คลินิกนักเขียน : Exclusive 18 ซีนอารมณ์เรียกน้ำตา เขียนยังไงให้เข้าถึงใจคนอ่าน

 
คลินิกนักเขียน : Exclusive 18 ซีนอารมณ์เรียกน้ำตา เขียนยังไงให้เข้าถึงใจคนอ่าน
ฉากดราม่านับเป็นอีกฉากที่เขียนยากมาก มาฟังเคล็ดลับจากบรรดานักเขียนสายนี้กัน
  
สวัสดีน้องๆ ทุกคนจ้า คอลัมน์ กลเม็ดเคล็ดลับฉบับ Exclusive กลับมาเป็นประจำทุกวันศุกร์เช่นเคย สำหรับอาทิตย์นี้ หัวข้อที่พี่ตินเลือกมาฝากน้องๆ ก็คือ หัวข้อการเขียนซีนอารมณ์ หรือก็คือฉากดราม่านั่นเอง
 
ตัวพี่ตินเอง เป็นนักเขียนที่จัดอยู่ในสายดราม่า เพราะว่าชอบเขียนฉากเศร้าเป็นพิเศษ ก็เลยพอจะรู้... (โดยวัดจากตัวเอง) ว่า... ฉากพวกนี้เขียนยาก ความยากไม่ได้อยู่ที่การเรียงร้อยถ้อยคำ แต่อยู่ที่การรอจังหวะอารมณ์ของเรา และการเลือกมุมมองในการถ่ายทอด ว่าเราจะเขียนแบบไหน จะเลือกจุดไหนของอารมณ์มานำเสนอ เพื่อให้คนอ่านเข้าใจและสัมผัสได้ถึงมุมมองของเรา และเพราะรู้ว่ายาก พี่ตินก็เลยจับมือกึ่งลาก บรรดานักเขียนคนดังในสายดราม่ามาไว้ที่นี้ เพื่อให้พวกเขาให้คำแนะนำกับน้องๆ มือใหม่ที่อยากเขียนฉากดราม่าทั้งหลาย คิดว่าน่าจะพอช่วยได้ไม่มากก็น้อยแหละ ไปฟังดูแล้วกันว่าพวกเขามีเคล็ดลับอะไรดีๆ ซ่อนอยู่    
 
PDI.Lori  
หลายคนอาจสงสัย ทำไมต้องมีฉากดราม่า เพราะทุกเรื่องราวล้วนมีเหตุให้ดราม่าไงละ (ฮา)
 
วิธีการเขียน
พีจะคิดว่าถ้าเรายังทำให้ตัวเองเศร้าตามไม่ได้ ฉากนั้นก็ยังถือว่าไม่ใช่ ปกติจะวางพล็อตเรื่องเป็น ต้น – กลาง - ปลาย ในระหว่างนั้นจะคิดฉากดราม่าไว้คร่าวๆ ในหัว ว่าอยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้นะ แต่สิ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้น คือนิสัยตัวละครของเรา อุปนิสัยที่เมื่อโยงเข้ากับฉากนั้นแล้ว ทำให้คนอ่านรู้สึกอินร่วมไปด้วย แต่สิ่งสำคัญสุดคือ ตัวคนเขียนต้องเชื่อว่าตัวละครเรามีชีวิตจริง มีอารมณ์จริงๆ เมื่อมีตัวตน อารมณ์เวลารับมือกับปัญหานั้น มันจะสมจริง เหมือนเราดูหนังสักเรื่อง เห็นสีหน้า แววตาของเขาชัดเจน แบบที่เขายิ้มให้แต่ดวงตาสะท้อนความเรียบเฉยออกมา
 
ลักษณะที่เขียน
ทุกเรื่องที่เขียน ใช้วิธีหยิบภาพในหัวออกมาอธิบายเป็นข้อความ ภาพที่เห็นจะชัดเจนเหมือนดูภาพยนตร์ตรงหน้า ส่วนตัวเป็นคนชอบเรื่องราวแนวเข้มข้น ยิ่งยุคเก่าจะชอบมาก ถ้าเป็นหนังคงเรียกว่าหนังใหญ่ระดับต้นทุนพันล้าน (ฮา) ทุกอย่างเลยเป็นลูกโซ่ เมื่อเรื่องราวใหญ่โต ตัวละครเลยจริงจัง เมื่อนั้นความดราม่าต้องหนักตาม แค่สะดุดล้มหัวเข่าแตกคงไม่ได้ (ฮา) ทุกอย่างที่เราเขียน มันจะต่อเนื่องกันหมดจริงๆ ยิ่งถ้าคุณทำให้มันจบลงอย่างงดงามสมบูรณ์แบบ คุณจะมีความสุขมากอย่างถึงที่สุด (ยิ้ม)
 
ภาษาที่ควรใช้
ภาษาคือสิ่งสำคัญ ถ้าภาษาเยอะไปก็น่ารำคาญ แต่น้อยไปก็ดูเบาไม่น่าเชื่อ แล้วภาษาควรเข้ากับเนื้อหาและตัวละคร ถ้าเขียนย้อนยุคสมัยราชวงศ์ชิง แต่ใช้ภาษาสมัยพระเจ้าตากสิน ก็ไม่เข้ากัน ดังนั้นเราควรมีคลังศัพท์ในหัวให้มากพอหยิบมาใช้ได้ การหาศัพท์คือการเปิดใจอ่าน ดู ฟัง เรื่องราวต่างๆ ให้เยอะๆ อย่าดูแต่สิ่งที่ชอบเพียงอย่างเดียว เพราะเราจะตันภาษา จนทำให้วนใช้แต่ของเดิมๆ ควรทำตัวเป็นดินเพื่อซึบซับความรู้เอาไว้ รู้เยอะไม่เสียหาย แต่รู้น้อย งานเราจะไม่มีวันพัฒนา

ผลงานดราม่าโดนใจที่พิมพ์ซ้ำนับ 10 ครั้งของ PDI.Lori
 
เคล็ดแนะนำ
อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ สนใจสิ่งรอบข้าง ซึมซับอารมณ์ ทั้งสายตา น้ำเสียง ความรู้สึกที่ได้เห็น เก็บเกี่ยวทุกอย่างมาเป็นความรู้ บางครั้งการไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา ก็เจ็บยิ่งกว่าเสียอีก
 
ความดราม่าที่เข้มข้นที่สุด
คือความเจ็บที่ถึงขั้นไม่มีน้ำตาไหลออกมา เจ็บอย่างที่ถึงร้องไห้ก็ยังไร้ค่า 
สุดท้าย สิ่งที่อยากบอกทุกคน ถ้าอยากเขียนนิยายให้ดี เขียนให้เยอะ รับฟังคำติชม อย่าต่อต้านคำต่อว่า สนใจโลกหลายด้าน และไม่กลัวที่จะลองผิดลองถูกกับงานแบบอื่นๆ แล้วเราจะสนุกกับการเขียนนิยาย (ยิ้ม)
 
การเขียนนิยายให้ดีอย่างหนึ่งก็คือการเขียนให้คนอ่านได้รู้สึก อิน ไปกับตัวอักษรที่เราสร้างขึ้นมา การเขียนนิยายขมๆ ก็เช่นกัน สำหรับนักเขียนคือ อินเนอร์ ต้องมาก่อน เราคงไม่สามารถทำให้คนอื่นรู้สึกเศร้าได้หากว่าเราไม่รู้สึกเศร้าไปกับเรื่องที่เราจะเขียนได้ เราต้อง อิน ไปกับเรื่องที่เราจะเขียนก่อน ถ้าความรู้สึกของเรามันยังไม่เศร้า คนอ่านก็จะรู้สึกเศร้าร่วมไปด้วยไม่ได้ ถ้าเราไม่ร้องไห้ นักอ่านก็ไม่สามารถร้องไห้ไปด้วยได้ ต้องมีเหตุมีผลมากพอที่จะรองรับในเรี่องที่เศร้า หมายถึงว่าเรื่องที่จะเศร้านั้นควรเป็นเรื่องที่มีเหตุผล เช่น พระเอกต้องตัดใจทำร้ายนางเอกเพราะความเจ็บปวด ที่นางเอกได้ทำไว้กับตัวเอง จนต้องกล้ำกลืนฝืนทนฝืนใจกับความรักที่มีซ่อนอยู่ลึกๆ ใจอก เหตุผลที่พระเอกจะต้องเจ็บปวดเพราะนางเอกนั้นก็ต้องเหมาะสม เช่น นางเอกได้ไปทำร้ายคนในครอบครัวที่พระเอกรัก หรือ ทำให้พระเอกต้องสูญเสีย ล้มละลาย คนอ่านอาจจะไม่อินถ้าเหตุผลคือ นางเอกตื่นสายมาไม่ทันนัดพระเอกตามสัญญา แบบนี้เรื่องของเราก็อาจจะไม่เศร้าพอ สุดท้ายที่สำคัญสุดคือภาษาที่ใช้ ในความรู้สึกเศร้า สำนวน สำเนียง ของภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่จริงจัง ไม่ควรเป็นศัพท์วัยรุ่นหรือสะกดผิดๆ ถูกๆ เพราะจะกระตุกดึงความสนใจของนักอ่านที่กำลังมีอารมณ์ร่วม ให้เกิดอาการสะดุดค้างเสียก่อนได้ 
 
เคล็ดลับการเขียนฉากเศร้าสำหรับนาตนั้น...ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แค่คิดว่าอยากให้คนอ่านรู้สึกอย่างไร คนเขียนก็ต้องเข้าใจความรู้สึกนั้นก่อน อ๊ะๆ อาจจะงงว่ามันเป็นนิยาย หรือมันเป็นเรื่องสั้นซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจริง แล้วคนเขียนจะทำอารมณ์เพื่อเขียนฉากนั้นยังไงกันล่ะ
 
ดังนั้นก่อนลงมือเขียนนาตมักจะสร้างอารมณ์ร่วมให้ตัวเองก่อน ด้วยการหาเพลงเศร้าที่อารมณ์คล้ายกับความสัมพันธ์ในซีนที่กำลังจะลงมือเขียน ต้องเลือกเพลงที่พีคจัด ๆ ใช่สุด ๆ มาสัก 2-3 เพลงแล้วเล่นวนอยู่อย่างนั้นค่ะ ฟังเพลงไป เขียนงานไป...รับรองว่าเป็นวิธีที่สามารถดึงอารมณ์เศร้าถ่ายทอดลงไปได้เป็นอย่างดีมาก
 
เมื่อเราสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้กับตัวเองได้แล้ว ก็เริ่มลงมือเขียนกันเลยค่ะ โดยองค์ประกอบของซีนเศร้า ๆ นอกเหนือจากความสัมพันธ์ของตัวละครที่ถูกปูมาตั้งแต่เริ่มต้น ฉากในเรื่องเป็นอีกหนึ่งที่ช่วยส่งอารมณ์ให้กับผู้อ่านได้ การใส่สัญลักษณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปเพื่อขยายความหรือเปรียบเทียบจึงเป็นอีกองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่ช่วยให้เขียนฉากเศร้าได้ง่ายขึ้น เช่น รูปภาพใบเก่าที่สีซีดจาง, แก้วกาแฟใบโปรดที่มีรอยร้าว, โทรศัพท์ที่ขึ้น Miss Call, โต๊ะตัวเก่า ๆ, ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเย็น ๆ ชวนให้คิดถึงความเศร้า เป็นต้น จุดเล็ก ๆ เหล่านี้ก็ช่วยให้การสร้างฉากสมบูรณ์ขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อเช่นกัน

นักเขียนดราม่าก็มีอารมณ์สนุกๆ ได้นะ
 
และสุดท้าย...สำนวนการเขียนและการเลือกใช้คำนับเป็นกุญแจสำคัญมากที่สุด นักเขียนจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดลงไปได้มากแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกสรรคำนำมาประกอบเป็นประโยคที่ต้องเป็นธรรมชาติ เข้าใจได้ง่าย และสื่ความได้ชัดเจน
 
หลักๆ แล้วก็มีเท่านี้ค่ะ ว่ากันตามจริงแล้ว ฉากที่เป็นซีนอารมณ์ทุกๆ ฉากล้วนยากไม่แพ้กันเลย ไม่ว่าจะโกรธ ตลก รักหรือเศร้า ดังนั้นนอกเหนือจากที่บอกไปข้างต้นแล้ว นาตมักจะหยิบนิยายเก่า งานชั้นครูมาอ่านเพื่อศึกษากลวิธีในการเขียนดูค่ะ นาตว่างานเหล่านี้เป็นตัวอย่างชั้นดีที่น่าศึกษาและนำเอามาประยุกต์ใช้กับงานตัวเองได้เลย


 
จบไปแล้ว กับนักเขียนทั้งสามคนของเรา พี่ตินเองอ่านแล้ว ก็รู้สึกว่าได้รับคำแนะนำไปด้วย และก็รู้สึกได้เลยว่าฉากดราม่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การจะเขียนออกมาสักฉากนี่... มันใช้เวลา และต้องจริงจังกับมัน เพราะฉะนั้น ถ้าวันไหนรู้สึกว่ายังไม่ได้ ยังเขียนไม่ออก ก็หยุดก่อน แล้วพอได้อารมณ์ ค่อยกลับมาเขียน จะทำให้ฉากดราม่าของน้องๆ น่าสนใจมากขึ้นนะ
 
ครั้งนี้ลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่พร้อมหัวข้อที่แรงกว่าเก่าจ้า  
 
อตินเอง  

พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

13 ความคิดเห็น

วนิษา.. Member 18 ก.ย. 58 17:42 น. 1

ขอบคุณนะคะกำลังตันกับการเขียนฉากดราม่าอยู่พอดีบางทีก็คิดไม่ออกเลยค่ะว่าจะเขียนยังไงก็ตัดฉากนั้นออกไป ขอบคุณอีกครั้งนะคะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
apblocdy Member 19 ก.ย. 58 20:33 น. 3
ขอบคุณค่ะ ส่วนตัวถ้าจะเขัียนดราม่า จะเรียกฟีลลิ่งส่วนตัวออกมา กับ ฟังเพลงเศร้าๆ คราวนี้นี่อินจัดกันเลยทีเดียว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Yasashiiegao Murasaki Member 24 ก.ย. 58 09:26 น. 5

เราอยู่ในประเภท "น้ำตาคลอ แต่สรรหาคำมาบรรยายไม่ได้ ทำให้คนอ่านไม่อิน"

ไม่ใช่ "สรรหาคำบรรยายได้ แต่ไม่มีอารมณ์ร่วม"

0
กำลังโหลด
คุงดโย Member 24 ก.ย. 58 23:13 น. 6
เป็นการแนะนำที่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ. เมย์อยากเขียนฟิคดราม่าเหมือนกัน. เป็นคนชอบฟิค/นิยายดราม่าอยู่แล้ว. จะนำไปปรับใช้ดู. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะพี่ๆ
0
กำลังโหลด
คุงดโย Member 24 ก.ย. 58 23:13 น. 7
เป็นการแนะนำที่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ. เมย์อยากเขียนฟิคดราม่าเหมือนกัน. เป็นคนชอบฟิค/นิยายดราม่าอยู่แล้ว. จะนำไปปรับใช้ดู. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะพี่ๆ
0
กำลังโหลด
คุงดโย Member 25 ก.ย. 58 00:03 น. 8
เป็นการแนะนำที่มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ. เมย์อยากเขียนฟิคดราม่าเหมือนกัน. เป็นคนชอบฟิค/นิยายดราม่าอยู่แล้ว. จะนำไปปรับใช้ดู. ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะพี่ๆ
0
กำลังโหลด
Aoae Member 25 ก.ย. 58 10:58 น. 9

