มิลค์พลัส ผู้ชนะรางวัลนักเขียนหน้าใสคนแรก
กลับวงการแล้ว!
สวัสดีชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดีทุกคนจ้า วันนี้ คอลัมน์พบปะพูดคุยของเรามาพบกับ “มิลค์พลัส” ซึ่งพี่โปรยเอาไว้ว่า เป็นผู้ชนะรางวัลนักเขียนหน้าใสคนแรก หลายคนคงแบบ... ทำไมต้องโปรยว่านักเขียนหน้าใส คำตอบก็เพราะว่า... เทศกาลนักเขียนหน้าใสกลับมาแล้วนั่นเอง (แอบเห็นทุกคนตื่นเต้นๆๆๆ) อิอิ แต่เราจะยังไม่บอกรายละเอียดตอนนี้ เกริ่นแค่นี้แหละ ที่เหลือรอลุ้นเอาเองนะว่าจะมาตอนไหน ^ ^
และบังเอิญจริงๆ ค่ะที่
มิลค์พลัส ผู้ชนะรางวัลนักเขียนหน้าใสของเราก็กลับมาพร้อมกับผลงานเรื่องใหม่ของเธอ ที่ปกสวยหวานเห็นแล้วอยากจะอมยิ้มจริงๆ แถมชื่อก็น่ารักไม่แพ้ปก
Fanart วาดรักหวานใสละลายใจเธอ แต่จะละลายใจยังไง วิธีไหน เดี๋ยวเราไปหาคำตอบในบทสัมภาษณ์เลยค่ะ
พี่ติน : ไม่เจอกันนาน ทักทายกันหน่อยเร้ว คิดถึงนะ

มิลค์พลัส : สวัสดีค่า คิดถึงเหมือนกัน ดีใจที่ได้มาทักทายทุกคนอีกครั้ง กระโดดกอดจุ๊บซ้ายจุ๊บขวา ♥
พี่ติน : หายไปนานเกินไปแล้วววววววววววววววว ไปไหนมา บอกมาเดี๋ยวนี้นะ 555 ได้ข่าวไม่ได้ออกนิยายมานานเหรอ ตอนนี้ทำอะไรอยู่ อัพเดทแฟนคลับหน่อย
มิลค์พลัส : ก็ไม่นานนะคะ แค่นิยายมิลค์พลัสหายไปจากแผงเกือบ 2 ปีเอ๊งงง! (#เสียงสูง 5555555) ช่วงนี้เรียนปริญญาโท MBA English Program อยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ เหลือสอบใหญ่อีกหนึ่งครั้งก็จะจบแล้ว (เอาใจช่วยด้วยนะคะ ตื่นเต้นสุดๆ!) แต่จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าหายไปไหนน้า อย่างปีก่อนก็เป็นกรรมการโครงการนักเขียนหน้าใสปีที่ 7 ส่วนปีที่แล้วเป็นโค้ชโครงการนักเขียนหน้าใสปีที่ 8 แล้วก็มีผลงานนิยายที่ได้ไปทำเป็นซีรี่ส์กับ GMM Grammy 2 เรื่องคือ Pretty (Pity) Girl ส่งรักทักทายหัวใจยัยขี้ลืม (Ugly Duckling Series) กับ Absolute Economist ทฤษฎีป่วนหัวใจให้ปิ๊งรัก (U Prince Series) คือก็ยังลั้ลลาอยู่แถวๆ นี้แหละค่ะ เพียงแต่ต้นฉบับไม่เสร็จสักที กรี๊ด!
พี่ติน : ผลงานล่าสุด...? นานเท่าไหร่แล้วเนี่ย อัพเดทหน่อยซิ
มิลค์พลัส : ขออนุญาตทำเป็นลืมไปว่าผลงานเล่มล่าสุดออกค้างไว้เมื่อปี 2014 แล้วโผล่มาอีกทีก็ปีนี้เลย 5555555 เรามาเริ่มนับกันใหม่ดีกว่านะคะ เพราะงั้นขอตอบว่าผลงานเล่มล่าสุดก็คือ
“Fanart วาดรักหวานใสละลายใจเธอ” เพิ่งวางแผงสัปดาห์นี้สดๆ ร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟเลยค่ะ แวะไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้ตามแผงหนังสือเลยน้า~ (เนียนเข้าสู่โหมดขายของได้อย่างงดงาม!)
