียนผู้นี้ นางเอกของเรื่องชื่อว่า พรนางฟ้า ชื่อเล่นคือแพน นางเอกมีเพื่อนอยู่หนึ่งคน ชื่อว่าสุภัทรชา หรือเกรซ ทั้งสองเป็นคู่แข่งกันในทุกสิ่ง ตั้งแต่การเรียน การงานและความรัก แรกเริ่มเมื่อเรื่องเปิดมา พรนางฟ้าได้รับสร้อยรูปผีเสื้อจากชายแปลกหน้าคนหนึ่ง (ชายคนนั้นเกี่ยวพันกับเรื่องเงารักสีน้ำเงินด้วยหละ) และเธอ ‘เชื่อ’ ว่าสร้อยเส้นนั้นทำให้เธอพูดทุกอย่างจากใจ เพราะนั่นเป็นความรู้สึกของเธอที่มีต่อสุภัทรชา เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดในขณะนี้

            พรนางฟ้าคือผู้หญิงทำงานออฟฟิศที่ต้องผจญกับปัญหา ‘การเมืองเรื่องออฟฟิศ’ โดยเฉพาะเมื่องานที่เธอทำอยู่เกี่ยวข้องกับการขาย การตลาด การประมูล เป็นงานที่เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้ เพราะถ้าพลาด อาจโดนแทงหลังหรือฟันเละเทะ เนื่องจากตำแหน่งของเธอมีแต่คนอยากปีนป่ายแย่งชิง เอาเข้าจริงแล้ว เมื่อเราเข้าทำงาน ได้อยู่ในสังคมที่เจอใครต่อใครมากหน้า ชีวิตก็มักจะมีเรื่องของ ‘การเอารัดเอาเปรียบ’ ‘ใครดีใครได้’ ‘มือใครยาวสาวได้สาวเอา’ ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ พรนางฟ้าเป็นเหยื่อของสุภัทรชามาตลอด เพราะความที่เธอไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงความรู้สึก ทำให้สุภัทรชาถือจุดนี้มาเอาเปรียบ และใช้ประโยชน์เหนือเธอเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อได้สร้อยมานั่นแหละ เธอจึง ‘คิดว่า’ ตัวเองเปลี่ยนไป และพร้อมโต้ตอบสุภัทรชาอย่างเอาเป็นเอาตาย

            ส่วนพระเอกชื่อว่า คิรินทร์ หรือพี่คีนั้น แตกต่างจากนางเอกราวฟ้ากับเหว เขาคือจิตรกรหนุ่มที่เดินหน้าตามฝัน ทำอะไรตามใจตัวเอง และนิสัยติสท์ พูดจาขวางโลก ไม่แคร์ใคร (พี่ตินแอบเรียกเขาว่านายนิ้วกลม) ทั้งคู่จับผลัดจับผลูมาเจอกันในบาร์ คิรินทร์เห็นพรนางฟ้าเมาเละแล้วรับสร้อยจากชายแปลกหน้าเลยเกิดเป็นห่วง ก็ช่วยหามเธอไปส่งบ้าน แต่การณ์กลับกลายเป็นว่าเขาได้รับมาร่วมรับรู้ว่าเธอโดนอาถรรพ์ของสร้อย แล้วพูดทุกอย่างจากใจ

            คิรินทร์เป็นคนห่ามๆ ชอบเรื่องสนุกประเภทนี้อยู่แล้ว ก็เลยโดดเข้ามาร่วมสังเกตชีวิตของนางเอกดูว่าจะเป็นอย่างไร และผลก็กลายเป็นว่าเขาถูกดึงดูดด้วยความแตกต่างของนิสัยที่มีระหว่างกัน พรนางฟ้าไฮโซเหลือเชื่อ ส่วนเขาค่อนข้างไปทางโลว์เสียมากกว่า พรนางฟ้ามีอะไรก็ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคิด ไม่เชื่อมั่นในตัวเอง คิดมากเรื่องหน้าตาเรื่องสังคม สายตาของคนอื่นๆ ส่วนเขา ไม่แคร์ใคร ใครจะคิดอย่างไรก็เรื่องของคนอื่น เราจะดำเนินชีวิตอย่างไรก็เรื่องของเรา เพราะชีวิตเป็นของเราหรือมิใช่