พี่อตินพูดถูกกกก มันขึ้นอย่กับจังหวะ และมุมมองในการถ่ายทอดจริงๆเยี่ยม

บางคนบางตัวละครคิดว่าการทำอย่างนี้มันไร้สาระ แต่กับอีกตัวละครกลับมองว่ามันจริงจัง น่าเศร้าขนาดเก็บไปร้องไห้ได้...

อีกอย่างจะลองเปิดเพลงดูนะคะ ปกติไม่ค่อยรู้จักเพลงไทยซะด้วยสิ 555 ต้องหาตามกระทู้โปรโมตเพลงซะแล้ว เย้

จริงๆชอบเขียนฉากดราม่าเพราะชีวิตมีให้ดราม่ามาตลอดๆ เป็นช่วงๆ พอเศร้าเมื่อไหร่ก็มาเขียนระบายออกไป พอจะเขียนก็หยิบมาศึกษาดูว่าตอนเราเศร้ามากๆรุ้สึกยังไงแล้วค่อยประยุกต์ค่ะ (ปกติเศร้าไม่เกินสามวัน ต้องเก็บเกี่ยวช่วงเวลานั้นใหม่มากที่สุดเลยล่ะ55)

ขอบคุณบทความดีๆมากๆค่าาา 

0
กำลังโหลด
물* (Wj) Member 19 พ.ย. 58 18:02 น. 10
มันเป็นอะไรที่ตรงใจมาก ทั้งการทำอารมณ์ และการใช้ภาษา เวลาเขียนทำไมถึงรู้สึกเหมือนเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง เหมือนว่าเรานี่ละกำลังเป็นคนๆนั้น เคยเขียนไปแล้วอยู่น้ำตาก็ไหลตาม แล้วก็เป็นประจำนะกับการเปิดเพลงคลอ มันทำให้เขียนลื่นมากมายย ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆค่ะ ^^
0
กำลังโหลด
물* (Wj) Member 19 พ.ย. 58 18:02 น. 11
มันเป็นอะไรที่ตรงใจมาก ทั้งการทำอารมณ์ และการใช้ภาษา เวลาเขียนทำไมถึงรู้สึกเหมือนเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง เหมือนว่าเรานี่ละกำลังเป็นคนๆนั้น เคยเขียนไปแล้วอยู่น้ำตาก็ไหลตาม แล้วก็เป็นประจำนะกับการเปิดเพลงคลอ มันทำให้เขียนลื่นมากมายย ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆค่ะ ^^
0
กำลังโหลด
물* (Wj) Member 19 พ.ย. 58 18:02 น. 12
มันเป็นอะไรที่ตรงใจมาก ทั้งการทำอารมณ์ และการใช้ภาษา เวลาเขียนทำไมถึงรู้สึกเหมือนเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง เหมือนว่าเรานี่ละกำลังเป็นคนๆนั้น เคยเขียนไปแล้วอยู่น้ำตาก็ไหลตาม แล้วก็เป็นประจำนะกับการเปิดเพลงคลอ มันทำให้เขียนลื่นมากมายย ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆค่ะ ^^
0
กำลังโหลด
물* (Wj) Member 19 พ.ย. 58 23:39 น. 13
มันเป็นอะไรที่ตรงใจมาก ทั้งการทำอารมณ์ และการใช้ภาษา เวลาเขียนทำไมถึงรู้สึกเหมือนเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง เหมือนว่าเรานี่ละกำลังเป็นคนๆนั้น เคยเขียนไปแล้วอยู่น้ำตาก็ไหลตาม แล้วก็เป็นประจำนะกับการเปิดเพลงคลอ มันทำให้เขียนลื่นมากมายย ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆค่ะ ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด