7 ข้อผิดพลาดที่นักเขียนมือใหม่ต้องระวัง

เช็กข้อควรระวังในการเขียนกันดีกว่า จะได้พัฒนาตัวเองกันไง  
 
สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคน วันนี้พี่ตินพกกลเม็ดเคล็ดลับแบบสั้นๆ มาฝาก เป็นการคั่นเวลา โดยเลือกหัวข้อที่ส่วนตัวคิดว่าสำคัญมาก นั่นคือ “ข้อผิดพลาดของนักเขียนมือใหม่” ซึ่งพี่ตินเองก็เคยเป็นและเคยผ่านมาแล้ว (ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่) การทำบทความนี้ก็เหมือนได้ทบทวนตัวเองไปพร้อมกับน้องๆ ด้วยเช่นกัน
 
เป็นนักเขียนก็ต้องหมั่นเช็กข้อผิดพลาดของตัวเองนะ จะได้พัฒนาตัวเองสม่ำเสมอ
 
เริ่มเรื่องด้วยฉากที่ไม่ใช่
มีนักเขียนมือใหม่หลายคน ที่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรื่องอย่างไร และพลาดไปเลือกฉากที่ไม่ใช่มาเปิดเรื่อง ซึ่งปัญหาสำคัญของการเลือกฉากที่ไม่ใช่คือ มันทำให้การดำเนินเรื่องผิดพลาด และไม่ดึงดูดใจคนอ่าน ถามว่าฉากที่ไม่ใช่คืออะไร เราขอตอบว่า... หลักการสำคัญของการเปิดเรื่องคือ เลือกฉากที่ดึงดูดใจที่สุด ฉากที่อ่านแล้ว เกิดความรู้สึกอยากอ่านต่อ หรือรู้สึกว่าเรื่องราวน่าสนใจ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเล่าเรื่องจาก 1 ไป 10 อาจจะเลือกฉากที่ 10 มาเล่าก่อนเพื่อให้คนอ่านอยากรู้ต่อ แล้วค่อยย้อนกลับไปที่ 1 ใหม่ก็ได้
 
ขอยกตัวอย่าง เรื่องซินเดอเรลล่า ก็รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวที่ถูกแม่เลี้ยงและพี่สาวทั้งสองกลั่นแกล้ง ชีวิตต้องลำบากเหนื่อยยาก แต่เราจะเปิดมาที่ฉากไหน...? เล่าจากชีวิตวัยเด็กที่พ่อของซินเดอเรลล่าแต่งงานกับแม่เลี้ยงอย่างนั้นหรือ...? พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหม ฉากเปิดของเราควรจะเล่าถึงเรื่องอะไร ต้องเริ่มจากตรงไหนถึงจะน่าสนใจ ในการ์ตูน เริ่มเปิดที่ฉากซินเดอเรลล่าตื่นนอน แล้วมองไปที่ปราสาท มีความหวัง มีความฝัน จากนั้นก็ค่อยๆ เฉลยตัวละครแม่เลี้ยงและพี่สาวใจร้ายทั้งสองออกมา แต่ถ้าเล่าเรื่องซินเดอเรลล่าในแบบของเรา เราอาจจะเริ่มจากฉากเจอนางฟ้าแม่ทูนหัวเลยก็ได้ แล้วเล่าย้อนกลับไปใหม่อีกครั้ง ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับเราว่า... อินกับฉากไหน และคิดว่าฉากไหนจะดึงดูดความสนใจคนอ่านได้มากที่สุด
 
สรุปง่ายๆ ก็คือ จะเลือกเล่าจากฉากไหนก็ได้ ขอแค่ให้มันโดนใจคนอ่าน อ่านแล้วอยากอ่านต่อ และไม่ทำให้เรื่องผิดเพี้ยน ก็พอ  
 
หลุดจากพล็อตเรื่องที่วางไว้
อารมณ์นี้ คล้ายๆ กับเพื่อนมาบอกว่า “ฉันมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟัง วันนี้ฉันไปกินอาหารญี่ปุ่นมา เส้นเล็กของร้านนี้อร่อยมาก...” เห็นภาพไหม...? เวลาเขียนนิยาย ควรกำหนดพล็อตให้ชัดเจน และเขียนไปตามพล็อตที่วางไว้ โดยระวังไม่ให้หลุดหรือดูโดดมากจนเกินไป เมื่อเราโฟกัสว่าจะพูดเรื่อง “อาหารญี่ปุ่น” เราก็ต้องอยู่ในกรอบของ “อาหารญี่ปุ่น” ไม่ใช่ไปเอา “ก๋วยเตี๋ยว” มาพูดถึงแทน จำไว้ว่า... ก่อนเขียน วางพล็อตให้ชัดเจน และเขียนตามพล็อตของเรา
 
เปิดตัวละครมาไม่ปัง เนื้อหาไม่แน่น   
การนำเสนอตัวละครเป็นอีกหนึ่งในหัวข้อที่ควรต้องระวัง จะเล่ามาดุ่ยๆ โดยไม่มีที่มาที่ไป ประเภทที่ว่าจู่ๆ ก็โพล่งมาว่า... นาย ก. กำลังทำแบบนั้นแบบนี้ หรือนาย ก. เดินเข้าไปจีบนางสาว ข. โดยที่ไม่บอกเล่าให้คนอ่านรู้เลยว่า นาย ก. คนนี้เป็นคนยังไง นิสัยแบบไหน ... คือจริงๆ จะเขียนแบบนี้ก็เขียนได้แหละ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่ามันอาจจะทำให้คนอ่านไม่เกิดอารมณ์ร่วม และไม่รู้จักตัวละครของคุณมากพอ จะสร้างตัวละครสักตัว คุณจะต้องรู้จักเขาหรือเธอเป็นอย่างดี และเมื่อต้องเปิดตัว ให้พวกเขาออกมาโลดแล่น ทำความรู้จักคนอ่าน นักเขียนต้องมั่นใจแล้วว่าจะสร้างความประทับใจให้คนอ่าน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง อาจจะชอบ หรือเกลียด สงสัย อยากรู้ต่อ หรืออะไรก็ได้ ให้เกิดความรู้สึกอะไรสักอย่าง ไม่ใช่เฉยๆ หรือไม่สนใจ ลองคิดหาทางเปิดตัวตัวละครของเราให้น่าสนใจ และสร้างภูมิหลังของตัวละครให้ชัดเจนที่สุด
 
ไม่ใส่อารมณ์ร่วมมากพอ
เคยสงสัยกันไหม โลกนี้มีนักเขียนเป็นแสนเป็นล้าน แต่มีสักกี่คนที่ผลงานดึงดูดใจ ได้รับการตอบรับจากคนอ่าน...? คำตอบก็คือ น้อยมาก และเมื่อพิจารณาดูแล้ว ผลงานของนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ล้วนแต่เป็นผลงานที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ถามว่าอารมณ์มันเป็นแบบไหน เราขอตอบสั้นๆ ว่า เวลาเขียน คุณต้องอินกับเนื้อเรื่องจริงๆ ต้องรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในโลกของตัวละครจริงๆ การเขียนนิยาย ไม่ใช่การเล่าประวัติชีวิตของใครสักคน แต่เป็นการทำให้คนอ่านเข้าถึงเรื่องราวของคุณให้ได้ต่างหาก และการเขียนนิยายก็ไม่ใช่การเขียนบทความ ที่เต็มไปด้วยข้อเท็จจริงให้วิเคราะห์ แต่เป็นการเล่าเรื่องราวของตัวละคร มันจึงควรเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก และแสดงให้เราได้รู้ว่า... ตัวละครนั้นมีค่านิยมอย่างไร คิดอย่างไร หรือเป็นคนอย่างไร คำแนะนำคือ เวลาจะเขียน ลองจินตนาการดูว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวละครตัวนั้น คุณจะทำอย่างไร หรือจะรู้สึกอย่างไร แล้วระบายมันออกมาเป็นตัวอักษร
 
มีปัญหาเรื่อง Point of View หรือมุมมองของตัวละคร
สำหรับเรื่อง POV นี้ พี่น้องเคยทำบทความเอาไว้ ในหัวข้อ 5 ข้อควรจำเรื่อง POV สำหรับนักเขียนมือใหม่ พี่ตินคิดว่า POV เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่นักเขียนมือใหม่ทุกคนต้องระวัง POV มีสามแบบอย่างที่พี่น้องเคยพูดไปแล้ว POV ที่น่าสนใจมีสองแบบ นั่นคือ  
POV 1 (มุมมองบุคคลที่ 1) เป็นการเล่าเรื่องผ่านปากตัวละคร พวกนิยายที่แทนตัวเองว่า ฉัน หรือ ผม หรืออย่างนิยายที่บอกเล่าผ่านสายตาของตัวละครที่แตกต่างกันไปในแต่ละบท เช่น Game of Throne บทแรกอาจเป็นตัวละครตัวหนึ่ง บทต่อมา ก็เปลี่ยนเป็นตัวละครอีกตัว เป็นต้น
POV 3 (มุมมองบุคคลที่ 3) หรือที่เรียกกันว่ามุมมองแบบพระเจ้า เป็นการเล่าในลักษณะที่คนเขียนเป็นบุคคลที่สาม ที่มองเข้าไปในสถานการณ์ ยกตัวอย่าง เราเห็น A ทะเลาะกับ B เราก็จำไว้แล้วเอาไปเล่าให้ C ฟัง ประมาณนี้ มุมมองแบบนี้ จะคล้ายๆ การใช้กล้องลอยอยู่เหนือเหตุการณ์ทั้งหมด รู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ทำให้คนอ่านอยู่ห่างจากตัวละคร แต่ได้ข้อมูลในเรื่องครบถ้วน
ปัญหาของนักเขียนมือใหม่คือ มักจะใช้ POV สับสนปะปนกันไปหมด ตอนแรกเขียนว่า ฉันอยู่ดีๆ ก็มาเปลี่ยนเป็น เธอ เป็นต้น เหมือนกับที่พี่น้องบอกไว้นั่นแหละ “การสลับมุมมองไปมา สบายเรา แต่เหนื่อยนักอ่าน” เหมือนเรากำลังเล่าเรื่องของ A จู่ๆ เราก็ข้ามไปเล่าเรื่องของ B อาจจะทำให้คนฟังงง และไม่เข้าใจ เผลอๆ จะไม่เข้าใจทั้งมุมมองของ A และ B ด้วย
 
รีบจบเรื่องเกินไป
แน่ละ นักเขียนมือใหม่ย่อมอยากมีผลงานเป็นของตัวเอง อยากให้นิยายจบเรื่อง อยากส่งสนพ. อยากตีพิมพ์เป็นเล่ม เพราะงั้น เร่งๆ เขียนดีกว่า จะได้เห็นผลงานสักที ไอ้การเร่งรีบนี่แหละ จะสร้างปัญหาให้กับผลงานของเราได้ งานเขียนเป็นเรื่องที่ “รีบไม่ได้” เราต้องให้เวลากับมันมากๆ ขนาดนักเขียนมืออาชีพ ยังต้องตรวจงานไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง น้อยคนมากที่จะเขียนดราฟท์เดียวผ่านเลย การเร่งเขียนมากเกินไป อาจทำให้ตัวละครของเราไม่แน่นพอ เนื้อเรื่องก็สับสน บทสนทนาก็อาจจะน่าเบื่อ คำแนะนำคือ เมื่อเขียนจบเรื่อง ให้พักสักระยะหนึ่ง จนกว่าจะลืมเรื่องทั้งหมด แล้วกลับมาอ่านทวนอีกครั้ง จะได้เห็นและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง
 
อีกหนึ่งคำแนะนำคือ... นำมาโพสต์ลงในเว็บเด็กดีนี่แหละ การได้ฟังความเห็นจากคนอ่าน จะช่วยให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่เราไม่เคยเห็น แน่นอน เราไม่ได้บอกให้เชื่อคำวิจารณ์ทุกอย่าง แต่อย่างน้อย การรับฟังแล้วเก็บเอาไปคิด ก็น่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ถ้าหากใครบ่นว่าไม่มีคนเข้าอ่านนิยาย พี่ตินขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นขอความเห็นจากเพื่อนสนิท คนใกล้ตัว เอาให้เพื่อนอ่าน แล้วลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูว่าเรื่องของเราดีพอแล้วหรือยัง ควรต้องปรับแก้ไขตรงไหนบ้าง จำไว้ คำวิจารณ์มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด
 
ไม่กล้าจัดเต็ม
อีกหนึ่งปัญหาสำคัญของมือใหม่คือ “ไม่กล้าเล่นใหญ่” “ไม่กล้าจัดเต็ม” ส่วนใหญ่เรามักจะเขียนกลางๆ ไว้ก่อน เพราะกลัวว่าทำแบบนั้นแล้วจะผิด ทำแบบนี้แล้วจะพลาด เพราะงั้น งานของเราก็จะนิ่งๆ ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรมาก และส่วนใหญ่ก็เขียนตามแบบแผน หรือไม่ก็เขียนคล้ายๆ กับนักเขียนที่เป็นแรงบันดาลใจของเราเอง ซึ่งก็ไม่ผิด เพียงแต่ มันจะทำให้งานของเราไม่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ก็เท่านั้นเอง คำแนะนำคือ “จัดเต็มไปเลย” ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกลัว นักเขียนส่วนใหญ่ที่แจ้งเกิดได้ก็เพราะกล้าเสี่ยงทั้งนั้นแหละ ดูอย่างแฮรี่ พ็อตเตอร์สิ ส่งต้นฉบับไปกี่ที่ก็ไม่ผ่าน แล้วพอผ่านเป็นยังไง...? ดังสุดๆ ไงล่ะ ถามว่าเพราะอะไรถึงดัง พี่ตินคิดว่า เพราะเนื้อเรื่องแปลกใหม่ ไม่เคยมีใครเขียนมาก่อน อ่านแล้วเรารู้สึกได้เลยว่ามันเป็นตัวของตัวเอง และแตกต่างจากงานอื่นๆ ในยุคนั้น เพราะฉะนั้น ก่อนจะเริ่มเขียนงาน แนะนำให้ถามตัวเองว่า... เราต้องการอะไร เราสนใจอะไรอยู่ แล้วถ่ายทอดผลงานผ่านตัวตนของเรานี่แหละ เอาง่ายๆ นะ เราเขียนเอง เราต้องชอบก่อน และควรเขียนในสิ่งที่เชื่อจริงๆ ไม่ใช่เขียนตามๆ คนอื่น หรือเขียนไปเพราะ “คิดว่า” มันดี จงเขียนในสิ่งที่เรา “คิดว่า” ดี และ “ชอบ” มันจริงๆ   
 
จาก 7 ข้อที่พูดมา ข้อที่พี่ตินชอบมากที่สุดคือข้อสุดท้ายนะ พี่ตินคิดว่า การสร้างงานที่เป็นตัวของเราเอง คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของนักเขียน ไม่จำเป็นต้องแตกต่างจากคนอื่นๆ ชนิด “คนละโลก” หรอก แต่ยังไงก็ขอให้มีความเป็นตัวเราอยู่ในเรื่อง นั่นแหละ จะทำให้ผลงานของเรามีเสน่ห์ และไม่เหมือนใครจริงๆ เวลาเขียนงาน อย่าลืมใส่ความเป็นตัวตนลงไปด้วยนะ ผลงานของเราจะได้เป็นของเราจริงๆ ไง ^ ^
 
อตินเอง 
 
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

X.U. Member 11 พ.ย. 58 16:21 น. 1

ข้อสุดท้ายใช่มาก เราไม่กล้าใส่ความรู้สึกจัดเต็มลงในนิยาย กลัวว่ามันไม่ดีอย่างนู้น ไม่ดีอย่างนี้

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะรักเลย

0
กำลังโหลด
Me_Six_ttz Member 11 พ.ย. 58 17:45 น. 3

หลบได้ทุกข้อครับ มาโดนจังๆข้อสุดท้าย55555

ตอนนี้เขียนแบบวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนอยู่ เลยมีฉากการตาย

ไม่กล้าบรรยายมากครับ กลัวเรทเกิน ขนาดหัวตอนยังบอกให้ใช้จักรยาน เอ๊ย วิจารณญาณในการอ่านกันเลยเชียว

เขิลจุง

0
กำลังโหลด
pinno_tea Member 11 พ.ย. 58 16:32 น. 2
เรามีปัญหาเรื่องเปิดเรื่องนี่แหละ 5555 ยากมากกก เราเปลี่ยนฉากเปิดมาเกือบ 10 รอบแล้วรู้สึกยังดีไม่พอ
0
กำลังโหลด
มัณทนา [Red Devil] Member 17 พ.ย. 58 15:23 น. 13

นักเขียนมือใหม่บางคนเพิ่งเขียนเรื่องแรกไม่กี่ตอนก็เรียกร้องหาคอมเม้นท์แล้ว

คือ รอเขียนให้ถึง 5 ตอนขึ้นไปก่อนดีกว่านะ

แต่ถ้าเขียนได้ไม่กี่ตอน แล้วพล็อตเรื่องน่าสนใจและน่าดึงดูดจริงๆ เราจะได้เข้าไปเม้นท์ให้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

20 ความคิดเห็น

X.U. Member 11 พ.ย. 58 16:21 น. 1

ข้อสุดท้ายใช่มาก เราไม่กล้าใส่ความรู้สึกจัดเต็มลงในนิยาย กลัวว่ามันไม่ดีอย่างนู้น ไม่ดีอย่างนี้

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะรักเลย

0
กำลังโหลด
pinno_tea Member 11 พ.ย. 58 16:32 น. 2
เรามีปัญหาเรื่องเปิดเรื่องนี่แหละ 5555 ยากมากกก เราเปลี่ยนฉากเปิดมาเกือบ 10 รอบแล้วรู้สึกยังดีไม่พอ
0
กำลังโหลด
Me_Six_ttz Member 11 พ.ย. 58 17:45 น. 3

หลบได้ทุกข้อครับ มาโดนจังๆข้อสุดท้าย55555

ตอนนี้เขียนแบบวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนอยู่ เลยมีฉากการตาย

ไม่กล้าบรรยายมากครับ กลัวเรทเกิน ขนาดหัวตอนยังบอกให้ใช้จักรยาน เอ๊ย วิจารณญาณในการอ่านกันเลยเชียว

เขิลจุง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
นักเขียนคนหนึ่ง 12 พ.ย. 58 21:26 น. 7
โดนไปหลายข้อเลยค่ะ แต่มีอีกอย่างหนึ่งที่ทำพลาดคือ ลำดับเหตุการณ์เรื่อง งงๆ ตัดตอนผิดๆอันนี้โดนนักอ่านติงบ่อยมากเลยตัดสินใจเอามารีไรท์ใหม่หมดเลย คืออยากให้นิยายมันดูลึกลับซับซ้อนแต่กลายเป็นนักอ่านงงเเทน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
meiarchan Member 13 พ.ย. 58 22:24 น. 10

ตอนแต่งนิยายใหม่ๆก็โดนไปเกือบทุกข้อเลยค่ะ ส่วนตอนนี้......ก็เหมือนจะยังโดนอยู่บ้างนะ 555

แต่ข้อสุดท้ายนี่เราคงล้นมากกว่าขาดค่ะ เวิ่นเว้อป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย by คุณเพื่อนคนหนึ่ง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Siriporn Pok Member 14 พ.ย. 58 21:15 น. 12

ปัญหาใหญ่สำหรับมายาเเละพี่นักเขียนมือใหม่เเละพี่นักเขียนมืออาชีพ(อาจจะ)ทุกคน คือ ตัน!!ค่ะ พอตันปุ๊บคิดเนื้อไม่ออกเลยค่ะ

0
กำลังโหลด
มัณทนา [Red Devil] Member 17 พ.ย. 58 15:23 น. 13

นักเขียนมือใหม่บางคนเพิ่งเขียนเรื่องแรกไม่กี่ตอนก็เรียกร้องหาคอมเม้นท์แล้ว

คือ รอเขียนให้ถึง 5 ตอนขึ้นไปก่อนดีกว่านะ

แต่ถ้าเขียนได้ไม่กี่ตอน แล้วพล็อตเรื่องน่าสนใจและน่าดึงดูดจริงๆ เราจะได้เข้าไปเม้นท์ให้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เมจิ 22 พ.ย. 58 12:10 น. 17
คิดจะลองเขียนนิยายจริงจังดูเปนเรื่องราวที่ช่วยได้มากเลยทำให้เข้าใจการก้าวไปข้างหน้าได้แบบชัดเจน
0
กำลังโหลด
น้ำแข็งไสเย๊นเยน Member 27 ม.ค. 59 01:19 น. 18

หนูนี่ข้อ 7 เต็มๆเลยค่ะ คือคอนเซปต์ของเรื่องตั้งใจไว้ว่าอยากให้มันออกมาแบบฮาๆ  เอาที่เราชอบ ที่เราตั้งใจจะทำ ก็จะวางคาเรคเตอร์ของตัวละครเอาไว้ชัดเจน คือ พระเอกเกรียนแบบตลกๆ หลงตัวเอง ชอบอ่อย ชอบหยอด อารมณ์ร้อน มักจะมีมุกหยอด ตอดเล็กตอดน้อบจีบนางเอกเสมอ ส่วนนางเอกเองก็ไม่ได้เรียบร้อย มึนบ้าง รั่วบ้าง ตลกนิดๆ  หนูตั้งใจเขียนมันออกมา  โดยใช้ความรู้สึกจากประสบการณ์ที่เห็น ที่สัมผัสโดยตรง เอามาเล่าโดยผ่านการเขียนในรูปแบบ Pov1 (ตามบทความของพี่อตินเลยค่ะ) คนอ่านดูจะชื่นชอบมาก ดูมีความสุขกับนิยายที่เราแต่ง แต่ตอนล่าสุดกลับมีปัญหาขึ้นค่ะ เป็นการเปิดตัวแม่ของพระเอกที่เป็นดารา แต่นึกสนุกอยากแกล้งลูกชายตัวเองและแฟนลูก(นางเอก) ก็เลยปลอมตัวเป็นคนแก่ สร้างเรื่องนู่นนี่นั่นมากมาย พอถูกจับได้ว่าปลอมตัวก็ยังแกล้งลูกชายอีก พร้อมปล่อยมุกมากมาย คือตอนแต่งหนูก็คิดแหล่ะค่ะ แม่พระเอกเป็นดารา แล้วอุปนิสัยก็ขี้เล่นอยู่แล้ว ก็เลยแต่งให้แม่เกรียนกว่าลูกมากค่ะ แบบลูกชายว่าตลก ขี้เล่นแล้ว แม่เป็นมากกว่าอีก ก็ประมาณนี้ค่ะ  พออัพลงก็มีคนที่อ่านสักประมาณ 2-3 ท่านคอมเม้นต์ว่า  'มุกเยอะไปหรือเปล่า อยากให้ลดลงนิดนึงจะสนุกมาก' ทำนองเดียวกันเลยค่ะ  แต่ก็มีฝ่ายที่เห็นต่างบอกว่า 'ไม่เยอะไปนะ นี่คิดว่าอยากจะให้ใส่มุกเข้าไปอีกเยอะๆด้วยซ้ำ'  จนหนูกลับมาอ่านนิยายตัวเองซ้ำๆหลายๆรอบ  หนูก็คิดว่าตอนก่อนๆที่ผ่านมามันดูเยอะกว่านี้อีก และจริงๆแล้วหนูตั้งใจให้มันออกมาแบบนี้ ให้มันดูเว่อร์ๆหน่อย ตอนแรกก็คิดว่าเราเขียน เราต้องชอบก่อนสิ ถ้าเราไม่ชอบ ไม่สนุกคนอ่านจะรู้สึกยังไง แต่พอมันผ่านมาสักระยะนึง เราก็คิดอีกว่า ถ้าเราแต่งตามคนอ่าน มันจะตรงกลับที่เราต้องการจะทำไหม  หรือมันอาจจะเป็นข้อบกพร่องของเราที่คนอื่นมองเห็นก็ได้ คิดจนเริ่มเครียด จิตตกแล้วล่ะค่ะ จากที่แต่งคอมเมดี้กลายเป็นว่าเราเองแต่งไม่ออกเลยค่ะ ถ้ายังคิดไม่ตกอยู่ หนูก็ไม่กล้าจะแต่งต่อ เพราะกลัวคนอ่านจะไม่อิน ไม่รู้สึกสนุกสนาน ไม่เข้าใจกับเรื่องราวที่จะสื่อออกไป หนูควรจะทำยังไงดีคะ จะทำต่อตามใจตัวเองตั้งแต่ตอนตั้งใจไว้แต่แรก แล้วปรับได้บางส่วนเท่าที่สามารถทำได้ ที่ผิดพลาดมากๆ หรือจะทำตามแนะนำของคนอ่านคะ เสียใจเสียใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
stima Member 9 ก.ย. 60 12:15 น. 20

เห็นด้วยกับบทความนี้ค่ะ โดยเฉพาะข้อที่ว่า 'ไม่กล้าจัดเต็ม' เรื่องแรกเขียนกลางๆ สบายๆ ส่งสนพ.ไม่ผ่าน เรื่องที่สองจัดเต็มใส่ความรู้สึกลงไปในตัวละครเต็มที่ ส่งประกวดสนพ.เดิม ตกรอบประกวด แต่สนพ.สนใจงานชิ้นที่สอง ถ้าแก้ไขได้ตามที่บก.แนะมา ก็น่าจะมีโอกาสออกมาเป็นเล่มได้

ส่วนตอนเขียน เรื่องที่เขียนจัดเต็มนี่ คนเขียนรู้สึกสนุกกับงานมากกว่าด้วย มันเต็มที่ ไม่มีกั๊กเลยค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด