พูดถึงเพศ ไม่ว่าจะเป็นเพศศึกษา เพศสัมพันธ์ หรือเรียกสั้นๆ ว่าเซ็กส์ จะมีสักกี่ครอบครัวกันนะ ที่กล้าพูดคุยเรื่องพวกนี้แบบเปิดเผย จะมีพ่อแม่สักกี่คู่ ที่กล้าสอนลูกอย่างตรงไปตรงมา และถึงแม้ว่าทุกวันนี้ระบบการศึกษาไทยจะพัฒนาไปหลายตลบ เรื่องเพศศึกษาก็ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ได้สอนกันจริงจังชัดเจนเช่นเคย มาดูกันว่า มีเรื่องอะไรบ้าง ที่วัยรุ่นคาดหวังจะได้รับการแนะนำจากผู้ใหญ่ในครอบครัว
เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ทำให้เห็นว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องมักง่าย
การสอนที่ดีที่สุดก็คือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็น หลายๆ ครั้งที่ผู้ใหญ่ละเลยเรื่องนี้ไป คิดแต่ว่าการสอน การบ่น หรือเข้มงวดทุกฝีก้าวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ต้องไม่ลืมว่า บ่อยครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นเป็นปัญหาที่สะท้อนมาจากปัญหาครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานครอบครัวที่เติบโตมา อาจจะแวดล้อมด้วยปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศที่นึกไม่ถึง เช่น พ่อแม่หย่าร้างและมีครอบครัวใหม่ พ่อแม่มีพฤติกรรมเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม ทำผิดศีลธรรม เป็นต้น
พูดคุยอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา
เรื่องเพศ (รวมถึงความรัก) มักเป็นเรื่องที่วัยรุ่นเลือกคุยกับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เพราะรู้สึกว่าเป็นวัยเดียวกัน เข้าใจกัน และช่วยตัดสินใจได้ดีกว่าผู้ใหญ่ซึ่งมักจะห้ามนั่นห้ามนี่หรือด่าก่อนที่จะแนะนำอะไร ทำให้ไม่กล้าถามหรือปรึกษา ทั้งที่จริงแล้ว เพื่อนก็ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเพศมากไปกว่ากัน เมื่อวัยรุ่นอยากรู้อยากลองไม่มีที่ปรึกษาและให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ปัญหาการติดยาเสพติด ความเครียด และภาวะซึมเศร้าอื่นๆ เป็นต้น
ดังนั้นสิ่งที่วัยรุ่นคาดหวังก็คือ พ่อแม่น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีได้ มีความไว้เนื้อเชื่อใจพอที่จะปรึกษาเรื่องส่วนตัวได้เหมือนคุยกับเพื่อนนั่นเอง
เข้าใจธรรมชาติของร่างกายและอารมณ์
เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับวัยรุ่นทุกคนแน่นอน วัยรุ่นเป็นวัยอารมณ์ร้อน เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ กล้าลอง หากครอบครัวไหนพ่อแม่ใช้การพูดมากกว่าการฟังก็จะเกิดการทะเลาะวิวาทไม่เข้าใจกันได้ง่าย สิ่งที่วัยรุ่นอยากให้พ่อแม่เข้าใจก็คือ พ่อแม่ทุกคนต่างก็เคยผ่านการเป็นวัยรุ่นมาก่อน ย่อมต้องรู้ว่าช่วงชีวิตนี้วัยรุ่นจะแสดงออกอย่างไร มีความคิดความรู้สึกอย่างไร แต่ด้วยสิ่งแวดล้อมและสภาพสังคมที่ต่างยุคต่างสมัยกัน วัยรุ่นต้องการให้พ่อแม่ตามให้ทันนั่นเอง
ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น
การเบี่ยงเบนทางเพศน่าจะเป็นปัญหาสำหรับหลายๆ ครอบครัว แม้บางครอบครัวพ่อแม่จะรับเรื่องนี้ได้และสนับสนุนเต็มที่ แต่ก็มีอีกหลายครอบครัวที่คาดหวังในตัวลูกมากจนรับไม่ได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น น้องๆ วัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศก็จะมีความเก็บกดทางการแสดงออก การเบี่ยงเบนทางเพศไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ได้น่ารังเกียจ ไม่ได้เป็นแล้วหายเมื่อไรก็ได้
ดังนั้น เมื่อวัยรุ่นแสดงออกว่า สิ่งที่เป็นนี้ไม่ได้ผิดปกติ และสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ดี ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องการใช้ชีวิต เลือกคบเพื่อนที่ดี และแสดงออกอย่างเหมาะสม พวกเขาก็ต้องการการยอมรับและสนับสนุนจากครอบครัวเช่นกัน
อยู่ในสายตาไม่ใช่ว่าจ้องจับผิด
เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมากๆ สิ่งที่วัยรุ่นอยากได้ก็คือความไว้ใจ แต่บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ไม่ว่าพ่อแม่จะแสดงออกแบบไหน ทั้งหมดนั้นก็คือความห่วงใยนั่นเอง ดังนั้นคงต้องแบ่งกันคนละครึ่ง ใครอยากได้ความไว้ใจก็ต้องแสดงออกให้พ่อแม่เห็นว่าเราเชื่อใจได้ รับผิดชอบตัวเองได้ ไม่ทำอะไรที่ไม่ดีแน่นอน ง่ายมากก็คือ อย่าโกหก! ส่วนในมุมของพ่อแม่นั้น การแสดงความเอาใจใส่ไม่ใช่แค่การคอยซักถามว่า จะไปไหน ทำอะไร ทีไหน กับใคร เมื่อไร อย่างไร แต่พ่อแม่ก็ควรเข้าใจสังคมของวัยรุ่น รู้จักกลุ่มเพื่อนของลูก และสนับสนุนกิจกรรมที่ทำด้วย
ให้กำลังใจและให้โอกาส
ไม่มีใครไม่เคยทำผิดค่ะ สิ่งที่คนทำผิดต้องการที่สุดก็คือโอกาส บางครั้งการดุด่าหรือซ้ำเติมลงโทษด้วยวิธีใดๆ ก็ไม่มีความจำเป็น เพราะคนผิดได้เห็นผลหรือโทษของการทำผิดนั้นแล้ว ทางที่ดีควรได้รับบทเรียนเพื่อไม่ผิดซ้ำอีก และได้รับโอกาสเพื่อปรับปรุงแก้ไข แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเป็นเรื่องร้ายแรงมากๆ เป็นพี่จูนเองก็คงอดที่จะโกรธหรือโมโหไม่ได้ เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับสติและประสบการณ์ของคนในครอบครัวเลยล่ะค่ะว่าจะรับได้แค่ไหน ส่วนวัยรุ่นอย่างเรา... ไม่ทำผิดดีที่สุดค่ะ!
พร้อมรับฟังและช่วยหาทางออก
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วเลย นอกจากต้องการกำลังใจและโอกาสแล้ว บางครั้งความผิดพลาดมีผลที่ตามมาติดๆ สลัดไม่หลุด เช่น การตั้งครรภ์ การติดโรค การติดยาเสพติด เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อไปหลายทอด แก้ไม่จบไม่สิ้น วัยรุ่นเองก็ทำไปโดยไม่ตั้งใจ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คงไม่ได้อยากจะให้พ่อแม่รีบตัดหางปล่อยวัดตัดขาดกันไปทันที แต่ในเมื่อสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว ต้องร่วมกันยอมรับ และจับมือกันผ่านเหตการณ์เลวร้ายไปให้ได้ นั่นคือ ช่วยกันหาทางออก เพื่อจบปัญหา และเริ่มชีวิตใหม่ไปด้วยกันค่ะ
บทความนี้พี่จูนเขียนมาค่อนข้างยาวเลย ต้องขอบคุณน้องๆ ที่อ่านจนจบ อยากบอกน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกคนว่า พี่จูนเองก็เห็นปัญหาหลายๆ อย่างของน้องๆ ทั้งในเว็บบอร์ดปัญหาวัยรุ่น และที่มาขอคำปรึกษาส่วนตัว บางครั้งก็ช่วยแก้ปัญหาหรือแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่น้องๆ ควรขอคำแนะนำมากที่สุดก็คือคนในครอบครัวค่ะ ส่วนพี่ก็เป็นได้แค่คนรับฟังจริงๆ
สุดท้ายนี้ ใครกำลังมีเรื่องอัดอั้นใจ ลองระบายให้เพื่อนๆ ฟังในคอมเม้นต์นี้เลย จากนั้นก็รวบรวมความกล้าไปเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังดูค่ะ รับรองต้องหาทางออกได้แน่นอน ลองดู!







8 ความคิดเห็น
พ่อแม่เรานี่รับฟังทึกเรื่องมาก อาจจะขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยที่กล้าพูด พี่ชายเรายังเคยคุยกะพ่อเรื่องที่ผช.ช่วยตัวเอง ปิดบังเรานิดหน่อยเพราะเราเพศหญิงอ่ะนะ แต่สุดท้ายก้พูดแบบไม่คิดอะไร คือเราก็รู้เรื่องพวกนี้ดี มันต้องเริ่มจากเราก่อนที่จะกล้าถามตรงๆ พ่อแม่ก้จะตอบมาตรงๆ เองแหละ
สุดยอด
อ่านแล้วก็ตรองตาม คิดว่า
คำว่า "ทำไปโดยไม่ตั้งใจ รู้เท่าไม่ถึงการณ์" นั้น มันดูเหมือนคำแก้ตัว ถ้าจะให้เป็นคำอธิบาย น่าจะใช้คำว่า "ทำไปโดยไม่ตั้งใจให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายนั้น และรู้เท่าไม่ถึงการณ์" มากกว่า
เพราะคนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ถูกบังคับ ก็สมยอมตั้งใจทำกันทั้งนั้น เพราะอยากลองอยากทำ เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น (ส่วนพวกที่ถูกบังคับก็ต้องหาทางไปกันต่อ)
ดังนั้น หากอยากทำก็ต้องมีการวางแผน คาดคิดถึงผลที่จะตามมาจากการกระทำนั้นๆของตน และคิดวิธีแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าซะ จะได้ไปต่อได้ (แต่คงจะมีน้อยคนที่ทำอย่างนี้)