มาดูเหตุผล! 5 จุดแตกต่างของ "หญิง - ชาย" ที่วิทยาศาสตร์ตอบได้


 
     
         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ถ้าพูดถึงความแตกต่างระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย น้องๆ คิดถึงอะไรกันบ้างคะ? อย่างแรกที่พี่มิ้นท์นึกถึง ก็คือ รูปร่างสรีระนี่แหละค่ะ ผู้หญิงดูเป็นเพศที่บอบบาง ส่วนผู้ชายเป็นเพศที่เข้มแข็ง ร่างกายกำยำ เหมือนเกิดมาเพื่อปกป้องผู้หญิงจริงๆ >//< ซึ่งเรื่องของสรีระเป็นจุดนึงที่ทำให้เราแยกระหว่างหญิง-ชายได้ด้วยตาเปล่า (แม้ว่าหลังๆ จะแยกยากขึ้นก็ตาม)
 

 

         ธรรมชาติได้แบ่งแยกเพศสภาพตั้งแต่เรายังอยู่ในท้องแม่ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 9 ค่ะ แล้วก็ค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ จนเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งนอกจากลักษณะทางกายภาพแล้ว ก็ยังรวมไปถึงเรื่องของสมองและจิตใจด้วย ผู้หญิง-ผู้ชาย ก็เลยมีความคิดความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะเหมือนกันสักเท่าไหร่ วันนี้พี่มิ้นท์คัดมา 5 ข้อเด่นๆ ที่แตกต่าง พร้อมคำอธิบายไขปริศนาให้น้องๆ ร้องอ๋อไปพร้อมๆ กัน

      1. ทำไมผู้ชายมีหนวด แต่ ผู้หญิงไม่มี
 

          คิดสภาพว่าถ้าผู้หญิงทุกคนมีหนวดเคราเฟิ้มเหมือนหนุ่มๆ ทั้งหลาย ก็คงดูไม่จืด แล้วก็อาจได้เห็นแฟชั่นถักเปียหนวดก็เป็นได้ ฮ่าๆ ที่ผู้หญิงไม่มีหนวดเคราเป็นเรื่องของฮอร์โมนในร่างกายค่ะ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือฮอร์โมนเพศชาย เป็นฮอร์โมนที่พบอยู่ได้ทั้ง 2 เพศ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะมีคุณสมบัติเป็นกำหนดคุณสมบัติของเพศชาย ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างของเพศชาย เส้นผม เส้นขน หนดเครา เพื่อให้เพศชายดูเข้มแข็ง แต่ในผู้หญิงก็มีนะคะ แต่มีปริมาณที่น้อยมาก จะมีผลก็แค่กระตุ้นการเจริญเริ่มแรกในช่วงวัยรุ่นให้มีขนตามร่างกาย เส้นเล็กๆ บางๆ ใบหน้าของสาวๆ ก็เลยดูหวานใสกว่าผู้ชายค่ะ  ดังนั้นเวลาเห็นละครไทยให้นางเอกติดหนวด บอกไว้ตรงนี้เลยว่าดูไม่เนียนเลยสักนิดเดียว ><
          แต่ก็จะมีกรณีของผู้หญิงที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ ก็ได้รับผลจากฮอร์โมนตัวนี้ไปเต็มๆ คือ ร่างกายอาจจะมีขนขึ้นตามร่างกาย หรือ มีหนวดบนใบหน้าได้เหมือนผู้ชาย รวมถึงประจำเดือนขาดด้วย

 
   
2. ทำไมผู้ชายมีลูกกระเดือก แต่ ผู้หญิงไม่มี
          ความหล่อแมนแฮนด์ซัมของลูกผู้ชายตัวจริงของแท้ต้องมีลูกกระเดือก! แหม..ก็มองเห็นเด่นมาแต่ไกลเลย ความจริงแล้วลูกกระเดือกมีทั้งในเพศหญิงและชายนะคะ ซึ่งลูกกระเดือกเป็นกระดูกอ่อนที่มีชื่อเรียกว่ากระดูกอ่อนไทรอยด์ มีลักษณะเป็นรูปโล่ 2 แผ่นประกบกัน แต่ที่ผู้ชายเห็นชัดกว่าก็เพราะมุมที่ประกบกันนั้นแคบกว่าเป็นมุม 90 องศา ในขณะที่เพศหญิงมีมุมประกบ 120 องศา ก็เลยป้านกว่า เรียบกว่าค่ะ
         ลูกกระเดือกน้อยๆ ในวัยเด็ก ของผู้หญิงและผู้ชายก็มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่จะเริ่มมาเห็นความแตกต่างก็ในวัยเจริญพันธุ์ เด็กผู้ชายจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนเพิ่มขึ้น ลูกกระเดือกก็เลยใหญ่ขึ้นกว่าเพศหญิงนั่นเอง

    3. ทำไมผู้หญิงจดจำรายละเอียดได้มากกว่าผู้ชาย
        ดราม่าในความรักหนุ่มสาวมักมีเหตุผลมาจากผู้หญิงจำอะไรละเอียดมากเกินไป จดจำทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเล็กนิดเดียวไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับเพศชายที่มีความละเอียดน้อยกว่า ในจุดนี้อย่าเพิ่งมองว่าผู้ชายไม่สนใจเลยค่ะ เพราะในแง่ของระบบสมอง ผู้หญิงและผู้ชายแตกต่างกันจริงๆ
       ผู้หญิงจะมีสมองส่วนหน้า (forebrain) ที่มีความจุมากกว่าผู้ชาย ซึ่งสมองส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับความคิด ความจำ ความรู้สึกนึกคิด และที่สำคัญผู้หญิงจะใช้สมองส่วนนี้ไปกระตุ้นระบบลิมบิค ซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอารมณ์ ตรงกันข้ามกับเพศชายที่ใช้ก้านสมอง ซึ่งเป็นสมองเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นผู้หญิงก็เลยช่างคิด จดจำรายละเอียดได้แม่นยำ และใช้อารมณ์ตัดสินใจมากกว่าผู้ชายค่ะ

    4. ทำไมผู้ชายแรงเยอะกว่าผู้หญิง
        ผู้หญิงแรงเยอะก็มีนะคะ แต่เราขอข้ามตรงนี้ไป เพราะกำลังพูดถึงธรรมชาติของผู้หญิงและผู้ชายค่ะ ธรรมชาติสร้างมาให้ผู้ชายมีกล้ามเนื้อและกระดูกที่ใหญ่กว่าผู้หญิง และผู้ชายก็มีฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนมากกว่า ซึ่งจะเป็นส่วนที่ไปช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้เหมาะกับการใช้แรงต่างๆ ในขณะที่ผู้หญิงจะมีไขมันมากกว่าผู้ชาย ผิวพรรณจึงดูนุ่มนิ่ม เปล่งปลั่ง น่าทะนุถนอมค่ะ
        นอกเหนือจากเรื่องฮอร์โมนแล้ว ในเรื่องของวิวัฒนาการก็มีส่วนค่ะ ในอดีตเพศชายก็เป็นเพศที่ทำงานหนัก ร่างกายจึงค่อยๆ ปรับตัวและสร้างให้ร่างกายมีกำลังมากกว่าเพศหญิงนั่นเอง


 

    5. ทำไมผู้หญิงร้องไห้ง่ายกว่าผู้ชาย
        เพศหญิงอะไรๆ ก็ร้องไห้ จนเป็นภาพจำขึ้นใจไปแล้วว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ อ่อนไหว แม้ในใจผู้หญิงก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาไม่ได้ ในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกเป็นอีกเรื่องที่ส่งผลมาจากการทำงานของสมองค่ะ
        ซีรีบรัม (Cerebrum) เป็นส่วนของสมองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีหน้าที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียนรู้ การทำงานของกล้ามเนื้อ และยังมีส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมความรู้สึกด้วยค่ะ
        ซีรีบรัมจะแบ่งเป็น 2 ซีกคือ ซีกซ้ายและซีกขวา ทั้ง 2 ข้างจะทำงานควบคู่กันไปเสมอ โดยมีคอร์ปัส คอลโลซัม เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสมอง 2 ซีกนี้ จุดแตกต่างมันอยู่ตรงที่มีงานวิจัยออกมาว่า คอร์ปัส คอลโลซัมของผู้หญิงจะหนากว่าผู้ชาย สมองทั้ง 2 ซีกก็เลยทำงานประสานกันได้มากกว่า ก็เลยเป็นที่มาว่าถ้ามีอะไรมากระตุ้น สมองผู้หญิงจะตอบสนองด้านอารมณ์ได้มากกว่าผู้ชาย พูดอะไรนิดหน่อยก็ไวต่อความรู้สึก ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลย ถ้าเกิดมีเรื่องมาสะกิดต่อมน้ำตาแค่นิดหน่อย ไม่ว่าจะดูซีรีส์ ดูหนัง คนพูดซึ้งๆ หรือ เรื่องคอขาดบาดตาย น้ำตาของผู้หญิงก็พาลจะไหลได้ทุกเมื่อ

       เรียกว่าธรรมชาติสร้างความแตกต่างมาได้ลงตัวสุดๆ เลยนะคะ เพศนึงก็มีความอ่อนหวาน อ่อนไหว เป็นเพศสภาพที่เหมาะกับการเลี้ยงดูบุตร ส่วนอีกเพศก็มีความแข็งแรง เหมาะกับเป็นเสาหลักของครอบครัว ดังนั้นการเข้าใจธรรมชาติของแต่ละเพศให้มากขึ้นอีกนิด พี่มิ้นท์ว่าก็ช่วยให้สังคมนี้น่าอยู่ขึ้นเยอะเลย คิดเหมือนกันมั้ยคะ^^
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.livescience.com/32700-why-do-men-have-facial-hair-but-women-dont.html,
www.smile4work.com/2013/10/2.html,
www.shape.com/lifestyle/mind-and-body/mental-health-alert-why-are-women-more-likely-be-sad-men,
หนังสือแสนคำถามน่าทึ่ง ความลับของร่างกาย. สำนักพิมพ์ทองเกษม.
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด