สวัสดีครับ ลุ้นกันมาทุกปีสำหรับคะแนน O-NET ม.6 ว่าจะถึงครึ่งหรือไม่ ? ล่าสุดผลคะแนนปี 2556 (สอบ ก.พ.57) ได้ประกาศออกมาแล้วครับ เห็นผลแล้วงานหลังไปตามๆ กัน
โดยพบว่าจากทั้งหมด 8 วิชา มีถึง 7 วิชาที่สอบตก (คะแนนเฉลี่ยไม่ถึงครึ่ง) ขณะที่วิชาสุขศึกษา เป็นวิชาเดียวที่มีคะแนนเฉลี่ยเกินครึ่งอยู่ที่ 62.03 คะแนน นอกจากนี้ทางด้านค่า Max (คะแนนสูงสุด) และค่า Min (คะแนนต่ำสุด) ยังพบอีกว่า มีวิชาคณิตศาสตร์วิชาเดียวที่เด็กไทยสามารถทำคะแนนได้เต็ม 100 คะแนน ขณะที่อีก 5 วิชา อาทิ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ศิลปะ และการงานอาชีพ มีนักเรียนทำได้ 0 คะแนน
นอกจากนี้ เว็บเด็กดียังได้นำคะแนน O-NET ปีนี้ ไปเทียบกับปีก่อน ซึ่งพบว่า มี 4 วิชาที่คะแนนค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและลดลง วิชาที่เพิ่มขึ้นนั้นคือ วิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้น +2.07 คะแนน, วิชาสุขศึกษา +8.33 คะแนน, วิชาการงานอาชีพ +4.22 คะแนน และวิชาภาษาอังกฤษ +3.22 คะแนน ส่วนวิชาที่ลดลงมี 4 วิชา คือ วิชาคณิตศาสตร์ -2.25 คะแนน, วิชาวิทยาศาสตร์ -2.62 คะแนน, วิชาสังคมศึกษา -3.25 และวิชาศิลปะ -3.73 คะแนน
ค่า Max-Min O-NET ม.6 (เต็ม 100 มีวิชาเดียวคือเลข ส่วน 0 คะแนนมี 5 วิชา)
สำหรับคะแนนสอบ O-NET ม.6 ในปีนี้นอกจากจะนำไปเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกแอดมิชชั่นกลางเข้ามหาวิทยาลัยมากถึง 30% แล้ว ยังถูกนำไปคิดรวมกับเกรดเฉลี่ยจบ ม.ปลาย อีกด้วย ซึ่งคาดว่าปีนี้เกรดจบ ม.6 ของน้องๆ หลายคนคงถ่วงลงกันน่าดู
ใครที่เล่นทวิตเตอร์ มา Follow ตามข่าวแอดมิชชั่นกับพี่ได้ทาง @lataedekd
43 ความคิดเห็น
เห็นคะแนนแล้วอยากเป็นลมอะ 555555
ขอระบายหน่อย เกี่ยวกับโอเน็ตนี้แหละ
คนที่ได้คะแนนเยอะๆก้มีนะ ทำไมชอบมาโฟกัสอยู่กับที่เด็กที่ได้คะแนนน้อยๆด้วยไม่เข้าใจ???
ข่าวก้ชอบเอาไปลงจังเลย แถมพาดหัวข่าวซะใหญ่โต เหมือนภาคภูมิใจมากกกกก
สงสัยอยากให้คนต่างชาติมองเราว่าเป็นเด็กที่ไร้คุณภาพ ไร้การศึกษางั้นหรอ
ผมขอฝากไปถึงนักข่าวหน่อยครับ เด็กที่ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมีตั้งเยอะตั้งแยะ
แต่ทำไมลงข่าวแค่ช่องที่อยู่ตรงซอกหลืบในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์...
ก็มันมีตั้งห้าตัวเลือกอ่ะ มันก็ต้องลดอยู่แล้วถูกป้ะ เดาไม่ได้หรอก แล้วก็คะแนนส่วนแปลกๆอะไรอีกก็ไม่รู้มากมาย หนูทำไม่ได้นี่ความผิดหนูเหรออ
มันก็น่าลด อยู่แระ ข้อสอบอะไรก็ไม่รุ
แก้ไขมาตรฐานการศึกษาไทยใหม่ให้เหมือนกันทั้งประเทศจะดีกว่ามั๊ย ?
แต่ละโรงเรียนน่ะเรียนมาไม่เหมือนกัน แล้วมาให้สอบข้อสอบกลาง
ก็เหมือนจับวัวมาสอนให้กินเนื้อ
ถ้าผู้ใหญ่บางคนน่ะไปทำข้อสอบเองแหละจะรู้ว่าทำไมคะแนนถึงเป็นแบบนี้ ไมใช่พอคะแนนออกมาต่ำก็ว่าอย่างเดียว
#การศึกษาไทยตอนนี้มาตรฐาต่างกันนะ
ก็ดูข้อสอบ
ถาม moonlight sonarta มาหาไรไม่รุ้ ถามหน่อยหน้าเราเหมือนนักดนตรีรึไง
ไม่รู้จะพิมพ์ไรดี เป็นเเค่เด็กศิลป์ เจอ ข้อสอบ คณิต(มีเเต่เรื่องไม่เคยเรียน) วิทย์(อันนี้ยิ่งเเล้วใหญ่ อะไรก็ไม่รุ้ บ้างข้อก็ทำได้) ซื้อหนังสือมาติวเองก็ยังเข้าใจรำบาค อยากเรียนพิเศษ ก็ไม่มีงบ = = เเต่ละ ร ร ก็สอนไม่เหมือนกัน
เเต่ก็พอใจกับคะแนนของตัวเอง 
เพราะเราทำมันเต็มที่แล้ว
เเต่ก็ไม่โทษ ร ร หรืออะไรทั้งนั้น โทษตัวเองเนียเเละที่ไม่ตั้งใจเอง เเหะๆ
แม่ง ยากไปน้ะ ลองเอาคุณครู ทั้ง 8 สาระ มาทำข้อสอบ ดิ อยากจะรู้คุณครูจะได้เต็มกันมั้ย
มันคือข้อสอบตัดอนาคต สอบได้ครั้งเดียวในชีวิต มันไม่ได้วัดได้เลยว่าใครตั้งใจเรียนในห้อง เพราะข้อสอบที่ออกในห้องมันไม่มีสอน
คือแบบว่าเฟลกับข้อสอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆถึงมากที่สุดเลยน่ะเพราะข้อสอบที่ออกแต่ล่ะวิชานั้นล้วนแต่เรียนมาแล้วทั้งสิ้น อันนี้ยอมรับว่าจริง แต่ตลอดระยะเวลาสามปีจะให้เราจำได้หมดได้ไงค่ะ บางวิชาอย่างคณิตและวิทย์ก็เป็นข้อสอบที่เด็กสายวิทย์หรือคณิตเรียนมา แล้วเด็กสายศิลป์ล่ะ และอีกอย่างการเรียนการสอนของแต่ล่ะโรงเรียนแตกต่างโดยสิ้นเชิง ซึ้งเป็นธรรมดาที่เด็กโรงเรียนดังๆจะได้คะแนนเยอะ และอีกอย่าง ข้อสอบนี้เราไม่รู้เลยว่าจะออกอะไรบ้าง จะให้จำไปหมดทุกอย่างก็ทำไม่ได้ แต่ล่ะปีก็เรียนหนักพอสมควรแล้ว คงไม่แปลกที่วิชาสุขศึกษาและพละที่ได้คะแนนเยอะ เพราะมันเป็นเรื่องรอบตัว เเรื่องกีฬา ซึ่งเราพบในชีวิตประจำวัน ถึงไม่ได้เรียนก็ศึกษาได้จากข่าวกีฬาทั่วไป และอีกวิชาหนึ่งที่ดูจะเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายเลยนั้นก็คือ วิชาศิลปะ โอ้โห้...................... โคตรยากเลยบอกตรงๆค่ะ บางขอไม่เคยเรียนมาด้วยซ้ำค่ะ
ขอเห็นต่างได้ไหม T_T
เราว่าข้อสอบปีนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเลยนะ ถึงข้อสอบมันมีปัญหา มันก็คงไม่มีปัญหาถึงครึ่งหรอกใช่มะ? จะบอกว่าข้อมีปัญหา คะแนนก็เลยน้อยเราว่าไม่ใช่
อาจจะมีบ้างที่โจทย์ไม่เคลียร์ แต่ก็เป็นส่วนน้อย ไม่มีผลต่อคะแนนมากมายขนาดนั้น
ข้อสอบก็ออกตรงกับหลักสูตร ได้เรียนมา (ยกเว้นพวกศิลปะ การงาน) เพราะว่าเราไม่เคยเรียนทฤษฎีเลย (มีหนังสือนะ แต่อาจารย์ไม่เคยใช้เลย ให้วาดรูปอย่างเดียว) เราว่ามันก็อยู่ในหลักสูตรแหละ แต่อาจารย์/โรงเรียนไม่หยิบมาสอน แล้วพวกวิทย์คณิตเนี่ย เราเด็กศิลป์นะ ตอนแรกคิดว่าทำไม่ได้แหง เข้าไปดิ่งดีกว่า ไม่เคยเรียนจะทำได้ไง จะเอาอะไรไปสู้เด็กวิทย์ พอเข้าไปสอบจริงนี่แทบร้อง คณิตศาสตร์คือคณิตพื้นฐานที่เด็กศิลป์ได้เรียน วิทยาศาสตร์คือวิทย์พื้นฐานที่เด็กศิลป์ได้เรียน กลับบ้านมาเปิดหนังสือก็เจออ่ะ แต่เราไม่อ่านไปเอง ทำได้แค่เนื้อหา ม.6 เพราะเนื้อหา ม.4-ม.5 ไม่ได้อ่านไปเลย คิดว่าถ้าอ่านไปก็ดี - -;
สังคมเนื้อหาครอบคลุมค่อนข้างกว้าง (แต่มีในหนังสือหมดแหละ) คะแนนมันออกมาน้อยเพราะว่าไม่มีใครจำเนื้อหาได้หมดนั่นแหละ ก็แปลกใจว่าทำไมมีนมันถึงน้อยนัก เราเชื่อนะว่าถ้าอ่านไปก็น่าจะทำได้อย่างน้อยก็เกินครึ่งแหละ แต่เด็กที่เข้าไปดิ่ง เด็กที่ไม่อ่านมันเยอะกว่าเด็กที่ตั้งใจไง พอเฉลี่ยออกมามันก็เลยน้อย
ถ้าจะแก้ปัญหาเราว่าไม่จำเป็นต้องแก้ที่ข้อสอบ ถ้าบอกว่าเลิกๆ สอบไป จะกลายเป็นว่า "ประเทศเราไม่มีมาตรฐาน ไม่มีสอบระดับชาติเลย ถึงมี ข้อสอบก็กากๆ จะวัดอะไรได้?" ต้องให้โรงเรียนเข้มงวดกับการสอบโอเน็ต แล้วก็ต้องปลูกฝังเด็กให้รักเรียนตั้งแต่เล็กๆ โตไปจะได้ไม่ดิ่ง ส่วนสทศ.ก็มีหน้าที่ทำให้ข้อสอบง่ายลงกว่านี้หน่อย แต่ถ้าง่ายเกินไปมันก็จะวัดอะไรไม่ได้แหละ คือต้องสอนให้เด็กเข้าใจถึงความสำคัญของโอเน็ตอ่ะ อาจจะให้โอเน็ตมีความสำคัญมากกว่านี้ (เด็กจะได้ตั้งใจทำ) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ปรับสั.ดส่วนแอดนะ แค่ 30% นี่เยอะล่ะ แต่ทำอย่างอื่นให้มันสำคัญขึ้น เช่นกำหนดขั้นต่ำว่าไม่ถึงเท่านี้ยื่นมหาลัยนี้ไม่ได้ ตอนนี้ก็มีอยู่แต่ส่วนน้อยและส่วนมากก็เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียง คะแนนสูงอยู่แล้ว พวกเด็กที่ไม่ตั้งใจเลยไม่หวังตั้งแต่แรก หวังมหาลัยที่เขาไม่กำหนดขั้นต่ำ แล้วก็สอบเล่นๆ ไป
ไม่รู้นะ เรามองว่าเด็กผิดอ่ะ ไม่ใช่คนที่ได้คะแนนน้อยผิด (เพราะบางคนพยายามได้เท่านี้จริงๆ เขาก็ทำเต็มความหมายสามารถแล้ว) แต่คนที่ไม่ตั้งใจทำเลย โจทย์ไม่อ่านเลย เข้าไปกาเข้าไปดิ่งอย่างเดียวมันมีจำนวนเยอะกว่า คนที่ได้คะแนนน้อยก็เลยโดนเหมารวมไปหมด