            เมื่อพระเอกสุดติสท์ นางเอกสุดคิดมากมาเจอกัน มันก็ต้องเป็นการถ่ายทอดนิสัยระหว่างกัน ตลอดเรื่อง เราจะได้เห็นความถ้อยทีถ้อยอาศัยของตัวละคร แรกๆ พี่ตินคิดว่าพระเอกไม่ชอบอะไรหลายๆ อย่างในตัวนางเอกนะ และนางเอกเองก็ไม่ชอบอะไรหลายๆ อย่างในตัวพระเอก ต่างฝ่ายต่างไม่ได้รู้สึกดีๆ ต่อกันแต่แรก แต่คงเป็นเรื่องของหัวใจ ที่มันอธิบายไม่ได้จริงๆ

            พี่ตินคิดเสมอว่าคนเรานั้น เมื่อได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้นิสัยชั่วร้ายจริงๆ มักจะเปลี่ยนแปลงเป็นการเรียนรู้กันและกันและชื่นชอบข้อดีของกันและกันได้ง่าย ส่วนข้อเสียนั้นถ้าไม่ได้เลวจนรับไม่ได้ เราก็มักจะเลือกมองข้าม เหมือนเรามีเพื่อนสนิทสักคน เรารู้ใช่ไหมว่ามันมีข้อดีอะไรที่เรารัก แต่ถ้ามีข้อเสีย เช่น ชอบมาสาย ชอบเวิ่นเว้อ เราก็จะยอมรับได้เพราะรู้สึกว่า ก็เพื่อนเรานี่นา เรารัก เราก็ยอมได้สิ

            พระเอกนางเอกในเรื่องนี้ก็เหมือนกัน เมื่อได้รู้จักรู้ใจกันจริงๆ ก็ได้รู้ว่านิสัยของอีกฝ่ายที่ตัวเองเคยคิดว่าแย่และไม่เห็นดีเลย แท้จริงแล้ว มันก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ แล้วทั้งคู่ก็เรียนรู้ที่จะยอมรับในกันและกัน และรักกัน สิ่งที่น่าซึ้งก็คือ ระหว่างทางนั้น นางเอกเจอเรื่องร้ายๆ ค่อนข้างเยอะ แต่พระเอกก็คอยอยู่เคียงข้าง และคอยดูแลเธอเสมอ เขามีคุณลักษณะของการปกป้อง และพร้อมยืนหยัดเพื่อคนที่ตัวเองรัก ซึ่งก็เป็นเรื่องดี

            นอกเหนือจากนี้ ในเรื่องก็จะเป็นเรื่องของการต่อสู้ทางการธุรกิจ การเงิน โลกสังคมการทำงาน ที่บางทีมันก็ดูเป็นมายาเอามากๆ เราจะได้รู้ว่าทุกสิ่งนั้น มันไม่ได้จีรังยั่งยืนอะไรเลย เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็เหมือนหัวโขน พี่ตินคิดว่านางเอกซึ่งตอนแรกทะเยอทะยานอยากได้อยากมี และเชื่อเอามากๆ ว่าถ้าตัวเองทำได้ จะดีต่อชีวิต ก็ได้เรียนรู้ว่าชีวิตนั้นมีอะไรที่มากกว่าการงาน

            จะว่าไปแล้ว ใต้ปีกรักสีเพลิงเป็นการเรียนรู้ตัวตนของนางเอก ที่จะต้องหาจุดแพ้ของตัวเอง และยอมรับมันให้ได้ คือจะแพ้หรือชนะในเรื่องหน้าที่การงานนั้นไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าเรามีความสุขกับสิ่งที่เรามีอยู่ในมือมากกว่า ความลับของสร้อยผีเสื้อที่นางเอกได้จากชายแปลกหน้าก็คือสิ่งนั้นน่ะแหละ
            สรุปปิดท้าย หลังอ่านเรื่องนี้จบไป พี่ตินคิดว่าธรรมชาติให้รางวัลกับมนุษย์ด้วยการให้มนุษย์ทุกคนรู้จักเก็บงำความคิดไว้ในใจ เพราะถ้าทุกคนพูดสิ่งที่คิดออกมาหมด โลกเราคงจะต้องแตกอย่างแน่นอน ก็ไม่รู้สินะว่าถ้าพี่ตินได้สร้อยเส้นนั้นมา แล้วทุกคนรู้ความคิดที่แท้จริง คนจะเกลียดพี่ตินมากแค่ไหน (หัวเราะหึๆๆๆๆ ในคออย่างนางปีศาจร้าย)
 

เริงราตรีสีขาว  ภาวิน

เรื่องย่อ : ชีวิตเธอมันห่วย! ณราตรีรู้สึกเช่นนั้นมาตลอด มีแม่แม่ก็คบชู้สู่ชายจนเกิดเรื่องอื้อฉาว สุดท้ายก็ผูกคอตายหนีอาย มีพ่อ พ่อก็จงเกลียดจงชังมาตั้งแต่เด็ก เธอเผชิญชีวิตอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวดเพียงเดียวดายมาตลอด ยิ่งรู้สึกย่ำแย่จนเกินเยียวยา เมื่อวันหนึ่งคนเป็นพ่อพูดใส่หน้าเธอว่า “ใช่ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก แกไม่สมควรเกิดมาเป็นลูกฉันเลยจริงๆ” ฟางเส้นสุดท้ายจึงสะบั้นลง!

สีขาวอมเขียวทำให้พี่ตินนึกถึง : ความโรแมนติก อ่อนโยน นุ่มนวล เหมือนสายน้ำที่ใสไหลรินหรือท้องฟ้ากว้าง ป่าที่มีต้นไม้เรียงเป็นแถวเป็นแนว ธรรมชาติที่งดงามยามราตรีเยือกเย็น สงบนิ่ง แม้อาจดูน่ากลัวหรืออันตรายไปบ้าง แต่ก็มีเสน่ห์ชวนให้ค้นหา

สิ่งที่พี่ตินได้จากการอ่าน : ลูกคนกลาง ฝรั่งเขาว่ามักจะอาภัพกว่าเพื่อน แต่เล่มตรงกลางเล่มนี้ ไม่ใช่แฮะ!

            ตัวละครที่เด่นที่สุดในเริงราตรีสีขาว คือนางเอกของเรา ชื่อ ณราตรี (เป็นญาติของณจันทร์ นางเอกปมแค้นซ่อนรักของพี่ตินแน่ๆ 55) ชื่อเพราะมาก พี่ตินชื่นชอบ ฟังแล้วนึกถึงผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง น่ารัก เท่ และมีเสน่ห์ ซึ่งเมื่ออ่านไปแล้ว ณราตรีเธอก็เท่สมชื่อจริงๆ น่ะแหละ

            เปิดเรื่องมา ณราตรีคือผู้หญิงที่ขาดความรัก แม้ครอบครัวจะใหญ่ จะมีเงินมีทอง แต่เธอกลับไม่รู้สึกอบอุ่นหรือรู้สึกว่ามีใครรัก เธออยากทำงานให้กับกิจการของตระกูล นั่นคือเนเชอรัลเฮลธ์ ซึ่งเกี่ยวพันกับการปรุงยา ขายยาสมุนไพร แต่ปรมัตถ์พ่อแท้ๆ กลับไม่ยอมให้เธอทำ (ทำไมกันนะ)

            ประวัติสั้นๆ แม่ของณราตรีผูกคอตาย พ่อแต่งงานใหม่กับสาวใหญ่และมีลูกสาวอีกคนชื่อพรไพลิน ซึ่งสวยเริดเชิดหยิ่ง ปทุมทองคือประมุขประจำตระกูลฝ่ายหญิง แม่ของปรมัตถ์ เธอรักลูกชายคนเดียวคนนี้มากจนยอมตามใจไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งๆ รู้ว่าลูกชายไม่ได้ความในเรื่องการงาน เธอก็พร้อมช่วยเหลือและหนุนหลัง คนในตระกูลธนาธิปล้วนแต่นิสัยเหลือกำลังรับกันทุกคน แต่ณราตรีก็รักและเข้าใจสมาชิกทุกคนในครอบครัว ทว่าคนเหล่านั้นสิ ไม่เห็นตัวตนของเธอ ความกดดันลึกๆ ในใจระเบิดออกจากคำไล่ของบิดาเพียงคำเดียว ณราตรีก็ตัดสินใจออกจากบ้าน

            การเดินทางของณราตรีเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่จุดนั้น เธอขึ้นเชียงรายและได้พบ ศาศวัต พระเอกของเรื่องที่มีเบื้องหลังชีวิตดราม่าทีเดียว เมื่อแรกเกิด เขาได้รับคำทำนายว่า “สตรีผู้มีชะตาผูกพันจะพรากชีวิตเจ้าให้สั้นลง” คำพูดประโยคนี้ทำให้คนอ่านแน่ใจว่าความรักของทั้งคู่จะต้องมีอุปสรรคอย่างแน่นอน แล้วก็ใช่จริงๆ แต่ก็นะ ความรักทุกความรักต้องมีอุปสรรคอยู่แล้วจริงไหม อย่างแรกเลยคือศาศวัตกำลังทดลองยาสมุนไพรให้กับบริษัทคู่แข่งของนางเอก นั่นก็คือพวกเวชกุล (จะไปปรากฏในเรื่องเงารักสีน้ำเงิน) แค่นี้ก็ทำให้การเจอกันกลายเป็นเรื่องซับซ้อนได้มากพอแล้ว อย่างที่สองคือถ้าศาศวัตเชื่อในคำทำนายและไม่กล้ารักผู้หญิงคนไหนล่ะ เขาจะพัฒนาความสัมพันธ์กับณราตรีได้อย่างไรกันหนอ

            สิ่งที่จับได้จากหนังสือเรื่องนี้คือ เรื่องของคำทำนาย พระเอกเกิดมาพร้อมคำทำนายอันเลวร้าย แต่... จำเป็นหรือที่เขาจะต้องเชื่อในสิ่งนั้นจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย บางครั้ง แม้ชะตาอาจถูกกำหนดไว้ แต่มนุษย์เรานั้นมีสิทธิที่จะฝืนและสร้างหนทางด้วยตัวเองใช่ไหม บางทีพี่ตินเองก็คิดๆ อยู่นะว่า คนบางคนไปหาหมอดูแล้วหมอดูมาทำนายว่าเราจะตกยาก อับจน ยากจน แทนที่จะสู้ชีวิต ก็ปล่อยปละละเลยไป แล้วบอกตัวเองว่าก็เขากำหนดมาแบบนี้ ดวงเป็นอย่างนี้ จะฝืนดวงทำไม ไม่ทำอะไร ปล่อยชีวิตตกต่ำ หรือคนรวย ได้รับคำทำนายว่าจะรวยจะสบาย ก็เลยไม่ทำงานทำการ อยู่เฉยๆ แล้วหวังให้เงินไหลมาเองงั้นหรือ

            ข้อคิดที่เราได้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ เกิดมาเป็นคน ต่อให้ชะตาชีวิตเป็นอย่างไร เราก็ควรต้องกำหนดด้วยตัวเอง และต่อสู้ด้วยตัวของเราเอง อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ ณราตรีเป็นตัวอย่างที่ดีมาก เป็นตัวละครที่เกิดมาพร้อมความผิดหวังและชีวิตที่โหดร้าย แต่เธอก็เลือกจะฝ่าฟันต่อ และเดินหน้าด้วยสองขาและสองมือของเธอ ศาศวัตเองก็เช่นกัน เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักและอบอุ่น ปกติแล้ว พี่ตินไม่ชอบอ่านนิยายพระเอกอบอุ่น แต่พี่ตินชอบผู้ชายคนนี้นะ ตอนอ่านรู้สึกได้เลยว่าคำว่าเนื้อคู่มันเป็นอย่างไร ความรักของเขากับนางเอกมันก่อตัวช้าๆ แต่หนักแน่นและมั่นคง ไม่มีความเข้าใจผิด ไม่มีดราม่า ไม่มีเจ็บปวด แต่ก็เป็นความรักประเภทรักซึมลึกที่กินใจและงดงามมาก

            อีกเรื่องที่เราได้จากการอ่านคือ ความรักและเกลียดนั้น ดูจะมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนได้มากเหลือเชื่อ ตัวละครในเรื่องเริงราตรีสีขาวใช้ชีวิตโดยขึ้นอยู่กับอารมณ์ ไม่รักก็เกลียด อารมณ์สองอย่างนี้เป็นพลังที่รุนแรงมาก ส่งให้เราทำอะไรได้โดยไม่มีสติยั้งคิด และมันก็ส่งผลกระทบต่อคนอื่นรอบตัวไปเสียหมด สำหรับพี่ตินนั้น ความรู้สึกเป็นเรื่องห้ามไม่ได้ คนเรารู้สึกได้ แต่ควรจะ ‘เลือก’ ที่จะแสดงออก และอย่าปล่อยให้ความรู้สึกนั้นกลืนกินตัวตนของเรา เพราะเมื่อใดที่เราปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำได้ การกระทำของเราจะผิดเพี้ยนไปหมด เลือกที่ ‘รัก’ และ ‘เกลียด’ อย่างพอเหมาะจะดีที่สุด พี่ตินชอบที่คนเขียนให้ ‘เหตุ’ และ ‘ผล’ ในการกระทำของตัวละครได้ดี ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง และทุกการกระทำก็ตอบสนองตัวของตัวเองเช่นกัน

            คำเตือนอีกอย่างคือระหว่างที่อ่าน “อย่าเชื่อในสิ่งที่คิด” เพราะคนเขียนผูกเรื่องได้สลับซับซ้อนมาก มีปมหลายปมพันกันยุ่งเหยิงอยู่ คนอ่านต้องค่อยๆ แก้ไปทีละเปลาะๆ กว่าจะถึงตอนจบ และถึงบางอ้อ แล้วร้องว่า “อย่างนี้นี่เอง” ก็ใช้เวลานานจนเกือบจะจบเรื่องอยู่นะ ถือว่าเป็นนักเขียนที่วางกับดักไว้ดีมาก ทำเราเกือบตกหลุมได้หลายครั้งทีเดียวละ เอาเป็นว่าตัวละครมากี่ตัวๆ สงสัยไว้ก่อนให้หมดนะ 555

            สรุปก็คือเริงราตรีสีขาวเป็นนิยายที่ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยอารมณ์ และแสดงถึงนิสัยของมนุษย์ได้ดี ใครอยากศึกษามนุษย์ ก็ลองอ่านดูจ้ะ รับรองไม่ผิดหวัง
 

เงารักสีน้ำเงิน  อสิตา


เรื่องย่อ : ...รู้หรือเปล่า...ความทรงจำแห่งรักอันตรายนั้นไม่ได้เลือนหายไปไหน แต่มันอาจซ่อนตัวแฝงเร้นอยู่ใกล้ๆ แค่เพียง...เงา วนัสสาตื่นขึ้นมาพบว่าความทรงจำของเธอหายไปถึงสองเดือน แต่สิ่งที่เพิ่มมาอย่างน่าฉงนคือรอยสักรูปปีกผีเสื้อตรงกลางหลัง กับกระดาษแผ่นเดียวในมือและข้อความอันเป็นเบาะแส เธอคือผีเสื้อ… แต่ใครกันคือดอกไม้ของเธอ? คือคนรักที่เธอหลงลืมไป? จะเป็นนวาระหนุ่มหน้าสวยแสนเจ้าเล่ห์ผู้มีรอยสักรูปดอกกุหลาบ เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินเข้มลึก สะท้อนเงารื่นเริงอบอุ่นอย่างวาริช หรือเขา...ใครบางคนที่มีลับลมคมในจนชวนฝัน ทั้งยังมีชื่อเป็นความหมายของสีสัน อย่างคราม

สีน้ำเงินทำให้พี่ตินนึกถึง : ความลึกลับซับซ้อน ความสับสนไม่แน่ใจ ความหวาดกลัว หวาดผวา ลังเล ไม่อาจตัดสินลงไปได้ง่ายๆ หรือถ้าคิดตัดสินไปแล้ว ก็ไม่อาจตกลงปลงใจ ต้องยั้งใจไว้หลายครั้งว่าเราคิดถูกหรือไม่ การเลือกนั้นทำได้ยาก แต่เมื่อทำได้แล้ว ก็จะชัดเจนและไม่เปลี่ยนแปลงอีกเลย

สิ่งที่พี่ตินได้จากการอ่าน : อย่างแรกที่สะดุดใจคือหัวข้อในแต่ละตอน ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ความทรงจำ” ทำให้สัมผัสได้ว่าธีมของหนังสือเล่มนี้คงเกี่ยวข้องกับความทรงจำเป็นแน่ แล้วก็เป็นความจริง เพราะ วนัสสา นางเอกของเรื่อง (ที่คนเขียนบรรยายได้เห็นภาพมากว่าเป็นสาวผิวขาวอมชมพู ผมสีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาโตเหมือนตุ๊กตา) ดูจะมีชีวิตที่เกี่ยวพันกับความทรงจำทั้งสิ้น เปิดเรื่องมา เราก็พบว่าภารกิจของเธอคือการเดินตามหาความทรงจำที่หายไป การเดินทางนำเธอให้พบกับผู้ชายสามคนสามแบบที่ต่างก็มีความลึกลับอยู่ในตัวและเกี่ยวข้องกับสีน้ำเงินทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น หมอวาริช สัตวแพทย์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน นวาระ หนุ่มชื่อแปลก (แปลว่ากุหลาบ พี่ตินบังเอิญรู้) ผู้มีรอยสักสีน้ำเงิน และสุดท้าย อินดิโก้ ชาง หรือชื่อไทยว่าคราม ดีไซเนอร์หนุ่มหล่อที่แค่ชื่อก็น้ำเงินแล้ว ไม่ต้องหาอะไรมาเปรียบอีก มีคำเปรียบเปรยในเรื่องที่คนเขียนว่าไว้ว่าวนัสสาคิดเสมอมาว่าตัวเองมีเลือดสีน้ำเงิน ดังนั้น เมื่อน้ำเงินมาเจอน้ำเงิน เธอจะต้องเป็นฝ่ายชนะ!

            วนัสสา เป็นผู้หญิงที่ถือดีและมีเสน่ห์ มีความหยิ่งอยู่ในตัว เลือดสีน้ำเงินที่อสิตาว่าไว้คงหมายถึงสิ่งนี้ (พี่ตินตีความเอาเอง ผิดถูกไม่รู้) พี่ตินชอบความใจกล้าของเธอ และที่ชอบมากอีกอย่างคือภาษาในบางจังหวะ ที่ดูนุ่มนวลบอบบาง อ่านแล้วรู้สึกไหลลื่นเหมือนกำมะหยี่ แต่ขณะเดียวกัน บางจังหวะก็มีความเปรี้ยวแทรกลงมาด้วย ซึ่งคงเป็นบุคลิกของนางเอกน่ะแหละ ดูบอบบางแต่ลึกลงไปแล้วใจกล้าและไม่ยอมคนนะ สำนวนการอ่านทำให้พี่ตินเพลินมาก ถ้าหากว่ากำลังคุยกับใครสักคน พี่ตินคิดว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้คุยกับผู้หญิงที่มีประสบการณ์มาก จนมีเสน่ห์ชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่เคยลืมวัยเยาว์ มันมีทั้งความจัดเจนรู้ทันโลก และความไร้เดียงสาในสำนวนที่ได้อ่าน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นเป็นสไตล์ของคนเขียนนามปากกาอสิตาคนนี้

            นอกจากสำนวนต่างๆ ดังที่พี่ตินวิจารณ์ ในเรื่องก็ยังมีการแทรกแนววิทยาศาสตร์เข้ามาด้วย ตระกูลของวนัสสา ทำงานเกี่ยวข้องกับยาสมุนไพร และการทดลองหลายๆ อย่าง (เอาจริงๆ บางอารมณ์อ่านไปพี่ตินไพล่ไปนึกถึงไบโอฮาซาร์ด และมิลล่าโจโววิช แม่อลิซ สาวสุดแกร่งเท่อยู่นะ) ซึ่งอลังการและน่ากลัวจนขนลุกในบางเวลา ตัวนางเอกเองก็เข้าร่วมการทดลองกับเขาด้วย (น่าน ยิ่งชวนให้นึกถึงไบโอเข้าไปใหญ่เลยย) เนื่องจากเธอต้องการตามหาพ่อ ดังนั้นจึงถูกบังคับให้เซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงการ “ยาเร่งจิต” ที่ถ้าฉีดเข้าไป ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาสมรรถภาพของความคิดและการทำงานของสมอง แต่ยาดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการทดลอง ไม่รับรองความปลอดภัย และด้วยพลังของยานี่เอง ทำให้เธอต้องสูญเสียความทรงจำ และต้องออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริง แต่จะทำได้หรือไม่ คงเป็นเรื่องความแกร่งของกายและใจของเจ้าตัวเอง ที่คนอ่านก็ได้แต่ลุ้นและเอาใจช่วยไปตามทาง

            สรุปคร่าวๆ แล้ว เงารักสีน้ำเงินทำให้เรารู้สึกเหมือนเดินเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่สับสนอันตราย แต่ก็น่าค้นหาและน่าเดินต่อไป ตอนอ่าน พี่ตินรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปในป่าที่มืดและเต็มไปด้วยต้นไม้หงิกๆ งอๆ น่ากลัว แต่บรรยากาศรอบตัวกลับดึงดูดชวนให้อยากเดินลึกเข้าไปอีกๆๆๆๆ เพราะอยากรู้ว่าที่สุดปลายทางจะเจออะไร และมันจะคุ้มค่าพอสำหรับการเดินทางนี้หรือไม่ แล้วสามหนุ่มสามมุมนั่น ใครกันจะเป็นเนื้อคู่ที่แท้จริงของวนัสสา และความลับอะไรที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังหน้าหล่อๆ สามหน้านั้น

            ใครอยากผจญภัยในป่าด้วยกัน... ก็จูงมือกันตามมา
 

            พี่ตินรีวิวมาเสียยืดยาว ก็ขอปิดท้ายว่าถ้าหากใครมีเวลาและอยากหางานเขียนที่มีเสน่ห์ แปลก ไม่เหมือนใคร เรียกได้ว่าแทบหาไม่ค่อยได้แล้วในวงการหนังสือตอนนี้ ก็ขอให้หยิบหนังสือชุดผีเสื้อกลับบ้านไปอ่าน

            ถ้าหากไม่พร้อมจะหยิบ 3 เล่มเพราะราคาหรืออะไรก็ตาม สามารถหยิบแยกได้ตามความชอบใจเลยจ้า

            ถ้าชอบสดใส ชัดเจน ตรงไปตรงมา แนะนำใต้ปีกรักสีเพลิง รู้จัก สิริณ เพิ่มเติมได้ที่นี่
            ถ้าชอบซาบซึ้ง โรแมนติก อบอุ่น แนะนำเริงราตรีสีขาว รู้จัก ภาวิน เพิ่มเติมได้ที่นี่
            ถ้าชอบลึกลับ น่าค้นหา น่าติดตาม แนะนำเงารักสีน้ำเงิน รู้จัก อสิตา เพิ่มเติมได้ที่นี่

อตินเอง
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
Seesor Member 8 พ.ย. 56 22:23 น. 5

โอย เห็นแล้วหัวใจกระตุก

สีสวยมากกกกกกกกกกกกกกกก ปกสวยสุดยอด ชื่อเรื่องเพราะมาก เนื้อเรื่องก็น่าอ่านสุดๆ 

อยากได้ๆๆๆๆๆ!~

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Seesor Member 8 พ.ย. 56 22:23 น. 5

โอย เห็นแล้วหัวใจกระตุก

สีสวยมากกกกกกกกกกกกกกกก ปกสวยสุดยอด ชื่อเรื่องเพราะมาก เนื้อเรื่องก็น่าอ่านสุดๆ 

อยากได้ๆๆๆๆๆ!~

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
sweethaze(หมอกหวาน) Member 14 พ.ย. 56 19:14 น. 9

นวาระ แปลว่า กุหลาบ เป็นชื่อที่แปลกครับ เคยเจอชื่อนี้ครั้งแรกตอนอ่านงานของว.วินิจฉัยกุล เรื่อง กลิ่นกุหลาบ นวาระเป็นนางเอก มีพี่สาวฝาแฝดชื่อวิรังรอง แปลว่า ดอกพลับพลึง (ชื่อนี้ก็แปลก แต่เพราะ ชอบ) พระเอกชื่อลอลักษณ์ แปลว่า รูปเหมือนพระลอ แหม ถ้ามีลูกชายจะให้ชื่อนี้เลย ฮ่าๆๆ เย้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด