9 พฤติกรรมสุดแปลก
ที่นักเขียนดังคอนเฟิร์มว่าทำแล้วไอเดียมาแน่นอน
มาร์ค ทเวน, เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์, แดน บราวน์
พวกเขามีเทคนิคพิเศษอะไรบ้าง แวะมาแอบดูกัน
สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ เชื่อว่า... ทุกคนที่เป็นนักเขียน ต้องเคยเจอปัญหา “เขียนไม่ออก” ไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง ถามว่า... เจอปัญหาแล้วทำยังไง คำตอบก็คือ “ต้องหาทางแก้” แน่นอนอยู่แล้ว จริงไหมคะ บทความของเราวันนี้ พี่ตินได้เก็บรวบรวมเทคนิคพิเศษของบรรดานักเขียนดังๆ มาฝากกัน มาดูกันค่ะว่านักเขียนเก่งๆ เขามีวิธีการกระตุ้นตัวเองให้เขียนงานได้แบบไหนกันบ้าง อ่านแล้วชอบจะเอาไปทำตามบ้างก็ได้นะคะ เราไม่ว่ากัน
นอนเขียน
สำหรับนักเขียนบางคน การนอนบนเตียง เป็นตัวช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และทำให้พวกเขามีสมาธิ สามารถเลือกถ้อยคำที่เหมาะสม เพื่อถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร นักเขียนที่เข้าข่ายนี้ ได้แก่ มาร์ค ทเวน, จอร์จ ออร์เวลล์ และ วู้ดดี้ อัลเลน ถ้าลองเสิร์ชดูกูเกิ้ล จะต้องพบภาพถ่ายของพวกเขา กำลังเขียนหนังสือบนเตียงหรือนอนเอนๆ บนโซฟา นักเขียนบทชื่อ ทรูแมน คาโพต ถึงกับประกาศเลยว่า เขาเป็นนักเขียน “แนวราบ” ถ้านั่งตัวตรงเมื่อไหร่ จะเขียนไม่ออก ต้องนอนเขียนเท่านั้น
ยืนเขียน
ตรงกันข้ามกับข้อก่อนหน้า นักเขียนประเภทแรกชอบนอน นักเขียนประเภทที่สองกลับชอบยืน พวกเขามองว่า การยืนเขียนเหมือนสร้างแรงกระตุ้น ทำให้สร้างผลงานได้ดีกว่า นักเขียนกลุ่มนี้ได้แก่ เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์, ชาร์ลส์ ดิกเก้นส์ และ ลูอิส แครอลล์ ถ้าเคยอ่านผลงานจะพบว่า งานของพวกเขาเป็นงานที่ต้องใช้ความคิด และแฝงปรัชญาบางอย่าง ไม่รู้เหมือนกันว่าเทคนิคยืนเขียน เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร
เขียนใส่แผ่นกระดาษเล็กๆ
นักเขียนผู้นำเทรนด์การเขียนแนวนี้คือ วลาดิเมียร์ นาโบคอฟ ผู้เขียนเรื่องโลลิต้า นั่นเอง เขาเขียนงานใส่กระดาษแผ่นเล็กๆ แล้วเก็บไว้ในกล่อง ที่น่าทึ่งคือ เขาบอกว่าเวลาเขียนจะไม่เขียนฉากต่อกัน แต่เขียนฉากที่อยากเขียน ณ ตอนนั้น โดยไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับเหตุการณ์ นาโบคอฟอธิบายเพิ่มเติมว่า... เขาเก็บกระดาษแผ่นเล็กๆ พวกนี้ไว้ใต้หมอนด้วย เวลาไอเดียมา ก็จะหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาจดทันที ใครจะเอาเทคนิคนี้ไปใช้บ้างก็ได้อยู่นะ
ใช้สีแยกผลงาน
นักเขียนฝรั่งเศส อเล็กซานเดอร์ ดูมาส์ ผู้เขียนเรื่องสามทหารเสือ เลือกใช้เทคนิค “ใช้สีเพื่อคัดแยกผลงาน” ฟังแล้วหลายคนอาจจะงง อธิบายเพิ่มเติมว่า ดูมาส์ใช้สีต่างๆ แยกแยะประเภทงานเขียนของเขา ยกตัวอย่าง เขาจะใช้สีฟ้าสำหรับงานเขียนแบบ fiction สีชมพูสำหรับงานเขียน non-fiction และสีเหลืองสำหรับบทกวี ในยุคนั้น นักเขียนยังต้องใช้พิมพ์ดีดอยู่ เพราะฉะนั้น ดูมาส์จึงถือว่าเป็นนักเขียนที่ทันสมัยและพิเศษมากทีเดียว สำหรับใครที่คิดจะเอาเทคนิคนี้ไปใช้ ลองประยุกต์ด้วยการใช้สีในฉากต่างๆ เช่น ฉากรักสีแดง ฉากเศร้าสีฟ้า ฉากทะเลาะกันสีดำ ก็น่าสนใจดี
ห้อยหัวลง
อันนี้เคยพูดถึงไปแล้วในบทความเรื่อง
“รวมเทคนิคพิชิตอาการเขียนไม่ออก จากนักเขียนดังๆ ทั่วโลก” เจ้าของผลงานดาวินชีโค้ดผู้โด่งดัง แดน บราวน์ประกาศว่าเทคนิคที่เขาใช้แก้ไขคือ
“เวลาเขียนไม่ออก ผมจะห้อยหัวลงต่ำ ฟังแล้วอาจจะแปลกๆ แต่ว่า... วิธีนี้ ช่วยให้ออกซิเจนไหลลงไปเลี้ยงสมอง และคุณยังสามารถมองโลกในมุมที่แตกต่างอีกด้วย ถ้าเขียนไม่ออก ลองเอาหัวเดินต่างเท้าดูนะ” อีกหนึ่งพฤติกรรมที่แดน บราวน์ใช้ก็คือ ตั้งนาฬิกาทรายไว้บนโต๊ะ ทุกๆ ชั่วโมงผ่านไป เขาจะหยุดเขียน แล้วหันมาซิตอัพ วิดพื้น และยืดเส้นยืดสาย... น้องๆ นักเขียนจะเอาไปทำดูบ้างก็ได้นะ อย่างน้อย เขียนไม่ออก แต่ร่างกายก็แข็งแรงแน่นอน ได้เรื่องสุขภาพ ^ ^
หันหน้ามองผนัง
นักเขียนฟรานซีน โพรส เจ้าของผลงาน Blue Angel มีเทคนิคส่วนตัวคือ หันหน้าเข้าผนัง เจ้าตัวบอกว่าเป็นคนชอบมองผนังมาก ถ้าหากไปเขียนที่บ้านเพื่อนหรือห้องสมุด ร้านกาแฟ หรือที่ไหนก็ตาม เธอจะต้องหาผนัง แล้วหันหน้ามองมัน ยิ่งผนังเป็นอิฐบล็อกสวยๆ จะยิ่งช่วยให้เขียนได้ดีมากขึ้น
เขียนไปออกเสียงและท่าทางไป
นักเขียนบทคนดัง แอรอน ซอร์กิ้น ผู้เขียนบทเรื่องโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก มีเทคนิคคือ เวลาเขียนบทสนทนา เขาจะหันหน้าเข้าหากระจก แล้วพูดประโยคนั้นออกมา เจ้าตัวบอกว่า ประโยคไหนแสดงอารมณ์มากๆ ก็เคยถึงกับเผลอโขกหน้าผากกับกระจกอีกต่างหาก เขาบอกว่า เขียนเอง ก็ต้องอ่านแล้วอินเอง ไม่อย่างนั้น คนอ่านไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด
แก้ผ้าเขียน
เจ้าของเทคนิคนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน วิคเตอร์ ฮูโก นักเขียนคนดังนี่เอง เขามีเทคนิคพิเศษคือ “แก้ผ้าเขียน” เทคนิคนี้ถูกใช้เป็นครั้งแรกเมื่อเขาต้องส่งผลงานเรื่องคนค่อมแห่งนอทเทอร์ดาม ณ ตอนนั้น เส้นตายกระชั้นชิดมาก เขาก็เลยหาวิธีทำให้ตัวเองไม่ต้องออกจากบ้าน นั่นคือ แก้ผ้า ว่ากันว่าช่วงนั้นอากาศหนาวมาก ฮูโก ก็เลยต้องห่มผ้าเขียนอยู่บนเก้าอี้
อัดกาแฟเข้าไป
นักเขียนชาวฝรั่งเศส Honoré de Balzac มีพฤติกรรมแปลกประหลาดคือ ช่วงเขียนนิยาย เขาจะดื่มกาแฟวันละ 50 แก้ว!! นักเขียนคนนี้เชื่อว่า... การดื่มกาแฟมากๆ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เขียนงานได้ดี นอกจากบัลซัคแล้ว อีกคนที่ติดกาแฟมากๆ ก็คือวอลแตร์ ช่วงเขียนงาน เขาดื่มกาแฟมากถึงวันละ 40 แก้ว!! - - เทคนิคนี้แปลกมากจริงๆ พี่ตินไม่ขอแนะนำน้องๆ นะคะ เดี๋ยวอันตรายต่อสุขภาพแย่เลย T_T
จบกันไปแล้วกับบทความของเรา คิดเห็นอย่างไรร่วมแสดงความเห็นได้นะคะ หรือใครมีพฤติกรรมแปลกกว่าอยากบอกเล่าก็จัดมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวรออ่าน ^ ^
อตินเอง
ขอบคุณบทความอ้างอิง
43 ความคิดเห็น
นักเขียนดังสุขภาพพังแน่ๆค่ะ วิธีดื่มกาแฟ -*-
แก้ผ้าเขียน ผมก็ทำนะ แต่แค่ท่อนบน ไม่ถึงท่อนล่าง555
กระจอก!!!!!!อัดกาแฟชงเองมันธรรมดาเกินไป ต้องกาแฟเซเว่นเซ่!!!!
แก้ผ้าเขียนที่พีคที่สุดแล้วค่ะ คุณพระคุณเจ้า 555555555555
เคยนอนเขียนเหมือนกันค่ะ และก็อีกวิธีนึงก็คือเล่าเรื่องที่ตัวเองจะเขียนอัดใส่ในโทรศัพท์แล้วเปิดฟัง ในระหว่างที่อัดก็ใส่อารมณ์เข้าไปเต็มที่เลยนะ ประหนึ่งว่าเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังอ่ะ 55555 ทีนี้ก็มาเปิดฟัง หาจุดบกพร่องขาดตรงไหน เกินตรงไหน ก็เติมก็ตัดออก เหมือนตัวเองซ้อมบทการแสดงยังไงไม่รู้ 555
ช่วงแรกๆของการเป็นนักเขียนและตอนนั้นยังไม่มีคอมเป็นของตัวเอง
เรานอนเขียนบนเตียง บนฟูก เขียนใส่แผ่นกระดาษสมุด
พอมีคอมแล้ว ไม่ได้ทำอีกเลย
ฟังเพลง ฟัง Music box อ่านหนังสือ หาข้อมูล ทำการบ้านไปเขียนไปด้วยค่ะ แต่ส่วนมากชอบมองภาพต่างๆแล้วไอเดียมันก็แวบมาเอง แหะๆ =w= รู้สึกว่าแนวนี้ก็ช่วยได้นะ (หรือมีแค่เราที่มองไปแล้วเขียนไปหว่า...? = =")
เคยเขียนใส่กระดาษเล็กๆไว้น่ะแต่ดันทำหายT^Tตอนนี้หาไม่เจอเลยต้องคิดไอเดียเอาเองแต่เคยยืนน่ะตอนเข้าแถวล่ะมั้งน่ะตอนนั้นเข้าแถวอยู่คิดไอเดียขึ้นมาได้เลยจดไปในสมุดเล็กๆที่ตืดตัวอยู่ตลอดเวลาน่ะ เขาก็เคยนอนเขียนปุ้ปไอเดียเนี้ยไหลเข้ามาเรื่อยๆเลยไม่เหมือนตอนยืน
ทำครบ และเอาไปเขียนในห้องน้ำด้วย 55555555555555555555555
อย่างเราต้อง ห้อยหัวตามแดน บราวน์ค่าา
ไม่ถึงห้าวิก็รีบกลับมานอนเขียนอย่รางเร็ว
แก้ผ้าเขียน คงรู้สึกปลดปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่ดีล่ะมั้งคะ ? งี้ต้องเอาไปลองใช้บ้างแล้--
เราเป็นข้อนอนเขียน คือจะเขียนได้ถูกใจเฉพาะตอนนอนจริงๆ ช่วงพีคคือช่วงเคลิ้มกึ่งหลับกึ่งตื่น ภาพเหตุการณ์ในนิยายจะไหลเข้ามาในสมองเหมือนดูวิดีโออะไรสักอย่างอยู่อ่ะ 55555 ตื่นเช้ามาก็เขียนภาพที่เห็นเมื่อคืนทันทีเลย อีกสองข้อที่ช่วยได้เยอะคือมองวิวกับฟังเพลง ช่วยสร้างอินเนอร์สุดๆ
นอนเขียนเวิร์คนะแต่มีโอกาสสายตาสั้นนะ..แล้วบางครั้งเราก็เผลอหลับไปเลย