สวัสดีค่าา แม้จะปิดเทอมแล้ว แต่น้องๆ หลายคนก็เหมือนไม่ได้หยุด เพราะคิวติวแน่นเอี๊ยดยันเปิดเทอม และยังมีน้องๆ เริ่มมาถามว่าพี่มิ้นท์แแล้วว่าเรียนพิเศษวิชาไหนดี? เรียนที่ไหนดี? เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่รู้จะรู้สึกยังไงดีค่ะ จะดีใจที่น้องๆ ขยันดีมั้ย หรือจะไม่สบายใจที่เดี๋ยวนี้กวดวิชากลายเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ต้องเรียน T^T
ซึ่งก่อนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ น้องๆ ต้องตอบคำถามพี่มิ้นท์ให้ได้ก่อนค่ะ เพื่อให้น้องๆ เช็คตัวเองว่า "เราต้องเรียนพิเศษจริงๆ เหรอ" หรือเราแค่เรียนตามกระแสเท่านั้น คำถามมีทั้งหมด 7 ข้อค่ะ ไปดูกันเลยจ้า
ซึ่งก่อนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ น้องๆ ต้องตอบคำถามพี่มิ้นท์ให้ได้ก่อนค่ะ เพื่อให้น้องๆ เช็คตัวเองว่า "เราต้องเรียนพิเศษจริงๆ เหรอ" หรือเราแค่เรียนตามกระแสเท่านั้น คำถามมีทั้งหมด 7 ข้อค่ะ ไปดูกันเลยจ้า
คำถามข้อที่ 1 : เรียนพิเศษเพราะอะไร
เป็นข้อแรกที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ น้องๆ มีเหตุผลมากพอที่จะต้องเสียเงินเรียนหรือเปล่า เช่น เรียนในห้องเรียนแล้วไม่รู้เรื่องเลย กลับมาอ่านเองยิ่งเหมือนตกนรกทั้งเป็น หรือ จำเป็นต้องเตรียมตัวสอบอะไรเป็นพิเศษ ถ้ายังตอบตัวเองไม่ได้หรือตอบได้ไม่เต็มปาก ประมาณว่าเรียนก็ได้ ไม่เรียนก็ได้, อยากเรียนเฉยๆ ตรงนี้พี่มิ้นท์แนะนำว่าหาหนังสือมาอ่านเพิ่ม หรือใช้เวลาช่วงปิดเทอมเข้าห้องสมุดเองก็ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องไปเรียนพิเศษหรอกค่ะ เพราะการต้องออกไปเรียนแต่เช้ากลับค่ำ แถมต้องไปอยู่ในสภาวะกดดันตามกวดวิชา บางทีก็ไม่ได้ผลเสมอไปนะคะ
คำถามข้อที่ 2 : พ่อแม่ต้องลำบากกว่าเดิมหลายเท่าไหม
กวดวิชาไม่ได้เรียนกันฟรีๆ นอกจากค่าเรียนแล้วที่ตกคอร์สละหลายพันแล้ว อย่าลืมว่ายังมีค่าหนังสือ(บางทีมีหนังสือเสริม) ค่าเดินทาง ค่าข้าวกลางวันของน้องๆ อีก ตกเฉลี่ยวันละ 100 บาท เดือนนึงก็ปาเข้าไปอย่างต่ำ 3,000 บาท ยิ่งถ้ากวดวิชาอยู่ย่านเจริญๆ ค่าครองชีพยิ่งแพงค่ะ นี่ยังไม่รวมค่าขนม หรือค่าแวะเที่ยวนะคะ ซึ่งรายจ่ายทั้งหมดนี้ก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้นแหละค่ะ
ดังนั้นก่อนจะเรียนพิเศษคิดสักนิดว่าคอร์สที่เราเรียนนั้นแพงเกินไปจนเดือดร้อนเงินในกระเป๋าพ่อแม่หรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นเรียนเท่าไหร่และก็เปลืองเงินคุณพ่อคุณแม่ด้วย ก็อ่านหนังสือเพิ่มเอาเองก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่เดือดร้อนและพ่อแม่ก็เต็มใจ๊เต็มใจให้เรียนหรือช่วยแบ่งเบาค่าเรียนพิเศษของพ่อแม่ได้ ก็เรียนได้เลยตามความต้องการ แต่ก็ต้องเรียนให้คุ้มค่าเงินด้วยนะ
กวดวิชาไม่ได้เรียนกันฟรีๆ นอกจากค่าเรียนแล้วที่ตกคอร์สละหลายพันแล้ว อย่าลืมว่ายังมีค่าหนังสือ(บางทีมีหนังสือเสริม) ค่าเดินทาง ค่าข้าวกลางวันของน้องๆ อีก ตกเฉลี่ยวันละ 100 บาท เดือนนึงก็ปาเข้าไปอย่างต่ำ 3,000 บาท ยิ่งถ้ากวดวิชาอยู่ย่านเจริญๆ ค่าครองชีพยิ่งแพงค่ะ นี่ยังไม่รวมค่าขนม หรือค่าแวะเที่ยวนะคะ ซึ่งรายจ่ายทั้งหมดนี้ก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้นแหละค่ะ
ดังนั้นก่อนจะเรียนพิเศษคิดสักนิดว่าคอร์สที่เราเรียนนั้นแพงเกินไปจนเดือดร้อนเงินในกระเป๋าพ่อแม่หรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นเรียนเท่าไหร่และก็เปลืองเงินคุณพ่อคุณแม่ด้วย ก็อ่านหนังสือเพิ่มเอาเองก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่เดือดร้อนและพ่อแม่ก็เต็มใจ๊เต็มใจให้เรียนหรือช่วยแบ่งเบาค่าเรียนพิเศษของพ่อแม่ได้ ก็เรียนได้เลยตามความต้องการ แต่ก็ต้องเรียนให้คุ้มค่าเงินด้วยนะ
คำถามข้อที่ 3 : เรียนเพราะตามเพื่อนหรือเปล่า
เห็นเพื่อนเรียนก็อยากจะเรียนตามเขา เพื่อนไปเรียนก็อยากไปนั่งเรียน นั่งเล่นกับเขา เพราะไม่อยากปิดเทอมอยู่บ้านเหงาๆ คนเดียว ส่วนเรื่องเรียนเป็นจุดประสงค์รองลงมา ใครมีความคิดแบบนี้อยู่บ้างคะ? ใครคิดแบบนี้อยู่แสดงว่าไม่ได้สนใจเรียนจริงๆ ก็เป็นเรื่องน่าห่วงนะคะ เพราะเรื่องเรียนสำคัญน้อยกว่าเพื่อน แนะนำว่าถ้าไม่อยากปิดเทอมอยู่บ้านคนเดียว นัดเที่ยวกับเพื่อนอาทิตย์ละครั้งก็ได้ค่ะ ส่วนวันอื่นๆ ก็อยู่บ้านดูทีวี อ่านหนังสือเล่นๆ ก็ผ่อนคลายสมองได้ดี
เห็นเพื่อนเรียนก็อยากจะเรียนตามเขา เพื่อนไปเรียนก็อยากไปนั่งเรียน นั่งเล่นกับเขา เพราะไม่อยากปิดเทอมอยู่บ้านเหงาๆ คนเดียว ส่วนเรื่องเรียนเป็นจุดประสงค์รองลงมา ใครมีความคิดแบบนี้อยู่บ้างคะ? ใครคิดแบบนี้อยู่แสดงว่าไม่ได้สนใจเรียนจริงๆ ก็เป็นเรื่องน่าห่วงนะคะ เพราะเรื่องเรียนสำคัญน้อยกว่าเพื่อน แนะนำว่าถ้าไม่อยากปิดเทอมอยู่บ้านคนเดียว นัดเที่ยวกับเพื่อนอาทิตย์ละครั้งก็ได้ค่ะ ส่วนวันอื่นๆ ก็อยู่บ้านดูทีวี อ่านหนังสือเล่นๆ ก็ผ่อนคลายสมองได้ดี
คำถามข้อที่ 4 : ไปเรียนแล้วจะโดดเรียนมั้ย
เหมือนคำถามสารภาพบาป ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากข้อ 1 และ 3 ค่ะ เพราะถ้าน้องๆ ไม่รู้ว่าตัวเองมาเรียนเพื่ออะไร หรือตามเพื่อนมาเรียน แน่นอนว่าคงเรียนอย่างไม่มีความสุข เรียนบ้าง โดดบ้างตามใจฉัน เปลืองเงินพ่อแม่แน่นอน ฉะนั้นก่อนลงเรียนพิเศษลองถามความรู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจตัวเองดูอีกครั้งว่าอยากเรียนพิเศษจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเรียนแล้วไม่รู้เรื่องจะแก้ปัญหายังไง จะโดดเรียนมั้ย ให้นึกตลอดว่าทุกๆ คาบเรียนคือ "เงิน" ของพ่อแม่ทั้งนั้น โดด 1 ครั้งก็เสียเงินฟรีไปหลายร้อย ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเรียนแล้วโดดแน่ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนค่ะ แต่ถ้ามั่นใจว่าเรียนแล้วคุ้ม ไม่โดด ไม่สาย ไม่ลาแน่ๆ ก็หาคอร์สเรียนได้เลย
เหมือนคำถามสารภาพบาป ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากข้อ 1 และ 3 ค่ะ เพราะถ้าน้องๆ ไม่รู้ว่าตัวเองมาเรียนเพื่ออะไร หรือตามเพื่อนมาเรียน แน่นอนว่าคงเรียนอย่างไม่มีความสุข เรียนบ้าง โดดบ้างตามใจฉัน เปลืองเงินพ่อแม่แน่นอน ฉะนั้นก่อนลงเรียนพิเศษลองถามความรู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจตัวเองดูอีกครั้งว่าอยากเรียนพิเศษจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเรียนแล้วไม่รู้เรื่องจะแก้ปัญหายังไง จะโดดเรียนมั้ย ให้นึกตลอดว่าทุกๆ คาบเรียนคือ "เงิน" ของพ่อแม่ทั้งนั้น โดด 1 ครั้งก็เสียเงินฟรีไปหลายร้อย ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเรียนแล้วโดดแน่ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนค่ะ แต่ถ้ามั่นใจว่าเรียนแล้วคุ้ม ไม่โดด ไม่สาย ไม่ลาแน่ๆ ก็หาคอร์สเรียนได้เลย
คำถามข้อที่ 5 : วิธีเรียนอื่นๆ ล่ะ มีไหม?
เดี๋ยวนี้การเรียนเสริมไม่ได้มีเฉพาะการกวดวิชาตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ เท่านั้น เพราะหลายๆ หน่วยงานก็มีโอกาสจัดติวฟรีให้กับน้องๆ เช่น ติวเตรียมความพร้อมก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย, การติวภาษาอังกฤษ หรือการติวตามคณะต่างๆ แต่วิธีนี้น้องๆ ต้องเป็นคนติดตามข่าวสารสักหน่อย เพราะการติวฟรีต้องอาศัยความไว รู้ข่าวก่อนก็จองที่นั่งได้ก่อน (อย่างกับจองคอนเสิร์ต)
นอกจากนี้หลายๆ เว็บไซต์ยังเป็นแหล่งความรู้ชั้นดี มีการรวบรวมเนื้อหาการเรียนแต่ละระดับเอาไว้ครบถ้วนทั้งรูปแบบบทความ วีดิโอ คลิปต่างๆ มีแบบฝึกหัดออนไลน์ให้ทำด้วย น้องๆ ก็หาความรู้นอกห้องเรียนผ่านวิธีการต่างๆ เหล่านี้ได้ นอกจากจะได้ความรู้เหมือนกันแล้ว ยังไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเรียนตามกวดวิชาอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญยังสามารถทบทวนจนกว่าจะเข้าใจได้ (ถ้าเรียนกวดวิชา บางทีรอบวีดีโอเรียนไม่ทันก็ต้องปล่อยเลยไป)
เดี๋ยวนี้การเรียนเสริมไม่ได้มีเฉพาะการกวดวิชาตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ เท่านั้น เพราะหลายๆ หน่วยงานก็มีโอกาสจัดติวฟรีให้กับน้องๆ เช่น ติวเตรียมความพร้อมก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย, การติวภาษาอังกฤษ หรือการติวตามคณะต่างๆ แต่วิธีนี้น้องๆ ต้องเป็นคนติดตามข่าวสารสักหน่อย เพราะการติวฟรีต้องอาศัยความไว รู้ข่าวก่อนก็จองที่นั่งได้ก่อน (อย่างกับจองคอนเสิร์ต)
นอกจากนี้หลายๆ เว็บไซต์ยังเป็นแหล่งความรู้ชั้นดี มีการรวบรวมเนื้อหาการเรียนแต่ละระดับเอาไว้ครบถ้วนทั้งรูปแบบบทความ วีดิโอ คลิปต่างๆ มีแบบฝึกหัดออนไลน์ให้ทำด้วย น้องๆ ก็หาความรู้นอกห้องเรียนผ่านวิธีการต่างๆ เหล่านี้ได้ นอกจากจะได้ความรู้เหมือนกันแล้ว ยังไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเรียนตามกวดวิชาอีกด้วยค่ะ ที่สำคัญยังสามารถทบทวนจนกว่าจะเข้าใจได้ (ถ้าเรียนกวดวิชา บางทีรอบวีดีโอเรียนไม่ทันก็ต้องปล่อยเลยไป)
คำถามข้อที่ 6 : ถ้าไม่เรียนล่ะ เป็นอะไรมั้ย
คำถามข้อสุดท้าย อาจจะยาก แต่ถ้าตอบได้ก็เหมือนได้บทสรุปของประเด็นนี้ว่าจะเรียนหรือไม่เรียนพิเศษดี ลองนั่งนิ่งๆ ตั้งสติแล้วถามตัวเองว่าถ้าเกิดไม่เรียนพิเศษล่ะ จะเป็นอะไรมั้ย?
ถ้าได้คำตอบว่า "ถ้าไม่เรียน เทอมหน้าต้องอาการหนักแน่เลยเพราะเทอมที่ผ่านมาเรียนไม่รู้เรื่องเลย" หรือ "ถ้าไม่เรียน เราต้องไม่รู้แนวการสอบแน่ๆ เลย" เมื่อเห็นผลเสียของการไม่เรียนมากกว่าก็ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า "ลงรียนพิเศษน่าจะดี"
แต่ถ้าถามแล้วได้คำตอบว่า "ไม่ได้เรียนแล้วอายเพื่อน" "ไม่ได้เรียนแล้วรู้สึกเชย" หรือ "ไม่ได้เรียนแล้วอดได้เงินช่วงปิดเทอม" อันนี้ก็แนะนำว่าให้อยู่บ้านรดน้ำต้นไม้ยังมีประโยชน์เสียกว่าค่ะ
คำถามข้อสุดท้าย อาจจะยาก แต่ถ้าตอบได้ก็เหมือนได้บทสรุปของประเด็นนี้ว่าจะเรียนหรือไม่เรียนพิเศษดี ลองนั่งนิ่งๆ ตั้งสติแล้วถามตัวเองว่าถ้าเกิดไม่เรียนพิเศษล่ะ จะเป็นอะไรมั้ย?
ถ้าได้คำตอบว่า "ถ้าไม่เรียน เทอมหน้าต้องอาการหนักแน่เลยเพราะเทอมที่ผ่านมาเรียนไม่รู้เรื่องเลย" หรือ "ถ้าไม่เรียน เราต้องไม่รู้แนวการสอบแน่ๆ เลย" เมื่อเห็นผลเสียของการไม่เรียนมากกว่าก็ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า "ลงรียนพิเศษน่าจะดี"
แต่ถ้าถามแล้วได้คำตอบว่า "ไม่ได้เรียนแล้วอายเพื่อน" "ไม่ได้เรียนแล้วรู้สึกเชย" หรือ "ไม่ได้เรียนแล้วอดได้เงินช่วงปิดเทอม" อันนี้ก็แนะนำว่าให้อยู่บ้านรดน้ำต้นไม้ยังมีประโยชน์เสียกว่าค่ะ
ไอ้ย่ะ!! 6 ข้อนี้อาจเป็นคำถามที่แทงใจใครหลายคน เพราะเอาเข้าจริงบางคนยังไม่รู้ตัวเลยว่าจะเรียนพิเศษไปทำไม แต่เห็นเพื่อนเรียนก็เหมือนเป็นอุปาทานหมู่ที่ต้องเรียนไปกับเขาด้วย เอาเป็นว่าใครใคร่เรียนวิชาไหน สถาบันไหน พี่มิ้นท์ไม่สนใจค่ะ ขอแค่ว่าก่อนจะเรียนก็ควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าเรียนไปเพื่ออะไร จำเป็นต้องเรียนแค่ไหน และคาดหวังอะไรกับคอร์สนั้นๆ และสามารถเรียนด้วยตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้าได้คำตอบชัดเจนว่าจำเป็นต้องเรียนจริงๆ พี่มิ้นท์ก็ฝากให้น้องๆ เรียนให้เต็มที่ ให้คุ้มค่าเงิน และก็ขอให้เรียนให้สนุก ได้เพื่อนดีๆ กลับมานะคะ
25 ความคิดเห็น
เห็นคะแนนแล้วเป็นแบบในรูปอ่ะ
.
.
.
.
นี่เรียนพิเศษแล้วจริงดิ !!!
เราไม่ได้เรียนตามเพื่อนเลยอ่า เราเรียนคนเดียว 555 เพื่อนๆ ในกลุ่มเราไม่ค่อยได้เรียนที่เดียวกันเลยนอกจากเปิดเทอม เพราะปีหน้าต้องเข้ามมาลัย คณะก็ไม่ได้เลือกตามกัน เลยลงคนละอย่างไปหมดเลย 5555 เรียนก็ไม่โดดจ้า ^^
ช่วงปิดเทอมนี้เราเข้าค่ายอังกฤษฟรี สนุกได้ความรู้ด้วย^^
เราเรียนเพราะอยากเก่ง และไม่ได้เรียนตามเพื่อนแน่เพราะไปคนเดียว
ตอนนี้เราจะขึ้นม.2 ทางบ้านก็ไม่ค่อยรวยเท่าไหร่ แม่บอกว่าม.3 ค่อยเรียนแล้วกัน ตอนนี้มันยังไม่ค่อยจำเป็น แต่เราก็อยากเรียนนะ เกรดเฉลี่ยเราพอใช้ได้ แต่เราก็ยังอยากเรียนเพิ่มอยู่ดี กลัวเปิดเทอม ม.2 มาไม่ทันเพื่อน -.- แต่ก็ต้องตามแม่อ่ะนะ ขี้เกียจอาจหนังสือเลยอยากเรียนพิเศาแทนน
คำถามข้อที่ 2 : พ่อแม่ต้องลำบากกว่าเดิมหลายเท่าไหม
ตอบเลยว่า หลายเท่า
เมื่อจำเป็นต้องเรียน หนูคิดว่าเราควรเรียนให้มีค่าและเห็นผลมากที่สุด ตั้งใจเรียน ไม่ใช่ตั้งใจกดโทรศัพท์ ตั้งใจเรียนไม่ใช่ตั้งใจอ่านการ์ตูน ตั้งใจไปเรียน ไม่ใช่ตั้งใจไปเที่ยวแถวๆที่เรียน แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ทางอื่นเท่าที่จะทำได้ เงินที่เอาไปเรียน ก็เอาไปแค่ค่าข้าวค่ารถก็พอ
พ่อแม่บอกเสมอว่า มีเงินให้เราเรียน ถ้าเรียนแล้วมันดีต่ออนาคตลูกขึ้นก็เรียนไปเถอะ คำพูดพวกนี้เป็นแรงพลักดันให้เราตั้งใจเรียนมากขึ้น เอาเกรดดีๆมาฝากพ่อแม่ อย่างน้อยท่านก็ดีใจที่ลูกใช้เงินหลายพันบาทที่ท่านจ่ายให้ได้ผลสำเร็จ
ตอนนี้เราจะขึ้นม.2 ก้ไม่ได้เรียนเหมือนกัน เราพอมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ใครสนใจเราแนะนำ "Khan Acdemy" เว็บนี้เค้ามีทุกอย่างนะ สอนแบบวิดีโอ แต่มันจะเป็นภาษาอังกฤษอ่ะ ปิดเทอมเราก็ขลุกอยู่กับเว็บนี้แหละ เว็บของไทยก็มีนะ ลองๆหาอ่านดู ไม่แพ้การเรียนพิเศษเลย
ปล.เกรดเราสูงกว่า 3.85 ทุกเทอมเพราะเว็บต่างๆ เราไม่เคยเรียนพิเศษนอกโรงเรียนเลย เราเรียนแต่ของโรงเรียนตอนเย็น (โรงเรียนประจำน่ะ) ปิดเทอมก็อยู่กับนี่แหละ อ่านเข้าไปๆ ปริ้นพวกแบบฝึกหัดมาทำได้ก็ดีนะ ใครจะถามอะไรเมลมาหาเรานะ พร้อมจะตอบทุกอย่างเบย555
bum_zoda@hotmail.com
คือเมื่อก่อนโดนตลอดอ้ะ555555555 งานเยอะเกิน ก็คิดหลายครั้งน้ะ ว่ากูเอาเงินพ่อแม่มาทิ้งหรอ ? คิดแล้วเสียดาย อยากจะไปแก้ไขอดีต อีกอย่างเท่าที่เรียนมากูไม่เคยเอามันออกมาทบทวน ควายจิงๆ พูดแล้วเกลียดตัวเองง เฟลว่ะ คนที่เขาไม่มีโอกาสได้เรียนล้ะ เห้ออออ คิดใหม่ได้ล้ะกู !
เราเรียนพิเศษตั้งแต่อนุบาล (อนุบาลเรียนเพื่อไร = ='') พอเข้าประถมก็เรียนเพราะว่าที่โรงเรียนสอนฟรี 555555 แต่พอเข้ามัธยมไม่เคยเรียนพิเศษเลย เกรดก็ได้ดีนะ เรียนในห้องก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ถูๆไถๆไป =w= เกรดออกมาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เลยไม่เรียนเลย ตอนนี้จะขึ้นม.5 แล้วก็คงดูก่อนว่าเนื้อหามันยากมากมั้ย เพราะไม่อยากเปลืองเงินด้วย และที่สำคัญ 'ขี้เกียจ' 555555555 เรียนในห้องก็จะตายและ เรียนพิเศษอีก ตายยิ่งกว่า
1. ถ้ามีเวลาเหลือหลังจากดูหนังสือทบทวนแล้ว ควรจะเรียนครับ เพื่อหาเทคนิคใหม่ ๆ
2. ถ้าไม่เดือดร้อนเงิน ควรจะเรียนครับ
ที่บ้านพอมีฐานะอยู่นะ เคยคิดอยากเรียนพิเศษเหมือนกัน เพราะคิดว่าตัวเองโง่มากๆ แล้วขนาดคนที่เก่งกว่าเราเขายังเรียนกันเลย แต่ว่าก็กลัวๆกล้าๆว่าจะเรียนดีไหมเพราะ กลัวตัวเองโดด หรือเข้าไปเรียนแบบไม่ตั้งใจ เสียดายเงินที่พ่อแม่ให้อ่ะ วันนึงเลยตัดสินใจไปขอแม่ แม่พูดมาคำเดียวว่า สมัยแม่ยังไม่เห็นเคยเรียนก็ยังสอบติดที่ดีดีได้ คำเดียวจบ รู้เรื่อง!!! ก็เลยตัดสินใจไม่เรียน เลือกอ่านเอาเอง แล้วก็ดูผ่านเว็บต่างๆที่เขาสอน หรือไม่ก็ขอเอกสารที่เพื่อนไปติวมามาถ่ายเอกสารไว้ แล้วก็อันไหนไม่เข้าใจก็ถามเพื่อนอีกที
ครอบครัวเราฐานะปานกลาง พอมีกิน ไม่ได้รวยมากมาย ให้ซื้อของมียี่ห้อแพงๆก็ไม่ไหว ค่าเรียนพิเศษสมัยนี้ก็แพงโคตร เราก็พยายามเลือกเรียนบางวิชา สงสารพ่อแม่ ถึงจะพอมีเงินจ่ายก็เถอะ
แต่เราคิดอย่างโลกไม่สวยนะ
ถ้าไม่เก่ง ไม่เรียนพิเศษ แต่ขยันโคตรๆอ้ะ เก่งได้
แต่สมัยนี้จะมีสักกี่คนที่ขยันมากมายขนาดนั้น
ถ้าเรียนพิเศษ กลับมาบ้านทบทวน ทำการบ้านตามที่อ.กวดวิชาสั่ง
ไม่ต้องถึงขนาดบ้าคลั่งอ่าน แบบนี้เราไม่เครียด แล้วก็เก่งขึ้นด้วย
ปล.สมัยนี้หวังพึ่งรร.อย่างเดียวไม่ได้หรอก บางวิชาครูสอนแบบ ไม่เป็นมาตรฐาน สอนไม่รู้เรื่อง จักเนื้อหามั่วมาห
เราไม่เรียนเพราะ
1.รู้ว่าตัวเองจัดการเวลาได้ไม่ดี(ตอนเปิดเทอม) ถ้าเราเรียนพิเศษไปพร้อมกับโรงเรียนสอนเราจะทำงานทำการบ้านไม่ทัน ไม่มีเวลาว่าง
2.เป็นคนที่ไม่คอยชอบเรียนอยู่แล้วเรียนไปก็เสียเงิน ถ้าเราสนใจจริงๆเราซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ ถ้าจำเป็นต้องสอบนู่นสอบนี่เราอ่านหนังสือแทน
3.ช่วงเวลาปิดเทอมคือการพักผ่อนของเราถึงใครจะว่านานก็ช่าง แถมต้องช่วยแม่ขายของ
4.ทางบ้านฐานะปานกลาง ถ้าเราเรียนไปแต่ไม่ใส่ใจก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเรียน
ปล.เกรดเราไม่ถือว่าดีค่ะแค่ใช้ได้ตอนนี้กำลังขึ้นม.3เกรดที่ผ่านมาถึงจะไม่เคยถึง4แต่ก็ไม่เคยติด0ติดร หรือ มผ.
ปล.2 เราเชื่อว่า หากเราสนใจอะไรหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันไม่ได้มีวิธีเดียวที่จะเรียนรู้มัน ไม่ได้มีสถานที่เดียวที่จะทำให้เรารู้ อย่างเรา เราไม่ชอบวิชาประวัติศาสตร์ แต่วันหนึ่งเรารู้สึกสนใจในเรื่องสงครามสงครามหนึ่งขึ้นมา เราไม่ค่อยไปถามอาจารย์เพราะอาจารย์ไม่สอนมีแต่สั่งแบบฝึกหัด เฉลยแล้วสอบ เรามีอินเทอร์เน็ตที่ช่วย เราสนุกกับมันมากค่ะ
ปล.3ขออภัยที่ยาวและอาจไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนพิเศษ ขอโทษค่ะorz
เอาจริงๆ บางครั้งที่เราไปเรียนพิเศษก็มีไม่ค่อยตั้งใจบ้าง(เหนื่อยด้วนเเระ) นี่เรียนมาหลายคอร์สเเล้วยังจำได้ไม่หมดเลย เเต่เผอิญที่เราพึ่งจะสอบเข้า ม.4 เเล้วได้โรงเรียนสังกัดมหาลัย พ่อกะเเม่เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะเรียนพิเศษ เเต่จิงๆเเล้วเราคิดว่าเป็นเพราะเราทุ่มเทกะการอ่านกนังสือตลอด 1 เดือนมากกว่า เอาจิงๆให้ดีก็อ่านหนังสือเเระ เเต่ถ้าขี้เกียจก็เรียนพิเศษซะ เเต่จะโคตรเทพถ้าทั้งอ่านเองเเละเรียนพิเศษ
ทั้งชีวิตไม่เคยเรียนพิเศษเลย ไม่นับตอนติว gifted กับ สอวน ที่โรงเรียนเตรียมให้
ผมว่าถ้าเรียนให้เข้าใจตั้งแต่ในห้องเรียนก็เกินพอแล้ว ทุกวันนี้เรียนอยู่คณะแพทย์แห่งนึง
ก็คงพอแสดงว่าอย่างน้อยผมก็ไม่ได้ล้มเหลวอ่านะ
เราเรียนหรือไม่เรียนพิเศษฟิสิก คะแนนก็ไม่ต่างกันคือน้อยเหมือนเดิม555 เราเลยไม่เรียนดีกว่า แต่ถึงเรียนพิเศษก็ต้องทบทวนด้วยไม่งั้นไม่นานก็ลืม ^-^
ตอบคำถาม
1.เรียนเพราะอ่อนคณิตมากไม่รู้เรื่องเลย ตั้ง ม.4- ม.5
2.พ่อแม่ไม่ลำบากแน่นอนเพราะเราทำงานเก็บเงินเอง
3.ไม่ได้เรียนตามเพื่อน เราเรียนคนเดียว
4.ไม่โดดหง่ะ โดดไม่ล่ายเรียนตัวต่อตัว5555555555555
5.วิธีเรียนๆอื่นหยอ มีนะ เคยซื้อหนังสือมาอ่าน ดูวิดีโอสอนก็ไม่เข้าใจ
6.ถ้าไม่เรียน สอบการบินไม่ติดแน่นอน คือสมองคณิตเป็นศูนย์มาก
เหตุผลเราพอได้มะ ......
ปล.เราไม่เคยเรียนพิเศษเลย พึ่งมาเรียน แบบเห็นว่ามันสมควรต้องเรียนจริงๆและ เพราะคณิตเราไม่แข็ง วิชาอื่นเราอ่านเองหมด สงสารพ่อ แค่ค่าเทอมเรายังเกรงใจที่จะขอเลย ตอนนี้ทำงานเก็บเงินเอง //พบกับรายการคนค้นคน55555555555555555555555555555
1.เรียนเอง อ่านเองแล้วไม่ค่อยจะเข้าใจค่ะแล้วก็ไม่ตั้งใจ
2.ไม่ค่ะ ทางบ้านไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเงินเท่าไหร่
3.ไม่ค่ะ เป็นพวกไม่ชอบตามใคร
4.ไม่เคยคิดจะโดดค่ะ เสียดายเงิน
5.ก็อ่านหนังสือไม่ก็ดูวิดีโอแต่มันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไปนั่งเรียน
6.ปกติเป็นคนเรียนรู้เรื่อง ถ้าไม่เรียนคงไม่เป็นไรแต่เลือกที่จะเรียนค่ะเพราะเป็นคนที่ว่างบ่อยๆ
เรียนคะ แต่ขอเรียนเองไม่ตามเพื่อนจร้าาาา แต่อยากเรียนในห้องให้เข้าใจไปเลยน่าจะดีที่สุดคะ
เราเป็นคนหนึ่งที่ตอนแรกเรียนพิเศษเยอะมาก เรียนมันซะทุกที่
เรียนจนแบบขี้เกียจอะคะ แล้วเรียนไม่เคยจบคอร์สสักครั้ง อย่างน้อยก็ได้แค่ครึ่งคอร์ส
ตอนหลังนี่ไม่เรียนเลยคะ เพราะรู้ว่าเรียนไปแล้วมันไม่คุ้มเลย
เวลามองพ่อแม่แล้วเราโคตรรู้สึกผิดมากเลย เพราะค่าเรียนแต่ละคอร์สก็แพงด้วย
คนที่ไปเรียนพิเศษอาจจะได้รู้ข้อสอบและเคล็ดลับต่างๆ นานา ที่อ. สอน
แต่คนที่ไม่เรียนเค้าจะไม่รู้คะ แต่เค้าจะมีเคล็ดลับเป็นของตัวเอง
เพราะถ้าเราฝึกทำข้อสอบไปเรื่อยๆ ด้วยตัวเราเอง เราจะรู้ว่าการจะหาคำตอบข้อนี้
มันมาจากตรงไหน และถ้ายิ่งทำข้อสอบเยอะๆ เราจะยิ่งได้ข้อสอบด้วยคะ
เพราะเวลาเขาออกข้อสอบมันก็แนวเดิมๆ แค่อาจจะเปลี่ยนโจทย์ หรือนำไปประยุกต์นิดหน่อย
ยังไงก็สู้ๆ นะคะ ทั้งคนที่เรียนพิเศษ และไม่ได้เรียน แต่อ่านหนังสือเอง.