หนังสือในดวงใจ 5 CEO ระดับโลก! #อ่านตามCEO

แนะนำแรงมาก
5 หนังสือทรงอิทธิพลต่อ CEO แถวหน้าของโลก

#อ่านตามCEO 


สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ น้องๆ คิดว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดจากอะไรคะ? พี่น้ำผึ้งคิดว่าทุกอย่างล้วนเกิดจากความพยายาม ความตั้งใจ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือแรงบันดาลใจนั่นเองค่ะ พี่น้ำผึ้งเชื่อว่าทุกๆ คนย่อมมีแรงบันดาลใจเป็นของตัวเอง และแรงบันดาลใจเกิดขึ้นได้ทุกที่ บางทีอาจจะเป็นแค่หนังสือธรรมดาเล่มหนึ่ง แต่สามารถผลักดันให้นักอ่านก้าวหน้าขึ้นมาสู่ความสำเร็จ

CEO แถวหน้าของโลกที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกหลายท่าน ก็มีแรงบันดาลใจมาจากหนังสือเช่นกันค่ะ วันนี้พี่น้ำผึ้งเลยรวบรวม 5 หนังสือทรงอิทธิพลของ 5 CEO ชื่อดังมาฝาก แม้ว่าหัวข้อที่เราพูดถึงกันในวันนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับนิยายโดยตรง แต่พี่น้ำผึ้งก็มั่นใจว่าบรรดาหนังสือที่พี่หยิบยกมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับน้องมากแน่ๆ ค่ะ เอาล่ะ... อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่าหนังสือเล่มไหนที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นตามไปดูกันเลยค่ะ

 


ทิม คุก หนึ่งในผู้ผลักดันให้ Apple ประสบความสำเร็จ
(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://money.cnn.com/2015/12/17/technology/apple-management-shakeup/)

 

Competing Against Time 


เมื่อปี 1996 ทิม คุกได้เข้าทำงานกับบริษัท Apple ที่กำลังอยู่ในช่วงจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ของ Apple เพราะบริษัทต้องเสียเงิน 1 ล้านดอลลาร์ และทันทีที่คุกเข้ามาทำงาน เขาได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตของบริษัท ทั้งการจำหน่าย การผลิต รวมถึงระบบของบริษัท นั่นทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และพา Apple มาสู่ความสำเร็จที่ทั่วโลกยอมรับ

ใช่แล้วค่ะ นอกจากสตีฟ จอบส์แล้ว ทิม คุก ก็เป็นบุคคลสำคัญของ Apple เหมือนกัน โดยหนังสือเล่มโปรดที่เป็นแรงผลักดันสู่ความสำเร็จของเขาก็คือ Completing Against Time ของ George Stalk Jr. และ Thomus M. Hout นั่นเองค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารเวลา ซึ่ง "การบริหารเวลา" นี่แหละที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าจะในเรื่องอะไรเลยค่ะ เพราะถ้าเราไม่รู้จักบริหารเวลา เราก็จะไม่สามารถทำอะไรสำเร็จ
 



หนังสือเล่มโปรดของทิม คุก
(ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.amazon.com/Competing-Against-Time-Time-Based-Competition/dp/0743253418)
 

แนวคิดเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในบริษัท การจัดการเวลา และทำให้พนักงานมีความสุขของคุกก็ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเล่มนี้แหละค่ะ นอกจากจะเก็บไว้อ่านเองแล้ว คุกยังแจกจ่ายให้พนักงานเพื่อที่จะได้ช่วยกันพัฒนาบริษัทด้วย คุกบอกว่าถ้าพนักงานมีความสุข พวกเขาก็ย่อมทำให้ลูกค้ามีความสุข และจะไม่มีทางเกิดหนอนบ่อนไส้ในบริษัทแน่นอน โอ้โห มองการณ์ไกลมากๆ เลยนะคะ สมแล้วที่เป็น CEO แถวหน้าของโลก

คุกเคยพูดคุยกับสตีฟ จ็อบส์เรื่องหนังสือที่ทรงอิทธิพลต่อเขา และปรากฏว่ามีหนังสือในดวงใจของจอบส์มากมายเลยล่ะค่ะ และหนึ่งในหนังสือที่จอบส์ชอบมีชื่อว่า Be Here Now ของ Ram Dass ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสมาธิ โยคะ และความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณ โอ้โห ฮิปดีจริงๆ 

 


เจฟฟ์ เบโซส์ เจ้าของเว็บไซต์ชื่อดัง Amazon.com
(ขอบคุณรูปภาพจาก : inc42.com)

 

The Remains of the Day


ทุกวันนี้ไม่ว่าเราอยากได้อะไร แค่ลัดนิ้วมือเดียวก็สั่งซื้อได้ในทันทีเลยใช่มั้ยล่ะคะ? นั่นเป็นเพราะมีเว็บไซต์ซื้อ-ขายของออนไลน์ที่มีสินค้าแทบทุกชนิด และที่ดังสุดๆ คงหนีไม่พ้น Amazon เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงอย่างมาก แอบกระซิบก่อนว่า Amazon ที่ว่านี้ไม่ใช่ร้านกาแฟนะคะ

Amazon เปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 โดยเจฟฟ์ เบโซส์ ซึ่งตอนนั้นเขาลาออกจากบริษัท Wall Street แล้วมาทำธุรกิจของตัวเองที่ซีแอทเทิล แรกเริ่ม Amazon ก็เป็นแค่เว็บขายหนังสือธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ แต่ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก เบโซส์บอกว่าเขามีหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจอยู่เล่มหนึ่ง...
 



นวนิยายเล่มโปรดของ CEO Amazon
(ขอบคุณรูปภาพจาก : inc42.com)
 

หนังสือเล่มนั้นไม่ใช่หนังสือบริหารธุรกิจอะไรหรอกค่ะ แต่ว่าเป็นนวนิยาย! อะเมซิ่งมากๆ หนังสือเล่มนั้นชื่อว่า The Remains Of The Days แต่งโดย Kazuo Ishiguro ซึ่งเป็นนวนิยายเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตทั่วไปและความรักอันบริสุทธิ์ของพ่อบ้านชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อว่าสตีเว่นส์ และแม่บ้านสาวที่ทำงานในคฤหาสน์ที่เดียวกัน

เบโซส์รักหนังสือเล่มนี้มากเพราะมันคือความสมบูรณ์แบบที่เป็นไปไม่ได้ น้องๆ สงสัยใช่มั้ยล่ะคะว่าตกลงมันเกี่ยวอะไรกับการบริหารธุรกิจ เบโซส์บอกว่า “สิ่งที่เรากำลังทำอยู่อาจผิดปกติ แต่ความจริงแล้วไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”



เซอร์เกรย์ บริน Co-founder ของ Google
ปัจจุบันเป็นประธานบริษัท Alphabet ที่เป็นบริษัทแม่ของ Google
(ขอบคุณรูปภาพจาก : bbc.com)

 

Surely You're Joking, Mr.Feynman!


น้องๆ รู้จักเว็บไซต์อะไรเป็นเว็บแรกคะ? สำหรับพี่นะคะ ตั้งแต่จำความได้ เว็บไซต์แรกที่พี่น้ำผึ้งรู้จักคือ Google ซึ่งพี่คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก Google คือเว็บเสิร์จเอ็นจิ้นที่โด่งดังที่สุดในโลกเลยล่ะค่ะ

เซอร์เกรย์ บรินและแลร์รี่ เพจ เพื่อนที่เรียนในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดด้วยกันร่วมมือกันสร้างเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิ้นที่ช่วยให้เราหาข้อมูลทุกอย่างบนโลก และเว็บไซต์นั้นมีชื่อว่า Google นั่นเองค่ะ ซึ่ง Google นับว่าเป็นเว็บไซต์ที่เปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบของเรามาจนทุกวันนี้เลยนะคะ แม้ว่าปัจจุบันนี้ทาง Google จะยุบรวมอยู่ภายใต้บริษัทใหม่นามว่า Alphabet ค่ะ  
 



นวนิยายเล่มโปรดของเซอร์เกรย์ บริน
(ขอบคุณรูปภาพจาก : amazon.com)
 

สิ่งที่ทรงอิทธิพลต่อบรินอย่างมากก็คือหนังสือที่มีชื่อว่า Surely You’re Joking, Mr.Feynman! เขียนโดย ริชาร์ด ไฟน์แมน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์จากการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีลักษณะคล้ายกับพวกกึ่งอัตชีวประวัติแถมออกแนวตลกด้วยล่ะค่ะ

หลังจากที่อ่านจบ สิ่งที่ติดตาตรึงใจเขามาตลอดก็คือการเปิดใจให้กว้างของไฟน์แมนค่ะ บรินประทับใจที่ไฟน์แมนพยายามเดินตามรอยลีโอนาร์โด ดา วินชี ไฟน์แมนจึงเป็นทั้งนักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ นักเล่าเรื่องและนักพูดอารมณ์ขัน ทั้งหมดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้บรินสร้างสิ่งที่เป็นนวัตถกรรมอันก้าวหน้าแต่ก็ยังคงความครีเอทีฟไว้นั่นเอง ไม่แปลกใจเลยนะคะว่าทำไม Google ถึงได้ประสบความสำเร็จมากมายขนาดนี้ 

 


ซีอีโอหนอนหนังสือ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Facebook
(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://static.indianexpress.com)

 

The Aeneid


พี่น้ำผึ้งเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนต้องรู้จัก Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เชื่อมคนทั้งโลกไว้ภายในเว็บเดียวใช่มั้ยล่ะคะ? และเจ้าของเว็บไซต์ชื่อดังนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก มาร์คเป็นตัวอย่างของ CEO ที่อ่านหนังสือเยอะมากๆๆๆ ค่ะ ในช่วงแรกๆ หนังสือที่เขาขื่นชอบคือนวนิยายแนวไซ-ไฟแฟนตาซีเรื่อง Ender’s Game ของ Orson Scott Card แต่หลังจากนั้นเขาก็ให้สัมภาษณ์กับ The Newyorker ว่านิยายไซ-ไฟทำให้เขารู้สึกแฮปปี้ได้ก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น เพราะหนังสือที่เขาชอบคือ The Aeneid ของ Virgil ต่างหากล่ะ



นวนิยายเล่มโปรดของมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก
(ขอบคุณรูปภาพจาก : amazon.com)
 

The Aeneid เป็นกวีมหากาพย์ภาษาละตินที่ถูกเขียนในช่วง 19-29 ปีก่อนคริสตศักราช บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มผู้รอดชีวิตจากม้าโทรจัน นำโดยอีเนียส พวกเขาหนีออกจากกรุงทรอยหลังจากถูกทำลายโดยพวกกรีก การเดินทางของพวกอีเนียสเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายกว่าจะได้วางรากฐาน ณ กรุงโรม เพื่อสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก!

มาร์คอ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรกตอนที่เขาเรียนภาษาละตินอยู่ในโรงเรียนมัธยม เขารู้สึกว่า เขากับอีเนียสน่ะมีเป้าหมายที่เหมือนกันมากๆ อีเนียสต้องการสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ส่วนมาร์คก็ต้องการสร้างสังคมออนไลน์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน และพวกเขาทั้งสองก็ได้สร้างความฝันให้สำเร็จแล้วจริงๆ โอ้โห สุดยอดไปเลยค่ะ แม้ว่าจะต่างยุคต่างสมัย แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลย ปรบมือค่ะ!!

 



บิล เกสต์ บุคคลที่ติดอันดับรวยที่สุดในโลก
(ขอบคุณรูปภาพจาก : aaj.tv)

 

For the Love of Physics


ถ้าถามหาวิชาที่เด็กไทยยี้ที่สุดแล้วล่ะก็ นอกจากคณิตศาสตร์ก็มีฟิสิกส์นี่แหละค่ะที่เวลาจะสอบแต่ละที เด็กไทยอย่างเราๆ ก็แทบจะต้องจุดธูปไหว้ดวงวิญญาณเซอร์ไอแซก นิวตัน เผื่อว่าที่เรียนมาจะเข้าหัวบ้าง T^T เพราะว่าฟิสิกส์เนี่ย นอกจากจะต้องมานั่งคำนวณหานู่นนี่นั่นแล้ว ยังต้องจำสูตรอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนอีก โอ้ย ขอสกิปไปตอนได้เกรดสี่เลยได้มั้ยคะอาจารย์ (แบบนี้เหรอจะได้)
 

แต่บิล เกตส์ CEO คนสำคัญของไมโครซอฟต์ เจ้าของระบบคอมพิวเตอร์อันโด่งดังที่สรรค์สร้างโปรแกรมต่างๆ มากมายให้เรานั้นบอกว่าไม่เป็นปัญหาค่ะ เพราะหนึ่งในหนังสือแนะนำของบิล เกตส์มีชื่อว่า Fot the Love of Physics เขียนโดยศาสตราจารย์ชื่อดังแห่ง MIT นามว่า Walter Lewin 



หนังสือฟิสิกส์สุดเจ๋ง แนะนำโดยบิล เกสต์

(ขอบคุณรูปภาพจาก : amazon.com)
 

บิลเคลมว่าหนังสือเล่มนี้บอกให้เราไม่จำเป็นต้องไปท่องจำสูตรต่างๆ นานา แต่กลับอธิบายหลักการฟิสิกส์ที่เราว่าย้ากยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยวิธีการบอกเล่าให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก เปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องทั่วไปที่เราสามารถพบเจอได้บ่อยๆ แม้แต่คนเกลียดวิทยาศาสตร์ยังชอบอ่านเลยค่ะ แหม พี่น้ำผึ้งน่าจะเจอเล่มนี้ตั้งแต่ม.ปลาย เผื่อว่าคะแนนฟิสิกส์จะได้ดีขึ้น ฮ่าๆ

จะว่าไปแล้ว พี่น้ำผึ้งก็ติดตามศาสตราจารย์คนนี้อยู่นะคะ ท่านเป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์ที่เรียกว่าเป็นตำนานของ MIT เลยก็ว่าได้ เพราะการสอนของเขานั้นทุ่มเทมากๆ แถมยังประกาศด้วยว่า "As long as I'm healthy, physically and mentally, I'll teach until I die in the class." พระเจ้า... ฟังแล้วรู้สึกนับถือในจิตวิญาณความเป็นครูมากจริงๆ ค่ะ และเผื่อน้องๆ ไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านนี้ทุ่มเทขนาดไหน พี่น้ำผึ้งก็เลยแอบแนบคลิปการสอนของอาจารย์ท่านนี้มาให้ดูค่ะ
 

Clip

แลกมาด้วยความเจ็บปวด



 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 5 หนังสือจาก 5 CEO ที่พี่น้ำผึ้งแนะนำมา บอกเลยว่าแนวคิดแต่ละคนนั้นสุดยอดจริงๆ บ้างก็มีทั้งนวนิยาย บ้างก็เป็นหนังสือธุกิจ ส่วนตัวพี่น้ำผึ้งก็มีหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจอยู่เหมือนกันค่ะ นั่นคือเรื่อง “สามก๊ก” ที่เขียนโดยหลอกว้านจ้งนั่นเองค่ะ ที่พี่น้ำผึ้งรักหนังสือเล่มนี้มากๆ เพราะเต็มไปด้วยแนวคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอ่านคน การบริหารและปกครองต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตเลยล่ะค่ะ แล้วน้องๆ ล่ะคะ? มีหนังสือเล่มไหนที่เป็นแรงบันดาลใจบ้าง เพราะอะไร? มาเล่าสู่กันฟังนะคะ!

 

พี่น้ำผึ้ง :)
 

Deep Sound แสดงความรู้สึก 
พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น