มิลค์พลัส : ที่มาที่ไปก็มาจากความเป็นแฟนเกิร์ล (เรียกง่ายๆ ก็คือความติ่ง!) ของตัวเองนี่แหละค่ะ เวลาเห็นแฟนคลับที่วาดรูปเก่งๆ คอยวาดแฟนอาร์ตน่ารักๆ ส่งไปให้ศิลปินดารานักร้องหรือนักบอลที่ตัวเองชอบอยู่ตลอดก็จะรู้สึกว่ามันคือสิ่งเล็กๆ ที่น่ารักมากกกกก :D แล้ววันดีคืนดีก็จะมีโมเมนต์ที่ศิลปินเอารูปนั้นไปอัพขึ้น Instagram หรือ Fanpage พร้อมคำขอบคุณ แล้วเจ้าของผลงานก็จะมาหวีดลั่นนนนน เห็นแล้วฟินแทนแถมยังอิจฉามากด้วยพูดเลย ชิๆ >___< ก็เลยจะรู้สึกอยู่บ่อยๆ เลยว่า เอ้อ ระยะทางระหว่างแฟนคลับกับศิลปินที่เหมือนจะห่างไกลและจับต้องไม่ได้ก็ยังมีเรื่องน่ารักๆ แบบนี้เป็นจุดเชื่อมโยงอยู่นะ นี่ถ้าวาดแฟนอาร์ตส่งไปให้ศิลปินที่ตัวเองชอบได้ก็อยากจะส่งไปค่ะแต่แบบ...วาดรูปได้ไก่กาอาราเล่เหลือเกิน กลัวขายหน้า 5555555 เพราะงั้นก็เลยขอหยิบความน่ารักนี้มาผูกเป็นพล็อตแล้วเขียนออกมาเป็นเรื่องราวฟินๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันแทนดีกว่าค่ะ :D กระแสตอบรับก็ถือว่าดีมากเลย หน้านิยายที่ลงไว้ในเด็กดีอบอุ่นมาก แล้ววันก่อนมีนักอ่านแคปรูปส่งมาให้ดูว่าติด Top 100 หมวดนิยายรักหวานแหววกับเค้าด้วยน้า~ ขอบคุณมากเลยค่ะ ไม่คิดไม่ฝันเลยเพราะสามปีเข้ามาอัพที (#โดนสาปแช่ง 5555555555)
พี่ติน : ชื่อตัวละครน่ารักจัง ลูกคลื่นกับแทนทะเล คิดได้ไง คิดได้ตอนไปทะเลเหรอ ^ ^
มิลค์พลัส : มาจากความชอบส่วนตัวเลยค่ะ คือเป็นคนหลงรักทะเลมากกก (รักลูกคลื่นด้วยยย ♥) มีความเพ้อกับการไปนั่งมองเส้นขอบฟ้าตัดกับน้ำทะเลแล้วก็คิดว่ามันดีมากจริงๆ ถ้าเข้าไปดูใน Instagram ก็จะเห็นว่าบางช่วงลงแต่รูปทะเลกับท้องฟ้าจนมีน้องมาถามว่าพี่มิลค์เป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย ไม่เห็นอัพรูปตัวเองบ้างเลย 555555555 สบายดีค่ะ ยังเป็นนักเขียนนะคะไม่ได้กลายเป็นชาวประมงแต่อย่างใด (#ลากอวนจับปลาเข้าฝั่งแป๊บ)
พี่ติน : คิดว่านิยายเรื่องนี้ ต่างจากเล่มก่อนๆ ของเราอย่างไรบ้าง โตขึ้นเยอะไหม มีพัฒนาการทางการเขียนอย่างไรบ้าง
มิลค์พลัส : เล่มนี้ถือเป็นเล่มแรกเลยค่ะที่เขียนพระเอกสองคน (หือ?) คือแอบคิดมานานแล้วว่ามันน่าจะมีนิยายที่พระรองที่แสนดีน่ารักที่สุดในโลกสมหวังกับเค้าบ้างเนอะ ส่วนพระเอกชิคๆ คูลๆ ก็จะยังเป็นพระเอกของทุกคนต่อไป แล้วพอลงมือเขียนเองก็ได้รู้เองค่ะว่าพอพระรองสมหวังเค้าก็เรียกว่าพระเอกไง ตึ่งโป๊ะ! 5555555 ถามว่าโตขึ้นมั้ย จริงๆ คือเขียนตัวละครเด็กลง (ลดวัยมาอยู่มัธยมปลายกรุบกริบ >_<) แต่ถ่ายทอดออกมาในแง่มุมที่โตขึ้นค่ะ คือพยายามจะลงน้ำหนักให้กับความสัมพันธ์ของตัวละครหลักๆ แทบทุกตัวในเรื่อง อ่านๆ ไปนี่จะเจอทั้งโมเมนต์ระหว่างนางเอกกับพระเอก นางเอกกับพระรอง แล้วก็พระเอกกับพระรองเลย แอร๊ ใช้ทุกโมเมนต์อย่างคุ้มค่า 55555555 ตอนเขียนสนุกมากค่ะ รู้สึกผูกพันแล้วก็รักตัวละครในเล่มนี้มากๆ ♥ ถ้าให้พูดถึงเรื่องพัฒนาการก็คงจะเป็นเรื่องของการคงสไตล์การเขียนแบบที่เป็นตัวเองเอาไว้ในขณะที่นำเสนออะไรใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเขียนไปด้วย อย่างการลองเขียนพระเอกสองคนแบบให้ความสำคัญใกล้ๆ กันนี่ก็ไม่เคยทำมาก่อนค่ะ เวลาอ่านคอมเมนต์เห็นนักอ่านลุ้นกันสุดพลังระหว่าง #ทีมทะเล กับ #ทีมลูกคลื่น แล้วรู้สึกว่า เออนี่ก็ทำได้ดีเหมือนกันนะ ฮา! ต้องขอบคุณนักอ่านด้วยค่ะที่มาช่วยกันเชียร์ขนาดนี้ :D
พี่ติน : เขียนมาหลายปี หากิมมิค (ลายเซ็น) ของตัวเองพบแล้วหรือยัง และมันคืออะไร
มิลค์พลัส : มีนักอ่านบอกว่านิยายมิลค์พลัสเป็นสีพาสเทลค่ะ อาจจะด้วยความใสๆ น่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ ของตัวละคร ภาษาบรรยายและโทนเรื่องที่อ่านแล้วจะรู้สึกว่ามันละมุน J คือเป็นความตั้งใจที่จะส่งต่อความสบายใจ อยากให้อ่านแล้วหลุดยิ้มออกมา (แล้วเพื่อนบอกว่าบ้า) ค่ะ (นักอ่านมาบอกบ่อยมาก แอบรู้สึกผิดแต่ก็จะทำต่อไป ก๊ากกก!)
พี่ติน : คิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่นักเขียนต้องมี
มิลค์พลัส : นักอ่านค่ะ สำคัญที่สุดแล้ว แอร๊ยยย >___< คือก็พยายามจะตอบแบบมีหลักการนะคะ แต่คิดว่าในรายละเอียดปลีกย่อยเนี่ยนักเขียนต้องมีอะไรเยอะแยะเลย อย่างเช่น ความคิดสร้างสรรค์ ความขยัน ความรักในงาน ภาษา พล็อตเรื่อง ฯลฯ ซึ่งนักเขียนแต่ละคนก็คงต้องการส่วนผสมที่แตกต่างกันไปในการสร้างงานของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วงานเขียนเหล่านั้นก็ถูกเขียนออกมาเพื่อให้นักอ่านสักคนหรือหลายๆๆ คนได้อ่าน คล้ายกับว่าเป็นจุดหมายปลายทางน่ะค่ะ เพราะงั้นก็เลยตอบว่านักอ่านแล้วกัน เป็นเหมือนแรงผลักดันแล้วก็กำลังใจอะไรแบบนี้ด้วย :D
พี่ติน : ถ้านิยายเรื่องนี้เป็นอาหารหรือขนม จะเป็นเมนูอะไร ^ ^
มิลค์พลัส : คิดถึง ไอศกรีมแพดเดิลป๊อปเรนโบว์ ค่ะ เพราะเป็นสีพาสเทลหวานๆ แล้วก็มีหลากสี พอดีนางเอกเรื่องนี้ชอบวาดรูประบายสีค่ะ ถ้าหยิบสีสันในเรื่องมาผสมกันก็น่าจะออกมาหวานๆ ละเลงๆ แบบแพดเดิลป๊อปเรนโบว์เนี่ยแหละ J
พี่ติน : เล่าเรื่องย่อคร่าวๆ หน่อย ขอสักสามบรรทัดพอ
มิลค์พลัส : นางเอกชื่อพราว เป็นติ่งนายแบบที่ชื่อทะเล แล้วด้วยความที่วาดรูปเก่งก็จะคอยวาดแฟนอาร์ตน่ารักๆ ส่งไปให้ แต่ทะเลก็ไม่เคยตอบ (#มีความนก 5555) จนวันดีคืนดีพราวดันบนเล่นๆ ตลกๆ ว่าถ้าทะเลกดไลค์รูปสักครั้งจะเลี้ยงข้าวเพื่อนผู้ชายในห้องที่ชื่อลูกคลื่นเป็นเวลา 111 วัน แล้วก็นั่นแหละค่ะ ทะเลมาไลค์จริงๆ! พราวนี่ทั้งฟินทั้งเงิบ แล้วนั่นก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของ #ทีมทะเล และ #ทีมลูกคลื่น ค่ะ ใครอยู่ทีมไหนก็ติดแท็กมาบอกกันด้วยน้า จะรออ่านฟีดแบ็กเลยยย :D
พี่ติน : ฝากอะไรถึงแฟนคลับที่ (น่าจะ) คิดถึงงานของเรามาก
มิลค์พลัส : งือออ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่เป็นนักอ่านที่น่ารักของมิลค์พลัสเสมอ ขอบคุณที่ยังรอและคอยส่งพลังมาให้พร้อมเสียงทวงนิยายเล่มใหม่มาเป็นระยะๆ (ดีค่ะ เป็นสารกระตุ้นที่ดี! 55555) จะตั้งใจปั่นต้นฉบับมาให้อ่านกันอีกเยอะๆ เลยนะคะ ฝากติดตามกันแบบนี้ไปนานๆ น้าาา กอดรวบบบบบ >3
หน้าปกแสนสวยสีพาสเทล
พี่ติน : อยากบอกอะไรกับนักเขียนรุ่นใหม่ๆ ของเว็บเด็กดีบ้าง สังเกตบ้างไหม ตอนนี้กับเมื่อก่อน มีความแตกต่างกันอย่างไร
มิลค์พลัส : ยังจำตอนลงนิยายเรื่องแรกในเว็บเด็กดีได้อยู่เลยค่ะ ตอนนั้นอยู่ม.ปลาย จำได้ว่าตื่นเต้นมากตอนมีคนมาอ่านแล้วคอมเมนต์ให้ หลายปีผ่านไปก็ยังรู้สึกว่าเว็บเด็กดีเป็นพื้นที่ที่จุดประกายให้คนที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียนเหมือนเดิมเลย เพราะเป็นที่ที่เราจะได้เจอกับนักอ่าน ได้คำแนะนำ แล้วบางทีผลงานก็อาจจะไปเข้าตาบ.ก.ที่มาตามหาต้นฉบับอยู่ก็ได้นะ! สู้ๆ ค่ะ สนุกไปกับมัน :D แล้วทุกวันนี้เหมือนเว็บเด็กดีจะมีลูกเล่นเยอะขึ้นด้วยใช่มั้ยคะ (สารภาพว่าเป็นคนโลว์เทคมากเลยไม่ค่อยได้ลองเล่นอะไรใหม่ๆ 5555555) ที่รู้สึกได้ชัดๆ ก็คือเวลาจะใส่โค้ด ใส่เพลง ใส่รูป เดี๋ยวนี้ง่ายกว่าเดิมมากๆ แล้วมันก็ทำให้การแต่งบทความและอัพนิยายเป็นเรื่องสนุกขึ้นไปอีก แถมแอบเห็นว่าเดี๋ยวนี้มีให้ขายนิยายจากหน้านิยายได้ด้วยอ่ะ เว็บเด็กดีมีอะไรใหม่ๆ น่าสนใจมาให้ลองอยู่เรื่อยๆ เลย :D
พี่ติน : ก่อนจากกันไป บอกลากันหน่อย
มิลค์พลัส : เย้ ดีใจที่ได้สัมภาษณ์กับเว็บเด็กดี ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ แล้วก็ฝากทะเลกับลูกคลื่นด้วยน้า อยากให้ได้อ่านกันเยอะๆ จริงๆ :D ใครมีอะไรอยากเมาท์มอยแวะมาคุยกันได้ที่แฟนเพจ
‘มิลค์พลัส’ หรือทวิตเตอร์ @milkplusanyway นะคะ หรือแวะไปอ่านนิยายเรื่อง
Fanart วาดรักหวานใสละลายใจเธอ พร้อมคอมเมนต์พูดคุยกันได้ค่ะ แล้วเอาไว้เจอกันใหม่ค่า ม้วฟฟฟ >3
และนี่แหละค่ะ ปกหนังสือสวยโดนใจ นิยายน่ารักน่าอ่านขนาดนี้ พี่ตินยอมไม่ได้เลยค่ะ ต้องขอเป็นผู้ริเริ่มแจกหนังสือด้วยกันทั้งหมด 3 เล่ม ใครอยากได้ ให้เล่าเรื่องความประทับใจที่มีต่อทะเลมาค่ะ สามคำตอบที่ถูกใจ รับไปเลยหนังสือเรื่องนี้
Fanart วาดรักหวานใสละลายใจเธอ เล่นเกมได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2559 ค่ะ
แล้วเราจะมาประกาศผลกันในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2559 ^_______________^
ตอบมาเยอะๆ นะคะ รออ่านๆ
ประกาศผลผู้ได้รับรางวัลหนังสือจากมิลค์พลัส ได้แก่
เอมพ์
Angel Aurora
Yurikka♡
ติดต่อรับของรางวัลพร้อมยืนยันตัวตนได้ที่ atin@dek-d.com
ภายในวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2559 ค่า
อตินเอง
38 ความคิดเห็น
ทะเล....เป็นที่ๆรู็สึกสงบมากที่สุดที่เคยไปมาโดยเฉพาะที่เกาะเสม็ด หลายคนอาจเถียงว่าคนเยอะจะตาย สงบตรงไหน-_- แต่ว่าถ้าลองคิดดู ไม่ว่าคนจะเยอะแค่ไหนพอเรามองไปที่เกลียวคลื่นที่กระทบกับหาดทรายแล้ว ทำให้ผ่อนคลาย สงบ มากกกก
ทะเลเป็นสถานที่เดียวจริงๆ ที่ทำให้มีฟีลลิ่งแบบนั้น แถมเวลาสูดอากาศเข้าไปโคตรสดชื่นอ่ะ^^ แบบประทับใจมาก ไปกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ***แถมอาหารทะเลนี่ อื้อหือOoO ยิ่งกว่าประทับใจ ต้องเรียกว่าตราตรึงใจดีกว่า
โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ ล่องอยู่ในทะเล เพ้อเป็นเพลงโอ้ทะเลกันเลยทีเดียว 555 ถ้าถามว่าประทับใจทะเลตรงไหน เราประทับใจตรงที่ทะเลมีความงดงามในตัวเอง สำหรับเรา เราคิดว่าทะเลแต่ละที่มีเสน่ห์ต่างกัน บางที่มีเกาะสวยๆ บางที่มีหินสวยๆ บางที่มีเปลือกหอยรูปร่างแปลกๆ บางที่มีปะการังสวยๆมีปลาที่น่ารักๆ สิ่งเหล่านี้คงทำให้นักดำน้ำชอบมากแน่ๆ เราชอบเวลาเดินอยู่บนหาดทราย ชอบก่อปราสาททรายเล่นเหมือนเด็กๆ ชอบขุดรูกองทรายสามรู ขุดไปลุ้นไปว่ามันจะถล่มไหม พอคลื่นมา ถล่มทันที จบข่าว ไม่รู้ว่าใครจะชอบเล่นวิ่งหนีน้ำทะเลตอนมีคลื่นเล็กๆกระทบฝั่งไหม เราชอบทำแบบนั้นนะ ติ๊งต๊องดี แม้ว่าเราจะโตแล้ว แต่เมื่อไปเที่ยวทะเลเรากลายเป็นเหมือนเด็กน้อยในร่างผู้ใหญ่เลย ใครเป็นเหมือนเราไหม ทุกครั้งที่ได้เที่ยวทะเลรู้สึกมีความสุข มองดูทะเลที่กว้างไกล มองดูผู้คน ฟังเสียงคลื่น ฟังสียงหัวใจตัวเอง เราชอบดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตอนเย็นๆ แสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องมาทำให้ทะเลสวยมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับบางคนช่วงเวลานี้อาจจะดูเศร้าๆไปตามความรู้สึกของใครของมัน แต่สำหรับเรา เราชอบแบบนั้นนะ บางครั้งก็คิดเปรียบเหมือนชีวิตที่ต่อให้เราล้มลงสักกี่ครั้ง เราก็ต้องลุกขึ้นสู้ให้ไหว ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอเหมือนพระอาทิตย์ที่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนมันก็ไม่เคยลาพักร้อนไปเที่ยวดาวพลูโต
หนูเริ่มอ่านงานพี่มิลค์พลัส ชื่นชอบมาก ตั้งแต่เล่ม ติดปีกหัวใจให้รักเหินฟ้า เนื้อเรื่องละมุนหม่นๆ (?) ร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยยยยย ชอบบบมากกกกก เล่มของลูกคลื่นและทะเลก็มีไว้ในครอบครองแล้วค่าาา อดใจไม่ไหวจริมๆ น่ารักเกินไป (อ้อนให้เพื่อนซื้อให้ กร๊าซซ มีความชั่วร้าย 5555)
หนูชอบมากจริงๆ ผลิตผลงานน่ารักๆ ดีๆ ต่อไปนะคะ พี่มิลค์พลัส
โอ้...ทะเลแสนงามมมมมม >< ถามว่าประทับใจทะเลที่ตรงไหน หนูว่าทะเลเป็นสิ่งที่สวยงาม และเป็นธรรมชาติที่งดงามมาก เป็นสถานที่ที่มีทุกอารมณ์ ทุกความรู้สึก เวลาที่เราไปเที่ยวทะเล เราก็จะรู้สึกว่าสดชื่น และสนุกสนาน สีของน้ำทะเลก็สวย หาดทรายขาว5555555เพ้อไปอีก เวลานั่งมองพระอาทิตย์ตกดินหรือพระอาทิตย์ขึ้น ก็ให้ความรู้สึกดีมากกกกกก555555555นั่งฟังเสียงคลื่น ดูคลื่น มันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจริงๆ บรรยากาศก็ดีมากกกก (ก ไก่ล้านตัว) ทะเลเป็นสิ่งธรรมชาติที่มีคุณค่า และสวยงามมากจริงๆ ค้าาาา ^^
#ไปเที่ยวทะเลกันเยอะๆ ก็อย่าลืมรักษาความสะอาดกันด้วยน้าา ^^
ชอบทะเลตรงที่มันเหมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจอ่าค่ะ เวลานั่งเหม่อมองไปที่ผืนน้ำทะเลสีฟ้าครามแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก บางครั้งผิวน้ำก็เรียบนิ่ง ไม่ก็มีลูกคลื่นพัดมา :D มองแล้วสบายตา ผ่อนคลายดีค่ะ อย่างเวลาเครียดๆ เนี่ย แค่นั่งบนเก้าอี้ชายหาด สูดอากาศสดชื่นของลมพัด มองทะเลก็ทำให้ความเครียดปลิวไปแล้วค่ะ สมองก็สดชื่น บางทีได้พล็อตนิยายมาเขียนด้วย 555555 สามารถมองได้ไม่เบื่อด้วย จะนั่งมองนั่งเล่นตรงชายหาดทั้งวันยังได้ หลายครั้งเราก็จะอาบแดดบนชายฝั่งมั่ง ก่อปราสาททรายมั่ง เก็บเปลือกหอยเอากลับบ้านมั่ง นั่งดื่มน้ำเย็นๆ ริมชายฝั่งมั่ง ล้วนแล้วแต่อยู่บริเวณรอบๆ ทะเล หรือลงไปเล่นน้ำทะเลก็ให้ความสดชื่น เย็นฉ่ำ และที่สำคัญ เวลาไปทะเลก็จะไปกับครอบครัวและญาติๆ ค่ะ แล้วเวลามีกันหลายๆ คนมันก็สนุกสนานมาก ยิ่งตอนเล่นน้ำ กินข้าวด้วยกันริมชายหาดแล้วมองไปรอบๆ ดูทิวทัศน์นี่ยิ่งสวย >< แล้วเรายังถ่ายภาพกลับไปอวดเพื่อนๆ ได้ด้วย ;P แล้วจะนั่งดูทะเลช่วงไหนก็มีอารมณ์ที่แตกต่างกันอีกด้วยค่ะ ถ้ามาดูตอนเช้าช่วงพระอาทิตย์เริ่มจะขึ้น ทะเลก็จะเป็นสีแสดแดง ส้มๆ มีความมืดปกคลุมนิดหน่อย ดูแล้วสวยมากกกก หรือดูตอนเที่ยง ท้องฟ้าสว่างก็มองแล้วสบายตา สดใสค่ะ หรือถ้ามองตอนค่ำๆ มีดวงดาวประดับบนท้องฟ้า ผินน้ำ รอบๆ ตัวล้วนดำมืดก็ให้บรรยากาศอีกแบบคืออบอุ่น เคลิ้มชวนหลับ ไม่ว่าจะไปเที่ยวทะเลที่ไหน ในตัวของมันก็จะมีความงดงามนี้เกิดขึ้นเสมอค่ะ :)
สำหรับเรา จะดูแปลกไหมถ้าพูดว่าชอบทะเลเฉพาะตอนที่มันอยู่ในยามค่ำคืนแล้วก็มีคลื่นแรง
ส่วนตัวไม่ชอบทะเล ยกเว้นก็แต่ตอนที่ทะเลตกอยู่ในความมืดของค่ำคืน แล้วก็ตอนที่มันมีพายุพัดอย่างบ้าคลั่งติดๆ กันด้วย ชอบเวลาที่ได้มองสายน้ำกระเซ็นไปทั่ว ไอเย็นๆ ของมันที่สาดเข้ามา แล้วก็ท้องฟ้าสีดำที่บางครั้งก็มีดาวบางครั้งก็ไม่มี ชอบเสียงเวลาลมพัดมาแรงๆ ทั้งเสียงใบไม้แล้วก็เสียงคลื่น ชอบมองมันตอนที่มีปัญหาหนักๆ สำหรับเรามันไม่ได้ทำให้เราทุกข์มากไปกว่าเดิมเลย ตรงข้ามมันทำให้เราสงบมาก เพราะคิดอยู่เสมอว่าทะเลตอนที่มีคลื่นแรงแม้จะดูน่ากลัวแค่ไหน แต่เช้าวันถัดไปมันก็กลับมาสงบเยือกเย็นได้ดังเดิม ชีวิตก็ไม่ต่างกัน
ครั้งแรกที่ไปทะเล สิ่งแรกที่มองเห็นคือ"สีฟ้า" สีฟ้าของท้องทะเลที่เป็นสีครามที่ไล่ระดับจากสีอ่อนไปจนเป็นสีเข้มของสีส้ำเงินกับสีฟ้าของท้องฟ้าที่มีเมฆลอยเป็นกลุ่มๆ เมื่อมองไปไกลสุดสายตาสีของน้ำทะเลกับท้องฟ้าช่างกลมกลืนกันเหลือเกิน วินาทีแรกที่ได้เหยียบยืนบนหาดทรายได้มองออกไปทะเลและท้องฟ้าบอกเลยว่า"หลงรัก" รักโดยไม่มีคำบรรยาย เวลานั่งลงบนทรายหลับตาแล้วฟังเสียงคลื่นและเสียงลม มันเหมือนเรากำลังฟังเสียงดนตรีธรรมชาติ ดนตรีที่ไม่มีทำนองไพเราะแต่ฟังแล้วรู้สึกสงบ จิตใจที่หงุดหงิดหว้าวุ่นตลอดการเดินทางมลายหายไป "หลงไหล" พูดได้คำเดียวว่าหลงไหลสณานที่แห่งนี้ เมื่อมีโอกาศรับรองว่าจะไปจะไปอยู่นานๆไปซึมซับกลิ่นอายของทะเลให้มากกว่านี้ และถ้าดวงเราสมพงษ์กันฉันคงได้มีโอกาศได้สร้างบ้านอยู่ที่นั่นอย่างถาวร #จากใจคนหนึ่งที่รักทะเลเหมือนกัน
ทะเล ทะเล๊ ทะเล ตอนเด็กเคยอยากไปทะเลหลายครั้งแต่...พ่อแม่ไม่ว่างค่ะ จนกระทั่งจบป.5 กำลังจะขึ้นป. 6 หลังจากวันรับผลคะแนนสอบ (ความจำเรื่องเก่าๆ แม่นมาก ส่วนปัจจุบัน...อย่าพูดถึงมันจะดีที่สุด #เดี๋ยวๆ ออกทะเลแล้ว) คุณน้าพาไปเที่ยวทะเลที่ชายหาดชะอำ #รถติดมาก กว่าจะถึงที่นั่นก็ได้สายแล้ว ทัวร์ซัมเมอร์ครั้งนี้มีคุณน้า 2 คน คุณแม่ คุณยายและน้องชายเป็นผู้ร่วมทัวร์ ก่อนลงทะเลพวกเราไปนั่งเก้าอี้เช่าที่อยู่หน้าชายหาดพร้อมกับกินไอศกรีมอย่างสุนทรี?? ก่อนที่จะไปลงเล่นน้ำตอนเกือบพระฉันเพล แสงแดดอันอบอุ่น?? บวกกับลูกบอลชายหาดที่ทำน้ำทะเลใสกระเด็นเข้าหน้าเข้าตา เอาเป็นว่ามันสนุกล่ะมั้งนะ รสชาติน้ำทะเลยังติดปากอยู่เลย #รู้สึกถึงโซเดียมคลอไรด์ที่ผสมปนเปอยู่ในน้ำ น้า น้องชายและเราเล่นไปอยู่สักพัก ก่อนจะขึ้นไปหาแม่และยายที่อยู่บนชายหาด นั่งไปสักพักน้องชายก็ชวนไปเล่นทราย โดนเราเอาทรายไปกลบทับตัวน้องและจับทำเป็นนางเงือกซะเลย โดยมีน้าช่วยอีกแรงหนึ่ง หึหึหึ #โปรดอย่ามองว่าเราชั่วร้าย เล่นไปเล่นมาแม่ก็ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่น้าจะพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พอกินจนอิ่มแปล้ ก็เดินทางกลับบ้าน แต่ทัวร์ของเรายังไม่จบเท่านี้ บังเอิญว่าตอนขากลับนั้นเกิดเหตุแอคซิเดนคือหลงทาง การไปเที่ยวทะเลครั้งแรกจึงสนุก? พร้อมกับชุลมุนวุ่นวายในเวลาเดียวกัน
ส่วนการไปเที่ยวทะเลอีกครั้งที่ไม่มีวันลืมคือกิจกรรมปัจฉิมนิเทศครั้งสุดท้ายของโรงเรียนเก่าที่เขาตะเกียบ จำได้ว่าเป็นช่วงหลังสอบโอเน็ตป.6 กิจกรรมที่เราจะไปไหนด้วยกันครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะย้ายไปโรงเรียนอื่น (แม่วางแผนให้สอบเข้าโรงเรียนมัธยมใหม่) พิธีที่คุณครูจะมาพูดเกี่ยวกับพวกเราไม่ว่าจะเรื่องการเรียน นิสัยต่างๆ ของแต่ละคน วันที่มีทั้งรอยยิ้มปรากฏพร้อมกับน้ำตาบนใบหน้า วันที่เราไม่เคยลืม
ทะเลก็เหมือนสิ่งที่ถูกแบ่งแยกกับท้องฟ้าด้วยเส้นขอบฟ้า ถ้าถามว่าชอบทะเลตรงไหน ก็คงเป็นตรงที่เวลาไปทะเลแล้วเรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ต้องคิดถึงเรื่องเศร้า ไม่ต้องคิดถึงเรื่องของคนอื่น แค่เราใช้ชีวิตสบายๆกับทะเลตรงหน้า ทะเลก็ต้องคู่กับหาดทราย หาดทรายก็เหมือนสิ่งที่โอบล้อมทะเลอยู่ ถ้าเรามองดูมันแล้วก็ลองคิดดูว่ายังไงก็จะยังมีคนเคียงข้างเราเสมอเหมือนทรายกับทะเล เวลาเราทุกข์ใจ เราก็แค่ปล่อยมันไปกับทะเล เดี๋ยวก็มีลูกคลื่นมากลบความทุกข์ของเราแล้ว
ฟ้าบนดินคือทะเล แสนสดใสระรานตา น้ำใสใสผ่อนชีวา กายเบิกกว้างรับอรุณ
ครับ นั้นคือความประทับใจของผม (ว่างๆก็อยากไปอีกนะ แต่ไม่มีตัง)
จริงๆแล้วเมื่อตอนเราเด็กๆดูสารคดีใต้โลกมหาสมุทรบ่อยมาก จนพาลกลัวฉลามในน้ำไปเลย และนั่นคือพักใหญ่ที่ไม่กล้าแม้แต่จะเอาเท้าลงน้ำ แม้ว่าจะอยากเล่นมากแค่ไหนก็ตาม
ความประทับใจต่อทะเล จากตอนแรกเราประทับใจแค่จากการเล่นน้ำทะเลจนตอนนี้แค่ได้ยินเสียงคลื่นก็รู้สึกสบายใจแล้วค่ะ
เราชอบน้ำทะเลมาก เวลาได้ยินเสียงคลื่นซัดมาที่ริมชายหาด มีลมตีมาที่หน้าแรงๆหน่อยทำให้เรารู้สึกว่าความเครียดมันหายไป ถ้าเป็นทะเลตามหัวหินเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เราชอบทะเลตามต่างจังหวัดที่มีคนเบาบางบ้าง เวลาเราเหยียบพื้นทรายชิดกับน้ำทะเลมันรู้สึกเหมือนถูกดูดลงไป มันกลายเป็นความสนุก ความสุขที่ไม่ว่ากี่ครั้งที่มาทะเล เราก็ยังรักอยู่เหมือนเดิม :)
ถ้าพูดถึง”ทะเล” สิ่งแรกที่เราคิดถึงคือ “ความแปลกที่ไม่ซ้ำแบบกันเหมือนลูกคลื่น"
ทำไหมเราถึงคิดอย่างนั้น?..........
เป็นเพราะเราเคยไปเที่ยวทะเลหลายครั้ง และทุกครั้งก็รู้สึกถึงสีสันที่ไม่เคยซ้ำกัน แล้วถ้าถามว่าชอบตอนไปเที่ยวครั้งไหนมากที่สุดบอกเลยว่า ไม่มี!!! ……. เพราะแต่ละครั้งมันก็สนุกจนเอามาเทียบกันไม่ได้ไง ฮาฮา
เราเคยขับรถเลาะเที่ยวไปตามชายทะเลภาคตะวันออกของไทยกับครอบครัว แล้วแวะลงไปเล่นน้ำก่อปราสาททราย จบท้ายด้วยการถ่ายรูปของทุกๆหาดที่ผ่าน(หลังจากกลับมาครั้งนั้นสีผิวนี้เปลี่ยนเลยค่ะ ฮาฮา)ความรู้สึกจากทริปยาวสองอาทิตย์ในครั้งนั้นคือ สุขที่ไม่รู้ลืม ^^
หรือแม้แต่การไปเที่ยวทะเลกับกลุ่มเพื่อนเพื่อฉลองเรียนจบ แล้วเล่นบานาน่าโบ๊ท แชร์บอลชายหาด กับปิ้งย่างร้องเพลงดูดาวกันในตอนค่ำนี้ก็สนุกลั้ลลาสุดๆ หรือจะเป็นตอนที่ไปเที่ยวทะเลกับแฟน แล้วไปเดินเล่นชิลกันตามชายหาด ตื่นเช้าขึ้นมาเก็บเปลือกหอยแล้วปล่อยลงน้ำ และวาดรูปเล่นบนพื้นทราย....บอกเลยว่าฟินเวอร์><
หรือจะเป็นตอนที่เราเศร้า เหงา เซ็ง แล้วแอบหนีไปเที่ยวทะเลคนเดียวโดยไม่บอกใคร แล้วทั้งวันก็นั่งเชยๆฟังเสียงคลื่น นั่งมองคนเล่นน้ำทะเล นอนดูพระอาทิตย์ตกดิน ถึงนั่นจะดูเหมือนไม่มีอะไรเลย แต่มันก็ทำให้สบายใจขึ้นไม่น้อย
ทุกหาดที่เคยไป ทุกเกาะที่เคยเที่ยว ทุกความรู้สึกที่เข้ามายามไปทะเลคือความสนุกสุขแท้ที่ประทับใจไม่รู้ลืม
Ps.ทะเลเมืองไทย บังไซ ยกให้เป็นที่หนึ่งค่ะ ฮาฮา