สวัสดีครับ เรื่องนี้เกิดมาจากสมาชิกท่านหนึ่งได้โทรไปเล่าเรื่องประสบการณ์ที่เจอที่ค่ายลูกเสือแห่งหนึ่งในรายการวิทยุ "The Ghost Radio" จนกลายเป็นเรื่องชวนขนหัวลุกที่เล่าต่อกันปากต่อปากและโด่งดังในขณะนี้ วันนี้คอลัมน์เรื่องลี้ลับในสถาบันขออนุญาตนำมาสรุปให้อ่านกันแบบสั้นๆ
ผู้ที่โทรมาเล่านำเด็กไปเข้าค่ายลูกเสือ คืนแรกมีนักเรียนมาบอกว่า มีเด็กลูกเสือที่ไม่รู้จัก เปิดเต๊นท์เข้ามานอนด้วย ลักษณะตัวเปียกน้ำ และถือไม้พลองติดตัวตลอด พอวันต่อมาขณะที่เล่นกิจกรรมรอบกองไฟ จู่ๆก็มีเด็กมาแจ้งว่า "เพื่อนในแถวหายไป 2 คน" พอไปตามก็เห็นนักเรียน 2 คนนั้นนั่งอยู่ริมตลิ่งในสถาพที่เหม่อลอย จึงรีบนำตัวกลับ จากนั้นพอเริ่มกิจกรรมรอบกองไฟไปได้ซักพัก เด็กนักเรียน 2 คนเดิมก็หายไปอีก! คราวนี้หายังไงก็หาไม่เจอ จนต้องหยุดกิจกรรมรอบกองไฟ และให้นักเรียนทุกคนรวมตัวกันอยู่ในความดูแลของครูอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ครูกำลังโทรแจ้งผู้ปกครองของนักเรียนที่หายตัวไป ก็ได้พบกับ 1 ใน 2 นักเรียนที่หายไป โดยนั่งอยู่ที่ฐานมุดดินในสภาพหวาดกลัว ส่วนอีกคนหาจนถึงตี 2 ก็ยังหาไม่พบ จนชาวบ้านแถวนั้นแนะนำให้ลองบนยายดู ซึ่งทางครูก็ทำตาม ปรากฏว่ารอจนถึงรุ่งเช้า จู่ๆ มีลุงท่านหนึ่งขับรถสามล้อมาในค่ายแล้วพูดว่า "หาเด็กอยู่ใช่ไหม ให้ไปดูที่วัด" พอไปดูก็ปรากฏพบ เด็กอีกคนที่หายไปนั่งอยู่ในโบสถ์ของวัด ซึ่งห่างจากค่ายถึง 6 กิโลเมตร
ผู้ปกครองนำตัวเด็กคนนั้นกลับบ้านและต่อมาได้ให้ย้ายออกจากโรงเรียนทันที แต่ก่อนที่ลาออก นักเรียนคนนั้นได้เล่าเหตุการณ์ในวันเข้าค่ายให้อาจารย์ท่านนึงฟังว่า "ระหว่างกิจกรรมรอบกองไฟ มีพี่ลูกเสือคนนึงกวักมือชวนไปเล่นด้วย ชวนเล่นผูกคอตาย ซึ่งนักเรียนคนนั้นกลัว เลยจะวิ่งหนีกลับ แต่ด้วยความมืดจึงหลง จู่ๆ ก็มียายแก่ท่านหนึ่งตัดผมทรงดอกกระทุ่ม ถือตะกร้าหมากเดินมาพร้อมตาแก่ นุ่งผ้าขาวม้า พาไปส่งที่โบสถ์ โดยตายายบอกให้เข้าไปดูในโบสถ์ อย่าออกมา ซึ่งระหว่างที่นักเรียนคนนั้นอยู่ในโบสถ์ พอมองออกมา ก็เห็นเด็กลูกเสือคนนั้น ถือไม้พลองเดินวนรอบโบสถ์ทั้งคืน
ผู้ที่โทรมาเล่า ได้กลับไปสอบถามแม่ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่นั้นทำให้ทราบว่า วัดที่พูดถึงนี้ถูกบริจาคโดย 2 ตายายคู่หนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็มีรูปปั้นท่านอยู่ ซึ่งลักษณะรูปปั้นตรงกับที่นักเรียนคนนั้นเห็นทุกอย่าง ส่วนที่ค่ายลูกเสือนั้นก็เคยมีเด็กจมน้ำหายไปคนนึง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2517 จนทุกวันนี้ยังหาไม่เจอ แม้กระทั่งจะเคยสูบน้ำจนเกือบหมดบ่อแล้ว และหากใครเดินทางไปหลังเขา ซึ่งเป็นอีกทางเส้นทางสู่ค่าย จะเห็นรูปปั้นลูกเสือตั้งอยู่ ซึ่งตรงฐานจะเขียนปี พ.ศ.ที่สร้างขึ้นนั้นคือ พ.ศ.2517 (ปีเดียวกับที่มีเด็กจมน้ำ) และชาวบ้านในละแวกนั้นเล่าว่า ค่ายนี้ได้ปิดร้างไปนานแล้ว ในบางคืนก็จะมีเด็กมาเคาะประตูขอนอนด้วย ขอข้าวกินอยู่เสมอๆ
ขออนุญาตแปะคลิปรายการในคืนนั้นครับ หากใครอยากฟังในฉบับเต็มๆ ในรูปแบบเสียง คลิกที่คลิปด้านล่างนี้ได้เลยครับ
(1).jpg)




41 ความคิดเห็น
กลัวๆๆ ตอนเด็กลูกเสือถือไม้พลองเดินวนรอบโบสถ์ นึกภาพตามแล้วหลอนมากค่าาา
น่ากลัวอ่าาา
น่ากลัวจริง
แค่อ่านยังขนลุกไม่หาย
เพราะแบบนี้ไง
พวกอาจารย์ถึงห้ามไม่ให้แสดงละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภูตผีวิญญาณในกิจกรรมรอบกองไฟ
ตอนอยู่ประถมกับตอนมัธยมต้น พวกอาจารย์เคยบอกหลายครั้งตอนไปเข้าค่ายลูกเสือ
ใช้ๆๆ เหมือนกันเลยครูก็พูดแบบนี้เลยน่ากลัวมาก
อ่ออออ เคยได้ยินเรื่องเล่าอยู๋ ที่ระยอง
อยากฟังอยู่พอดีเลย