B 13 S.t ​นักเขียนผู้หาแรงบันดาลใจได้ทุกที่ทุกเวลาแม้แต่หน้าห้องฉุกเฉิน!


ZOKENYO อสูรตนสุดท้าย โดย B 13 S.t
นักเขียนผู้หาแรงบันดาลใจได้ทุกที่ทุกเวลา
แม้แต่หน้าห้องฉุกเฉิน!




สวัสดีค่ะ นักเขียนเด็กดีทุกคน กลับมาเจอกลับพี่หญิงกันอีกครั้งให้คอลัมน์ ‘พบปะพูดคุย’ คอลัมน์ที่พาเราไปรู้จักกับนักเขียนมากความสามารถมากมาย ซึ่งในวันนี้นักเขียนเด็กดีที่พี่หญิงจะพามารู้จักกันในวันนี้ ก็คือนักเขียนนามปากกา B 13 s.t เจ้าของผลงานสุดฮอตอย่าง คิวบิก ที่เคยได้รับการถ่ายทำเป็นละครกันมาแล้ว เชื่อเลยว่าชาวเด็กดีหลายๆ คนต้องเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้กันแน่ๆ และในครั้งนี้เขาคนนี้กลับมาพร้อมกลับผลงานเรื่องใหม่ (หรือจะไม่ใหม่กันแน่นะ? ฮา) สุดแฟนตาซีที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเข้มข้น อยากรู้กันแล้วล่ะสิ ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เอาเป็นว่าเราอย่ารอช้าไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ




 


สวัสดีค่ะ ก่อนอีกเลยมาแนะนำตัว ทักทาย ให้ชาวเด็กดีที่บางคน (อาจจะ) ไม่รู้จัก มารู้จักกันหน่อยเร็ววว (แต่คิดว่าส่วนใหญ่คงจะรู้จักกันอยู่แล้ว )

ตอบ สวัสดีค่ะ B 13 s.t เองค่ะ ชื่อเล่นชื่อแบงค์ค่ะ เขียนนิยายลงเด็กดีมาหลายปีแล้ว เรียกว่ามาเขียนในช่วงยุคเกือบแรกๆ ของเด็กดีเลย ตั้งแต่ที่เว็บยังเป็นแบบแรกอยู่เลยค่ะ



หลังจากรู้จักกันไปพอสมควรแล้ว มาพูดถึงผลงานกันดีกว่า ว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนี้ มีผลงานอะไรออกมาบ้าง แล้วในอนาคตนี้มีแผนจะเขียนเรื่องไหนอยู่หรือเปล่าเอ่ย

B 13 s.t : อดีตเรื่องแรกที่เขียนลงเด็กดีคือเรื่อง ZOKENYO ค่ะ ก่อนได้ตีพิมพ์ 4 เล่มจบกับสนพ.บลูเบลล์ ส่วนเรื่องที่สองคือ คิวบิก (CUBIC) มี 4 เล่มเหมือนกัน แต่แยกเป็นสองภาค คือภาคคิวบิก 2 เล่มจบ และคิวบิกไฟนอลอีก 2 เล่มจบค่ะ ปัจจุบันได้นำเอา ZOKENYO มารีไรท์ใหม่ เพราะหมดสัญญากับทางสนพ. บลูเบลล์แล้ว ก่อนตั้งชื่อเป็น ZOKENYO อสูรตนสุดท้าย และตีพิมพ์กับสนพ.สถาพรบุ๊คค่ะ เพิ่งวางแผงไปวันที่ 23 ธันวาคา 2559 นี้เอง มีจำนวน 4 เล่มจบเช่นเดิม (แต่หนาขึ้นพอสมควร) และตอนนี้กำลังเขียนเรื่อง Legend of Blue Fire (มังกรผู้เฝ้าหอคอย) กับอีกเรื่องคือ ‘รักนี้พยายามน้ำเน่า’ และมีอีกเรื่องแนวผจญภัยผสมแฟนตาซีแบบออกทะเลในอีกนามปากกา แต่ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะขอเคลียร์เรื่องที่เขียนในปัจจุบันให้เสร็จก่อน ไม่งั้นจะผอกหางหมูทุกเรื่อง (ฮา) 





ผลงานเรื่องล่าสุด ZOKENYO อสูรตนสุดท้าย มีที่มาที่ไปอย่างไร เรื่องนี้เห็นว่ากลิ่นอายมังงะรุนแรงมากเลย ไม่ทราบว่าได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ

B 13 s.t : ความจริงในฉบับรีไรท์นั้นลดกลิ่นการ์ตูนลงไปเล็กน้อยค่ะ เพราะหลังอ่านของเก่าและเห็นข้อผิดพลาดและความเป็นเด็กของเราที่ด้อยประสบการณ์เยอะ เลยมีการหาข้อมูลใหม่ การแต่งใหม่ การแก้ไขเพื่อให้เนื้อเรื่องสมเหตสมผลมากขึ้น (จึงหนาขึ้นกว่าเก่า) ส่วนเรื่องแรงบันดาลใจก็ง่ายๆ ค่ะ เราเป็นคนอ่านการ์ตูนตัวยง แรงบันดาลใจก็จากการ์ตูนมากมายที่เคยผ่านตามา ตบตรงนั้น ตีตรงนู้น เขย่าตรงนี้ สับขาหลอกเล็กน้อยก็ออกมาเป็นโซเคนโยในครั้งแรกที่พิมพ์นี่แหละค่ะ 



พูดถึงตัวละครในเรื่อง มีตัวละครไหนที่ประทับใจ หรือ เขียนยากเป็นพิเศษไหม

B 13 s.t : สมัยก่อนทางเว็บเด็กดีเคยสัมภาษณ์เรื่องโซเคนโยตอนตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน เราเคยตอบไปว่า ผอ.โยโคที่เป็นเจ้าของโรงเรียนและเจ้านายของตัวนางเอก เพราะเขาเป็นคุณปู่หรือผู้ใหญ่ในอุดมคติของเด็กทุกคน แต่หลังจากหยิบโซเคนโยมารีไรท์ใหม่อีกครั้ง และได้รองอ่านมันอย่างละเอียดใหม่ ตัวละครที่ประทับใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตัวเอกอย่าง โซเคนโย เลนยะค่ะ เพราะว่าเธอเป็นนางเอกตัวแรกที่เราคิด และเราก็รักเธอมากๆ เป็นลูกสาวคนแรก ดังนั้นพอได้รีไรท์และได้เจอเธอ และต้องปรับเธอขณะที่ก็ยังคงความเป็นเธอในแบบเก่าไว้ด้วยอย่างที่เราชอบจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายและประทับใจ ซ้ำยากที่สุด เพราะเลนยะเป็นนางเอกที่ค่อนข้างแรง เถือน และแปลก ดังนั้นมันท้าทายมากที่จะทำให้นักอ่านเก่าที่เคยชอบความเถือนแบบชิดขอบของเธอจะหันมาชอบบุคลิกที่เราปรับให้อ่อนลง เป็นมนุษย์มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็คงความเป็นตัวตนของเธอไว้ด้วย ซึ่งนักอ่านบางคนก็ว่าไม่สดใหม่เหมือนครั้งแรกที่อ่าน แต่บางท่านก็ว่าดีขึ้นมากเลย ดังนั้นจึงต้องตั้งสมาธิและเชื่อมั่นเสียงในหัวตัวเองเป็นหลักอย่างเดียว จึงเป็นตัวละครที่ยากที่สุดในการเขียนค่ะ




เห็นว่าเรื่องนี้เคยตีพิมพ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง เล่าหน่อยว่าครั้งนี้มีความแตกต่าง เปลี่ยนแปลง พิเศษขึ้นจากอดีตอย่างไรบ้าง

B 13 s.t : ใช่ค่ะ เคยตีพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน และเด็กดีเคยสัมภาษณ์ตอนตีพิมพ์ครั้งนั้นด้วย ก็อย่างที่บอกค่ะว่าในการรีไรท์นั้นตัวเล่มจะหนากว่าก่อนรีไรท์ เพราะอย่างแรกที่เราทำการปรับคือการใส่ข้อมูลเพิ่ม และมีการแต่งเนื้อหาเพิ่มเติมลงไปเพื่อให้เรื่องสมเหตสมผลขึ้น แต่ก็มีตัดของเก่าที่ไม่สมูธกับเนื้อเรื่องออกเช่นกัน แต่ไม่เยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียอรรถรส เพราะเป็นส่วนไม่สำคัญ และส่วนใหญ่จะเป็นการเติมมากกว่าตัด มีการเปลี่ยนชื่อตัวละครบางตัว ปรับบุคลิกบางตัวเล็กน้อย กลิ่นความเป็นการ์ตูนจะน้อยลงหน่อย มีกลิ่นความเป็นหนังเข้ามาแทรกเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของการดำเนินเรื่องหลัก และโครงเรื่องยังคงเดิมค่ะ



เขียนมาแล้วหลายเรื่อง แต่ละเรื่องก็ยาวๆ ทั้งนั้นเลย ไม่ทราบว่ามีเคล็บลับอะไรในการเขียนเป็นพิเศษหรือเปล่า เคยเจออุปสรรคอะไรระหว่างเขียนบ้างไหม ถ้าเจอเรามีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

B 13 s.t : ความจริงก็ไม่หลายเรื่องหรอกค่ะ เป็นคนเขียนช้าและเขียนเรื่องหนึ่งยาวคะ เป็นคนเขียนเรื่องสั้นไม่เป็น (แต่กำลังฝึกกับเรื่อง ‘รักนี้พยายามน้ำเน่าอยู่’ กะจะลองเขียนเป็นนิยายเล่มเดียวจบให้ได้) เทียบกับนักเขียนรุ่นเดียวกัน ยุคเดียวกัน เขาเขียนกันมาเป็นสิบยี่สิบเรื่อง เราเขียนจบแบบจริงๆ จัง (ถ้านับแค่นิยายนะ) แค่สองเรื่องครึ่งเองค่ะ เพราะเรื่องหนึ่งก็เป็นรีไรท์พิมพ์สองครั้ง ส่วนอีกเรื่องแยกเป็นสองภาคเลยนับเป็นเรื่องครึ่ง (ฮา) เคล็บลับไม่มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ บอกเลยว่าเราไม่ใช่มืออาชีพ เขียนตามออเดอร์ยังไม่ได้ เพราะเป็นคนเขียนกึงด้นสด ชอบความสดใหม่ เป็นคนที่ถ้าเขียนตัวเองไม่สนุก เขียนไม่ออกเลย ส่วนใหญ่ที่เขียนมักมีแค่วางแพลนในสมองคราวๆ พอเริ่มก็ผูกปมเข้าไปเรื่อยๆ ให้ไปถึงฉากที่อยากเขียน ไม่ก็ถ้าปมมันยุ่งเกิน ก็มีบ้างที่รากเส้นลำดับเหตุการณ์ในกระดาษค่ะ แต่ส่วนใหญ่ทุกอย่างอยู่ในหัวหมด และค่อยๆ ดึงออกมา บางครั้งบางฉากมันก็โผล่มาให้เซอร์ไพล์เราเองก็มีเยอะ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจทำไมถึงเขียนแต่ละเรื่องยาว จบไม่ค่อยลง ความจริงใครอยากเป็นนักเขียนมืออาชีพไม่ควรเอาเราเป็นตัวอย่างที่สุดเลยค่ะ ไปหาเคล็บลับจากคนที่เขาเขียนได้หลายๆ เรื่องจบดีกว่า น่าจะได้อะไรมากกว่าคนอย่างเรา



เวลาพล็อตเรื่องตันมีวิธีแก้ปัญหา หรือมีวิธีในการหาแรงบันดาลใจอย่างไร

B 13 s.t : การตัน บอกตรงๆ ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้สัมผัส ไม่ใช่ว่าเขียนลื่นปรืด แต่ว่าชีวิตประจำวันตอนนี้คุณพ่อป่วยอยู่ค่ะ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่ม 2-3 ปีมาแล้ว ล่าสุดตอนปีใหม่ก็เข้าไปสองอาทิตย์ เรียกว่าปีใหม่ไปแต่โรงพยาบาลไม่ได้ไปเที่ยวไหนทั้งนั้น เลยมีเวลาว่างนั่งคิดเนื้อเรื่องได้เรื่อยๆ แต่ไม่มีเวลาลงมือพิมพิ์เท่าไหร่ค่ะ จังหวะหัวตันเลยไม่เกิดขึ้นนักช่วงนี้ มีแต่มีเนื้อเรื่อง แต่ไม่มีเวลาพิมพิ์มากกว่า ต้องยอมรับว่าตอนนี้ชีวิตประจำวันเราไม่เหมือนคนทั่วไปเท่าไหร่ค่ะ เลยไม่รู้จะแนะนำอะไร 

ส่วนเรื่องบันดาลใจ หาไปทั่ว บางครั้งก็หนัง การ์ตูน นิยาย ซีรี่ย์ ไม่ก็อยู่ๆ นั่งรอหน้าห้องฉุกเฉินก็มีไอเดียวิ่งขึ้นมาเฉยๆ ก็มี


เรื่องยาวขนาดนี้ ไม่ทราบว่าใช้เวลาวางพล็อตเรื่อง หาข้อมูลนานไหม

B 13 s.t : เริ่มเขียนถึงเริ่มหาค่ะ บางทีมันเป็นความสดใหม่ก็อยากพิมพิ์ลงไปเลย หัวใจมันเรียกร้อง พอเริ่มเข้าส่วนที่ต้องมีข้อมูลถึงเริ่มหา บางครั้งก็หายหน้าไปจากนิยายเพื่อไปนั่งดู นั่งอ่านพักใหญ่ ก่อนเอาข้อมูลมาประกอบเพื่อนำไปดำเนินเรื่องต่อค่ะ ชอบหาระหว่างเขียนมากกว่าหาก่อน เพราะบางครั้งเราคิดฉากหนึ่งที่อยากเขียนมาก แต่ถ้าข้อมูลจริงบอกว่าทำไม่ได้เราจะรู้สึกหมดอารมณ์ ดังนั้นขอเขียนก่อน และเอาข้อมูลมาปรับ มาเสริมเพื่อสนับสนุนฉากที่เราอยากเขียนให้ไม่เลื่อนลอยเกินไปที่หลังดีกว่า



เขียนนิยายมาแล้วก็หลายปี คิดว่าเอกลักษณ์งานเขียนของเราคืออะไรคะ

B 13 s.t : การมีกลิ่นการ์ตูนมั้งค่ะเพราะเราชอบวาดการ์ตูน ที่ได้มาเขียนนิยายก็เพราะชอบวาดการ์ตูน และการที่เนื้อเรื่องต้องมีบู๊ มีวางแผน และผสมรักเข้าไปหน่อยพอหอมปากหอมคอ ชุ่มชื่นหัวใจนักอ่าน เพราะคงไม่สามารถเขียนนิยายรักเป็นหลักได้จริงๆ (ไม่ถนัดเลย) ขนาดว่าเรื่อง ‘รักนี้พยายามน้ำเน่า’ ที่คิดไว่ว่าจะลองเขียนแนวรักหวานแหววเป็นครั้งแรก อ่านแล้วมันยังออกมาเป็นชีวิตเด็กศิลป์มากกว่ารักหวานแหววเลยค่ะ(ฮา) 



นอกจากเขียนนิยายแล้ว ได้ข่าวว่ายังเขียนการ์ตูนด้วย ช่วยพูดถึงงานสองแบบนี้หน่อยว่ายากง่ายแตกต่างกันอย่างไร แล้วอย่างนี้แล้วมีวิธีแบ่งเวลาในการทำงานยังไงบ้างคะ 

B 13 s.t : วิธีการ บรรยากาศ อุปกรณ์ต่างกันหมดค่ะ เว้นก็แต่วิธีการคิดเนื้อเรื่อง แต่สองอย่างส่งเสริมกันดีมากค่ะ เพราะว่าเราเขียนการ์ตูนมาก่อนเขียนนิยาย ดังนั้นพอเราลงมือเขียนนิยายจึงสามารถสร้างภาพและลำดับเนื้อเรื่องได้ค่อนข้างชัดเจนค่ะ ขณะที่นิยายจะช่วยมากในเรื่องการวางเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน มีมิติ ซึ่งจะทำให้งานการ์ตูนมีเนื้อเรื่องที่ลึกขึ้น และสมเหตุสมผลขึ้น 

ส่วนเรื่องแบ่งเวลา อย่างที่บอกค่ะว่าชีวิตประจำวันเราไม่ค่อยปกตินัก เลยไม่มีตารางเวลาอะไรที่กำหนดขึ้นมาเป็นพิเศษ ว่างเมื่อไหร่ก็เขียน ไอเดียตัวไหนมาก็ทำอันนั้น แค่อาจต้องกำหนดว่าอะไรจะทำก่อนทำหลัง เช่นกำหนดว่าเขียนการ์ตูนบทนี้เสร็จ ก็ไปเขียนนิยายอีกบทหนึ่งต่อให้เสร็จ อะไรแบบนี้



คติประจำใจของคุณคือ

B 13 s.t : อยากทำอะไรก็รีบทำเลย ก่อนจะไม่มีเวลาทำ



เห็นว่านิยายเรื่องนี้ลงในเว็บเด็กดีด้วย กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้างคะ 

B 13 s.t : เรื่อยๆ ค่ะ แต่ก็ดีกว่าที่คาด เพราะอย่างแรกที่ทำใจไว้คือมันเป็นนิยายเก่ามารีไรท์ใหม่ ซึ่งยากมากจะสร้างกระแสเหมือนครั้งแรก (เพราะครั้งแรกก็ได้ติดท็อป 15 ของเว็บเด็กดีเหมือนกัน) เลยไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก แค่หวังว่าคนที่เข้ามาอ่านและชอบ และสนับสนุนกันตอนวางแผงก็พอแล้วค่ะ



ฝากอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตามงานของเราหน่อย

B 13 s.t : ขอก้มกราบ คารวะเลยค่ะ อึดกันมากเลยนะ เพราะหลังเรื่องที่พ่อป่วย เราก็เขียนนิยายช้าลงมากๆ 2-3 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังรอกัน มาทักทาย สนับสนุนกัน ไม่ทิ้งกันทั้งที่นักเขียนมันหายหัวไปนานเลยแต่ละครั้ง ในแต่ละรอบที่ลงนิยายก็หวั่นใจตลอดว่ายังมีคนอ่านอยู่รึเปล่า แต่ก็ยังมีอยู่ ซ้ำมีเพิ่มขึ้นจนเรายังอดแปลกใจไม่ได้ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะที่ยังตามกันมาขนาดนี้ ในปีนี้โซเคนโยก็รีไรท์เสร็จไปแล้ว และตอนนี้ที่บ้านก็จัดการบางเรื่องได้เรียบร้อยมากขึ้น จึงมีเวลาเพิ่มมากขึ้นแล้วค่ะ ดังนั้นสัญญาว่าจะลงนิยาย และการ์ตูนถี่ขึ้นแน่นอน และจะไม่ทิ้งหายหน้าไปไหนจนกว่าจะเขียนจบไปถึงเส้นชัยทั้งผู้เขียนผู้อ่านค่ะ 



สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไป มาบอกลาแฟนๆ และฝากผลงานกันก่อน เร็ววว

B 13 s.t : ขอไม่บอกลา เพราะข้างบนเราเพิ่งบอกว่าจะกลับมาถี่ขึ้น(ฮา) ดังนั้นขอฝากผลงานนะคะ

อย่างแรก ZOKENYO อสูรตนสุดท้าย วางแผงเป็นเล่ม 4 เล่มจบแล้วนะคะ เพิ่งลงวันที่ 23 ธันวาคน 2559 ดังนั้นสามารถเดินหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปแน่นอนค่ะ อยู่หมวดแฟนตาซี มีทั้งแบบเล่มและแบบ อีบุ๊ค สามารถอ่านตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อได้ที่หน้าลิงค์นี้นะคะ คลิกอ่าน

เรื่องที่สองยังอยู่ในเว็บค่ะ ถ้าโชคดีอาจได้เห็นเป็นเล่มช่วงปลายปี หรือไวกว่านั้นเรื่อง Legend of Blue Fire (มังกรผู้เฝ้าหอคอย) ตามหน้าลิงค์นี้ คลิกอ่าน

เรื่องที่สาม ‘รักนี้พยายามน้ำเน่า’ ใครชอบแนวฮาๆ นางเอกรั่วๆ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ คลิกอ่าน

และเรื่องสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด เป็นการ์ตูนค่ะ เลิฟคอมเมดี้เรื่อง boy meets girl... (?) ตามลิงค์นี้ค่ะ คลิกอ่าน





จบกันไปแล้วกับอีกหนึ่งบทสัมภาษณ์สมาชิกนักเขียนเด็กดีอันเก่าแก่ของเรา เห็นคุณแบงค์บอกว่าอยู่เป็นรุ่นแรกๆ เลย ตั้งแต่เป็นเว็บเด็กดีเวอร์ชั่นเก่า ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว (นานมากกกก สิบกว่าปี ยอมใจเลยค่ะ) และในวันนี้พี่หญิงต้องขอขอบคุณคุณแบงค์มากๆ เลยที่เสียสละเวลามาให้สัมภาษณ์กับทางเด็กดีไรเตอร์ พี่หญิงหวังว่าบทสัมภาษณ์ในวันนี้จะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้กับนักเขียนเด็กดีรุ่นใหม่หลายๆ คน ที่กำลังพัฒนาฝีมือตัวเองอยู่ พี่หญิงเชื่อว่าในสักวัน ทุกคนจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน (ถ้าไม่หยุดเขียนไปซะก่อนนะคะ ฮา) พี่หญิงขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ สู้ๆ
 

สำหรับวันนี้พี่หญิงขอลาทุกคนไปก่อน เจอกันใหม่ในครั้งหน้า ส่วนจะเป็นนักเขียนเด็กดีคนไหน อะไร ยังไง อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ วันนี้สวัสดีค่ะ^^




พี่หญิง^^
 
พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

9 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Smile in wonderland Member 13 ก.พ. 60 13:44 น. 2

อ่านBoy meets girl แล้วค่ะ สนุกมากกก หักมุมไปมาแบบสุดๆ ของที่สุดเลย มีความจิ้นดีด้วย เหมาะสำหรับสายวายและนอมอล

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Devil Cafe Member 16 ก.พ. 60 17:03 น. 4

เราตามมังกรผ้เฝ้าหอคอยอยู่เลยค่า55555 ส่วนZOKENYO เราก็สอยมาเมื่อไม่นานมานี้ คิวบิกก็สนุกมากกกกกกกกรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยว้ายว้ายว้ายรักเลยรักเลยรักเลย

0
กำลังโหลด
ป้าแกะ 19 ก.พ. 60 09:35 น. 5

ชอบผลงานน้องแบงค์มาก ซื้อ boxset โซเคนโยมาละ กำลังอ่านอยู่เลย สนุกมากๆ ตอนนี้รอเล่มมังกรเนียร์ของเลจี้อย่างใจจดใจจ่อจ้า เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
จิ้งจกจัง Member 26 ก.พ. 60 16:35 น. 7

จากที่งงๆหลงเข้ามาอ่านคิวบิก จนตอนนี้จะเข้าปีที่6ที่ติดตามผลงานพี่แล้ว 555 ตามเก็บทุกเล่มแน่นอน (เผลอๆถ้าพี่มีค้อนให้เช่าก็เช่า)

0
กำลังโหลด
NATA-PLOY Member 14 มิ.ย. 60 13:47 น. 8

เป็นแฟนหนังสือพี่แบงค์มาตั้งแต่โซเคนโยรุ่นแรก และภาวนามาตลอดให้พี่แบงค์กลับมาเขียนอีก


จนในที่สุดคิวบิกก็คลอดออกมา ตัั้งแต่เรายังไม่กลับเมืองไทยเลย 5555 แถมอ่านภาคแรกไม่ทันด้วย

เลยต้องมาอ่านภาค 2 ก่อน แล้วส่งกลอนเข้าประกวดไปขอเล่ม 1-2 พร้อมลายเซ็น 55555 ชีวิต


จนตอนนี้เริ่มเขียนนิยายเองแล้ว Rabbit กับ B 13 s.t เป็นแรงบันดาลใจสำคัญเลย >////<


ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ


ว่าง ๆ ก็มาอ่านได้นะ กิกิ >_____<~


https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1647004

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด