ศตรัศมิ์ อยากเป็นนักเขียน
ต้องรู้จักงานตัวเองและยืนให้ถูกจุด  

 
สวัสดีชาวนักเขียนนักอ่านเด็กดีทุกคนค่ะ ได้เวลาของคอลัมน์พบปะพูดคุยอีกแล้ว สำหรับนักเขียนที่จะมาพูดคุยกับทุกคนในวันนี้คือ “ศตรัศมิ์” (ที่พี่ชอบเผลอเรียกเร็วๆ ว่า “ศศรัศมิ์” ทุกที) หรือเจ้าของนามปากกา “เจนศิลป์” นักเขียนหลากหลายแนว ที่เขียนได้ทั้งฆาตกรรม สืบสวน แนวรักโรแมนติก ฯลฯ เรียกได้ว่ามีความสามารถรอบด้านจริงๆ โดยเฉพาะด้านอาหารการกิน #ผิด เอาละ เพื่อไม่ให้เป็นการนอกเรื่อง เราเข้าบทสัมภาษณ์เลยดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวพี่จะเผลอเผานักเขียนให้ฟังแทน อิอิ   
 
พี่อติน : สวัสดีค่ะ แนะนำตัว ทักทายนักเขียนนักอ่านของเด็กดีหน่อยค่ะ  
ศตรัศมิ์ : สวัสดีค่า ชื่อนุ้ยค่ะ เป็นมนุษย์มาจากดาวโลก อิอิ เริ่มเขียนนิยายในเว็บมานานพอๆ กับอายุการเป็นนักเขียนเลยค่ะ เกินสิบปี เติบโตมาในยุคเริ่มต้นของการโพสต์นิยายในเว็บบอร์ด ก็เริ่มจากบอร์ดแจ่มใส ถนนนักเขียน และเด็กดีตามลำดับค่ะ แต่ก็เป็นการโพสต์แบบผีเข้าผีออก ไม่ค่อยจะโพสต์จบเรื่องเหมือนคนอื่นเค้าค่ะ อิอิ
 
พี่อติน : นามปากกามาจากอะไรคะ ศตรัศมิ์ สำหรับเขียนแนวไหน แล้วเจนศิลป์ล่ะ มีกี่นามปากกา กรุณาเล่าให้ละเอียด 
ศตรัศมิ์ : ศตรัศมิ์ แผลงมาจาก ศตรัศมี ที่แปลว่าดวงอาทิตย์ค่ะ เอามาปรับเองให้สั้นลง นิยายที่เขียนในนามปากกานี้จะเป็นแนวโรแมนติคซัสเพนส์ค่ะ เป็นนิยายรักที่มีกลิ่นอายปมขัดแย้ง เงื่อนงำ ส่วนนามปากกาเจนศิลป์ ใช้เขียนนิยายแนวระทึกขวัญและฆาตกรรมสืบสวนให้กับสำนักพิมพ์โซฟาค่ะ
 
พี่อติน : นิยายที่เพิ่งออกเรื่องนี้ “บัลลังก์พฤกษา” เล่าที่มาที่ไปหน่อย   
ศตรัศมิ์ : นี่ตอบด้วยความสัตย์จริงเลย จำไม่ได้ว่านิยายเรื่องนี้มีความเป็นมาอย่างไร จำได้ลางๆ ว่าอยากเขียนนิยายที่เกี่ยวข้องกับพืชพิษ จากนั้นก็เริ่มเขียนเรื่อยมา จำได้แค่นี้จริงๆ ค่ะ เพราะเรื่องนี้ใช้เวลาเขียนนานเกือบสามปี (นี่ไม่เคยบอกใครเลยนะ) เหมือนเป็นงานที่ต้องค่อยๆ ทำ เพราะพล็อตหนักและมีข้อมูลที่ต้องหาเยอะค่ะ หามาก็ใช้บ้าง คัดทิ้งบ้าง ก็เลยเขียนไปแบบไม่รีบ ระหว่างนั้นก็เขียนต้นฉบับเรื่องอื่นๆ ควบคู่กันไปตามปกติเพื่อเยียวยาปากท้อง 
 
จริงๆ เป็นคนไม่ค่อยชอบทำอะไรตามแผนค่ะ ไม่เฉพาะเขียนนิยาย การใช้ชีวิตก็ด้วย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็สะเปะสะปะไปตามธรรมชาติเรา คือถึงจุดหนึ่งถ้ารู้สึกว่ายังไม่ใช่แบบที่ใจต้องการ ก็รื้อค่ะ เขียนใหม่ ส่วนการหาข้อมูล ตลอดเวลาที่เขียนเรื่องนี้ ไปหอสมุดแห่งชาติประมาณสี่ครั้งค่ะ และอ่านจากตำราอีกหลายเล่ม บางเล่มอ่านแล้วไม่ได้เอามาใช้หรอก แต่เหมือนจำเป็นต้องอ่านเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้พลาดอะไรที่สำคัญไป
 
พี่อติน : แล้วนิยายเรื่องนี้เหมาะกับคนอ่านแนวไหน   
ศตรัศมิ์ : เหมาะกับนักอ่านที่ชอบนิยายรักที่มีเงื่อนปมอื่นให้ร่วมลุ้นไปด้วยค่ะ ฉากจิ้น ฟิน จิกหมอน ไม่มี แต่เรื่องราวของความรักมาเต็มมากในทุกรูปแบบ ทั้งรักที่สร้างสรรค์ เจ็บปวดแทนกัน และรักที่ทำลายล้างได้ทุกอย่าง
 
พี่อติน : การเขียนนิยายให้อะไรกับเราบ้าง... 
ศตรัศมิ์ : เยอะมากค่ะ...ความสุข เพื่อน เงิน รอยยิ้ม หยดน้ำตา ทีมเวิร์ค ความตาย (ที่มาพร้อมเดดไลน์) ความภาคภูมิใจ การเขียนทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ทุกครั้งที่จมอยู่กับงานที่เราเขียน นั่นคือช่วงเวลาแห่งการสำรวจความคิดตัวเอง และการได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครที่หลากหลายเป็นการฝึกตัวเองให้มองและคิดอะไรรอบด้านกว่าที่เคยค่ะ
 
พี่อติน : นิยามคำว่า “นักเขียน” ในแบบของตัวเอง 
ศตรัศมิ์ : นักเขียนคือคนที่มีหน้าที่เขียน และรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเขียนค่ะ…บางครั้งเราอาจใส่ข้อมูลที่ผิดลงไปในชิ้นงานโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สิ่งเดียวที่เราทำได้คือน้อมรับความผิดนั้นและปรับปรุงแก้ไขถ้ามีโอกาส ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราเอง เพื่อให้เรายังเคารพในตัวเอง
 
พี่อติน : รักอะไรในอาชีพนักเขียน... ทำไมมาเป็นนักเขียน 
ศตรัศมิ์ : จริงๆ อยากเป็นสาวรำวงค่ะ แต่อายุเกินสิบห้า เลยต้องมาเป็นนักเขียนแทน ก๊ากกกก (มีใครเกิดทันเพลงนี้ม้ายยยย) จริงๆ เหตุผลทั้งหมดน่าจะอยู่ในคำตอบข้อ 6 นั่นแหละค่ะ การเป็นนักเขียนทำให้เกิดสิ่งดีๆ ในชีวิตมากมาย แล้วจะไม่รักอาชีพนี้ได้ยังไง 
 
พี่อติน : สิ่งที่ยาก และเป็นอุปสรรคในการเขียน คืออะไร  
ศตรัศมิ์ : อุปสรรคที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมนุษย์ คือตัวเองค่ะ จัดการกับความคิด จัดการกับตัวเองให้ได้ สร้างระเบียบ วินัย  ถึงตอนนั้นอุปสรรคอื่นใดก็ทำอะไรเราไม่ได้ (แต่นี่ก็โดน บก. เอาขวานไล่จามหัวบ่อยๆ ค่ะ 55555)
 
เวลาสมองตีบตัน คิดว่าหลายคนคงมีวิธีแก้ไขแตกต่างกันไป สำหรับนุ้ย...กินรัวๆ ค่ะ กินจนพุงเป่ง เวลากินเป็นเวลาเดียวที่สมองนุ้ยจะปลอดโปร่ง ลืมทุกปัญหาที่ถาโถมค่ะ 
 

 
พี่อติน : ฝากถึงคนอ่านของเรา ที่เขาซื้อ อุดหนุน และชอบนิยายเรื่องนี้  
ศตรัศมิ์ : นุ้ยขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามงานเขียนในนามปากกาศตรัศมิ์มาโดยตลอด และยินดีน้อมรับคำติชมจากทุกท่านเสมอค่ะ กำลังใจจากทุกท่านจะทำให้ก้าวต่อๆ ไปของนุ้ยบนเส้นทางสายนี้แข็งแรงขึ้น
 
พี่อติน : ฝากถึงนักเขียนเด็กดีที่อยากเขียนนิยายบ้าง ควรทำอย่างไร  
ศตรัศมิ์ : เป็นคำถามที่ได้ยินเสมอเลยค่ะ อยากเขียนควรทำยังไง เริ่มต้นตรงไหน...เริ่มต้นตรงการเขียนเลยจ้า อยากเขียนนิยาย ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นที่เขียนนิยายนะคะ อาจจะฝึกจากการเขียนบันทึกในทุกๆ คืนก่อนนอน หรือเขียนเล่าเรื่องราวสั้นๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ร่วมกับการอ่านหนังสือเยอะๆ จะช่วยเพิ่มพูนคลังคำในสมองเราได้เป็นอย่างดีค่ะ ...แต่พึงระมัดระวัง อย่าลอกนะคะ อยากเป็นนักเขียน จงเขียน อย่าลอกเลียนแบบ ให้คิดไว้เสมอว่ากว่าเราจะเขียนได้สักเรื่องนั้นยากเย็นแค่ไหน คนอื่นเขาก็ต้องผ่านความยากลำบากมาไม่ต่างกันค่ะ 
 
พี่อติน : วงการหนังสือตอนนี้ ค่อนข้างลำบาก คิดว่าคนที่อยากก้าวเข้ามาในวงการควรต้องจัดการตัวเองอย่างไร 
ศตรัศมิ์ : นุ้ยมองว่าการหาตลาดเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ก่อนอื่นต้องรู้ว่างานของเราเป็นสินค้าประเภทไหน แนวไหน มีแผงไหนที่พร้อมจะรับสินค้าของเราไปวางขาย ถ้าเราเป็นปลา อย่ากระดึ้บไปหาแผงผักค่ะ มันเสียเวลาเปล่า เลือกยืนให้ถูกจุด อยู่ให้ถูกที่ เชื่อว่ายังไงก็ไปรอดค่ะ 
 
พี่อติน : บอกลาก่อนจากกันไปพร้อมฝากผลงานใหม่ๆ
ศตรัศมิ์ : ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงข้อนี้นะคะ ขอบคุณพี่อตินและทีมงานเด็กดีที่ให้เกียรตินุ้ยได้มาพูดคุยกับนักอ่าน สำหรับผลงานล่าสุดของศตรัศมิ์ที่อยากฝากไว้ในอ้อมใจ คือ ‘ในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่น’ และ ‘บัลลังก์พฤกษา’ หวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านนิยายเหล่านี้จะได้รับสาระบันเทิงไม่มากก็น้อยค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ
  
ขอบคุณศตรัศมิ์มากๆ ที่แวะมาพูดคุยกันค่ะ ได้ข้อคิดดีๆ เรื่องการเขียนหนังสือเพิ่มขึ้นเยอะมากเลย ขอให้นิยายขายดีๆ ได้รับการตอบรับที่ดีนะคะ 
 
อตินเอง
 
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น