สวัสดีปีใหม่ค้าบน้องๆ ทุกคน สำหรับเดือนนี้ เรามีหนังสือดีๆ มาแนะนำกันเช่นเคย และเมื่อเป็นช่วงปีใหม่ ก็ต้องเลือกหนังสือที่โดดเด่นกันหน่อยจริงไหม

            หนังสือที่ถูกเลือกเดือนนี้ชื่อไทยเพราะมาก ฟังแล้วนึกถึงวรรณกรรมเยาวชนบางเรื่อง “แด่เด็กชายผู้เฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิ”  ผลงานจากสำนักพิมพ์ Enter Books โดยผู้เขียนมีนามปากกาสั้นๆ ว่าฝุ่น (พี่ตินเรียกหนูฝุ่น เพราะมันน่ารักและเข้ากับเรื่องดี - - ตรรกะของอตินคนเดียว 55)

            เรื่องย่อสั้นๆ สรุปได้ว่า

            ตัวละครเด่นคือเซเบอร์ เนียร์ ผู้เสียครอบครัวไปในอุบัติเหตุ และต้องมาอาศัยอยู่กับโรฮาน ผู้เป็นอา ในร้านหนังสือเล็กๆ

            วันหนึ่ง เซเบอร์ได้เจอห้องสมุดที่ชั้นใต้ดิน และพบหนังสือที่ว่างเปล่าชื่อสะดุดตา “แด่เด็กชายผู้เฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิ” แต่เมื่อเปิดกลับพบว่าหนังสือว่างเปล่า

            โรฮานเล่าให้เซเบอร์ฟังว่าบนโลกนี้มีหนังสือที่ถูกเขียนด้วยความรู้สึกแรงกล้าจนตัวละครในนั้นมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ และหน้าที่ของโรฮานก็คือต้องผนึกตัวละครพวกนั้นให้กลับเข้าไปในหนังสือดังเดิม อาชีพของโรฮานชื่อแปลกพิกลและเท่มาก “นักล่าหนังสือ”

            เซเบอร์ทำงานช่วยโรฮาน และได้พบว่าแท้จริงแล้วหนังสือ “แด่เด็กชายผู้เฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิ” นั้นมีความลับที่เกี่ยวข้องกับใครคนหนึ่ง และใครคนนั้นใกล้ตัวกว่าที่เขาคิดไว้
 

            หลังจากอ่านจบ สิ่งที่พี่ตินขอสรุปว่า... (ไม่อาจสรุปได้มากเพราะกลัวคนเขียนด่าหาว่าสปอย เขาอุตส่าห์เขียนซ่อนปมลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนเอาไว้) เรื่อง “แด่เด็กชายผู้เฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิ” นี้ เหมือนเราคลำมือไปตามเส้นเชือกเส้นหนึ่ง แล้วเมื่อมาถึงตรงกลาง เราได้พบปมๆ หนึ่งขมวดอยู่ ไปต่อไม่ได้ เมื่อถึงจุดนี้ สิ่งที่คนอ่านต้องทำก็คือ ค่อยๆ แกะปมช้าๆ ปมนั้นไม่หนามาก แกะไม่ยาก แต่คิดว่าต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเส้นเชือกนั้นพันไว้ละเอียดพอใช้ แต่เมื่อแกะสำเร็จ เราจะสามารถเข้าใจตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดได้จบสิ้น

            และปมนั้นเอง เป็นหัวใจหลักของเรื่อง ซึ่งพี่ตินบอกได้เลยว่า คนเขียนเขาทำได้ละเอียดและลึกซึ้งทีเดียว มีความเป็นมนุษย์ ความผิดพลาด ความหวัง ความฝัน และความรักที่แสนจะอบอุ่นซุกซ่อนอยู่ในนั้นครบถ้วน

            การบ้านก็คือ ขอให้น้องๆ หาปมปมนั้นให้เจอนะจ๊ะ

            สำหรับพี่ติน หนังสือเล่มนี้คือวรรณกรรมเยาวชนที่มีการผสมผสานระหว่างภาพยนตร์ Inkheart ที่ตัวละครในเรื่องสามารถกลายเป็นคนจริงๆ ขึ้นมาได้ และหนังสือชื่อดังที่พี่ตินรักมาก The Never Ending Story ตำนานไม่รู้จบ ที่มีจินตนาการเท่ที่สุดในโลกนี้ จนกลายเป็นแฟนตาซีครอบครัวที่มีรสชาติกลมกล่อม ได้รสและได้กลิ่นความแปลกใหม่แตกต่างจากแฟนตาซีชนิดอื่นๆ พอสมควร ตัวละครยังมีการตามหาตัวเองก็จริง แต่พวกเขาไม่ได้ตามหาเพื่อเติบโต แต่ตามหาเพื่อค้นพบความลับบางอย่าง และความลับนั่นแหละ คือหัวใจสำคัญของโลก และทุกสิ่งทุกอย่าง

            และแม้ว่าตอนสัมภาษณ์ คนเขียนจะปฏิเสธขันแข็งว่าผลงานของตัวเองไม่น่าจะใช่แฟนตาซีครอบครัว แต่เป็นเหมือน Life of Seber (Life of Pi) เสียมากกว่า แต่พี่ตินก็ขอยืนยันอย่างแน่วแน่ว่าเรื่องนี้นี่หละแฟนตาซีครอบครัวของแท้ ใครชอบเรื่องอ่านง่าย อบอุ่น ไม่หนัก และไม่เบาจนเกินไป และสุดท้าย เน้นความสำคัญและความรักของครอบครัว ขอให้หยิบเล่มนี้ Life of Seber เอ้ย ม่ายช่าย The Story of Seber แด่เด็กชายผู้เฝ้ารอฤดูใบไม้ผลิ มาอ่านกันนะ พี่ตินคิดว่าน่าจะชอบ